Console Guide

Console Guide - สำหรับส่วนนี้จะเป็นการรวบรวม guide ต่างๆของเครื่อง console ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเป่าตลับ เช็ดแผ่นหรือวิธีชุบตัวละครลับที่โดนไม้แขวนเสื้อตีตาย

Genshin Impact Healer Character cover playpost

Healer เป็นอีกหนึ่งในบทบาทที่สำคัญมากในเกม RPG ต่างๆ รวมถึงในเกมอย่าง Genshin Impact ก็เช่นกันที่เป็นอีกหนึ่งในหัวใจสำคัญของปาร์ตี้เลยก็ว่าได้ การมี Healer ในทีมนั้นจะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถรักษาพลังชีวิตของตัวละครในปาร์ตี้ให้สวยงามอยู่เสมอ ประหยัดการต้องเสียเวลาทำอาหารต่างๆ และบางครั้งก็ยังใช้ทำอะไรที่มากกว่าการฮีลได้ด้วย วันนี้ก็จะมาพูดถึง Healer ทั้ง 4 คนที่มีในเกมเกนชินตอนนี้กันว่าใครสามารถทำอะไรได้แตกต่างกันบ้าง รู้จักกับ Healer ทั้ง 4 ในปัจจุบันตอนนี้นั้น Genshin Impact มีตัวละครที่เป็น Healer ด้วยกันทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ประกอบไปด้วย Qiqi, Jean, Barbara และ Noelle ซึ่งแต่ละคนนั้นก็มีความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับตัวละครอื่นๆ ในปาร์ตี้ได้ทั้งหมด แต่ทว่าลักษณะการฮีลนั้นไม่เหมือนกันเลย และเป็นคนละธาตุกันหมดทุกคนอีกต่างหาก! ทำให้เกิดข้อแตกต่างในการใช้งานของแต่ละคนขึ้นมา วันนี้ก็จะมาดูกันว่าใครมีลักษณะอย่างไรกันบ้างจ้า   Noelle ★★★★ (ธาตุดิน - ดาบใหญ่) ตัวละครการันตีว่าจะได้รับแน่ๆ เมื่อเปิดป้าย Beginner จนครบ เป็นตัวละครธาตุดินที่ใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ ทำให้ไม่ค่อยเข้ากับเมต้าของการเล่นเท่าไหร่นักที่เน้นการผสมธาตุสร้างความเสียหายแรงๆ (เนื่องจากธาตุดินผสมกับอะไรก็ได้โล่มาแทน) และในด้านการฮีลนั้นก็ไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่นัก การฮีลของโนเอลจะเกิดขึ้นเมื่อเธอสร้างเกราะดินจากสกิลของเธอขึ้นมา และระหว่างที่ยังมีเกราะดินอยู่ ทุกๆ การโจมตีของเธอจะมีโอกาส 50% (100% เมื่ออัพหมู่ดาวขั้นแรก และกดใช้ไม้ตายไปพร้อมกัน) ที่จะฮีลเพื่อนในปาร์ตี้ตามอัตราส่วนของพลังป้องกันของเธอ ด้วยเหตุนี้ทำให้ผลการฮีลของเธอนั้นต่ำที่สุดในกลุ่มตัวละครสายฮีลด้วยกัน และออกจะยุ่งยากที่สุด หากเกราะแตกก่อนก็อดฮีล รอคูลดาวน์กันไปยาวๆ แต่ในทางเดียวกันนั้น ตัวเธอก็มีความสามารถในเชิงรุกกึ่งรับ ยืนชนมาแทนจากความที่เป็นธาตุดินนี่แหละ ด้วยท่าไม้ตายของเธอที่จะเพิ่มความสามารถโดยรวมในการโจมตีชั่วคราว (ระยะเวลาของไม้ตายกับคูลดาวน์ของเธอนั้นเท่ากันเป๊ะ แต่ใช้ Energy 60 หน่วย) รวมถึงตัวโล่นั้นก็ยังสามารถกดใช้ได้โดยไม่ต้องรอให้เลือดลด ทำให้สามารถกดเปิดนำมาก่อนล่วงหน้าเพื่อมาช่วยลดความเสียหายให้กับตัวละครหลักของทีมได้อีกด้วย (เป็นโล่ ไม่ต้องมานั่งกังวลจะทำให้คอมโบผสมธาตุเพี้ยนไปในตัว) ในด้านของ Passive เมื่ออยู่ในทีมก็จะช่วยสร้างโล่เมื่อคนในทีมเลือดเหลือต่ำกว่า 30% ได้ทุกๆ 1 นาทีอีก ทำให้สามารถช่วยเซฟตัวละครที่กำลังใกล้ตายได้อยู่บ้าง ดังนั้นในด้านการใช้งานแล้ว ตัวเธอเป็นฮีลเลอร์สายเป็ดที่สามารถใช้ได้ทั้งเชิงรุก เชิงรับ แต่ไม่สุดซักด้านเท่าไหร่ หรือจะว่ากันคือสุดในด้านการตั้งโล่นี่ล่ะ สร้างโล่ป้องกันความเสียหายได้ เด่นในด้านการตั้งรับมากกว่าเชิงรุก ฮีลได้ช้าและไม่ค่อยแน่นอนที่สุด ► อุปกรณ์ที่น่าสนใจ อาวุธสามารถเลือกใช้เน้นพลังโจมตี(เน้นโจมตี)หรือพลังป้องกัน(เน้นฮีล)ได้ ขึ้นกับว่าเพื่อนๆ อยากให้เธอไปสายไหน โดยถ้าเน้นพลังโจมตี ก็จะเป็นหน่วย DPS หลักกลายๆ ไป ได้ความสามารถในการไถศัตรูได้ดีขึ้น กวาดศัตรูตอนที่ไม่มีไม้ตายได้ดีขึ้น (เพราะตอนใช้ไม้ตายก็จะยังมีความแรงจากพลังโจมตีที่มีอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว) แต่ถ้าเน้นพลังป้องกัน การโจมตีปกติเมื่อไม่มีท่าไม้ตายจะเบากว่า แต่จะได้ความหนาของเกราะ, ความแรงตอนใช้ไม้ตาย และการฮีลที่มากขึ้นทดแทนกันไป ทางด้าน Artifact นั้นช่วงต้นเกมอาจจะเลือกใช้ Lucky Dog (2 ชิ้น) คู่กับเซ็ทอื่นๆ และในภายหลังเปลี่ยนมาใช้ Maiden Beloved (4 ชิ้น) สำหรับเน้นการฮีล ส่วนชุด Retracing Bolide (4 ชิ้น) จะค่อนข้างดีหากใช้เธอเป็นทัพหน้าฟาดไม่ยั้ง (โดยเฉพาะเมื่ออัพหมู่ดาวเต็ม ไม้ตายเธอจะแรงขึ้นมากเลยทีเดียว)   Barbara ★★★★ (ธาตุน้ำ - สื่อเวทย์) น้องไอดอลนักบวช ของเราคนนี้เป็นตัวละครสายฮีลที่แท้ทรูแบบ 100% กันเลย ด้วยสกิลที่ใช้แล้วเมื่อโจมตีจะทำการฮีลตามค่า HP ของตัวเอง หรือไม้ตายที่กดแล้วฮีลยกตี้แรงๆ ทีเดียวจบ ทำให้น้องเป็นคนที่ฮีลได้โหดมากๆ และถ้าว่ากันตรงๆ แล้วนั้น ในยามที่คับขันน้องก็เป็นคนที่ฮีลได้ดีที่สุดอีกด้วย เมื่อใช้สกิล เธอจะสร้างโน๊ตเพลงรอบตัว โน๊ตเพลงนี้มีข้อเสียที่ทำให้ตัวละครของเพื่อนๆ ติดสถานะเปียก แต่ก็ทำให้ศัตรูที่เข้ามาใกล้ติดสถานะเปียกได้เช่นกัน เรียกว่าสามารถใช้เป็นเปิดทางผสมทางให้กับตัวละครหลักได้เลย โน๊ตนี้จะคงอยู่แม้จะสลับตัวละคร และช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้เรื่อยๆ แต่ถ้า Barbara โจมตีตอนที่มีโน๊ตนี้ เธอจะฮีลให้เพื่อนในทีมตามอัตราส่วนของพลังชีวิตของเธอ ทำให้ไม่ต้องแคร์เรื่องพลังโจมตีเลย สามารถปั้นให้เธอกลายเป็นฮีลเลอร์ที่เลือดหนาเป็นรถถังได้ การโจมตีระยะไกลของอาวุธชนิดสื่อเวทย์ ก็ทำให้เบาใจเรื่องการต้องเข้าไปเสี่ยงโดนอัดปลิวจากระยะประชิดได้อีกด้วย ข้อเสียที่สุดของน้องน่าจะอยู่ที่การทำให้ตัวละครตัวเองติดสถานะเปียก ซึ่งถ้าเจอกับธาตุอย่างน้ำแข็งก็จะติดแช่แข็งกันรัวๆ หรือถ้าเจอสายฟ้าก็จะช๊อตชะงักเป็นระยะให้รำคาญใจมาก แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว น้องก็เป็นฮีลเลอร์ที่ดีมากๆ พึ่งพาได้เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียวล่ะ ฮีลแรง ฮีลได้ดังใจ Build เลือดหนาตายยากอีก ความสามารถในเชิงรุกค่อนข้างต่ำ แต่ยังพอใช้สกิลหลักเปิดทางให้ผสมธาตุน้ำได้ ทำให้ติดสถานะเปียกซะเอง ► อุปกรณ์ที่น่าสนใจ อาวุธที่ใช้ควรทิ้งด้านการโจมตีไปเน้นพลังชีวิตให้เต็มที่ไปเลย เพื่อให้น้องได้ทำหน้าที่ให้โดดเด่นที่สุด ยกเว้นจะเล่นอินดี้สายบู๊ก็ว่ากันอีกที ตัว Thrilling Tales of Dragon Slayers นั้นจะช่วยให้เมื่อสลับตัวน้องเป็นคนอื่น คนที่สลับมาจะได้บัพเพิ่มพลังโจมตีที่คุ้มค่ามากๆ ส่วน Prototype Malice จะช่วยให้น้องใช้ไม้ตายได้ไวขึ้น และช่วยฟื้นพลังชีวิตเพิ่มเติมไปด้วยเมื่อใช้ไม้ตาย ทางด้าน Artifact นั้นช่วงต้นเกมแนะนำเป็น Adventurer (2 ชิ้น) คู่กับเซ็ทอื่นๆ อย่าง Scholar หรือ The Exile เร่งไม้ตายก็ได้ (ตัว Traveling Doctor จะเพิ่มผลฮีลที่ได้รับ ไม่ใช่ฮีลที่ส่งออกไปเพราะงั้นไม่ช่วยอะไรน้อง) และในภายหลังเปลี่ยนมาใช้ Maiden Beloved (4 ชิ้น) สำหรับเน้นการฮีล ส่วน Noblesse Oblige (4 ชิ้น) จะทำให้ไม้ตายของน้องใช้บัพพลังโจมตีได้ด้วย แลกกับการที่ฮีลเบาลง   Jean ★★★★★ (ธาตุลม - ดาบ) ในด้านการฮีลแล้วนั้น เป็นคนที่ฮีลเพื่อได้ค่อนข้างยากเล็กน้อย โดยมีสองทางด้วยกัน ทางแรกคือปลดล๊อคสกิล Passive จากการเลื่อนระดับขั้นแรก จะทำให้ทุกๆ การโจมตีมีโอกาส 50% ที่จะฮีลเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้ อีกทางหนึ่งคือใช้ไม้ตายในการฮีล เมื่อเปิดใช้ไม้ตายแล้ว จะสร้างพื้นที่ทุ่งดอกไม้ที่ทำความเสียหายกับศัตรู(ในตอนแรกสุดที่เรียกออกมา หลังจากนั้นเมื่อมีการเดินเข้า-ออกทุ่งนี้) พร้อมกับฮีลเพื่อนๆ ร่วมทีมหรือในปาร์ตี้ในรัศมีของทุ่งดอกไม้นี้อย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าตอนกดใช้ไม้ตาย ก็จะฮีลทุกคนในปาร์ตี้อย่างแรงคล้ายกับ Barbara ด้วยเช่นเดียวกัน สิ่งที่ทนแทนในด้านการฮีลที่ยากนิดๆ ก็เป็นการที่ตัวเธอสามารถใช้ต่อสู้ได้ดีมาทดแทนกัน โดยแม้ว่าตัวเธอจะเป็นธาตุลม ทำให้ไม่สามารถใช้แปะทิ้งไว้ให้คนอื่นเสริมได้เท่าไหร่ ถึงกระนั้นตัวสกิลของเธอก็ใช้ในการผลักศัตรูให้กระเด็น, รวบเข้ามาและผลักออกไปได้ (กดค้าง) รวมถึงแรงสุดในกลุ่มสกิลธาตุลมทั้งหมด นอกจากนี้ตัวเธอสามารถ Support เพื่อนๆ ได้ทีมได้เป็นอย่างมากเมื่อมี Passive หรือมีการอัพหมู่ดาวขึ้นมา (เธอเป็นคนที่อัพหมู่ดาวแล้วความสามารถในการซัพจะป่าเถื่อนขึ้นมากๆ) การฮีลของเธอจะขึ้นกับอัตราส่วนพลังโจมตีของเธอเป็นหลัก ดังนั้นการบิ้วตัวละครเลยไปทางสายโจมตีตามปกติเหมือนตัว DPS ทั่วไป ซึ่งก็ค่อนข้างเหมาะกับตัวเธอมาก เนื่องจากตัวเธอกับ Noelle นั้นคล้ายกันคือเป็นตัวที่เหมาะกับการเป็นหน่วยปะทะมากกว่า (จะใช้เป็นตัวหลักเลยหรือเป็นตัวสำรองก็ได้) โดยโนเอลไปทางสายตั้งรับ ไม้ตายสลับเป็นเชิงรุก ส่วนเธอจะเป็นสายเชิงรุก ไม้ตายสลับเป็นตั้งรับ....ก็แย่แล้ว เงื่อนไขการฮีลออกจะวุ่นวายนิดหน่อย ด้านซัพขอให้บอกเจ๊ ยิ่งอัพหมู่ดาวมายิ่งมันส์ แปะธาตุให้ศัตรูไม่ได้ ► อุปกรณ์ที่น่าสนใจ ตัวอาวุธนั้น เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้อาวุธที่เพิ่มพลังโจมตีต่างๆ ได้เลย...

