Console Guide

ใน ไลฟ์ Patch 2.3 เกม Genshin Impact ได้มีการเผยข้อมูลเซ็ตอาร์ติแฟกต์ใหม่ (Artifacts) ทั้งหมด 2 เซ็ต ได้แก่ Husk of Opulent Dream และ Ocean-Hued Clam ซึ่งทั้งสองเซ็ตมีความสามารถที่น่าสนใจเอามาก ๆ ในบทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับอาร์ติแฟกต์เซ็ตใหม่ พร้อมแนะนำตัวละครที่เหมาะสมกับเซ็ตใหม่ด้วย ส่วนจะมีใครบ้างนั้นไปดูกันเลย! แนะนำความสามารถของเซ็ตอาร์ติแฟกต์ (Artifacts) Husk of Opulent Dream เซ็ต 2 ชิ้น: เพิ่มพลังป้องกัน 30% เซ็ต 4 ชิ้น: ตัวละครที่สวมใส่เซ็ตอาร์ติแฟกต์นี้จะได้รับเอฟเฟกต์ Curiosity ภายใต้สถานการณ์ต่อไปนี้: ในขณะที่อยู่ในการต่อสู้ เมื่อทำดาเมจธาตุหินโดนศัตรูจะได้รับเอฟเฟกต์มาหนึ่งชั้น โดยจะเกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 0.3 วินาที หากไม่ได้ลงสนามแต่อยู่ในทีมแทน ทุกๆ 3 วินาที จะได้รับเอฟเฟกต์หนึ่งชั้น โดย Curiosity สามารถซ้อนทับได้มากสุด 4 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะมอบโบนัสพลังป้องกัน 6% และโบนัสความเสียหายธาตุหิน 6% และในทุก 6 วินาที หากไม่ได้รับเอฟเฟกต์ Curiosity ต่อเนื่องจะค่อยๆ ลดลงหนึ่งชั้น แนะนำตัวละครที่เหมาะกับเซ็ตอาร์ติแฟกต์ Husk of Opulent Dream อาร์ติแฟกต์เซ็ต Husk of Opulent Dream ทำมาเพื่อสนับสนุนตัวละครที่ใช้ค่าพลังป้องกันเป็นหลัก อย่างเช่น Albedo, Noelle หรือ Xinyan สำหรับ Xinyan แม้ว่าจะสามารถใช้งานจากผลเพิ่มความเสียหายธาตุหินได้ แต่ก็ยังสามารถใช้ Husk of Opulent Dream 2 ชิ้น เพื่อเอาค่าพลังป้องกัน% มาเพิ่มเลือดของตัวเกราะให้หนาขึ้น นอกจากนี้ตัวละครใหม่อย่าง Arataki Itto หรือ Gorou นั้นก็ยังมีการเปิดเผยความสามารถแล้วว่าเป็นตัวละครที่มีการเติบโตตามพลังป้องกัน ทำให้เป็นอีกสองตัวละครที่อาจจะกลายเป็นผู้ใช้เซ็ต Husk of Opulent Dream ในอนาคต แนะนำความสามารถของเซ็ตอาร์ติแฟกต์ Ocean-Hued Clam เซ็ต 2 ชิ้น: เพิ่มโบนัสการรักษา 15% เซ็ต 4 ชิ้น: เมื่อตัวละครที่สวมใส่เซ็ตอาร์ติแฟกต์นี้ทำการรักษาตัวละครในทีม จะเกิด Sea-Dyed Foam ขึ้นเป็นเวลา 3 วินาที และบันทึกปริมาณการฟื้นฟูพลังชีวิตของการรักษา (รวมไปถึงค่าส่วนเกิน)  เมื่อช่วงเวลาต่อเนื่องสิ้นสุดลง Sea-Dyed Foam จะระเบิด สร้างความเสียหายเป็น 90% ของปริมาณการฟื้นฟูพลังชีวิตที่สะสมแก่ศัตรูโดยรอบ (วิธีคำนวณความเสียหายนี้จะเหมือนกับปฏิกิริยาของธาตุ เช่น ชาร์จไฟฟ้า, นำไฟฟ้า และอื่น ๆ แต่จะไม่ได้รับผลกระทบจากความชำนาญธาตุ เลเวล หรือเอฟเฟกต์โบนัสความเสียหายของปฏิกิริยา)  ในทุก 3.5 วินาที จะเกิด Sea-Dyed Foam ได้มากสุดหนึ่งอัน Sea-Dyed Foam จะบันทึกปริมาณการฟื้นฟูได้มากสุด 30000 หน่วย รวมถึงปริมาณการรักษาส่วนที่เกิน ในช่วงเวลาเดียวกันจะมี Sea-Dyed Foam ในทีมของตัวเองได้มากสุดหนึ่งอันเท่านั้น ซึ่งเอฟเฟกต์นี้จะยังคงเกิดขึ้นได้ แม้ในขณะที่ตัวละครที่สวมใส่เซ็ตอาร์ติแฟกต์นี้อยู่ในทีมแต่ไม่ได้อยู่ในการต่อสู้ แนะนำตัวละครที่เหมาะกับเซ็ตอาร์ติแฟกต์ Ocean-Hued Clam สำหรับเซ็ต Ocean-Hued Clam นั้นเป็นอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสมกับตัวละครสายฮิลทุกตัวในเกม ไม่ว่าจะเป็น Qiqi, Diona, Barbara หรือ Kokomi โดยผลโบนัสของอาร์ติแฟกต์ 2 ชิ้นจะสามารถใส่ผสมกับเซ็ต Maiden Beloved 2 ชิ้น เพื่อเอาโบนัสรักษาเพิ่มได้ แต่สำหรับตัวละครที่จะใช้โบนัสของอาร์ติแฟกต์ Ocean-Hued Clam 4 ชิ้นได้อย่างคุ้มค่าจะมีเพียง Qiqi และ Kokomi เท่านั้น เนื่องจากตัวละครทั้งสองตัวมีการฮิลอย่างต่อเนื่อง และแรงพอที่จะแสดงผลสะสมการฮิลของเซ็ต Ocean-Hued Clam เพื่อให้เกิดระเบิดฟองทำความเสียหายได้เรื่อย ๆ  Kokomi และ Qiqi จะสามารถสร้างฟองระเบิดเพื่อทำความเสียหายได้มากถึง 15,000 - 27,000 หน่วยต่อครั้ง ซึ่งสามารถเกิดฟองสบู่ได้ 3 - 4 ครั้งต่อการกดท่าไม้ตาย ทำให้ทั้งสองตัวละครมีจุดเด่นเพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากการฮิลอันทรงพลัง  สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากจะเตรียมพร้อมฟาร์มอาร์ติแฟกต์เซ็ตใหม่ทันทีหลังอัปเดต 2.3 เข้า อย่าลืมเตรียม Mora ไว้ให้พอด้วยนะ เพราะค่าอัปเกรดอาร์ติแฟกต์หลาย ๆ ชิ้นนั้นใช้ Mora เยอะพอสมควรเลย และอย่าลืมเตรียมพลังงานกันให้พร้อมสำหรับการฟาร์มด้วยนะ! เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ – Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

เพื่อน ๆ น่าจะเริ่มได้ข่าวจาก ไลฟ์ Patch 2.3 เกม Genshin Impact ที่จะรีรัน Eula กลับมาอีกครั้งกันแล้ว สำหรับใครที่รอเปิดอยู่หรือลังเลว่าควรเปิดหาดีหรือไม่ ในไกด์นี้จะมาพูดถึงเธอแบบละเอียด ตั้งแต่อาวุธ, อาร์ติแฟกต์, การจัดสมาชิกร่วมทีม รวมไปจนถึงการอัปพรสวรรค์กัน! แนะนำตัวละครและรูปแบบการเล่นของ Eula แบบคร่าว ๆ Eula เป็นตัวละครธาตุน้ำแข็งที่เน้นการทำความเสียหายกายภาพเป็นหลัก รูปแบบการเล่นจะเน้นการกดท่าไม้ตายแล้วโจมตีปกติสะสมจำนวนบัฟไปเรื่อย ๆ เมื่อท่าไม้ตายหมดเวลาหรือสลับตัวละคร บัฟดาบแสงที่สะสมไว้จะระเบิดออกสร้างความเสียหายกายภาพให้กับศัตรูโดยรอบ  โดยรวมแล้วแม้ว่าเธอจะเป็นตัวละครที่มีจุดเด่นด้านท่าไม้ตาย แต่การโจมตีปกติก็แรงขึ้นหลักหมื่นได้อย่างไม่ยากเย็น สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งการเดินสำรวจโลก และการลง Spiral Abyss ถ้าหากเพื่อน ๆ มีตัวละครที่ช่วยทำปฏิกิริยานำไฟฟ้าเพื่อลดต้านทานกายภาพ เช่น Raiden หรือ Fischl แล้วล่ะก็ เธอจะเป็นตัวละครน่าเปิดหาสุด ๆ  แนะนำอาวุธ 5 ดาว สำหรับอาวุธ 5 ดาวแนะนำจะมีอยู่ด้วยกัน 4 ชิ้น คือ Song of Broken Pines, Wolf's Gravestone, The Unforged และ Skyward Pride Song of Broken Pine  หรือดาบประจำตัวของน้องนั้นเป็นหนึ่งในดาบที่ดีที่สุดเพราะเพิ่มทั้งความเสียหายกายภาพ และมีความสามารถสะสมบัฟเพื่อเพิ่มความเร็วในการโจมตี ทำให้เก็บบัฟดาบแสงได้ง่ายขึ้น Wolf's Gravestone ดาบใหญ่ของดีอีกชิ้นที่เพิ่มพลังโจมตีให้ผู้ถือสูงมาก ๆ นอกจากนี้ตัวดาบยังมีบัฟโจมตีเพิ่มทั้งทีมเมื่อโจมตีใส่ศัตรูที่เลือดน้อยอีกด้วย ความแรงสามารถเทียบ Song of Broken Pine ได้เลย ถ้าทั้งคู่มีระดับขัดเกลาน้อย The Unforged หรือดาบหิน เป็นอีกอาวุธที่ดีสำหรับ Eula เพราะตัวอาวุธเพิ่มพลังโจมตีได้เยอะมาก แต่จะขาดความยืดหยุ่นของการจัดทีมเมื่อเทียบกับอาวุธชิ้นอื่น เพราะต้องอาศัยโล่เพื่อทำให้บัฟอาวุธทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Skyward Pride มีความแรงท่าไม้ตายน้อยที่สุดในหมู่ดาบใหญ่ด้วยกัน แต่ทดแทนมาด้วยค่าอัตราฟื้นฟูพลังงาน และความเสียหายเสริมจากคลื่นดาบเมื่อเปิดใช้ท่าไม้ตาย แนะนำอาวุธ 4 ดาว สำหรับอาวุธ 4 ดาวที่แนะนำจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชิ้น คือ Serpent Spine, Luxurious Sea-Lord และ Snow-Tombed Starsilver Serpent Spine ได้รับมาจากการซื้อ Battle Pass ตัวดาบมีบัฟทำให้ผู้ถือทำความเสียหายมากขึ้น และรับความเสียหายมากขึ้น เป็นดาบใหญ่ระดับ 4 ดาวที่แรงที่สุด แต่ก็ทำให้ผู้ใช้ตายง่ายขึ้นในเวลาเดียวกันเป็นเหมือนกับดาบสองคม ใครใช้ดาบนี้ควรมีโล่ติดไปด้วยนะ Luxurious Sea-Lord ดาบฟรีจากกิจกรรม Moonlight Seeker เป็นอีกหนึ่งอาวุธที่เหมาะกับ Eula เพราะมีความสามารถเพิ่มความเสียหายของท่าไม้ตาย นอกจากนี้สกิลเรียกปลาทูของดาบยังสามารถทำงานได้เมื่อกดสกิลแบบค้างอีกด้วย เพราะความเสียหายของดาบแสงจากสกิลนั้นคิดเป็นความเสียหายของท่าไม้ตาย Snow-Tombed Starsilver ตัวเลือกของสายประหยัด เป็นอาวุธฟรีจากการทำเควสใน Dragonspine สเตตัสรองของดาบเป็นความเสียหายกายภาพ และยังมีสกิลติดตัวที่เรียกน้ำแข็งมาช่วยทำดาเมจเมื่อโจมตีศัตรูอีกด้วย แนะนำอาร์ติแฟกต์ อาร์ติแฟกต์ของเธอจะมีอยู่ 2 เซ็ตหลักๆด้วยกันคือ 2 Bloodstained Chivalry + 2 Pale Flame และ 4 Pale Flame  2 Bloodstained Chivalry + 2 Pale Flame เป็นเซ็ตแนะนำสำหรับ Eula กลุ่มดาว 1 หรือต่ำกว่า โดยมีผลเพิ่มความเสียหายกายภาพ 50 % แบบไร้เงื่อนไข 4 Pale Flame เป็นเซ็ตแนะนำสำหรับ Eula กลุ่มดาว 2 หรือมากกว่า เพราะกลุ่มดาว 2 จะลดคูลดาวน์ของสกิลแบบกดค้างลง ทำให้สามารถใช้งานบัฟของอาร์ติแฟกต์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ในเรื่องการเสียบัฟของอาร์ติแฟกต์เมื่อกดสกิลแบบค้าง แนะนำสมาชิกทีม ตัวละครที่แนะนำมาร่วมทีมได้แก่ Diona, Fischl, Shogun Raiden และ Bennett Diona เป็นตัวละครที่เข้าขากันได้เป็นอย่างดีเพราะ Diona ที่ถืออาวุธ Favonious หรือ Sacrificial นั้น สามารถช่วยเติมพลังงานน้ำแข็งได้เยอะมาก ๆ นอกจากนี้น้องยังมีโล่และฮิลแถมให้อีก  Fischl นกของ Fischl จะช่วยทำปฏิกิริยานำไฟฟ้าได้อย่างไม่ขาดช่วง นอกจากนี้ความเสียหายของนกก็ถือว่าอยู่ในระดับดีอีกด้วย Raiden Shogun Raiden สามารถช่วยทำปฏิกิริยานำไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องเหมือน Fischl แต่จะมีข้อดีเพิ่มเติมเรื่องการฟื้นฟูพลังงานในช่วงที่กำลังรอคูลดาวน์ท่าไม้ตายอยู่ เพื่อน ๆ สามารถสลับเอา Raiden ออกมาเปิดท่าไม้ตายทำดาเมจและฟื้นฟูพลังงานได้ Bennett เป็นตัวละครที่บัฟพลังโจมตีได้สูงมากที่สุดในเกม เหมาะสำหรับเวลาที่เพื่อน ๆ อยากจบบอสในการกดท่าไม้ตายครั้งเดียว เช่น บอสรายสัปดาห์ แนะนำการอัปพรสวรรค์ สำหรับ Eula ที่เน้นท่าไม้ตายและโจมตีปกติเป็นหลักนั้น การอัปพรสวรรค์ควรจะเน้นไปที่เลเวลท่าไม้ตายก่อน แล้วตามด้วยเลเวลโจมตีปกติสำคัญเป็นลำดับรองลงมา ส่วนเลเวลสกิลเป็นส่วนที่ทำความเสียหายได้ไม่มากนัก เพื่อน ๆ สามารถกลับมาเพิ่มเลเวลได้เมื่อมีทรัพยากรเหลือ แนะนำกลุ่มดาว เธอเป็นตัวละครที่กลุ่มดาวโหดเอามาก ๆ โดยกลุ่มดาวที่แนะนำให้เพื่อน ๆ ที่เติมหนักปลดแต่ละกลุ่มดาวจะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันได้เลย! กลุ่มดาว 1  เมื่อใช้บัฟดาบสะสมด้วยการกดสกิลแบบค้างจะได้รับบัฟความเสียหายกายภาพเพิ่ม 30% โดย บัฟ 1 ขั้น จะเพิ่มระยะเวลาบัฟให้ 6 วินาที กลุ่มดาว 3 เพิ่มเลเวลท่าไม้ตาย 3 เลเวล กลุ่มดาว 6 เมื่อใช้ท่าไม้ตาย จะได้รับบัฟดาบแสงเพิ่มขึ้น 5 ขั้นทันที นอกจากนี้การโจมตีปกติ สกิล และท่าไม้ตายยังมีโอกาสอีก 50% ที่จะได้รับบัฟดาบแสงเพิ่มเติมอีก 1 ขั้น เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่ากลุ่มดาวที่แนะนำเป็นกลุ่มดาวที่เน้นไปทางการเพิ่มความเสียหายท่าไม้ตายเป็นหลักโดยเฉพาะกับ กลุ่มดาว 6 ที่เพิ่มความเสียหายของท่าไม้ตายได้หลายเท่า ทำให้สามารถจบแทบทุกด่านของเกมได้โดยการกดท่าไม้ตายเพียงครั้งเดียว  หากมีงบสามารถเปิดถึงได้แนะนำให้เปิดเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่มีงบน้อยเปิดหาเพียงตัวเดียวก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน หรือมีงบพอจะเปิดได้สัก C1 จะทำให้การเล่นง่ายขึ้น เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่...

