ถ้าถามว่าตัวละคร SSR ตัวไหนมีติดไอดีไว้แล้วทำให้เล่นง่ายขึ้นมากที่สุด คำตอบคือไคล์ หว่อง ด้วยความสามารถอันสมดุลทั้งการโจมตี,ป้องกัน โจมตีได้ทั้งภาคพื้นดิน,อากาศ ทำให้ตัวละครนี้ใช้ผ่านได้ทั้งโหมด PVP และ PVE ในช่วงต้นเกมตอนมีการันตีสุ่มหา SSR ให้เลือกได้ 30 ครั้ง หากไม่ติดว่า หาตัวอวย ควรเลือกไคล์หว่องเอาไว้ เพราะตัวละครนี้ช่วยให้เล่น Counter side ง่ายขึ้นทุกโหมดจริงๆ
ข้อมูลพื้นฐาน Kyle Wong
ตัวละครประเภท : เคาเตอร์
เคลื่อนที่ภาค : พื้นดิน
สาย : ยิงจู่โจม
การโจมตี : โจมตีโดยรอบ (พื้นดิน,อากาศ)
ลำดับการอัพสกิล 3 > 2 > 4 > 1
สกิลอ้างคำแปลภาษาอังกฤษเป็นหลัก
สกิล 1 Basic Attack เพิ่มความแรงของการโจมตีปกติ ให้อัพเป็นลำดับสุดท้ายหลังจากอัพทุกสกิลเต็มแล้ว หากไม่มีตัวดาเมจอื่นในทีม สามารถอัพสกิลนี้ให้เต็มได้เลย แต่ถ้าเล่นหลายตัว มีดาเมจตัวอื่นแล้ว สกิล 3 กับ 2 ของไคล์มีความจำเป็นมากกว่า ถ้าอยากอัพเกรดสกิลนี้เพื่อให้ยิงแรงจริงๆ แนะนำให้อัพสกิลนี้เป็นอันดับสุดท้าย
สกิล 2 Active Explosion เมื่อโจมตีจะได้รับบัฟเป็นเวลา 4 วินาที พอบัฟครบ 4 ครั้งการโจมตีครั้งต่อไปจะทำดาเมจเท่ากับ 6% ของเลือดศัตรู (ไม่มีผลกับบอสและยานรบ) สกิลเร่งดาเมจให้กับไคล์ หากอัพเต็มจะทำดาเมจได้สูงถึง 8% ของ HP เป้าหมาย เมื่อเทียบกับการอัพสกิล 1 แล้ว สกิลนี้ทำดาเมจได้สูงกว่าทำให้เลือกอัพเป็นอันดับ 2 รองจากสกิล 3
สกิล 3 Strategy Bulwark เรียกสิ่งกีดขวาง(เรียกกันสั้นๆว่า โล่) ลงมาในสนามรบ ศัตรูจะวุ่นกับการโจมตีโล่ทำให้ทีมของเราโดนดาเมจน้อยลง ความแข็งแกร่งของโล่ขึ้นอยู่กับเลเวลของไคล์หว่อง ยิ่งเลเวลของไคล์ เยอะเท่าไหร่ โล่ก็จะยิ่งอึดขึ้นไปด้วย ตามปกติจะเรียกโล่ได้อันเดียวแต่เมื่ออัพจนเต็ม จะเรียกโล่พร้อมกันสองอัน อันแรกเหมือนเดิม อันที่สองเป็นโล่ขนาดเล็กอยู่ห่างออกไป
สกิลนี้ถือเป็นสกิลหากินของไคล์ หว่อง ควรอัพให้เต็มเป็นอันดับแรก สำหรับมือใหม่ให้ทุ่มเทอัพเกรดดาวให้เต็มเพื่อให้อัพสกิล Strategy Bulwark จนเลเวล 5 ได้ ไคล์หว่องที่อัพสกิลนี้เต็มแล้วการเรียกโล่สองชั้นจะเซฟชีวิตเพื่อนได้ดีสุดๆ เป็นเหตุให้คนนิยมเล่นไคล์หว่องกันทั้งใน PVE และ PVP