Read more
Genshin Impact 3 star Weapon cover playpost

พูดถึงไอเทมแล้ว ของแรร์สูงๆ ก็มักจะมีพลังอำนาจที่เหนือล้นกว่าของแรร์ต่ำๆ ยิ่งเป็นกาชายิ่งไม่ต้องพูดถึงความทรงพลังของมันเลย วันนี้ก็จะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับอาวุธขั้นต่ำในการใช้งานอย่างอาวุธ 3 ดาวทั้งหลายใน Genshin Impact กันว่า มีอาวุธชิ้นไหนเหมาะน่าหยิบมาใช้กันบ้างแบบที่ไม่ต้องง้อเปิดได้อาวุธเทพๆ กับเขา แน่นอนว่าของดาวเยอะกว่ามันก็ย่อมดีกว่า แต่คราวนี้ล่ะหนา 3 ดาวก็แรงได้เหวย ก่อนอื่นทำไมต้อง 3 ดาว? สาเหตุหลักๆ นั้นก็มาจากการที่อาวุธ 3 ดาวนั้นเป็นอาวุธระดับต่ำสุดที่กาชาจะสุ่มออกมาได้ และเป็นขั้นต่ำสุดที่จะมีสกิล Passive ติดตัวอาวุธอยู่ ต่างจากอาวุธ 1-2 ดาวที่มีแต่ค่า Status ใช้อะไรพิเศษแทบไม่ได้เลย ค่า Status รองยังไม่มีเลยเถอะ!!! อันนี้ร้ายแรงกว่าไม่มีสกิลอีก นอกจากนี้ต่อให้เพื่อนๆ ไม่กดกาชา อาวุธ 3 ดาวนั้นก็ยังพอมีโอกาสได้จากในเกมอยู่บ้าง (แม้จะมีโอกาสออกต่ำสุดๆ ก็ตาม) และหากเพื่อนๆ สะสมเพชรไปเรื่อยๆ เพื่อเปิดหาตัวละคร ยังไงซะอาวุธพวกนี้ก็จะมาหลอกหลอนกันอย่างแน่นอน แทนที่จะปล่อยมันเป็นอาหารหรือของรกตู้ ก็สู้หาทางเอามันมาใช้กันดีกว่า หลายอันนั้นก็เรียกว่ามีคุณสมบัติที่ดีไม่แพ้อาวุธระดับแรร์สูงกว่าเลยล่ะ ซึ่งเกนชินเองสำหรับตัวอาวุธก็จะมีสิ่งที่เรียกว่า Refine หรือการอัพสกิลของอาวุธอยู่ด้วย ขั้นตอนนี้ทำได้ด้วยการใช้อาวุธชนิดเดียวกันเป๊ะๆ มาอัพเกรด โดยมากจะส่งผลให้สกิลนั้นดีขึ้น 20% จนไปตันสุดที่ 2 เท่าตัวจากเดิม ..... งานนี้เพื่อนๆ คงนึกออกแล้วว่าทำไมอาวุธ 3 ดาวถึงมีข้อดีของมันอยู่ เราจะหามันแบบซ้ำๆ ได้ค่อนข้างง่ายกว่าเยอะยังไงล่ะ เพราะงั้นแม้ Status มันจะเบากว่าพวก 4-5 ดาวอยู่หน่อย แต่ก็สามารถอัพสกิลให้หนากว่าได้ง่ายกว่าเป็นอย่างมาก ทำให้เมื่อเทียบกันแล้วกับอาวุธดาวสูงกว่าแต่สกิลต่ำกว่าเนี่ย มันก็ยังใช้สู้กันได้ไม่ได้น้อยหน้ากันมากนัก ถึงกระนั้น! เพื่อนๆ ก็ต้องเข้าใจอีกอย่างหนึ่งด้วยว่าตัวอาวุธเราก็ไม่อาจจะดูจากสกิลของมันได้เพียงอย่างเดียว ค่าสเตตัสรองนั้นก็สำคัญมาก เพราะค่าสเตตัสรองนี้จะอัพขึ้นมาเรื่อยๆ ตามเลเวลของอาวุธโดยไม่ต้องมานั่งง้อการ Refine ทำให้บางครั้งถ้าไม่มีสกิลที่ตรงใจจริงๆ แต่ค่าสเตตัสรองมันได้ เราก็โอเคกับมันได้ อาจจะแรงกว่าด้วยเอ้อ ผลของสกิลที่แรงต่างกันแม้พลังโจมตีจะต่ำกว่า (Debate Club สามารถติดได้ 4-5 ครั้งในระยะเวลาเท่ากัน = 1600~2000 ต่อ 1092) ก่อนจะไปดูกันที่ list อาวุธนี้ ก็ขอย้ำกันก่อนว่า ตัวคูณสกิลอะไรทั้งหลาย หรือโบนัสที่เพิ่มเป็น % ทั้งหลายนั้น จะถูกนำไปคำนวนอีกครั้งหนึ่งจากค่าพลังพื้นฐานของตัวละครและอาวุธรวมกัน (Base ATK) ดังนั้น อาวุธที่มีค่าสเตตัสพื้นฐานของมันสูงกว่า จะส่งผลได้ชัดเจนมากกว่า ดังเช่นในรูปที่ขนาดตัว Prototype ยังไม่ได้ Ascend ดาวที่ 3 (ที่จะเพิ่ม Base ATK ขึ้นไปอีก) ค่าพลังโจมตีก็ต่างกันชัดเจนแล้ว แม้จะมีค่ารองน้อยกว่าก็ตาม (ลองถอด Artifact ออกทั้งตัวก็ยังคงแรงกว่า 1 dmg ที่ 237 vs 238) ซึ่งค่าพื้นฐานตอนเลเวล 1 ของอาวุธทั้งสองชิ้นนี้อยู่ที่ 39 และ 44 ตามลำดับ ทำให้อาวุธ 3 ดาวในบทความนี้จะวัดความเก๋ากับอาวุธ 4 ดาวได้นั้น ต้องวัดกันที่จำนวนครั้งการ Refine กันเน้นๆ เอาเรื่องของสกิลมาชนกับความต่างของสเตตัสนั่นเอง นั่นเป็นสาเหตุที่สุดท้ายแล้ว ของ 4-5 ดาวที่แรงกว่าก็ทำความเสียหายได้ดีกว่าแม้จะเจอ 3 ดาวที่ Refine สูงๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนๆ จะต้องเปย์จนกว่าจะได้อาวุธที่ต้องการหรือทนใช้ของเบาๆ ไปจนกว่าจะหาของ 4-5 ดาวได้ สู้หามาใช้ก่อน พอมีของดาวสูงค่อยสลับไปใช้ก็ไม่เสียหาย จะเอาของ 3 ดาวให้ตัวรองใช้ก็ยังได้ ถึงกระนั้นก็ไม่ต้องถึงขนาดทุ่มสุดตัว หยุดที่แถวๆเลเวล 40 หรือ 60 จะดีกว่า TIP : การเอาของที่อัพเลเวลแล้วไปเป็นวัตถุดิบอัพ EXP อีกทีหนึ่งจะเสียค่า EXP ไปแค่ 15% เท่านั้น ไม่ได้ขาดทุนอะไรขนาดนั้น เช่นสมมุติว่าดาบ level 10 ใช้ EXP อัพมา 10,000 หน่วย ถ้าใช้เป็นวัตถุดิบอัพเลเวล จะได้ EXP 8,500 หน่วย ว่าแล้วเราไปดูกันดีกว่ามีอาวุธไหนน่าสนใจกันดีกว่าในกลุ่ม 3 ดาวเหล่านี้ .... พร้อมโบนัสพิเศษ อาวุธ 4 ดาวแบบที่สร้างได้เปรียบเทียบกันไปด้วย (ก็ลุ้นหา phototype กันไปละกันจ้า...)   อาวุธสายดาบ อาวุธยอดฮิต ตัวดาบนั้นส่วนมากสามารถนำ 3 ดาวมาใช้ได้เกือบหมดเลย แต่จะค่อนข้างที่จะต้อง Build ร่วมกับ Artifact ในบางอย่างบ้าง Fillet Blade 39 ATK เมื่อโจมตีโดนเป้าหมาย จะมีโอกาส 50% ที่จะทำความเสียหาย 240/280/320/360/480% เพิ่มเติม (คูลดาวน์ 15/14/13/12/11 วินาที) Harbinger of Dawn 39 CRIT DMG เมื่อพลังชีวิตมากกว่า 90% จะเพิ่ม CRIT Rate 14/18/22/24/28% Cool Steel 39 ATK เพิ่มความเสียหาย 12/15/18/21/24% ต่อศัตรูที่ติดธาตุน้ำ, ธาตุน้ำแข็ง Fillet Blade : เป็นดาบสำหรับตัวละครที่มีการสลับไปมา ด้วยคูลดาวน์ที่นาน 15 > 11 วินาที ทำให้เมื่อสลับตัวมาก็ทิ่มฟาดซักชุดให้สกิลติดซักทีแล้วก็เผ่นผลุงกลับไป เห็นผลชัดเจนกว่าดาบเล่มอื่นๆ ที่ต้องฟาดต่อเนื่องเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ ตัวค่ารองก็ยังเน้นพลังโจมตีเข้าไปอีก อื้อหือ โดนทีมีสะดุ้ง Harbinger of Dawn : ดาบสำหรับสายคริ เป็นดาบที่ควรจะต้อง Build Cri โดยแท้ทรูและพยายามรักษาเลือดให้สวยๆ ตลอดเวลา (จะด้วยการฮีลหรือหลบเนียนก็ตาม) หากจะใช้ชุดนี้ควรใช้ Artifact Berserker แค่ 2 ชิ้นเท่านั้น และที่ส่วนที่เหลือใส่ของเพิ่มความเสียหายตามปกติ Cool Steel : เป็นดาบที่แรงมากสำหรับตัวละครธาตุน้ำและน้ำแข็ง ค่ารองที่เน้นพลังโจมตีขึ้นไปอีกก็ทำให้มันเป็นดาบที่แรงเป็นทุน แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของการทำปฎิกิริยาธาตุที่จะทำให้ธาตุของศัตรูหายไปด้วย (ผลของสกิลหายทันที) เลยแอบยุ่งๆ นิดหน่อย หากจะใช้ดาบเล่มนี้ ตัวละครควรมีสกิลที่คูลดาวน์ไว หรือมีวิธีทำให้เป้าหมายติดสถานะต่อเนื่องได้ ► 4 ดาวแบบสร้างได้! Prototype Rancour...