Animal Crossing อัพเดท DLC ตัวใหม่ล่าสุดแบ่ง DLC ออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกอัพเดทฟรี เล่นได้ทุกคนไม่เสียเงินเพิ่ม อีกส่วนคือเสียเงินซื้อ DLC ชื่อว่า Happy Home Paradise แล้วสองอย่างนี้ ต่างกันยังไง ? ควรเสียเงินซื้อเพิ่มไหม ? เรามาดูความคุ้มค่าของทั้งสองแบบกันดีกว่า Animal Crossing อัพเดท 2.0 และ Happy Home Paradise มีอะไรบ้าง ? สำหรับอัพเดท 2.0 ที่อัพเดทได้ฟรี เพื่อนบ้านใหม่ เรื่องตื่นเต้นที่สุดของผู้เล่น ยังไงก็หนีไม่พ้นเพื่อนบ้านใหม่สุดน่ารัก Animal Crossing อัพเดทครั้งนี้เพิ่มเพื่อนบ้านใหม่เข้ามาถึง 8 ตัว ซึ่งหลังเกมอัพเดทได้ไม่นาน ราคาของเพื่อนบ้านบางคนก็พุ่งทะยานไปเกิน 1,000 ตั๋วนุ๊กไมล์ด้วยซ้ำไป รายชื่อของเพื่อนบ้านใหม่มีดังนี้ Sasha (กระต่าย), Ione (กระรอก), Tiansheng (ลิง), Shino (กวาง),Marlo (แฮมสเตอร์), Petri (หนู), Cephalobot (ปลาหมึก), Quinn (นกอินทรี) 8 ตัวละครในอดีต ไม่เพียงแค่ตัวละครใหม่ Animal Crossing อัพเดท ครั้งนี้ยังเอาตัวละครเก่าจากหลาย ๆ แหล่งกลับมา ให้เราเชื้อเชิญมาเป็นเพื่อนบ้านอีกด้วย ทั้ง 8 ตัว ได้แก่ Ace (นก), Rio (นกกระจอกเทศ), Zoe (ตัวกินมด), Faith (หมีโคอาล่า), Azalea (แรด), Chabwick (เพนกวิน), Frett (สุนัข), Roswell (จระเข้) บ้านใหญ่ขึ้น เก็บของได้เยอะขึ้น การมาของอัพเดท Animal Crossing 2.0 ทำให้เราสามารถอัพ Storage ของได้อีก 3 ระดับ เพิ่มขึ้นจากอัพเดทครั้งก่อนที่เก็บของได้ 2,400 ชิ้น กลายเป็น 3,200 ชิ้น ต่อด้วย 4,000 และ 5,000 ชิ้นในการอัพเกรด Storage ขั้นสุดท้าย เรียกว่า เก็บเต็มอีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ทีเด็ดอีกอย่างคือ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกของบ้านได้ถึง 4 แบบคือ บ้านไม้และหินแบบดั้งเดิม, กระท่อมไม้ซุง, บ้านสไตล์ Rounded stucco และ บ้านทรงปราสาทญี่ปุ่น ใครอยากปรับหน้าตาบ้านให้เข้ากับเพื่อนบ้านที่หามาได้ คราวนี้ละได้แต่งสนใจแล้ว เดินทางแสนสะดวก หยิบของสบาย เพื่อรองรับการแต่งเกาะแบบหลายชั้น หรือ มีแม่น้ำไหลผ่านของผู้มีไอเดียบรรเจิด ตัวเกมได้เพิ่มจำนวนสะพานและบันไดหินจากเดิม 8 อันเป็น 10 อันแล้ว แถมมีรั้วใหม่ ๆ สวย ๆ เพิ่มเข้ามาในเกมถึง 9 แบบ งานนี้ใครถูกใจรั้วใหม่ ได้รื้อของเก่ากันเมื่อยนิ้วแน่ ๆ ถูกใจไปกว่านั้นคือ ไอเทมใหม่ใน Animal Crossing ชื่อว่า Storage Shed เป็นตู้มหัศจรรย์ วางไว้นอกสิ่งก่อสร้างได้ เจ้าตู้นี้ทำให้เราสามารถเข้าถึง Storage บ้านเราจากที่ไหนก็ได้ คราวนี้จะหยิบจะหาของอะไร ก็ไม่ต้องวิ่งกลับไปเอาที่บ้านแล้ว ตั้งเจ้า Storage Shed ไว้รอบ ๆ เกาะ จะช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นเยอะ ระบบทำอาหารมาแล้ว จากเดิมที่เกาะเรามีแต่ดอกไม้ อัพเดท Animal Crossing รอบนี้ ตัวเกมมีพืชให้เก็บมาทำอาหารหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาลี มันฝรั่ง มะเขือเทศ แครอท หรือแม้กระทั่งอ้อย การปลดระบบทำอาหารก็ไม่ได้ยากอะไร แค่ซื้อ DIY Recipes+ จาก Nook Shop มาก็ปลดล็อคสูตรอาหารได้แล้ว มาสรรสร้างอาหารน่ากิน แล้วเรียกเพื่อนมานั่งทานด้วยกันเถอะ BREWSTER (บาริสต้า) และร้าน The Roost นกพิราบ บาริสต้าแห่งเกม Animal Crossing ผู้คอยเสิร์ฟกาแฟให้กับผู้เล่น มาเปิดร้านชื่อ The Roost ที่พิพิธภัณฑ์ (Musuem) ของเรา ร้านกาแฟแห่งนี้ตั้งอยู่มุมบนซ้ายของอาคาร ผู้เล่นที่หลงใหลในกาแฟ ชอบหาร้านกาแฟนั่งในชีวิตจริง เจอ The Roost ไปคือกรี๊ดเลย เพราะร้านสวย บรรยากาศดีมาก กาแฟก็ราคาเป็นกันเอง ตกแก้วละ 200 bell เท่านั้น ลูกเล่นสำคัญอีกอย่างของ The Roost คือ เราสามารถแสกน Amiibo เพื่อเชิญตัวละคร Animal Crossing ที่เรามีให้มานั่งกินกาแฟกับเราในร้านได้ด้วย Mysterious Islands เกาะลึกลับใหม่ ๆ ได้มีการอัพเดทเพิ่มเข้ามาใน Animal Crossing ผู้เล่นมีโอกาสเจอต้นไม้พันธ์ใหม่, ต้นหวายสำหรับปีน, ต้นไม้เรืองแสง ทั้งยังมีโอกาสที่เกาะเหล่านั้นจะมีช่วงเวลาและฤดูกาลของตัวเอง ทำให้เราสามารถพบเจอไอเทมหรือสิ่งของจากฤดูกาลอื่นได้ เราสามารถนั่งเรือของ Kapp'n เพื่อออกตามหาเกาะเหล่านี้ได้ 1 ครั้งต่อวัน (ค่าเดินทาง 1,000 Nook Mile) เกาะของ Harvey ขยายใหญ่ขึ้น หนึ่งในเกาะที่ผู้เล่นหลงรัก เกาะของ Harvey ได้มีการขยายไปยังตอนเหนือ เพิ่มโซนร้านค้าใหม่ ๆ เข้ามา แต่การจะให้ตัวละครพิเศษเปิดร้านอย่างถาวรบนเกาะนี้ได้ ต้องใช้เงิน 100,000 Bell ต่อหนึ่งร้านค้า ตัวอย่างร้านค้าที่เราสามารถปลดล็อคได้ เช่น Saharah ขายวอลเปเปอร์และของปูพื้น, Kicks ขายรองเท้าและถุงเท้า, Cyrus และ Reese ตัวทีเด็ด สองตัวนี้สามารถปรับแต่เฟอร์นิเจอร์แบบพิเศษ ที่ผู้เล่นไม่สามารถทำเองได้ หรือใครอยากดูดวงตัวเองขำ ๆ ก็เข้ามาใช้บริการของ Katrina ได้ อัพเดท item และ เฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก ถ้าถามว่า ไอเทมและเฟอร์นิเจอร์ เพิ่มมาเยอะหรือไม่ คำตอบคือ 9,000 ชิ้น ! Animal...

ตั้งแต่เริ่มเปิดเกม Genshin Impact จนถึงปัจจุบันได้มีตัวละคร (Character) เพิ่มเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เพื่อน ๆ สามารถเลือกจัดทีมได้หลากหลายแบบส่งผลให้ทีมมีความเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกครั้งที่มีการอัปเดต ซึ่งแต่ละคนก็มักจะมีการจัดให้สามารถคอมโบกันได้เพื่อดึงประสิทธิภาพออกมาได้สูงกลายเป็นทีมสุดแกร่ง เป็นทีมหลักของแต่ละคน สำหรับในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับคอมโบทีมสุดแกร่งกันว่ามีแบบไหนบ้าง! แนะนำตัวละครสุดเทพลงทีม (Character) ก่อนจะพูดถึงการแนะนำทีม ก็จะต้องกล่าวถึงสามตัวละคร 4 ดาว ที่เก่งมาตั้งแต่เกมเปิดจนถึงตอนนี้ก็ยังเก่งมาก ๆ อยู่อย่าง Xiangling, Xingqiu และ Bennett โดยทั้งสามตัวจะมีจุดร่วมกันก็คือสามารถป้ายธาตุได้ถี่มาก และมีความเก่งส่วนตัวอย่างเช่น Xiangling