สกิล 4 Gravity Gun ท่าไม้ตาย ทำดาเมจใส่เป้าหมายหน้าสุดและศัตรูรอบๆ เป็นสกิลทำดาเมจโดยตรงไม่มีลูกเล่นพิเศษอะไร หากอัพเต็มจะมีคูลดาวน์น้อยลง 10 วินาที หากทรัพยากรยังมีไม่มากพอ ไม่ต้องรีบอัพสกิลนี้ก็ได้ อัพสกิล 3 กับ 2 ให้เต็มก่อนจะคุ้มค่ากว่า
เซตอาวุธแนะนำ
เลือกเล่นได้ 2 แบบระหว่างสายโจมตีเต็มเหนี่ยวไปเลย กับ สายลดคูลดาวน์ โดยการเล่น ATK+ATK 2 เซทนั้นเหมาะกับคนขาดตัวดาเมจอื่น ต้องการให้ไคล์เป็นตัวดาเมจหลักของทีมพร้อมกับเสกโล่ไปด้วย การเล่นเป็นตัวดาเมจนั้นต้องทำใจหน่อยคือเราจะเสกโล่ได้ไม่บ่อยเท่าไหร่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับทีมด้วยว่า ต้องการดาเมจมากแค่ไหน
สายลดคูลดาวน์นั้นเหมาะกับคนมีตัวดาเมจอื่นในทีมอยู่แล้ว เช่น เสี่ยวหลิน หน้าที่หลักของไคล์คือรีสกิลกางโล่ไวๆ จะได้ปกป้องเพื่อนได้แน่นหนามากขึ้น ช่วงหลังๆ การเล่นสายนี้จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะความเก่งของไคล์มาจากสกิลเรียกโล่เป็นหลัก หากเรียกโล่ได้บ่อย เพื่อนหรอยสบาย จะทำให้การผ่านด่านหลังๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น (ถ้าทีมไม่มีตัวดาเมจดีๆเลยการเล่นสาย ATK+ATK ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่นะ)
คะแนนการใช้งาน PVE – SS / PVP – S
ไคล์ หว่องเป็น SSR ระดับใช้งานได้ดีตั้งแต่แพทซ์ปัจจุบันไปจนถึงอนาคตข้างหน้าอีกหลายแพทซ์ ความสามารถในการเรียกโล่ออกมาของสกิล Strategy Bulwark เป็นสิ่งมีค่ามากในเกม Counter Side เพราะตัวดาเมจล้วนบางแทบทั้งสิ้น การกางโล่นั้นเป็นสกิลของไคล์จึงไม่เสียค่าเรียกยูนิต ผลจึงเหมือนกับการเรียกตัวละครสายป้องกันออกมาช่วยทีมแบบฟรีๆ นั่นเอง
หากถามว่าระหว่าง PVE และ PVP ไคล์โดดเด่นด้านไหนมากกว่ากัน คำตอบคือ PVE เป็นโหมดที่แสดงพลังได้มากกว่า ส่วนใน PVP นั้นมีตัวละครแก้ทางที่สามารถลอดโล่เข้ามาโจมตีได้ รวมไปถึงไททันหุ่นยนต์สาย Striker ของแสลงใน PVP แรงค์บนๆ ไคล์จึงโดนกด ไม่ถึงกับเป็นเทพใน PVP เหมือนใน PVE แต่ด้วยดาเมจระดับแรงพอสมควร ใน PVP ไคล์เองก็ถือเป็นอีกตัวน่ากลัวอยู่ดี โดยเฉพาะเวลาอีกฝ่ายไม่มีตัวล้วง เจอไคล์ไปคือเหนื่อยแน่นอน