Read more

หลังจากตัวเกม Genshin Impact ได้เปิดบริการให้เหล่านักเดินทางได้เล่นกันมาประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ ก็ได้มีการลงกิจกรรมใหม่ให้เล่นกันแล้ว ซึ่งตัวของโหมดนี้มีชื่อว่า Elemental Crucible เป็นโหมดที่ผู้เล่นจะต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูและคอยเก็บคิวบ์ธาตุไปใส่เสาให้เต็ม หากทำภารกิจสำเร็จจะได้รับรางวัล! กิจกรรม Elemental Crucible เป็นกิจกรรมแบบ Co-op ต้องลงกับเพื่อนหรือผู้เล่นคนอื่นเท่านั้น เพราะเมื่อทำการเริ่มกิจกรรมระบบจำค้นหาผู้เล่นคนอื่นให้เข้ามาในโลกของเราหรือไปยังโลกของผู้เล่นอื่นเพื่อร่วมกันทำภารกิจให้สำเร็จ เริ่มแรกให้กดไปยังไอค่อนกิจกรรมก่อน จากนั้นกดตามหา Timaeus เควสจะปรากฏขึ้นให้ไปคุยกับ Timaeus ในเมือง Mondstadt ก่อน หลังคุยจบจุดหมายต่อไปให้ไปยังใจกลางลานที่ Thousand Winds Temple เพื่อคุยกับ Timaeus อีกครั้ง หลังจากจบเควสแล้วจะสามารถเริ่มเล่นกิจกรรมได้แล้ว! เมื่อกดเริ่มเล่นระบบจะทำการค้นหาผู้เล่นคนอื่นให้เข้ามายังโลกของเราหรือเราไปยังโลกของผู้อื่นแทนให้เต็มห้อง หลังจากที่กำลังหาคนอยู่จะเป็นช่วงเวลาให้เตรียมตัวทั้งหมด 20 วิ เวลาหมดก็จะเริ่มกิจกรรมทันที วิธีเล่นกิจกรรมนี้ไม่ยากเพียงแค่ต้องเก็บคิวบ์ธาตุไปใส่ให้เต็มเสา Elemental Crucible แต่ในช่วงเวลานั้นจะมีศัตรูปรากฏออกมาด้วย บางตัวหากกำจัดได้จะได้รับคิวบ์ธาตุมา ซึ่งแต่ละคนจะสามารถเก็บธาตุได้สูงสุดคนละ 3 ก้อน แต่ต้องเก็บเป็นธาตุเดียวกันเท่านั้น หากเก็บธาตุอื่นธาตุที่เคยมีในตัวจะหลุดออก หรือถ้าถูกโจมตีคิวบ์ก็จะหายไปเช่นกัน ในบางช่วงเมื่อเก็บสะสมคิวบ์ธาตุไปรวบเสาได้มากๆ จะมีช่วงที่เกิด "ธาตุเอ่อล้น" ขึ้นมา หากธาตุไหนเอ่อล้นจะมีคิวบ์ธาตุนั้นแบบก้อนเล็กและใหญ่ปรากฏออกมาเต็มพื้นที่ทำให้เกจเสาเต็มได้เร็วขึ้น (ถ้ามีใครถูกกระตุ้นในช่วงเวลาเดียวกันจะมีชื่อปรากฏขึ้นและแถบชื่อของเพื่อนในทีมจะส่องสว่างเป็นสีทอง) เมื่อเก็บจนเต็มจะสิ้นสุดการลงกิจกรรมในรอบนั้นทันทีแล้วทำการสรุปเวลาจบและบอกความเด่นของแต่ละคนว่าได้ในเรื่องใดบ้าง แต่อย่าลืม หลังจากการเล่นจบลงให้ไปตรงเสาแล้วกดใช้เรซิ่น 40 ชิ้น "รับสมบัติ" มาด้วย จะได้ของรางวัลเป็น 200 EXP, ใบ EXP ตัวละคร, EXP ความสัมพันธ์ตัวของ x EXP (ใครขาดแคลนใบ EXP อัพตัวละครสามารถมาฟาร์มที่นี้ได้เลย) ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นหากทำภารกิจและเงื่อนไขครบสามารถกดรับของรางวัลได้ด้วย ให้กดไปที่ไอคอนกิจกรรม >> คู่มือแปลธาตุ จะมีของรางวัลให้รับเพียบ และยังมีเควสสำหรับของ BP ด้วยนะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