กับ Xingqiu เป็นตัวละครสายสนับสนุนที่ทำความเสียหายได้รุนแรงมาก ๆ ระดับตัวละคร 5 ดาวยังอาย  ส่วน Bennett เป็นสายบัฟเพื่อนผู้มาพร้อมกับไม้ตายแจกพลังโจมตีกับฮิลมหาศาลในตัวเดียวกัน ทำให้ตัวละครสามตัวนี้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของทีมเก่ง ๆ หลายทีม ส่วนแต่ละทีมจะมีคอมโบแบบไหนกันบ้างตามมาดูกันได้เลย National Raiden หรือ ทีมชาติ + ท่านโชกุน เป็นการทำงานร่วมกันของตัวละครสุดเทพประจำเกมอย่าง Xiangling, Xingqiu และ Bennett ที่จะทำให้เชฟหมี (Xiangling) ทำดาเมจได้อย่างมหาศาลจากการบัฟของน้องสบู่ (Bennett) และ เร่งดาเมจด้วยการระเหยจากการสนับสนุนของนายน้อย (Xingqiu) ปกติแล้วด้วยตัวละครสามตัวที่กล่าวไปจะมีปัญหาเรื่องพลังงานทำให้ต้องใส่ของ หรืออาวุธเพิ่มอัตราฟื้นฟูพลังงานอยู่เป็นประจำ แต่ด้วยความสามารถการซัพพอร์ตฟื้นฟูพลังงานของเทพสายฟ้า Raiden ทำให้ทั้งทีมสามารถใส่ของเน้นไปทางเพิ่มความเสียหายได้มากขึ้น แถมตัว Raiden ยังมาเติมเต็มในส่วนของดาเมจหลักประจำทีมช่วงรอคูลดาวน์ท่าไม้ตายอีกด้วย National Kazuha หรือทีมชาติ + Kazuha ตัวละครพื้นฐานก็คือตัวละครสามตัวเหมือนกับคอมโบที่กล่าวไปในทีมแรก แต่จะเปลี่ยนจากเทพสายฟ้าเป็น Kazuha แทน จะช่วยในการบัฟความเสียหายไฟให้กับ Xiangling  แม่ครัวสุดโหด และลดต้านท้านธาตุไฟส่งผลให้ดาเมจจากกงล้อไฟของเธอแรงขึ้นแบบทะลุเพดานไปเลยทีเดียว  ในด้านดาเมจรวมอาจจะด้อยกว่าการใช้ Raiden อยู่บ้าง แต่ว่าการจัดทีมแบบนี้จะได้เปรียบเรื่องของการสู้กับศัตรูเป็นกลุ่ม เพราะมีการรวบของ Kazuha มาช่วย Xiao + Geo ภาพรวมของทีมคือเน้นการสนับสนุน Xiao โดยเฉพาะ ความเสียหายส่วนใหญ่จะมาจากธาตุลม เป็นทีมที่ค่อนข้างทรงพลังในการเร่งดาเมจระยะสั้น เนื่องจากตัวละครหลักประจำทีมได้บัฟจากสั่นพ้องธาตุหิน ส่งผลให้โล่แข็งแกร่งมากขึ้น และทำความเสียหายได้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับผลลดการต้านท้านธาตุลงไปอีกจากโล่ของ Zhongli เมื่อรวมกับบัฟจากไม้ตายของ Bennett แล้วทำให้เป็นคอมโบที่แข็งแกร่งมากทีเดียว ถ้าไม่สามารถกดไม้ตายได้อย่างต่อเนื่องหรือจำเป็นต้องสู้ระยะยาวสามารถใช้ Jean ใส่ดาบ Sacrifical Sword หรือ Favonius Sword เพื่อช่วยเรื่องเม็ดธาตุลมก็ได้อีกเช่นกัน  Geo Vapetao (Hu Tao ระเหย + สั่นพ้องธาตุดิน) พื้นฐานจะเน้นไปทางคอมโบเพื่อรีดดาเมจจากตัวละครสุดแกร่งอย่าง Hu Tao ที่สามารถทำปฏิกิริยาระเหยได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนของ Xingqiu และบัฟทีมให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยความเสียหายเสริมจากสกิลธาตุดอกไม้ของ Albedo และบัฟสั่นพ้องจากธาตุหิน นอกจากนี้ก็ยังมีสั่นพ้องธาตุหิน และมีโล่ของเทพดิน Zhongli มาช่วยในการเลี้ยงเลือดของ Hu Tao อีกด้วย ทำให้สามารถเล่นได้อย่างปลอดภัยตอนพลังชีวิตต่ำเพื่อใช้งานบัฟโจมตีไฟของ Hu Tao Melt Ganyu (ทีม Ganyu ละลาย) เป็นการจัดรูปแบบที่เหมาะกับผู้เล่นสายเน้นดาเมจหลาย ๆ หลักอย่างสุด ๆ เพราะว่าคอมโบนี้จะทำให้ Ganyu สามารถทำละลายได้อย่างต่อเนื่องด้วยการใช้ไม้ตายของ Bennett ผสานกับไม้ตายของ Kazuha ทำให้เกิดโดมไฟขนาดใหญ่ที่มีการป้ายธาตุไฟลงบนศัตรูเรื่อย ๆ เพื่อให้ Ganyu ยิงติดละลายรัวๆ  นอกจากการป้ายไฟแล้ว Ganyu ก็ยังได้บัฟโจมตี และโจมตีธาตุจำนวนมากจากสมาชิกทีม เมื่อรวมกับโล่สุดแกร่งของ Zhongli แล้ว ก็ไม่มีอะไรมาหยุด Ganyu ได้อีก Morgana (Ganyu สายแช่แข็ง) มองไกล ๆ ก็เดาได้แล้วว่าทีมนี้เน้นแช่แข็งเป็นหลัก เริ่มจากการใช้ Mona และ Venti รวบพร้อมป้ายน้ำให้ศัตรูติดสถานะเปียก ตามด้วยดีบัฟ Omen ของท่าไม้ตายจาก Mona จากนั้นจึงปิดงานด้วยดาเมจสุดอลังการของ Ganyu ที่ใส่อาร์ติแฟกต์ Blizzard Strayer 4 ชิ้นเพื่อเพิ่มอัตราคริของตัวเองได้แบบเยอะสุด ๆ ศัตรูทั้งกลุ่มจะถูกรวบ ติดแช่แข็ง และตายพร้อม ๆ กันอย่างรวดเร็ว Freeze Ayaka (Ayaka สายแช่แข็ง) ตัวทีมเน้นไปตรง Elemental Burst อย่างรุนแรงจากตัว Ayaka ที่ได้รับการบัฟจากสมาชิกในทีมทั้งสามคน อย่างเช่น Omen จากท่าไม้ตายของ Mona หรือบัฟความเสียหายน้ำแข็งของ Kazuha และพื้นไฟจากท่าไม้ตายของ Bennett จัดได้ว่าครบเครื่องมาก ๆ เพราะมีทั้งดีบัฟ แช่ รวบ และบัฟ ถ้าไม่มี Kazuha หรือมีปัญหาเรื่องพลังงานสามารถใช้ Venti แทนก็ได้อีกเช่นกัน  Taser  (ทีมชาร์จไฟฟ้า) เป็นทีมที่สมาชิกทีมมีดาเมจอย่างเท่าเทียมกัน ทุกคนสามารถสนับสนุนกันเองได้อย่างลงตัว โดย Sucrose จะรับบทเป็นตัวละครหลักในการโจมตี ซึ่งถูกสนับสนุนด้วยสกิลกับท่าไม้ตายของ Fischl Beidou และ Xingqiu เพื่อทำปฏิกิริยากระจายลดป้องกันธาตุน้ำ และสายฟ้าจากโบนัสอาร์ติแฟกต์ Viridescent Venerer เป็นทีมที่ทรงพลังมาก ๆ เมื่อต้องสู้กับศัตรูหลาย ๆ ตัว นอกจากนี้ทีมยังมีจุดเด่นตรงใช้แต่ตัว 4 ดาวล้วนอีกด้วยนะ สรุป จะเห็นได้ว่าทีมต่าง ๆ จะมีข้อดี และข้อด้อยต่างกันไป แต่แทบจะไม่มีทีมไหนเลยที่ไม่ใช้ตัวละครยอดนิยมอย่าง Bennett, Xiangling และ Xingqiu สำหรับในบทความต่อไปเราจะมาพูดถึงการจัดคอมโบแบบไม่ใช้ตัวละครเหล่านี้กันครับ เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Thoma ตัวละครจากแพทช์ 2.2 เข้าสู่เกม Genshin Impact พ่อบ้านแห่งตระกูล Kamisato ผู้มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ Mondstadt ได้มาอาศัยเติบโตในเมือง Inazuma ตั้งแต่ยังเด็ก เขาใช้หอกเป็นอาวุธคู่ใจ มีวิชั่นเป็นธาตุไฟ และมาในฐานะตัวละครสายซัพพอร์ตให้กับทีมด้วยการสร้างโล่ป้องกันดาเมจต่างๆ พร้อมทำดาเมจธาตุไฟใส่ศัตรูอีกด้วย ข้อมูลตัวละคร ชื่อ : Thoma เกิด : วันที่ 9 มกราคม อยู่ฝ่าย : สำนัก Yashiro วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุไฟ กลุ่มดาว : Rubeum Scutum Thoma พ่อบ้านแห่งตระกูล Kamisato เป็นผู้ดูแลจัดการงานต่าง ๆ ภายในบ้านของตระกูล Kamisato แห่งสำนัก Yashiro