Read more

เกม Genshin Impact เป็นเกมที่มีสิ่งต่างๆ ให้ผู้เล่นได้ทั้งค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเก็บของเพื่อนำไปอัพเกรดอาวุธ ตัวละคร ช่วยกันต่อสู้กับศัตรูเพื่อเก็บไอเทมเฉพาะของมอนสเตอร์ตัวนั้นมา ทำอาหารเพื่อนพลังให้กับตัวละครแข็งแกร่งขึ้น และมีอีกมากมายให้ผู้เล่นได้ทำกันอีกเพียบ ซึ่ง 1 ใน สิ่งที่ผู้เล่นควรทำกันเมื่อมีแรงก์ผจญภัย 30 ขึ้นไปแล้ว นั้นก็คือ การลงดันเจี้ยนหาของมาอัพเกรดตัวละครหรือตามหาอาร์ติแฟกต์เฉพาะให้กับตัวละครนั่นเอง แต่การจะลงดันเจี้ยนเหล่านี้แต่ละจุดจะมีเงื่อนไขของด่านอยู่ด้วย ทำให้อาจจะเกิดสกิลคูลดาวน์เพิ่มขึ้น สตามิน่าใช้เพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็นต้น มันเกิดขึ้นได้จาก "กระแสพลังผิดปกติ" จุดไหนต้องระวังเรื่องอะไรบ้างไปดูกัน! กระแสพลังผิดปกติ เป็นสิ่งผิดปกติที่จะเกิดขึ้นในดันเจี้ยนต่างๆ ซึ่งผู้เล่นจำเป็นจะต้องลงดันเหล่านี้เพื่อฟาร์มไอเทมกัน เจ้าตัวกระแสพลังผิดปกติจะมีผลต่อตัวละครของผู้เล่นทุกคนทำให้ผ่านด่านได้ลำบากขึ้น ยิ่งลงระดับสูงจะยิ่งเพิ่มผลมากขึ้น แถมอาจจะเจออุปสรรคของในด่านเพิ่มขึ้นอีกขั้น หรืออาจจะเป็นบัพเพิ่มพลังโจมตีของธาตุต่างๆ ให้สู้ได้ง่ายขึ้นก็มีนะ ดันเจี้ยนหุบเขาแห่งการลืมเลือน เพิ่มการใช้เกจสตามิน่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าทำให้เกจหมดไวไม่สามารถกดหลบการโจมตีของศัตรได้ทุกครั้ง จะมีแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ร่วงลงมาแบบสุ่มตำแหน่งใกล้ๆ ตัวละครสร้างดาเมจน้ำแข็งใส่และทำให้เกิดการชะงัก สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ควรมีตัวละครธาตุไฟไปอย่างน้อย 2 คน ตัวละครธาตุไฟฟ้า ตัวละครสายสร้างเกราะได้ลดการถูกโจมตีบ่อยๆ ไม่ควรหยิบตัวละครธาตุน้ำ และน้ำแข็งไปเพราะศัตรูในด่านจะโจมตีเป็นน้ำแข็ง เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำแข็ง ดันเจี้ยนหุบเขาแห่งความทรงจำ ตัวละครทั้งหมดในทีมสร้างดาเมจกายภาพเพิ่มขึ้น 75% สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง มีตัวละครที่สามารถรวบให้ศัตรูมารวมกัน หรือล่อให้ไปอยู่ใกล้กันเป็นกลุ่มๆ ได้ เพราะศัตรูจะค่อนข้างเยอะและอยู่กระจายตัว เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี เพิ่มพลังป้องกันให้กับทีม ดันเจี้ยนสวนฤดูร้อน ชั้นเลเวล 59 หากเกิดปฏิกิริยาโอเวอร์โหลด (ไฟ + ไฟฟ้า) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ หากเกิดปฏิกิริยานำไฟฟ้า (ไฟฟ้า + น้ำแข็ง) จะทำให้ตัวละครโดนฟ้าผ่าใส่อย่างรุนแรง (ไม่สามารถกดหลบได้) ศัตรูที่มีบัพ Engulfing Storm สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ห้ามหยิบตัวละครธาตุน้ำแข็งไปเด็ดขาด เพราะจะดาเมจจากกระแสพลังงานผิดปกติในดันนี้ค่อยข้างแรงโดนไม่กี่ครั้งก็อาจจะต้องกลับไปเกิดใหม่ เสียตัวละครฟรีแถมหากลงแบบ Co-op เพื่อนร่วมทีมอาจต้องแบกทีมแทนโดยไม่จำเป็น หยิบตัวละครธาตุไฟ และน้ำลงต่อสู้ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟฟ้าไป ชั้นเลเวล 69 หากเกิดปฏิกิริยาระเหย (ไฟ + น้ำ) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ หากเกิดปฏิกิริยาชาร์ไฟฟ้า (ไฟฟ้า + น้ำ) จะทำให้ตัวละครโดนฟ้าผ่าใส่อย่างรุนแรง (ไม่สามารถกดหลบได้) สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ห้ามหยิบตัวละครธาตุไฟฟ้าไปเด็ดขาด เพราะจะดาเมจจากกระแสพลังงานผิดปกติในดันนี้ค่อยข้างแรงโดนไม่กี่ครั้งก็อาจจะต้องกลับไปเกิดใหม่ เสียตัวละครฟรีแถมหากลงแบบ Co-op เพื่อนร่วมทีมอาจต้องแบกทีมแทนโดยไม่จำเป็น หยิบตัวละครธาตุไฟ และน้ำแข็งลงต่อสู้ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำไป ชั้นเลเวล 80 หากเกิดปฏิกิริยาละลาย (ไฟ + น้ำแข็ง) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ หากเกิดปฏิกิริยานำไฟฟ้า (ไฟฟ้า + น้ำแข็ง) จะทำให้ตัวละครโดนฟ้าผ่าใส่อย่างรุนแรง (ไม่สามารถกดหลบได้) ศัตรูที่มีบัพน้ำแข็งพิเศษจะสามารถสร้างกรงขังน้ำแข็งขึ้นมาได้จะกักขังตัวละครไว้ข้างในและทำดาเมจน้ำแข็งใส่ สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ห้ามหยิบตัวละครธาตุไฟฟ้าไปเด็ดขาด เพราะจะดาเมจจากกระแสพลังงานผิดปกติในดันนี้ค่อยข้างแรงโดนไม่กี่ครั้งก็อาจจะต้องกลับไปเกิดใหม่ เสียตัวละครฟรีแถมหากลงแบบ Co-op เพื่อนร่วมทีมอาจต้องแบกทีมแทนโดยไม่จำเป็น หยิบตัวละครธาตุไฟ ,ธาตุน้ำ หรือตัวที่สามารถสร้างเกราะได้ไป เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำแข็งไป ชั้นเลเวล 90 หากเกิดปฏิกิริยาโอเวอร์โหลด (ไฟ + ไฟฟ้า) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ หากเกิดปฏิกิริยานำไฟฟ้า (ไฟฟ้า + น้ำแข็ง) จะทำให้ตัวละครโดนฟ้าผ่าใส่อย่างรุนแรง (ไม่สามารถกดหลบได้) ศัตรูที่มีบัพ Engulfing Storm บอสมีบัพไฟฟ้าพิเศษจะสร้างเส้นไฟฟ้าโจมตีต่อเนื่องหากเข้าไปโดน สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ห้ามหยิบตัวละครธาตุน้ำแข็งไปเด็ดขาด เพราะจะดาเมจจากกระแสพลังงานผิดปกติในดันนี้ค่อยข้างแรงโดนไม่กี่ครั้งก็อาจจะต้องกลับไปเกิดใหม่ เสียตัวละครฟรีแถมหากลงแบบ Co-op เพื่อนร่วมทีมอาจต้องแบกทีมแทนโดยไม่จำเป็น หยิบตัวละครธาตุไฟ ,ธาตุน้ำ หรือตัวที่สามารถสร้างเกราะได้ไป เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟฟ้าไป ดันเจี้ยนสวนดอก Cecelia เพิ่มคูลดาวน์สกิลธาตุและท่าไม้ตายนานขึ้น 2 เท่า ทำให้ไม่สามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ไม่ควรหยิบตัวละครธาตุน้ำไปเพราะศัตรูส่วนใหญ่เป็นธาตุน้ำทั้งหมด หยิบตัวละครธาตุ ไฟ ไฟฟ้า น้ำแข็ง ไปได้ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำไป ดันเจี้ยนราชวังลับแห่ง Zhou Formula ชั้นเลเวล 59 ระยะเวลาปฏิกิริยาแช่แข็ง (น้ำ + น้ำแข็ง) เพิ่มขึ้น หากเกิดปฏิกิริยานำไฟฟ้า (ไฟฟ้า + น้ำแข็ง) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ ป้องปกแท่นเสาไม่ให้พัง สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง หยิบตัวละครไปได้ทุกธาตุ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำไป ชั้นเลเวล 69 หากเกิดปฏิกิริยาละลาย (ไฟ + น้ำแข็ง) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ หากเกิดปฏิกิริยาโอเวอร์โหลด (ไฟ + ไฟฟ้า) จะทำให้ตัวละครโดนฟ้าผ่าใส่อย่างรุนแรง (ไม่สามารถกดหลบได้) สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ห้ามหยิบตัวละครธาตุไฟฟ้าไปเด็ดขาด เพราะจะดาเมจจากกระแสพลังงานผิดปกติในดันนี้ค่อยข้างแรงโดนไม่กี่ครั้งก็อาจจะต้องกลับไปเกิดใหม่ เสียตัวละครฟรีแถมหากลงแบบ Co-op เพื่อนร่วมทีมอาจต้องแบกทีมแทนโดยไม่จำเป็น หยิบตัวละครธาตุน้ำ และน้ำแข็งลงต่อสู้ได้ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟไป ชั้นเลเวล 80 หากเกิดปฏิกิริยานำไฟฟ้า (ไฟฟ้า + น้ำแข็ง) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ หากเกิดปฏิกิริยาโอเวอร์โหลด (ไฟ + ไฟฟ้า) จะทำให้ตัวละครโดนฟ้าผ่าใส่อย่างรุนแรง (ไม่สามารถกดหลบได้) ศัตรูมีบัพไฟฟ้าพิเศษจะสร้างเส้นไฟฟ้าโจมตีต่อเนื่องหากเข้าไปโดน สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ห้ามหยิบตัวละครธาตุไฟไปเด็ดขาด เพราะจะดาเมจจากกระแสพลังงานผิดปกติในดันนี้ค่อยข้างแรงโดนไม่กี่ครั้งก็อาจจะต้องกลับไปเกิดใหม่ เสียตัวละครฟรีแถมหากลงแบบ Co-op เพื่อนร่วมทีมอาจต้องแบกทีมแทนโดยไม่จำเป็น หยิบตัวละครธาตุน้ำ และน้ำแข็งลงต่อสู้ได้ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟฟ้าไป ชั้นเลเวล 90 หากเกิดปฏิกิริยาละลาย (ไฟ + น้ำแข็ง) จะเกิดพลังงานระเบิดใส่ศัตรูรอบๆ หากเกิดปฏิกิริยาโอเวอร์โหลด (ไฟ + ไฟฟ้า) จะทำให้ตัวละครโดนฟ้าผ่าใส่อย่างรุนแรง (ไม่สามารถกดหลบได้) ศัตรูที่มีบัพไฟพิเศษจะสามารถสร้างลูกไฟติดตามมาระเบิดใส่ตัวละครได้ค่อนข้างรุนแรงแถมยังอยู่นาน สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง ห้ามหยิบตัวละครธาตุไฟฟ้าไปเด็ดขาด เพราะจะดาเมจจากกระแสพลังงานผิดปกติในดันนี้ค่อยข้างแรงโดนไม่กี่ครั้งก็อาจจะต้องกลับไปเกิดใหม่ เสียตัวละครฟรีแถมหากลงแบบ Co-op เพื่อนร่วมทีมอาจต้องแบกทีมแทนโดยไม่จำเป็น หยิบตัวละครธาตุไฟ น้ำ และน้ำแข็งลงต่อสู้ได้ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟไป ดันเจี้ยนสระน้ำและถ้ำภูเขา เพิ่มพลังตัวละครธาตุดิน 75% สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง เตรียมตัวละครธาตุดิน น้ำ ไฟฟ้า และไฟ เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟกับน้ำแข็งไป ดันเจี้ยนวัง Taishan Mansion ภายในด่านจะสร้างฟิลธาตุไฟทำให้ตัวละครโดนดาเมจธาตุไฟลดเลือดเรื่อยๆ ศัตรูที่มีบัพไฟพิเศษจะสามารถสร้างลูกไฟติดตามมาระเบิดใส่ตัวละครได้ค่อนข้างรุนแรงแถมยังอยู่นาน สิ่งที่ต้องตัวเตรียมก่อนลง เตรียวตัละครธาตุน้ำ น้ำแข็ง หรือไฟฟ้าไป หากมีตัวที่สามารถสร้างบัพทำให้ทุกคนในทีมติดธาตุน้ำ หรือน้ำแข็งได้ ให้นำมาลงด่านนี้เพื่อลบดิบัพธาตุไฟออกไม่ให้โดนดาเมจธาตุไฟเรื่อยๆ เช่น Barbara เตรียมอาหารเพิ่มพลังโจมตี ขวดยาเพิ่มพลังป้องกันธาตุไฟไป ดันเจี้ยนแห่ง Guyun ชั้นเลเวล 59 หากเกิดปฏิกิริยานำไฟฟ้า (ไฟฟ้า...

Read more

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยในส่วนของการจัดทีมของ Genshin Impact บทความนี้เราจะมาพูดถึงหลักวิธีในการจัดทีม เพื่อให้เพื่อนๆ มือใหม่สามารถนำไปต่อยอดกับตัวละครที่มีครับ ขอเน้นย้ำว่าบทความนี้เป็นบทความให้เพื่อนๆ เข้าใจวิธีการจัดทีมมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่การแนะนำว่าต้องจัดแบบนี้นะ ทำความเข้าใจระบบของเกม โดยหลักแล้วเกมมีระบบที่เราจะต้องความเข้าใจในการจัดทีมอยู่ 3 หัวข้อ ได้แก่ พลังป้องกันและความต้านทาน, ปฎิกิริยาธาตุ และพลังงานธาตุ 3 หัวข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต้องรู้ครับ พลังป้องกันและความต้านทาน 2 ค่านี้เป็นของศัตรูนะครับไม่ใช่ของเรา (จริงๆ เราก็มีแหละ) ศัตรูภายในเกมนี้จะมีวิธีการลดทอนดาเมจจากเราอยู่ 2 แบบ อย่างแรกคือจาก พลังป้องกัน(DEF) ซึ่งจะลดทอนดาเมจทุกประเภท และอย่างที่สองคือ ความต้านทาน(RES) ที่จะลดดาเมจจากการโจมตีเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่นศัตรูมีความต้านทานธาตุไฟ ก็จะลดแต่การโจมตีที่มาจากธาตุไฟเพียงอย่างเดียว ในส่วนของการลดพลังป้องกันของศัตรูนั้นจะมาจากกลุ่มดาวและพรสวรรค์ในบางตัวละครเท่านั้น กลับกันความต้านทานจะสามารถหาได้จากหลายแหล่งเลยครับ วิธีหลักที่นิยมใช้ลดความต้านทานของศัตรูนั้นคือทำให้ติดการเกิดปฏิกิริยาธาตุ "นำไฟฟ้า (น้ำแข็ง+ไฟฟ้า)" ซึ่งจะลดต้านทานกายภาพลง 50% กับการใช้อาร์ติแฟกต์เซ็ต Viridescent Venerer 4 ชิ้น เอฟเฟคของเซ็ตคือจะทำงานเมื่อติดปฏิกิริยาธาตุกระจายจะทำการลดต้านทานธาตุที่ติดปฏิกิริยาอยู่ 40% แต่อย่างไรก็ตามหากเราลดความต้านทานนั้นๆ จนถึง 0% แล้ว เปอร์เซ็นต์ส่วนเกินมาจะแสดงผลเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น หากเราใช้นำไฟฟ้าใส่ศัตรูที่มีค่าความต้านทานกายภาพ 10% ศัตรูจะมีต้านทานกายภาพเหลือ 0% แน่นอน ส่วน 40% ที่เกินมานั้นจะแสดงผลเพียง 20% นั่นหมายความว่าจะลบไปได้ทั้งหมด -20% เท่านั้น ไม่ใช่ -40% ด้วยเหตุผลข้างต้น โบนัสเซ็ตอาร์ติแฟกต์นี้จะทำให้เองตัวละครธาตุลมมีความสำคัญในการจัดทีม หากเราต้องการจะเค้นดาเมจออกมาให้สูงสุด แต่ด้านเชิงปฏิบัติจริงแล้วอาร์ติแฟกต์เซ็ตนี้ไม่ได้จำเป็นถึงขนาดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจะต้องเจอกับศัตรูที่มีธาตุเป็นของตัวเอง หรือทีมของเรานั้นมีตัวครหลายธาตุ การบัฟเพิ่มพลังธาตุเพียงธาตุเดียวจะไม่มีความสำคัญเท่าไหร่นัก ปฏิกิริยาธาตุ ดาเมจจากปฏิกิริยาธาตุนั้นจะขึ้นอยู่กับเลเวลของตัวละคร, ความชำนาญธาตุ และความต้านทานธาตุของศัตรู (อาร์ติแฟกต์บางเซ็ตกับกลุ่มดาวบางตัวละครก็มีส่วนช่วย) นอกจากนี้ดาเมจจากปฏิกิริยาธาตุนั้นจะคิดจากตัวละครที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา ไม่ใช่ตัวละครที่ทำดาเมจธาตุคนแรก ปฏิกิริยาธาตุนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ ปฏิกิริยาที่จะทำให้ดาเมจของเราเพิ่มขึ้นไปตรงๆ ได้แก่ ละลาย และ ระเหย ปฏิกิริยาที่จะทำฮิตดาเมจเพิ่มเติมออกมาจากการโจมตีของเรา ได้แก่ นำไฟฟ้า, กระจาย, ตกผลึก, โอเวอร์โหลด และชาร์จไฟฟ้า ปฏิกิริยาแบบที่ 2 นั้นจะทำฮิตดาเมจเพิ่มเติมจากการโจมตีจะไม่ขึ้นอยู่กับเลเวลของพรสวรรค์, พลังโจมตี, ค่าคริติคอล และค่าโบนัสความเสียหายธาตุแบบเปอร์เซ็นต์ แต่จะขึ้นกับค่าความชำนาญธาตุของตัวละครและเลเวลของตัวละครครับ นอกจากนี้ยังมีอัตราส่วนตายตัวอีกด้วย นำไฟฟ้า 1 กระจาย 1.2 ตกผลึก 3 โอเวอร์โหลด 4 ชาร์จไฟฟ้า 4.8 พูดง่ายๆ คือชาร์จไฟฟ้ามีอัตราส่วนทำดาเม 4.8 นั้นแรงกว่า โอเวอร์โหลด 20% และอื่นๆ ก็ดูตามจากอัตราส่วนนี้ได้เลยครับ ทั้งนี้ก็ยังมีในส่วนของผลดีบัฟต่างๆ ของแต่ละปฏิกิริยาธาตุอีกทำให้อัตราส่วนออกมาแตกต่างกันนั่นเอง พลังงานธาตุ พลังงานธาตุคือพลังงานที่เราต้องเก็บเพื่อให้สามารถใช้ Elemental Burst หรืออัลติเมทนั่นแหละครับ เราสามารถเก็บพลังงานธาตุได้จากการใช้สกิล (E) ใส่ศัตรู เมื่อใช้ถูกศัตรูก็จะเกิดก้อนอณูธาตุขึ้นมาให้เราเก็บ แต่ละสกิลก็จะได้รับพลังงานธาตุในจำนวนแตกต่างกัน สกิล E ของตัวละครบางคนนั้นจะไม่ได้รับพลังงานธาตุเลยด้วย (Noelle และ Babara) โดยพลังงานธาตุจะบินเข้าตัวละครที่อยู่บนสนามนั้นจะได้รับเต็มจำนวนส่วนคนอยู่นอกสนามจะได้ประมาณ 90% นอกจากนี้เรายังได้รับพลังงานธาตุจากการโจมตีปกติ ซึ่งจะได้จากการโจมตีศัตรูบนแผนที่แต่ก็ไม่ได้ได้เยอะมากเท่าไหร่นักครับ โดยสรุปแล้วคือเราสามารถได้รับพลังงานธาตุเพื่อให้ใช้อัลติเมทได้ไวขึ้นหากใช้ตัวละครที่เป็นธาตุเดียวกันเก็บ และแน่นอนมันก็จะแลกมากับการลดดาเมจจากปฏิกิริยาธาตุที่เราจะสามารถทำได้ลงไป ดังนั้นแล้วตัดสินใจให้ดีกับการเลือกใช้ปฏิกิริยาธาตุไหนเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่นหากอยู่ใน Spiral Abyss และเจอบัฟดาเมจธาตุอย่างเดียว ไม่ใช่บัฟดาเมจปฏิกิริยาธาตุ การเสียสละ 1 ช่องตัวละครเพื่อทำให้เก็บอัลติเมทได้ไวขึ้นเพื่อทำดาเมจธาตุเยอะๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เริ่มจัดทีม เมื่อทำความเข้าใจกับ 3 อย่างเบื้องต้น เรามาเข้าสู่วิธีการจัดทีมกันเลยครับ โดยปกติแล้วเราควรจะโฟกัสที่การใช้สกิล E มากกว่าการการโจมตีปกติ เพราะว่าเราสามารถทำดาเมจจากสกิลได้มากกว่าและยังสามารถทำพลังงานธาตุได้เยอะกว่านั่นเอง แต่ใช่ว่าการโจมตีปกตินั้นจะไม่ดีนะ การโจมตีปกตินั้นจะส่งผลดีมากหากมีบัฟต่างๆ ครับ ตำแหน่งที่หนึ่ง Main DPS   ด้านทฤษฎีนั้น Main DPS ควรจะเป็นตัวละครที่มีความสามารถในการโจมตีปกติแรงๆ หรือสามารถใช้สกิล E ได้บ่อยและพึ่งพาได้ ตัวอย่างตัวละครประเภทนี้ Diluc, Fischl (กายภาพ), Xianling (กายภาพ), Chongyun, Razer(กายภาพ) ได้ช่วงต้นเกม หรือช่วงสำรวจแผนที่ทำเควสต่างๆ ทางเราแนะนำให้เลือกตัวละครที่เล่นแล้วสนุก หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่เลทเกมแล้วการตั้งทีมก็จะขึ้นอยู่กับคอนเท้นท์ต่างๆ ซึ่ง Main DPS ก็จะถูกเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะกับคอนเท้นท์นั้นๆ กล่าวคือ Main DPS ในไอดีนั้นจะไม่ได้มีแค่ตัวเดียวแน่นอนครับ ตำแหน่งที่ 2-3 DPS รอง     หลังจากเลือก Main DPS มาได้แล้วเราจะเหลือช่องให้ใส่สมาชิกอยู่ ตรงจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับคอนเท้นท์ ยกตัวอย่างเช่นหากต้องการจะลง Spiral Abyss บางชั้นอาจจะต้องมีตัวไว้คอยรับมือกับศัตรูธาตุเดียวกับ Main DPS หลักของเราตีไม่เข้า ยกตัวอย่างเช่น Main DPS เป็นธาตุน้ำ เราก็ควรจะหาตัวละครที่มีธาตุสายฟ้าไว้จัดการกับศัตรู หรือเพื่อนๆ อาจจะหยิบธาตุซ้ำกับตัว Main DPS มาเพื่อเอาโบนัสสั่นพ้องของธาตุเพื่อเพิ่มความสามารถให้ทีมดีขึ้นไปอีกก็อยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนครับ โดยทั่วไปตำแหน่งนี้จะเป็นตัวละครเสริม Main DPS ครับ ซึ่งจะขอแบ่งออกเป็น 2 ประเภท DPS ปฏิกิริยาธาตุ - ตำแหน่งนี้จะเป็นตัวละครที่สามารถสร้างปฏิกิริยาธาตุได้ไว ต่อเนื่อง และรวดเร็ว เพื่อรีดดาเมจปฏิกิริยาธาตุออกมาให้ได้มากที่สุด หรือเอาไว้ใช้ปลดโล่ธาตุต่างๆ ของศัตรูหาก Main DPS ของเราไม่สามารถปลดออกได้โดยง่าย DPS บูสต์ดาเมจ - กรณีที่ Main DPS ต้องการใช้อัลติเมทเพื่อรีดประสิทธิภาพในการทำดาเมจให้สูงสุด (เช่น Razor) การเก็บอณูธาตุให้ไวจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนั้นการใช้ตัวละครที่มีธาตุเดียวกัน 2 คน จะได้รับโบนัสการสั่นพ้องของธาตุอีกด้วย ตำแหน่งที่ 4 Support   ส่วนใหญ่ตำแหน่งนี้จะเป็นส่วนของฮีล หรือธาตุลมที่ใส่อาร์ติแฟ็กต์เซ็ต Viridescent Venerer เพื่อประโยชน์สูงสุด ตำแหน่งนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามคอนเท้นท์ของเกม สามารถนำ DPS เสริมมาใส่ตำแหน่งนี้ได้เช่นเดียวกันกรณีที่ไม่ต้องการฮีล ตัวอย่างการจัดทีม ทีมธาตุไฟ Diluc (Main) + Xiangling (DPS Boost) + Fischl (DPS Reaction) + ธาตุลม หรืออื่นๆ ปฏิกิริยาธาตุ กระจาย/โอเวอร์โหลด ทีมธาตุสายฟ้า Razor (Main) + Fischl (DPS Boost) +...