และเป็น "ผู้มีอิทธิพล" ที่เคลื่อนไหวอยู่ใน Inazuma แถมยังเป็นคนที่รักเหล่าสัตว์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะสุนัข เขาเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีเป็นพรสวรรค์ติดตัว สามารถปรับตัวเข้ากับทุกหัวข้อสนทนาได้อย่างชาญฉลาด และเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้คนได้หลากหลายมากมาย แต่เมื่อยามต้องปกป้องรักษาผลประโยชน์ของสำนัก Yashiro เขาก็สามารถปรับตัวเข้าสู่โหมดจริงจังได้เช่นกัน วิธีการได้รับตัวละคร : วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชาตู้ "ช่วงเวลาแห่งการผลิบาน" Skill ภาพสกิลรายละเอียดSwiftshatterSpearการโจมตีปกติ : โจมตีต่อเนื่องสูงสุด 4 ครั้ง ทำดาเมจหายภาพ ฮิตสุดท้ายจะทำให้ศัตรูที่โดนกระเด็นออกไประยะไกลท่าชาร์จโจมตี : กดโจมตีค้าง (ใช้สตามิน่า) https://youtu.be/o-pQLmq0oBA https://youtu.be/MqhIx5ta5ak Blazing Blessingสกิลธาตุจะโจมตีใส่ศัตรูด้วยดาเมจธาตุไฟบริเวณด้านหน้าก่อนสร้างโล่ป้องกันขึ้นมา และทำให้ตัวละครติดสถานะธาตุไฟระยะสั้นๆ โล่อยู่นาน 8 วิ- โล่จะหนาขึ้นตามพลังชีวิตสูงสุดของตัว Thoma- โล่ป้องกันมีเอฟเฟกต์ดูดซับดาเมจไฟ 250%- หลังกดใช้สกิลธาตุสร้างโล่ในครั้งต่อไปในขณะที่โล่เดิมยังเหลืออยู่ การดูดซับที่เหลือในรอบแรกจะถูกซ้อนทับกับโล่ครั้งต่อไป https://youtu.be/VBM2L13SiEI Crimson Ooyoroiท่าไม้ตายจะทำดาเมจธาตุไฟใส่ศัตรูรอบตัวเป็นวงกว้าง 1 ครั้ง หลังจากนั้นจะสร้าง Scorcohing Ooyoroi ขึ้นมา อยู่นาน 15 วิ- เมื่อกดโจมตีปกติจะสร้างดาเมจธาตุไฟบริเวณด้านหน้าทุก 1 วิ- ทุกครั้งที่เกิดดาเมจไฟจากท่าไม้ตายจะสร้างโล่ป้องกันขึ้นมา https://youtu.be/x4ldXPcXJZs Imbricated Armorเมื่อสลับตัวละครอื่นมาลงมาบนสนามโล่ป้องกันจะหนาขึ้น 5% นาน 6 วิ เอฟเฟกต์นี้จะเกิดได้ทุก 0.3 วิ ซ้อนทับได้สูงสุด 5 ครั้ง Flaming Assaultดาเมจไฟจากท่าไม้ตายจะทำดาเมจเพิ่มเท่ากับ 2.2% จากเลือดสูงสุดของ Thoma Snap and Swingเมื่อตกปลาใน Inazuma จะมีโอกาส 20% ได้รับปลาเพิ่มขึ้น 2 เท่า กลุ่มดาว : Rubeum Scutum หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Thoma ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Thoma ซ้ำเท่านั้น กลุ่มดาวสกิลรายละเอียดLv. 1A Comrade's Dutyตัวละครที่มีโล่ป้องกันจากสกิลธาตุของโทมะถูกโจมตี ระยะคูลดาวน์ของสกิลธาตุจะลดลง 3 วิ และคูลดาวน์ท่าไม้ตายลดลง 3 วิ เอฟเฟกต์นี้เกิดขึ้นได้ทุก 20 วิLv. 2A Subordinate's Skillsระยะเวลาของท่าไม้ตายเพิ่มขึ้น 3 วิLv. 3Fortified Resolveเพิ่มเลเวลของสกิลธาตุ +3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 4Long-Term Planningพลังใช้ท่าไม้ตายจะฟื้นเกจท่าไม้ตาย 15 หน่วยLv. 5Raging Wildfireเพิ่มเลเวลของท่าไม้ตาย +3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 6Burning Heartเมื่อมีโล่ป้องกันจากสกิลธาตุ การโจมตีปกติ, ชาร์จโจมตี และโจมตีพุ่งลงมาจากกลางอากาศทั้งทีมทำดาเมจเพิ่มขึ้น 15% oาน 6 วิ จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่นจุดด้อยสร้างโล่ป้องกันให้เพื่อนทั้งทีมได้จำเป็นต้องมีเลือดที่ค่อนข้างสูงเพื่อให้โล่กันดาเมจได้มากขึ้นท่าไม้ตายทำดาเมจธาตุไฟ พร้อมสร้างโล่ป้องกันต่อเนื่องการโจมตีปกติครั้งสุดท้ายไม่สามารถผลักศัตรูขนาดใหญ่ให้กระเด็นได้หลังกดใช้ท่าไม้ตายสามารถสลับเพื่อนในทีมลงสนามได้ไม่หายไป สกิลธาตุสามารสร้างอณูธาตุได้ 2 - 4 ลูก แนะนำอาวุธ Thoma เป็นตัวละครสายซัพพอร์ตธาตุไฟมีสกิลธาตุสร้างโล่ป้องกันให้กับทีม ซึ่งความหนาของโล่นั้นจะขึ้นอยู่กับค่าเลือดสูงสุดของเขาจึงควรเลือกอาวุธเน้นเพิ่มเลือดสูงๆ โดยอาวุธแนะนำมีดังนี้ แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับ Thoma มีสกิลโล่ป้องกันให้กับทีม และตัวของท่าไม้ตายจะช่วยทำดาเมจธาตุไฟออกมาช่วยทำปฎิกิริยาธาตุให้กับตัวดาเมจทุก 1 วิ จึงแนะนำให้ใส่ออฟหลัก 3 ช่องหลังเป็น เลือด หรือ ฟื้นฟูพลังงาน | เลือด | เลือด หากอยากเล่น 1.เซ็ต Tenacity of the Millelith 2 ชิ้น กับ Tenacity of the Millelith 2 ชิ้น เอาผลเพิ่มเลือด 20% และฟื้นฟูเกจ 20% เน้นเสริมเกราะพร้อมฟื้นฟูเกจท่าไม้ตายให้เต็มเร็วขึ้น 2.เซ็ต Emblem of Severed Fate ใส่ 2 ชิ้น ฟื้นฟูเกจ 20% และใส่แบบ 4 ชิ้น เพิ่มดาเมจท่าไม้ตาย 25% ของค่าฟื้นฟูพลังงาน สามารถเพิ่มด้วยวิธีนี้ได้สูงสุดที่ 75% 3.เซ็ต Noblesse Oblige เมื่อใส่ครบสองชิ้นดาเมจของท่าไม้ตาย 20% แบบใส่ครบ 4 ชิ้น หลังจากใช้ท่าไม้ตายในทีมทั้งหมดจะเพิ่มพลังโจมตี 20% นาน 12 วิ (ไม่สามารถใช้ซ้อนทับกันได้) เป็นเซ็ตที่ดีมากๆ ตารางของอัปขั้นเลเวลตัวละคร ปลดระดับขั้นเลเวลElemental Material Smoldering PearlFluorescent FungusInsignia120-4020,000*1- *3*3240-5040,000*3 *2 *10 *15350-6060,000 *6 *4 *20*12460-7080,000 *3 *8 *30 *18570-80100,000 *6 *12 *45*12680-90120,000*6 *20 *60 *24 เลเวลทาเรนสกิล (พรสวรรค์)Transience InsigniaHellfire ButterflyCrown of...