Read more

ในระหว่างที่เดินสำรวจโลก Teyvat ใน Genshin Impact นั้น เพื่อนๆ อาจจะได้เจอกับศาลาเล็กๆ ที่มีม่านพลังงานสีฟ้าหรือสีเหลืองปิดกั้นไว้อยู่ พร้อมกับหีบเลเวล 4 สีเงินที่อยู่ข้างใน พอสำรวจก็บอกต้องใช้กุญแจถึงจะเปิดได้ ศาลาเหล่านี้นั้นคือ Shrine of Depth ที่เป็นมรดกตกทอดจากอดีตกาลนั่นเอง วันนี้จะพาเพื่อนๆ มาตามหาศาลาเหล่านี้กัน วิหารโบราณ Shrine of Depth อันที่จริงตัววิหารเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากอดีต ซึ่งไม่มีใครเข้าใจว่าจริงๆ มันมีไว้ทำอะไรกันแน่ แต่ทุกคนทราบว่าพวกมันได้ปิดผนึกตัวเองมานานแล้ว และหน้าตามันก็ดูเป็นศาลาพักผ่อนมากกว่าวิหาร และหากดูจากภายนอก ถ้ามีใครเปิดผนึกมันได้ ก็จะมีหีบสีเงินที่มีโอกาสลุ้นของแรร์ระดับ 4 ดาวรออยู่ (ถ้าเพื่อนๆ โชคดีพอล่ะนะ) ตัวศาลานี้จะมีอยู่ทั้งหมดในตอนนี้พื้นที่ละ 10 แห่ง Mondstart 10, Liyue 10 และมีกุญแจตามจำนวนศาลานี้เป๊ะๆ เลยไม่ขาดไม่เกิน เหล่า Shrine of Depth นี้จะกระจัดกระจายไปทั่วตามพื้นที่ต่างๆ แต่ด้วยขนาดของมัน ทำให้พวกมันไม่ได้ถูกซ่อนจนหายากเหมือนกับพวก Oculi ที่ใช้สักการะรูปปั้นเท่าไหร่นัก เพียงแต่การหากุญแจนั้นจะยากกว่าเล็กน้อย เมื่อมีกุญแจแล้วก็ไม่มีอะไรอีก เพื่อนๆ สามารถใช้เปิดเพื่อรับหีบสมบัติกันไปได้เลย ไม่มีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม ยกเว้นต้องจำตำแหน่งกับหาตัววิหารให้เจออีกทีล่ะนะ (โดยเฉพาะที่ Liyue ที่เหมือนเล่นซ่อนแอบเลยล่ะ) วิธีการหากุญแจเปิดวิหาร เมื่อวิหารมีแยกเป็นสองแบบ ตัวกุญแจเองก็เช่นเดียวกันที่จะแยกเป็นสองแบบ และมีวิธีการหาต่างกัน ► กุญแจธาตุลม (Mondstadt) ได้จาก Domain แบบลงครั้งเดียว Temple of the Falcon Temple of the Wolf Temple of the Lion Eagle's Gate Ascension Domain I (เมื่อจบดันเจี้ยนจะได้รับ 3 ดอก) ได้จากเควส New Horizons of Adventure ได้จากการทำเงื่อนไขในหัวข้อสำรวจ บทที่ 4 "อัพเกรดรูปปั้นผู้พิทักษ์ใน Mondstadt ให้เป็นเลเวล 6" บทที่ 6 "เปิดหีบสมบัติ 100 ใบ" ► กุญแจธาตุดิน (Liyue) ได้จาก Domain แบบลงครั้งเดียว Domain of Forsaken Ruins Domain of the Wayward Path Hidden Palace of Guizang Formula (ได้ 2 ดอก โดยแยกเป็นการลงครั้งละดอกตามชั้นที่เปิดให้ลง) ได้จากเควส The Chi of Guyun The Tree who Stands Alone Treasure Lost, Treasure Found ทำเควสเลื่อนระดับของระดับนักผจญภัยขั้นที่ 35 (จะได้รับมา 3 ดอกเช่นเดียวกัน) ตำแหน่งของวิหารทั้งหมด ตัววิหารนั้นจะซ่อนอยู่ตามจุดในแผนที่ของพื้นที่นั้นๆ และจะไม่ปรากฎให้เห็นในแผนที่เช่นเดียวกับพวก Oculi ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ เดินเล่นแล้วหาศาลาเหล่านี้เจอ แนะนำให้เปิดแผนที่และทำการกำหนดปักหมุดไว้เพื่อเตือนตัวเอง พอเปิดแล้วค่อยเอาหมุนออกก็ได้ จะสะดวกในการเล่นมากกว่า แต่หากต้องการโพยในการหาตำแหน่ง ก็จะมีตามนี้เลยจ้า เมื่อเปิดผนึกแล้วก็มาลุ้นกันว่าข้างในหีบสมบัติระดับสูงสุดมีไอเทมอะไรรอเพื่อนๆ อยู่ แน่นอนว่าแม้จะมีโอกาสได้ของเลเวล 4 แต่ก็เป็นเพียงโอกาส โชคของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็ขอภาวนาให้ไม่เจอแบบผู้เขียนที่โดนสีฟ้าอร่ามตาก็พอจ้า (ฟ้าไม่พอมีขาว-เขียวด้วย แง้) ตัว Shrine of Depth หรือศาลาพักใจนั้นก็จะมีเท่านี้ ไว้มีโอกาสหน้าจะมาแนะนำอะไรให้เพื่อนๆ กันอีกจ้า จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more

ไม่ว่าจะเกมกาชาแบบไหนก็ย่อมมีเรื่องของเพชรที่ใช้หยอดกาชามาเป็นหลัก ใน Genshin Impact นั้นก็เหมือนกับหลายๆ เกมที่มีการแจกเพชรฟรีสำหรับหมุนกาชาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจากกิจกรรมหรือเนื้อหาในเกม ในบทความนี้ก็จะว่ากันด้วยวิธีการหาเจ้าเพชรหยอดกาชาที่เรียกว่า Primogems ที่นอกจากจะใช้หมุนกาชาแล้วยังใช้เติมพลังงาน (Original Resin) ได้อีกกันจ้า Primogems ตัวเพชรนี้หาได้หลายวิธีการด้วยกัน และจะมาเป็นจำนวนเล็กๆ น้อยๆ ค่อยสะสมจนมากพอจะเปิดกาชาได้แต่ละครั้ง (160 เม็ด) อย่างไรก็ดี วิธีการหาเพชรฟรีในเกมนั้นก็จะมีจำกัดอยู่และรับได้ครั้งเดียว ในส่วนของเพชรที่สามารถได้รับซ้ำได้เรื่อยๆ จะมีช่องทางที่น้อยกว่ากันไปตามปกติของเกมแนวนี้จ้า เพชรนั้นก็จะใช้ในการซื้อไอเทมหมุนกาชา (Fate) หรือใช้ในการเติมพลังงาน (Original Resin) ไม่มีใช้ในด้านอื่นเป็นพิเศษนัก แต่แค่นี้ก็เรียกได้ว่าเปย์กันไม่หยุดแล้วก็ว่าได้ เพราะกาชาก็อยากได้ พลังงานก็อยากเติมกันล่ะน้า ♦ ช่องทางรับครั้งเดียวจบ ♦ 1. เปิดหีบเจอเพชร ทุกครั้งที่เพื่อนๆ เปิดหีบสมบัติ จะได้รับเพชรติดมือกลับมาเล็กน้อยไม่กี่เม็ด แต่ยิ่งหีบเลเวลสูง ก็จะยิ่งได้เยอะขึ้นตามไปด้วย เป็นรางวัลเล็กน้อยแก่ความพยายามในการสำรวจโลกกว้างของเพื่อนๆ กันไป มีโอกาสเล็กน้อยที่หีบไม้จะมีการเกิดขึ้นมาใหม่ แต่ยังไม่มีระยะเวลายืนยันที่แน่นอน และไม่ใช่ภายใน 3-4 วันแน่นอนจ้า   2. เปิด Teleport Waypoint, รูปสลัก Statue of Sevens, ดันเจี้ยน Domain ค่าตอบแทนการออกสำรวจโลกของเพื่อนๆ ก็จะเป็นเพชรจำนวนเล็กน้อยติดมือกันมา เพราะงั้นพยายามไล่เปิดของเหล่านี้ให้ครบ จะมีแค่ตัว Domain เท่านั้นที่จะต้องรอระดับของนักผจญภัยให้ถึงจึงจะสามารถปลดล๊อคจุดวาร์ปออกมาได้   3. อ่านคำแนะนำในเกม ทุกครั้งที่เจอกับศัตรูตัวใหม่หรือทำอะไรใหม่ๆ เช่นปฎิกิริยาของธาตุที่ไม่เคยเจอมาก่อน ตัวเกมจะมี pop-up แจ้งเตือนเล็กๆ ตรงด้านล่างหน้าจอเป็นคำแนะนำให้ เมื่อผ่านแล้วก็จะได้รับเพชรมาดูเล่นเม็ดนึงด้วยล่ะ   4. ทำเควสบางอย่าง เควสบางเควส โดยเฉพาะเนื้อเรื่องหลังหรือเควสลับ เควสพิเศษบางชนิด จะมีค่าตอบแทนเป็นเพชรให้เพื่อนๆ แถมไปด้วย ดังนั้นพยายามมองหาเควสในเกมทำให้ได้ตลอด เป็นการปั้มระดับนักผจญภัยของเพื่อนๆ ไปในตัว   5. อัพระดับนักผจญภัย นอกจากระดับนักผจญภัยจะเกี่ยวข้องกับการปลดเนื้อหาในเกมแล้ว ทุกครั้งที่ระดับนักผจญภัยของเพื่อนๆ อัพ ยังสามารถไปเบิกรางวัลจากกิลนักผจญภัยได้อีกด้วย โดยในจุดนี้ก็จะขึ้นกับแต่ละระดับว่าจะได้เป็นอะไร บางครั้งก็อาจจะมีเพชรหรือ Fate สำหรับหมุนกาชาโดยตรงติดไม้ติดมือกลับมากันไป   6. ทำตามเงื่อนไขสำรวจในคู่มือนักผจญภัย ในคู่มือนักผจญภัยหัวข้อสำรวจก็จะมีรายการให้ทำมากมายหลายอย่าง เมื่อทำจบสำเร็จในแต่ละบทจะมีโบนัสเป็นเพชรให้เพื่อนๆ ตามระดับของบทนั้นๆ ก็ไป เป็นของแถมอีกส่วนหนึ่ง   7. อัพเลเวลของรูปสลัก Status of Sevens นอกจากการอัพเสาจะทำให้เพื่อนๆ ได้ค่า Stamina สูงสุดกับประสบการณ์แล้ว ยังมีเพชรแถมให้ด้วย แม้จะไม่มากนักแต่ให้มาก็จะรวมไปด้วย แฮ่ม   8. ลงดันเจี้ยน (Domain) ชนิดครั้งเดียว (Trial) ดันเจี้ยนบางแห่งนั้นจะเป็นพื้นที่ที่สามารถรับรางวัลได้แค่ครั้งเดียว ซึ่งจะเป็นดันเจี้ยนที่ให้กุญแจสำหรับเปิด หากเพื่อนๆ ลงไปและผ่านมาได้ ก็จะได้รับเพชรกลับมาติดไม้ติดมือกันไปพอสมควร (ตัววิหารเองเมื่อเปิดผนึกก็จะได้เพชรอีกด้วยล่ะ)   9. ปลดล๊อคความสำเร็จต่างๆ (Achievement) ในส่วนของความท้าทายความสำเร็จหรือ Achievement ของเกมนี้นั้นมีอะไรให้เพื่อนๆ ได้ทำเยอะมากตั้งแต่ลูบเสาจนถึงยิงนกที่บินอยู่บนฟ้า โดยการทำความสำเร็จเหล่านี้ได้ จะมีรายวัลเป็นเพชรให้นิดหน่อย และหากทำครบทั้งหมดนั้นก็จะได้ของประดับตกแต่ง Profile ของเพื่อนๆ ไปอีกด้วย เพราะงั้นไปไล่ทำเท่าที่ทำไหวโล้ด   10. Event ในเกมต่างๆ ในบางครั้ง ตัวเกมอาจจะมี Event มาให้เพื่อนๆ ได้เล่นและเพื่อเป็นการดึงดูดใจ ก็มักจะมีรางวัลรวมถึงเพชรให้เข้าไปได้เก็บกันด้วย พยายามสังเกตุพวก Event ต่างๆ เอาไว้ด้วยน้า   11. การ Redeem Code จากนอกเกม อันนี้อาจจะยากนิดเนื่องจากเพื่อนๆ ไม่อาจจะทราบได้ว่าจะมีการแจก Code ต่างๆ ทางช่องทางไหนเวลาไหนบ้าง แต่ก็เป็นอีกทางที่จะมีการแจกเพชรให้กับเพื่อนๆ ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี การเติม Code นั้นเพื่อนๆ จะต้องเติมผ่านทางหน้า Website ของตัวเกม จากนั้นจะได้รับผ่านระบบจดหมาย (Mail) ในเกมอีกทีนึงจ้า   ♦ ช่องทางรับซ้ำได้เรื่อยๆ ♦ ในส่วนนี้เพื่อนๆ จะอยากเช็คเป็นพิเศษเลย เพราะเป็นหนทางเดียวที่เพื่อนๆ จะสามารถเก็บเพชรได้อย่างยั่งยืนที่สุด เนื่องจากการรับแบบครั้งเดียวจบนั้นแม้จะได้เพชรไว แต่มันก็จะค่อยๆ หมดลงไปในที่สุดล่ะเนอะ 1. ทำคำร้องรายวันในคู่มือนักผจญภัย ทุกๆ วันเพื่อนๆ จะได้รับคำร้องใหม่วันละ 4 อย่างให้ได้ทำกัน เมื่อทำเสร็จครบก็จะมีรางวัลพิเศษเพิ่มเติมไปด้วย แน่นอนทั้งหมดนี้ก็จะมีเพชรให้ได้เก็บสะสมกันไป แม้จะไม่มากเท่าไหร่นัก วันนึงไม่ถึงร้อย แต่ทำไปทุกวันมันก็เป็นพันได้ล่ะนะ! คำขอรายวันนั้นจะเปิดให้ใช้งานเมื่อเพื่อนๆ มีระดับนักผจญภัยที่ระดับ 12 เป็นต้นไปจ้า   2. ลง Spiral Abyss รายครึ่งเดือน อันนี้จะเริ่มเยอะขึ้นมาละ ตัว Spiral Abyss นั้นจะมีการรีเซ็ทรางวัลความท้าทายทุกๆ วันที่ 1 และ 16 ของแต่ละเดือน (สองอาทิตย์ต่อรอบ) เจ้าตัวรางวัลที่จะรีเซ็ทนี้ ก็จะมีค่าตอบแทนอยู่หลายเพชรกันเลยทีเดียว แต่แน่นอนเมื่อเป็นการท้าทาย เพื่อนๆ ก็ต้องพยายามใช้ฝีมือหรือของแรงๆ มาฟัดกับมันหน่อย ตัวความท้าทายที่ว่าก็จะอยู่ในรูปของเจ้า Star Bounty ที่มีในแต่ละห้องของชั้นที่ 9 ขึ้นไป ตัวของดันเจี้ยน Spiral Abyss จะเปิดให้ใช้งานเมื่อเพื่อนๆ มีระดับนักผจญภัยที่ระดับ 20 เป็นต้นไปจ้า ชั้นที่ 1-8 ไม่มีการรีเซ็ทใดๆ จ้า   3. Battle Pass แบบนานๆ ที แม้ว่าตัว Battle Pass จะไม่ได้ให้เป็นเพชรมาตรงๆ กับเพื่อนๆ ไว้ใช้งาน แต่ก็จะได้รับเป็นรูปของ Fate หรือตัวไอเทมสำหรับหมุนกาชาโดยตรง เพราะงั้นพอจะแถว่าเป็นเพชรได้อยู่ล่ะ! และหากเพื่อนๆ เติมเงินปลดล๊อครางวัลแถวล่างจากตัว Gnostic Hymn ด้วยแล้ว จะได้ Intertwined Fate ที่ใช้หมุนตู้กาชา Event เบิ้ลไปด้วยล่ะ เรียกว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว (อันที่จริงตัวแบบเติมเงินจะให้เพชรด้วยเมื่อ Battle Pass เลเวลเต็มอ่ะนะ)   ช่องทางเติมเงิน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วก็ขอพูดถึงในด้านช่องทางเติมเงินด้วยกันเลยละกัน ในส่วนของการเติมเงินนั้นก็จะมีหลายส่วนดังนี้ 1. Genesis Crystal (เติมเงิน) เพื่อนๆ จะสามารถเติมเพชรได้ด้วยการจ่ายเงินซื้อตัว Genesis Crystal โดยตรง (แลกเป็น Primogems...