หลังจากกำเพชรรอกันมาหลายเดือน ทาง Genshin Impact ก็ได้จัดเรทอัปตู้รีรันน้อง Hu Tao สุดน่ารักกลับมาอีกครั้ง นอกจากความตื่นเต้นแล้วก็มักจะมีคำถามยอดนิยมตามมาเวลามีตัวละครใหม่หรือรีรันอย่าง ควรใส่ของแบบไหน, ฟาร์มอาร์ติแฟกต์อะไรดี หรือเซ็ตที่มีอยู่แล้วใช้กับน้องได้รึเปล่า ในบทความนี้มีตอบเกี่ยวกับอาร์ติแฟกต์ของเธออย่างละเอียดให้ทุกคนแน่นอน! แนะนำตัวละครและรูปแบบการเล่นของน้อง Hu Tao แบบคร่าวๆ น้อง Hu Tao นั้นเป็นตัวละครธาตุไฟ ระดับ 5 ดาว มีจุดเด่นเรื่องการเปลี่ยนค่าพลังชีวิตให้กลายเป็นพลังโจมตีจำนวนมหาศาล จึงเป็นตัวละครที่ทำหน้าที่ดาเมจหลักได้ดีมากๆ และยังสามารถทำปฏิกริยาธาตุระเหยเพื่อคูณดาเมจได้ตลอดเวลาเมื่อเล่นคู่กับ Xingqiu ที่เป็นตัวละครสายสนับสนุนธาตุน้ำอีกด้วย แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ที่เริ่มมาเล่นน้องเป็นครั้งแรกอาจจะต้องระวังเรื่องของเลือดนิดหน่อย อย่างที่กล่าวไปข้างต้นตัวของสกิลจะเปลี่ยนพลังชีวิตให้กลายเป็นพลังโจมตี หมายความว่าทุกครั้งเมื่อกดใช้ก็จะลดเลือดลงไปเรื่อยๆ หากไม่ระวังก็อาจจะตายเองได้ง่ายๆ เลย แม้ว่าการทำให้น้องโจมตีแรงขึ้นจะแลกมากับเลือดที่หายไปก็ไม่ได้เป็นถึงข้อเสียทั้งหมด เพราะยิ่งเหลือเลือดน้อยดาเมจจากท่าไม้จะยิ่งแรงขึ้นนั้นเอง แถมตัวท่าไม้ตายเมื่อโดนศัตรูจะได้ฮิลตัวเองด้วย แนะนำอาร์ติแฟกต์ Status หลักของอาร์ติแฟกต์ สำหรับขนนกและดอกไม้นั้นจะมีค่าสเตตัสหลักอย่างเดียวคือพลังชีวิตกับพลังโจมตี ส่วนถ้วยใส่เป็นความเสียหายไฟจะดีที่สุด ส่วนหมวกจะเน้นไปที่อัตราคริหรือความแรงคริตามแต่สเตตัสของแต่ละคนว่าต้องการค่าคริแบบไหนมากกว่ากัน นาฬิกาจะใส่เป็นชำนาญธาตุหรือเลือดนั้นขึ้นอยู่กับอาวุธของตัวเธอเองเป็นหลัก หากใช้อาวุธเป็น Dragon’s Bane ที่มีค่าชำนาญธาตุติดตัวมาอยู่แล้วควรใส่นาฬิกาพลังชีวิต เพราะเราจะมีค่าชำนาญธาตุมาจากอาวุธอยู่แล้ว เลยไม่ต้องหาเพิ่มเยอะมากนัก Status รองของอาร์ติแฟกต์ สเตตัสรองหลักๆ ที่จะเพิ่มความเสียหายให้ตัวเธอจะมีอยู่สี่ค่าได้แก่พลังชีวิต% | ความแรงคริ | อัตราคริ | ชำนาญธาตุ โดยสี่ค่านี้จะเพิ่มความเสียหายให้ตัวน้องได้มากที่สุด เวลาหาออฟรองอาติแฟกต์ให้เน้นหาค่าดังกล่าวเป็นหลัก ส่วนค่าอื่นๆ อย่าง โจมตี% หรือ พลังชีวิตไม่% นั้นจะเพิ่มค่าเสียหายได้น้อยกว่าค่าสเตตัสทั้ง 4 แบบที่กล่าวไป อาร์ติแฟกต์เซ็ตไหนดี? สำหรับอาร์ติแฟกต์สามารถใส่ได้หลายเซ็ตทั้งเน้นการเพิ่มความเสียหายธาตุไฟเป็นหลัก หรือใส่เซ็ตเน้นเพิ่มเลือดเพื่อให้เวลากดสกิลเปลี่ยนพลังชีวิตมาเป็นความเสียหายได้สูงขึ้น โดยเซ็ตที่แนะนำจะมีทั้งหมด 3 แบบดังนี้ Shimenawa's Reminiscence ใส่ครบ 4 ชิ้นจะได้โจมตี 18% และ ได้โบนัสความเสียหายจากการตีปกติ/การโจมตีพุ่งลงจากอากาศ/ชาร์จโจมตี 50% เป็นเวลา 10 วินาทีเมื่อกดใช้สกิล โดยจะเสียพลังงาน 15 หน่วยเพื่อเอาบัฟนี้ Crimson Witch Of Flame ใส่ครบ 4 ชิ้นจะได้โบนัสค่าความเสียหายไฟ 15% และได้โบนัสความเสียหายจากการทำระเหยกับละลายเพิ่มขึ้น 15% นอกจากเมื่อกดใช้งานสกิลธาตุจะได้โบนัสความเสียหายไฟเพิ่มอีก 7.5% Retracing Bolide ใส่ครบ 4 ชิ้นจะเพิ่มความแข็งแกร่งของโล่ขึ้นไปอีก 35% และเมื่อมีโล่จะเพิ่มความเสียหายจากการโจมตีปกติกับชาร์จโจมตีขึ้น 40% ดูจากทั้งหมดแล้ว Bolide เป็นเซ็ตที่แรงน้อยที่สุดและติดเงื่อนไขเรื่องจำเป็นต้องมีโล่ ส่วน Crimson และ Shimenawa นั้นมีความแรงใกล้เคียงกันมากๆ แต่ในดัน Crimson นั้นจะดรอปเซ็ต Lavawalker ซึ่งหาคนใช้ได้ยาก พอเทียบกับดันอาร์ติแฟกต์ของ Shimenawa แล้วดันอาร์ติแฟกต์ของ Bolide และ Crimson จะดูด้อยกว่ามากๆ เมื่อเราฟาร์มเซ็ต Shimenawa เราจะมีโอกาสได้เซ็ต Emblem Of Severed Fate ซึ่งเป็นอาติแฟกต์เซ็ตที่ดีมากๆ สำหรับตัวละครหลายๆ ตัว ดังนั้นถ้าไม่ได้มีเซ็ต Retracing Bolide หรือ Crimson Witch Of Flame ที่ออฟรองสวยๆ อยู่แล้วแนะนำให้ฟาร์มเซ็ต Shimenawa จะดีกว่านะ จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Tsurumi เกาะใหม่ในเกม Genshin Impact นอกจากจะมีเควสปิดหมอกแล้วยังมีพัซเซิลใหม่ (Inazuma Puzzle) ให้ทำอีกหลายจุด ซึ่งในบทความจะมาพูดถึงพัซเซิลปริศนารูปภาพภายในถ้ำที่เขา Shirikoro Peak เพื่อตามหาไข่มุกทั้ง 3 ให้เจอเพื่อปลดปล่อย Seelie ทั้ง 3 ออกมา! https://www.youtube.com/watch?v=rF-rSNXpRKc&ab_channel=Myplaypost (Inazuma Puzzle) จุดตามหาไข่มุกพร้อมแก้ปริศนาบนเกาะ Tsurumi ก่อนจะไปตามหาไข่มุกทั้ง 3 จุด เพื่อนๆ จำเป็นต้องผ่านเควสปิดผนึกสายฟ้าที่เกาะ Seirai ก่อนเพื่อให้ได้ “ขนนก” มา สามารถดูวิธีตามหาได้ที่นี่เลย > วิธีปิดพายุสายฟ้าบน Seirai Island < และต้องผ่านเควสบันทึกแห่งทะเลหมอกในวันที่ 2 มาก่อนด้วยจึงจะสามารถแก้ปริศนาเหล่านี้ได้ เพราะการแก้ปริศนาครั้งนี้จะเกี่ยวกับรูปปั้น Thunder bird นั่นเอง โดยรูปปั้น Thunder bird เหล่านี้จะซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น เสาแสงลับ, Seelie, ตัวอักษรรูน รวมไปถึงทางลับ แต่การจะทำให้รูปปั้นเผยความลับนี้ได้จำเป็นต้องมีไอเทม "ขนนก" ที่ได้มาจากการปิดผนึกสายฟ้าบนเกาะ Seirai เสียก่อน ส่วนวิธีการใช้งานขนนกเพียงแค่ติดตั้งแล้วเข้าไปในระยะของรูปปั้น Thunder bird (ถ้ารูปปั้นนั้นตอบสนองจะมีแสงปรากฏขึ้นที่ไอเทมขนนก) หลังกดใช้งานขนนกก็จะปรากฏความลับออกมา! ต่อไปมาดูจุดตามหาไข่มุกกันต่อ ซึ่งในแต่ละจุดจะไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย มันจะอยู่ภายในเขา Shirikoro Peak ตรงบริเวณที่เพื่อนๆ เคยไปเก็บขนนกเปิดคอนปิดหมอกกันนั้นเอง โดยในจุดที่จะเจอจะอยู่ตรงบริเวณประตูกลไกแรก จากนั้นหันไปทางขวามือ (หันหน้าเข้าทางประตูกลไก) จะพบสัญลักษณ์รูป Thunder bird ปรากฏอยู่ ให้เดินเข้าไปในระยะเพื่อกดใช้งานขนนกกำลังจะหายไปเผยทางลับด้านในให้เข้าไปเก็บไข่มุกอันแรกได้ จุดที่ 2 ให้เดินกลับออกมาแล้วหันไปทางซ้ายมือ (จุดตรงข้ามกับประตูกลไก) จะเจอกำแพงมีรูป Thunder bird อยู่อีก 1 จุด ให้ใช้ขนนกเพื่อเปิดทางเหมือนเดิมแล้วเข้าไปเก็บไข่มุกมา แต่หลังจากเก็บศัตรูจะตื่นขึ้นมาอย่าลืมกำจัดทิ้งด้วยนะ ส่วนจุดสุดท้ายให้เดินออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายจะพบบันไดทางลงไปข้างล่างได้ ตรงสุดทางจะพบกำแพง Thunder bird อยู่ให้กดใช้ขนนกเปิดกำแพง จากนั้นเดินเข้าไปเลี้ยวขวาแล้วตรงไปจนถึงในสุด ต่อไปให้หันไปทางขวากำแพงแล้วเงยขึ้นมองข้างบนก็จะพบทางขึ้นไปเก็บไข่มุกสุดสุดท้ายได้นั่นเอง หลังจากได้ไข่มุกมาครบทั้ง 3 อันแล้วให้กลับขึ้นมาแล้วเข้าประตูกลไกไป จากนั้นเดินไปทางขวาจะเจอทางเข้ามีภาพ 3 ด่านเป็นรูปเขาทั้ง 3 ลูกของเกาะ Tsurumi หากสังเกตจะมีสัญลักษณ์รูปดาวอยู่ด้วย