Read more

เพื่อนๆ หลายคนอาจจะทราบแล้วว่าตัว Genshin Impact นั้นกำหนดเนื้อหาในเกมหลายๆ อย่างด้วยตัวระดับของนักผจญภัย (Adventure Rank) หรือระดับเลเวลการเล่นใน ID แต่ละ ID นั่นเอง แต่ว่าจะเก็บยังไงให้มันขึ้นไวดีล่ะ? อันนี้มันก็มีหลายวิธีอยู่และในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงวิธีต่างๆ กันจ้า วิธีปั่นเลเวลนักผจญภัย ก่อนอื่นเรื่องแรกที่ต้องย้ำกับเพื่อนๆ นั้นคือ เลเวลของนักผจญภัยนั้นจะส่งผลขึ้นตรงกับระดับเลเวลของโลก (World Level) ด้วย หากเพื่อนๆ ปั่นเลเวลตรงนี้เร็วเกินไปโดยที่ตัวละครยังไม่พร้อมนัก อาจจะมีปัญหากับการสู้กับมอนสเตอร์ต่างๆ ได้ เพราะ World Level ที่สูงขึ้น จะยกระดับเลเวลของมอนสเตอร์ขึ้นไปด้วยเช่นกัน แต่ถ้าพร้อมแล้วก็ไปศึกษากันเลยจ้า 1. ทำการสำรวจพื้นที่ต่างๆ เปิด Teleport Waypoint และ Status of Sevens ทุกครั้งที่เพื่อนๆ กดเปิดใช้งาน Teleport Waypoint หรือ Status of Sevens เป็นครั้งแรก จะได้รับค่าประสบการณ์นักผจญภัยมาเล็กน้อย ไม่มากนักแต่ช่วยในช่วงแรกได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และด้วยปริมาณของตำแหน่ง Waypoint ในเกมก็ทำให้รวมกันแล้วได้มาเยอะใช้ได้ นี่ยังไม่รวมถึงการทำให้สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นมากอีกด้วยนะ! แม้กระทั่งดันเจี้ยนต่างๆ ที่เมื่อพบเจอเป็นครั้งแรกก็สามารถสำรวจเพื่อปลดล๊อคเป็นจุดวาร์ปได้ และแน่นอน นั่นก็หมายถึงค่าประสบการณ์เพิ่มยังไงล่ะ! 2. คลาสสิคกับการทำเควสต่างๆ ของเกม อันนี้ของตายประจำเกม RPG กันเลยทีเดียว การทำเควสเนื้อเรื่องต่างๆ นั้นจะให้ค่าตอบแทนเป็นค่าประสบการณ์และไอเทมต่างๆ ถ้าหากเป็นเควสเนื้อเรื่องหลักแล้วล่ะก็จะยิ่งมีค่าตอบแทนสูง และในเควสนึงมักจะมีการให้ค่าประสบการณ์ตรงนี้ 2-3 ครั้งหรือมากกว่านั้น เรียกว่าเควสเดียวรวมแล้วแตะหลักพันก็มี แถมเพื่อนๆ ยังได้เฮฮาไปกับตัวเนื้อเรื่องของเกมที่มีหลากหลายรสจากเหล่าตัวละครอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีพวก World Quest หรือเควสทั่วไปที่ได้รับจาก NPC อีกด้วย ซึ่งแต่ละเควสก็อาจจะมีวิธีการปลดล๊อคที่แตกต่างกันไป เป็นความสนุกในการค้นพบสิ่งต่างๆ ในเกมนี้ในตัว 3. ทำตามคู่มือนักผจญภัยอย่างสม่ำเสมอ หลังจากที่สะสมระดับของนักผจญภัยจนมีระดับเลเวล 10 แล้วนั้น ตัวเกมจะปลดล๊อคส่วนของ Adventure Handbook มาให้เพื่อนๆ เป็นคู่มือที่มีประโยชน์มากในหลายด้านเลยทีเดียว ซึ่งในตัวคู่มือนักผจญภัยของเพื่อนๆ (Adventure Handbook) นั้นจะมีข้อมูลมากมายรวมถึงการแนะนำการพัฒนาตัวละคร หรือรายชื่อของดันเจี้ยน ให้ลงเล่นได้ตลอดด้วย ในส่วนของสำรวจ (Experience) นั้นจะเป็นเหมือนกับการแนะนำให้เพื่อนๆ ทำสิ่งต่างๆ ในเกมไปตามลำดับ และมีให้ทำมากมายหลายบทให้ได้ปลดล๊อคกันไป แต่ละอย่างก็จะช่วยเพิ่มระดับนักผจญภัยให้ได้ถึง 100 หน่วยเลยทีเดียว 4. ทำคำขอรายวัน เมื่อมีระดับนักผจญภัยที่ 12 แล้ว ตัวเกมก็จะปลดล๊อคหมวดใหม่ในคู่มือขึ้นมา นั่นคือส่วนของคำขอ (Commision) นั่นเอง ตัวคำขอเหล่านี้นั้นจะเป็นการสุ่มคำขอให้ทำในแต่ละวันรวมทั้งหมด 4 อย่างแล้วแต่ว่าวันไหนเพื่อนๆ จะได้เล่นอะไรกันบ้าง (ไม่มีให้เลือกทำ แต่บังคับ 4 อย่างไปเลย) การทำคำขอรายวันนี้จะมีรายวัลที่ให้ค่าประสบการณ์เยอะมากถึงอย่างละ 175-225 หน่วยตามระดับนักผจญภัยของเพื่อนๆ และหากทำครบมารับรางวัลเพิ่ม จะได้อีก 500 หน่วย รวมแล้วได้เป็นหลักพันหน่วยต่อวันเลยทีเดียว HINT : เควสรายวันจะเซิร์ฟเอเชียรีเซ็ทช่วงเวลาตีสามบ้านเรา 5. ตะลุยเปิดหีบสมบัติ ผ่าด่านความท้าทายต่างๆ ในโลกของ Teyvat นั้น เต็มไปด้วยหลายสิ่งมากมายที่รอให้เพื่อนๆ ค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นหีบสมบัติมากมายที่รออยู่ หรือด่านความท้าทายที่รอให้ไปพิชิต บางครั้งก็เป็นหีบสมบัติที่มองเห็นได้ง่ายแต่บางครั้งก็เป็นจุดสังเกตุที่แปลกๆ เช่นดอกไม้ขึ้นโตเป็นวงกลม หรือเสาที่ดูน่าสงสัย เมื่อแก้ไขปริศนาหรือสำรวจก็จะเจอหีบซ่อนเอาไว้ การเปิดหีบต่างๆ นั้น เพื่อนๆ จะได้รับค่าประสบการณ์กลับมาเล็กน้อย ยิ่งหีบหรูหราก็ยิ่งได้เยอะขึ้น แม้มันจะไม่ได้มากมายนัก แต่เชื่อเถอะ ด้วยปริมาณของหีบสมบัติจำนวนหลายร้อยหีบในเกมนี้ มันมากพอจะช่วยปั่นเลเวลได้เลยล่ะ   6. ลงบอส, Ley Line และลงดันเจี้ยน (Domain) ต่างๆ ขาดดันเจี้ยนและบอสก็คงไม่ใช่ RPG ที่หลายๆ คนรู้จักเป็นแน่แท้ ซึ่งตัวดันเจี้ยนและบอสมากมายหากพิชิตได้ก็จะได้รับของรางวัลและค่าประสบการณ์ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย แต่!!! ด้วยความเป็นเกมแนวที่ใช้ค่า Stamina (รู้จักในนาม Original Resin ที่ไม่เคยจะมีพอใช้) นั้น เพื่อนๆ จะได้รับรางวัลและประสบการณ์ต่อเมื่อมีตัว Resin มากพอจะเติมให้กับดอกไม้หรือต้นไม้ที่ต้องใช้ในการเก็บของรางวัลเท่านั้น ตัวดันเจี้ยนและ Ley Line จะใช้ Resin ในการเบิกรางวัลที่ 20 หน่วย ส่วนบอสต่างๆ จะอยู่ที่ 40 หน่วยและมากถึง 60 หน่วยสำหรับบอสประจำสัปดาห์ (บอสหมาป่า Wolf of the North และมังกร Stromterror) ซึ่งถ้าตีเป็นค่าประสบการณ์ดิบๆ แล้วก็จะอยู่ที่ 20 Resin ต่อประสบการณ์ 100 หน่วยละน้า อนึ่ง Ley Line จะเริ่มมีให้เพื่อนๆ เล่นในระดับนักผจญภัย 3, 12 และ Domain ต่างๆ จะขึ้นกับแต่ละที่กันไป 7. ถวายเครื่องสักการะกับ Status of Sevens วิธีนี้เป็นการเพิ่มประสบการณ์การสำรวจโลก Teyvat ของเพื่อนๆ อย่างแท้ทรู เนื่องจากในการจะถวายเครื่องสักการะ (Oculi) ให้กับรูปปั้นนั้นแทบจะต้องตะลุยทุกจุดในแผนที่เพื่อหาเหล่า Oculi ทั้งหลายให้เจอและหาทางเก็บมาให้ครบให้ได้ หลักจากที่สะสมได้ครบตามที่ต้องการแล้ว ก็นำไปสักการะกับรูปปั้นเพื่อรับรางวัลได้ โดยมีทั้งประสบการณ์ของนักผจญภัย และเหนือสิ่งอื่นใดคือการเพิ่มค่า Stamina ของเพื่อนๆ ถาวร 8 หน่วยต่อครั้งอีกด้วย รูปปั้นนั้นจะแบ่งไปตามพื้นที่ โดย Mondstadt นั้นจะเป็นธาตุลม ส่วน Liyue จะเป็นธาตุดิน แต่ละที่จะมีจำนวน Oculi และรูปร่างที่ต่างกัน อย่างไรก็ที่ทุกพื้นที่จะมีจำนวนครั้งที่สักการะสูงสุดเท่ากันคือ 10 เลเวล ซึ่งในแต่ละเลเวลจะใช้จำนวน Oculi มากขึ้น และได้ประสบการณ์กลับมามากขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นกัน ในด้านของการอัพเลเวลนักผจญภัยหลักๆ แล้วก็จะมีตามนี้จ้า หากเพื่อนๆ คนไหนติดขัดลงเควสต่อไม่ได้เพราะระดับนักผจญภัยไม่ถึง ลองดูรอบตัวและทำตามที่แนะนำดูซิ อาจจะได้ค่าประสบการณ์กลับมาได้ไม่มากก็น้อยเลยนะเอ้อ แล้วพอเลเวลนักผจญภัยอัพแล้ว ก็อย่าลืมไปรับรางวัลที่กิลด์นักผจญภัยกันด้วยนะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more