ให้เพื่อนๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ จะมีให้กดใส่ไข่มุกลงไปได้ เมื่อใส่ครบ 3 จุดแล้วจะมีปล่องสมบัติปรากฏออกมาพร้อมกับตัวของ Seelie ไฟฟ้าทั้ง 3 ที่เป็นอิสระจากรูปภาพได้พุ่งออกไปข้างนอก ซึ่งเพื่อนๆ จะต้องไปตามหา Seelie ทั้ง 3 ตัวให้เจอ โดย Seelie แต่ละตัวก็จะแอบอยู่ตามบนเขาทั้งสามรูปตามภาพบนกำแพงเลย สำหรับทั้งสามจุดก็คือ Shirikoro Peak, Mt.Kanna และ Moshiri Ceremonial Site Shirikoro Peak ให้วาร์ปไปยังเสาวาร์ปบน Shirikoro Peak ก่อนจากนั้นให้หันซ้ายก้มมองลงไปตรงบริเวณต้นไม้จะพบกับเจ้า Seelie บนนั้น เมื่อเข้าใกล้น้องก็จะพุ่งหนีไปในจังหวะนี้เราจะต้องตามไปเรื่อยๆ จนสุดทางจะไปปรากฏบนเนินผาที่มีอบิสเมจอยู่ 1 ตัวบนนั้น กำจัดทิ้งให้เรียบร้อยแล้วไปยังจุดต่อไป Mt.Kanna วาร์ปมาบริเวณ Mt.Kanna แล้วเข้าไปข้างในเขาแล้วใช้ต้นไม้ไฟฟ้าพาพุ่งขึ้นไปจนเกือบถึงยอดเขาจะไปสิ้นสุดอีกฝั่ง บริเวณนั้นจะมีต้นไม้สีฟ้าค่อนข้างเยอะ ให้ปีนขึ้นไปข้างบน 2 ชิ้นก็จะพบกับ Seelie แอบอยู่บริเวณต้นไม้ต้น จากนั้นให้ทำเหมือนเดิมคือไล่ตามจนกว่าจะกลับไปรวมกับน้องคนแรก Moshiri Ceremonial Site จุดสุดท้ายให้วาร์ปมาบริเวณลานพิธีกรรมแล้ววิ่งกลับลงไปตรงคอนจุดแรกที่เพื่อนๆ เคยเจอ จากนั้นก็ขึ้นทางฝั่งขวาของเขาก็จะเจอน้องอยู่บนนั้นเป็นตัวสุดท้าย เมื่อไล่ตามจนกลับมารวมกันทั้ง 3 ก็จะได้รับกล่องสมบัติ พร้อมได้รับความสำเร็จมาด้วยเป็นอันจบเคสปริศนานี้ทั้งหมด จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

หลัง Genshin Impact อัปเดตแพทช์ 2.2 พร้อมเกาะใหม่เข้ามาก็มีเควสใหม่ (Inazuma Quest) ให้ทำ และมีพัซเซิลภายในเกาะอีกเพียบ แต่การจะเดินสำรวจเกาะได้จะต้องปิดหมอกทั้งหมดบนเกาะก่อน ซึ่งการจะปิดหมอกได้ต้องเริ่มเควสบันทึกแห่งทะเลหมอกก่อนถึงจะเริ่มปลดหมอกได้ https://www.youtube.com/watch?v=1v3heu4MlgY&ab_channel=Myplaypost ตามหาคอนทั้ง 3 จุด เริ่มแรกให้ไปหา Katheryne ของเขต Inazuma เพื่อเริ่มเควสบันทึกแห่งทะเลหมอก จากนั้นก็จะได้ขึ้นเรือไปถึงเกาะ Tsurumi ได้ทันที แต่ก่อนจะเริ่มทำเควสนี้จำเป็นต้องทำเควสปิดผนึกสายฟ้าที่เกาะ Seirai ก่อนเพื่อให้ได้ "ขนนก" มา สามารถดูวิธีตามหาได้ที่นี่เลย > วิธีปิดพายุสายฟ้าบน Seirai Island < หลังจากมาถึงเกาะให้เดินเข้าประตูในจุดหมายของเควส ตัวหมอกส่วนนึงจะหายไปพร้อมได้เจอกับ Ruu เด็กชายบนเกาะแห่งนี้ เมื่อตามน้องไปจะได้เจอกับต้นไม้ "คอน" จุดแรก การเปิดใช้งานคอนจะต้องกดสำรวจก่อน 1 ครั้ง แล้วจะมีขนนกสีม่วงปรากฎออกมาเพื่อนๆ จะต้องตามหาให้ครบทั้ง 3 อันให้กลับไปยังคอนจึงจะปลดหมอกในบริเวณนั้นได้ ต่อไปจะต้องไปตามหาอีก 3 จุดให้เจอ โดยจุดที่คอนอยู่จะเป็นจุดมีหมอกบังเอาไว้ การจะเข้าไปหาคอนได้จะต้องเดินตามเสาแสงไฟเท่านั้น เพราะถ้าเดินออกนอกจุดที่มีไฟจะหลงทางในหมอกทำให้ถูกวาร์ปกลับมาจุดไม่มีหมอกแทน คอนจุดที่ 1 Chirai Shrine เดินตามแสงไฟเข้าไปข้างในเรื่อยๆ จะเจอซากปรักหักพัง ให้เลี้ยวไปทางขวาจะเจอคอนลางๆ อยู่ข้างบนจะเจอกับ Ruu อีกครั้ง จากนั้นกดสำรวจคอนเพื่อตามเก็บขนนกให้ครบก็จะสามารถเปิดใช้งานคอนปิดหมอกในส่วนนี้ได้ คอนจุดที่ 2 Shirikoro Peak ให้เดินตามแสงเข้าไปข้างในจะพบกับคอนกับ Ruu อยู่ที่นั้น หลังจากกดสำรวจคอนตัวขนนกทั้งสามจะพุ่งลงไปใต้น้ำ เพื่อนๆ ต้องตามหา Seelie ให้ครบ 3 ตัวก่อนจึงจะลดน้ำลงไปข้างล่างได้ โดนตัวแรกจะอยู่ตรงทางเข้า, ตัวสองอยู่บนต้นไม้ทางขวา และตัวสุดท้ายจะอยู่บริเวณน้ำด้านล่าง เมื่อลงไปข้างล่างจะพบกับขนนกอันแรกส่วนที่เหลือจะลอยเข้าไปข้างในที่มีประตูปิดอยู่จะต้องทำการปลดกลไกออกก่อน โดยการนำแท่นไฟฟ้ามาวางเพื่อเชื่อมไฟฟ้าให้ติดครบทุกจุดประตูจึงจะเปิดออกก็จะได้พบกับขนนกอันที่ 2 อันต่อไปจะต้องเปิดกลไกเหมือนกันจึงจะเปิดประตูเข้าไปเอาได้ โดยการตามหาน้องผีให้ครบ 3 ตัวก่อนเพื่อลดน้ำด้านล่าง ตัวแรกจะอยู่บนเสาตรงทางเข้า, ตัวสองอยู่ทางขวาจะมีทางเข้าอยู่ และตัวสามจะอยู่ั่งตรงข้ามที่โดนหินทับอยู่ เพียงเท่านี้ก็จะลดน้ำลงเพื่อปลดกลไกได้ หลังจากได้ครบสามจุดแล้วให้กลับไปหาคอนเพื่อเปิดการใช้งาน และปิดหมอกในส่วนนี้ออกก็เป็นอันเรียบร้อยเพื่อไปยังจุดสุดท้าย คอนจุดที่ 3 Autake Plain จุดสุดท้ายเงื่อนไขไม่ยากมากให้เดินตามแสงจะไปถึงคอนได้เลยพร้อมกับเจอศัตรู 3 ตัว ให้กำจัดทิ้งก่อนเพื่อคุยกับ Ruu จากนั้นกดสำรวจคอนเพื่อตามหาขนนกทั้ง 3 ให้ครบ ตัวขนนกจะต้องวิ่งตามไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเก็บได้ ซึ่งแต่ละทางจะเจอศัตรูดักตลอด กำจัดให้หมดแล้วเก็บขนนกเหล่านั้นมาแล้วกลับไปปลดคอนอันสุดท้ายเป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากนั้นจะมีเควสให้ทำอีกทั้งหมด 3 วัน จะต้องเดินผ่านประตูแรกทุกครั้งเพื่อปิดหมอก และทำเควสให้จบก็จะไม่มีหมอกปรากฏมาให้กวนใจเพื่อนๆ กันอีก จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

หลัง Genshin Impact อัปเดตแพทช์ 2.1 พร้อมแมพใหม่ 2 จุดเข้ามาก็มีg8;lใหม่ (Inazuma Quest) ให้ทำกันเพียบ ซึ่งในบทความจะมาพูดถึงวิธีการปลดผนึกแท่นหินไฟฟ้าเพื่อปิดพายุสายฟ้าบน Seirai Island หากทำสพเร็จจะได้รับไอเทมสำคัญที่จะใช้ในเกาะ Tsurumi อีกด้วย! https://www.youtube.com/watch?v=jwAwzAiHd84&ab_channel=Myplaypost วิธีปิดพายุสายฟ้าบน Seirai Island เริ่มแรกให้ไปหา Katheryne ของเขต Inazuma เพื่อรับเควสไปตามหาคนของกิลด์นักผจญภัยสองคนที่ออกไปตามหาเบาะแสเเกาะใหม่ก่อน หลังจากนั้นให้แล่นเรือข้ามทะเลไปตามพิกัดก็จะพบกับ Seirai Island เมื่อมาถึงจุดหมายก็จะพบกับ Eiko และ Taisuke ที่มาสืบเรื่องของเกาะนี้อยู่ พวกเขาจะพาไปยังแท่นหินปริศนาก่อนจะให้ไปหาวิธีใช้งานแท่นหินนี้ หลังจากตามรอยเท้าแมวจนมาถึงศาลเจ้าน้องแมว เจ้าเหมียวสีดำที่ชื่อว่า Neko จะขอให้ช่วยซ่อมกล่องโยนเหรียญให้น้อง เมื่อซ่อมเสร็จก็ได้บอกเกี่ยวกับวิธีใช้งานแท่นหินกับเรา โดยวิธีการใช้งานแท่นหินเพื่อปิดผนึกสายฟ้าจะมีดังนี้ 1 กดสำรวจเสาไม้ "ชิเดะ" ให้ครบทั้งสามจุด 2. ทำการเลื่อนแท่นหิน (หินเครื่องราง) ให้มีจำนวนกระดาษ "ชิเดะ" เท่ากับเสาไม้แต่ละฝั่ง ตัวของแท่นหินจะมีสองชั้นแต่ละชั้นจะมี "ชิเดะ" เรียงเอาไว้รอบวงหิน ต้องหมุนให้ชั้นบนกับชั้นล่างเท่าตามจำนวนของเสาไม้ชิเดะครบทั้ง 3 ฝั่ง จึงจะสามารถปิดผนึกได้ 2.1 ชิเดะ = กระดาษ (กระดานที่มีเฉียงลงคล้ายสัญลักษณ์ /)2.2 ชิเดะ / = กรดาษ 1 แผ่น2.3 ชิเดะ // = กระดาษ 2 แผ่น2.4 หากเสาฝั่งซ้ายของแท่นหินมี 2 ชิเดะ ต้องหมุนเสาหินให้บนล่างรวมกันเท่ากับ 2 (หากหมุนตรงจะมีแสงปรากฏขึ้นที่ชิเดะ) แต่ถ้าอีกสองฝั่งมีจำนวนไม่ตรงต้องหมุนหาตำแหน่งใหม่จนกว่าจะได้ครบจำนวนทั้งสามฝั่ง หินเครื่องรางจุดที่ 1 ให้ยืนหันหน้าไปทางเนินผา จากนั้นหมุนหินชั้นบนให้ทางซ้ายมี 2 ชิเดะ กับขวา 1 ชิเดะ ต่อไปให้หมุนชั้นล่างชนกว่าแสงจะขึ้นตรงกับทางขวาจะได้เป็น ฝั่งซ้ายบน 2 ชิเดะ ล่าง 1 ชิเดะ ส่วนฝั่งขวาบน 1 ชิเดะ ล่าง 2 ชิเดะ หินเครื่องรางจุดที่ 2 สำหรับในแท่นหินในจุดต่อไปตรงบริเวณแท่นหินจะมีเสาไม้ชิเดะเพียง 2 เสาเท่านั้น เสาไม้สุดท้ายจะต้องเข้าประตูวาร์ปไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเปิดอันสุดท้าย จากนั้นกลับมาให้หันหน้าหันไปทางเสาไม้ตรงริมถนน แล้วหมุนหินชั้นล่างให้เป็นซ้าย 2 ชิเดะ ขวา 3 ชิเดะ จากนั้นให้หมุนข้างบนจนกว่าจะตรงครบทั้ง 3 เสาเป็นอันเสร็จสิ้น หินเครื่องรางจุดที่ 3 จุดที่ 4 จะอยู่ใจกลางของพายุไฟฟ้าจะต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อขึ้นไปบนหินแต่ละก้อนปลดเสาไม้ชิเดะให้ครบ 3 จุด เมื่อมาถึงจุดเสาไม้ชิเดะอันที่ 2 จะมีเสาวาร์ปให้ปลดด้วย ส่วนเสาไม้ชิเดะสุดท้ายจะต้องขึ้นไปอีกสองชั้นจึงจะเจอ หลังจากเปิดครบแล้วให้กลับมาตรงเสาวาร์ปจะมีแท่นเสาหินอยู่ตรงนั้น ให้เดินหันหน้าเข้าแท่นหินไปทางตรงกลางระหว่างเสาวาร์ปกับต้นไฟฟ้าแล้วหันแท่นล่างเป็น ซ้าย 3 ชิเดะ กลาง 1 ชิเดะ ขวา 2 ชิเดะ จากนั้นหมุนชั้นบนจนกว่าจะตรงครบทั้ง 3 เสา หินเครื่องรางจุดที่ 4 จุดสุดท้ายให้ขึ้นไปจุดสูงสุดจะเป็นการข้ามไปยังอีกฝั่งที่มีจุดวาร์ปอยู่ด้วยจะพบกับแท่นเสาหินสุดท้าย ให้หมุนแท่นหินชั้นบน 2 ครั้ง กับชั้นล่าง 2 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะปลดล็อกลานสู้บอสค้างคาวไฟฟ้าใจกลางเกาะ Amakumo ได้แล้ว ต่อไปให้ลงไปตรงลานแล้วสู้กับบอสให้ชนะ แล้วขึ้นไปยังหินด้านบนจะมีกล่องสมบัติให้เก็บมากมาย พร้อมกับ "ขนนก" ไอเทมสำคัญที่จะนำไปใช้ในพื้นที่ต่อไป จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Ro Classic Hunter สายนก ใช้การโจมตีปกติเพื่อเรียกนกออกไปจิกเพื่อทำ Damage เพิ่มเติม เอามาฟาร์มศัตรูเกราะหนา DEF สูงได้ดี เพราะนกจิกทะลุค่า DEF ของศัตรู จัดเป็นสายเล่นสบาย เน้นฟาร์มมอนทั่วไป ไม่เน้นล่าบอส แถมไม่เมื่อยนิ้ว เพราะคลิกโจมตีเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องรัวกดสกิลเหมือนสายเบิ้ล Ro Classic Hunter สายนก วิธี อัพสเตตัส Hunter สายนี้ อัพ Status ยากกว่า สายเบิ้ล เพราะมีค่า Status สำคัญหลายอย่าง เริ่มจาก DEX ก่อน แม้เราจะทำ Damage จากนกอยู่ไม่น้อยแต่ค่า DEX ก็ไม่ควรต่ำเกินไป เพราะการยิงปกติทำดาเมจได้แรงย่อมดีกว่ายิงเบาต้องรอนกออกเพียงอย่างเดียว ดังนั้น ค่า DEX ควรอัพไว้อย่างน้อย 50-70 หน่วย ไม่ต้องอัพหนักถึง 99 แบบสายเบิ้ล เพราะเราต้องเอา Status Point ไปอัพอีกหลายอย่าง ค่า AGI อาจเป็น Status สำคัญสุดของ Hunter สายนก เพราะยิ่ง AGI สูง ค่า ASPD (ความเร็วโจมตี) ยิ่งสูงตาม เมื่อเราโจมตีถี่ขึ้น โอกาสที่นกจะออกไปทำ Damage ก็จะเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งทำให้เราทำ Damage จากการโจมตีปกติได้มากขึ้นด้วย ทำให้ควรอัพค่า AGI เอาไว้อย่างน้อย 90 หน่วย บางคนบ้ายิงเร็วหน่อยอาจอัพค่านี้ 99 เต็มไปเลยก็ได้ ถัดมาคือค่า LUK ค่า Status นี้ส่งผลโดยตรงกับการออกไปโจมตีของนก LUK เยอะนกออกบ่อย, LUK น้อยนกไม่ออก Hunter สายนกจึงต้องอัพ LUK อย่างเลี่ยงไม่ได้ ข้อดีอีกอย่างของค่า LUK คือเพิ่มค่า Critical Rate ช่วยให้ติดคริง่ายขึ้นด้วย ฮันนกนิยมอัพ LUK ไว้ที่ 60 หากใครชอบคริ ชอบนกอาจอัพเพิ่ม แต่อัพไว้ 60 หน่วย ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ในส่วนของ VIT สามารถอัพหรือไม่ก็ได้ บางคนอัพติดไว้ 30 หน่วยเพื่อความถึกเวลาฟาร์ม จะได้ไม่ตายง่ายเกินไป STR และ INT ไม่ได้ใช้จึงทิ้งไว้ที่ 1 หน่วยเหมือนเดิม หลังจากเลเวล 99 แล้ว ค่าสเตตัสของ Hunter สายนก ควรเป็นดังนี้ STR: 1AGI: 90-99 ความเร็วโจมตีเยอะ นกก็มีโอกาสออกไปโจมตีมากขึ้นVIT: 1 หรือ 30 เพิ่ม HP สูงสุดINT: 1DEX: 50-70 ดาเมจจากการโจมตีปกติก็สำคัญแต่ไม่จำเป็นต้องมากเท่า Hunter สายเบิ้ลLUK: 60 เพิ่มโอกาสนกออก และ โอกาสติดคริ ฮันเตอร์ สายนก วิธีอัพสกิล ในช่วง Archer นั้นการอัพ Skill ค่อนข้างตายตัวไม่ค่อยมีอะไรพลิกแพลงมากเท่าไหร่ อัพเหมือนกับตอนเล่น Hunter สายเบิ้ลได้เลย Class 1 (Archer) อัพ Skill ดังนี้  Owl's Eye (Level 10)Vulture's Eye (Level 10)Attention Concentrate (Level 10)Double Strafing (Level 10)Arrow Shower (Level 9) *หากเล่น JOB40 สามารถข้าม Arrow Showerได้ หลังจากเปลี่ยน Class 2 เป็น Hunter แล้ว Skill สำคัญคือสกิลเพิ่มความแรงของนกจิก ส่วนสกิล Trap ไม่ต้องสนใจเพราะค่าสเตตัสเราใช้กับดักได้ไม่แรง อาจเลือกอัพ Detecting เอาไว้ เพื่อหาศัตรูหายตัวเวลา PVP ด้วยก็ได้ Beast Bane (Level 10)Falconry Mastery (Level 1)Steel Crow (Level 10)Blitz Beat (Level 5)Detecting (Level 4) เติมเงินสุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิกได้เลย : https://gold.razer.com/gold/catalog/ragnarok-classic Website Official >>อ่านข้อมูลของ Ragnarok Classic คลิก <<