โลกของ Teyvat ภายในเกม Genshin Impact นั้นนอกจากเควสแล้วยังมีอีกหลายสิ่งให้ผู้เล่นได้เข้าไปค้นหากันอย่างมากมายเพื่อรับของรางวัลฟรีๆ จากความสำเร็จในการปลดล็อคภารกิจเหล่านั้นมา หลังจากผ่านเควสเนื้อเรื่องหลักช่วงเลเวล 23 กันไปแล้ว หากกลับไปที่เขา Mt. Aozang อีกครั้งจะมีเควสลับปรากฏขึ้นมาให้ได้ทำกัน เป็นลับเล็กๆ ของจ้าววังวนเมฆา ถวายแด่เซียน เงื่อนไขการเกิดความนี้ผู้เล่นจะต้องเล่นเนื้อเรื่องหลักของเลเวล 23 ให้จบเสียก่อน จากนั้นให้กลับไปยังเขาเซียน Mt. Aozang ของจ้าววังวนเมฆาอีกครั้ง ตัวของ Paimon จะพูดถึงการถวายอาหารให้เซียน เควสจะปรากฏขึ้นมาให้ทำทันที หลังจากเควสขึ้นแล้วให้เดินไปยังโต๊ะถวายอาหาร กดถวายอาหารแสนอร่อย อาหารที่ต้องใช้คือ Jewelry Soup ถ้าไม่มีต้องไปทำมาก่อนนะ เมื่อถวายอาหารเรียบร้อยจ้าววังวนเมฆาจะบ่นเรานิดหน่อยจากนั้นประตูจะเปิดทางให้เข้าไปถึงหน้าประตูได้ ให้กดคุยกับเซียนตรงหน้าประตู จ้าววังวนเมฆาจะใช้ให้ผู้เล่นไปตามหาพิมพ์เขียวให้เธอโดยตัวของพิมพ์เขียวจะอยู่บนเกาะเซียนลอยฟ้านั่นเอง ทำการวาร์ปไปตรง Qingyun Peak เพื่อขึ้นไปบนเกาะเซียน สำหรับใครยังไม่เคยขึ้นไปบนเกาะเซียนมาก่อนจะต้องเปิดกลไกลให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะขึ้นไปได้ วิธีขึ้นไปยังเกาะเซียนลอยฟ้าสามารถกดดูได้ที่นี้ https://playpost.gg/genshin-impact-quest-03/ เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนแล้วจะพบพิมพ์เขียว “ที่พำนักเซียนในหมู่เมฆา” เก็บมันมาแล้วกลับไปยัง Mt. Aozang เผื่อเอาของไปให้จ้าววังวนเมฆา แต่ผู้เล่นจะต้องเอาเข้าไปให้เธอเองนะ ตัวประตูจะเปิดให้เข้าไปข้างในได้ หลังจากเข้ามาข้างในแล้วจะต้องเอาไปให้ถึงตัวในเวลาที่กำหนด โดยจะมีเวลาให้ 150 วินาที (2 นาที 30 วิ) ให้เปิดกลไกลไปตามทางแบบครั้งแรกที่เคยเข้ามา แต่พวกกับดักจะไม่มีแล้วจะมีเพียงศัตรูเป็นพวกสไลม์ตามแท่นต่างๆ แทน ถ้าฆ่าศัตรูได้ 1 ตัว จะเพิ่มเวลาให้ 15 วิ เมื่อมาถึงเอาพิมพ์เขียวให้จ้าววังวนเมฆา หลังจากคุยจบจะได้รับของรางวัลเล็กๆ จากเซียน จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

Read more

การผจญภัยในโลก Teyvat ของเกม Genshin Impact มีความอิสระค่อยข้างสูงผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางที่จะไปยังจุดหมาย ทั้งทางตรง ทางอ้อม ปีนเขา ว่ายน้ำ หรือแม้แต่ร่อนจากจุดสูงๆ ซึ่งเส้นทางเหล่านี้มักจะมีศัตรูหลากหลายรูปแบบรอให้ไปพิชิตอยู่เยอะพอสมควร ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่แห่งหนึ่งใต้ดินนั้น ก็มีบอสที่เฝ้ารอการมาเยือนของผู้เล่น Pyro Regisvine หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าบอสดอกไม้ไฟ เป็นอีกหนึ่งในบอสที่เนียนอยู่ในถ้ำ หาตัวเผินๆ ไม่ค่อยจะเจอเท่าไหร่ https://youtu.be/9GrSc6flLLg บอส Pyro Regisvine บอสดอกไม้ประจำเขต Liyue สามารถตีได้โดยไม่ต้องผ่านเควสอะไร บอสตัวนี้เป็นบอสที่มีเอกลักษณ์พิเศษคือจะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้สมเป็นดอกไม้ที่อยู่กับที่ การโจมตีนั้นจะใช้ธาตุไฟหลากหลายรูปแบบระดมยิงเข้าใส่เพื่อนๆ เป็นชุดๆ ต่อนัดอาจจะไม่แรง แต่โดนครบเซ็ทก็จุกเหมือนโดนต่อยระรัวได้เหมือนกัน อย่างไรก็ดี ตัวมันก็มีจุดอ่อนเยี่ยงเหล่า Abyss Mage ที่มีโล่ซึ่งถ้ารู้แกวมันแล้วจะเป็นบอสที่ค่อนข้างง่ายขึ้นมาทันทีเลยทีเดียว สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนสู้ การเตรียมตัวก่อนสู้เป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่เลือกตัวละครหลักทั้ง 4 เตรียมอาหารและยาให้พร้อมสำหรับการปราบบอส สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้ ธาตุที่แนะนำ บอสดอกไม้ไฟจะต้องทำลายจุดอ่อนเพื่อให้บอสอ่อนแรงเสียก่อนจึงจะสามารถทำดาเมจเข้าแบบเต็มๆ ได้ ถ้าไม่ทำลายก่อนเกราะของบอสจะหนามากๆ โดยธาตุแนะนำสำหรับการสู้คือธาตุน้ำ มันจะทำปฏิกิริยาระเหยทำดาเมจเข้าแบบคูณ 1.5 ทำให้เกราะของบอสแตกได้ไวขึ้นมากๆ แนะนำให้หยิบตัวละครธาตุน้ำที่เป็นธนูหรือเวทย์ไปเวลาเกราะปรากฏขึ้นบนหัวของบอส หรือธาตุน้ำแข็งแต่จะทำลายเกระาได้ช้ากว่าธาตุน้ำพอสทควร หากใครมีตัวละครที่สามารถสร้างเกราะป้องกันให้ทีมได้เช่น Noelle, Zhongli, Xinyan จะช่วยให้โดนดาเมจจากบอสได้ยากขึ้นสู้ได้สบายขึ้นมาก   อาหารและขวดยาเวทย์ สิ่งต่อไปต้องเตรียมเอาไว้ติดกระเป๋าให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินและช่วงวิกฤตคือพวกอาหารและยาเวทย์นั้นเอง สำหรับบอสตัวนี้จะมีการโจมตีด้วยธาตุไฟเป็นหลักให้เตรียมขวดยาต้านธาตุไฟเอาไว้หลายขวดช่วยลดดาเมจจากการปะทะกับธาตุไฟได้ดี จะมีขวดยาเพิ่มพลังธาตุตามตัวละครที่นำไปลงให้สร้างดาเมจได้แรงขึ้นด้วยก็ได้เช่นกัน (สามารถสร้างได้ตรงเมืองหลักกับ Timaeus) อาหารให้เตรียมประเภทเพิ่มพลังโจมตี ฟื้นฟูเลือด เพิ่มพลังป้องกัน เป็นหลักเอาไว้ใช้จะช่วยให้ผ่านบอสได้ง่ายขึ้น วิธีการตบตีบอส ถ้าว่ากันตรงๆ เจ้าบอสดอกไม้ไฟนี่น่าจะง่ายที่สุดในกลุ่มบอสในฉากทั่วไปแล้ว โดยเฉพาะการมีเกราะธาตุให้ทุบแตกเล่นนี่ ถ้าหากเล่นงานในจุดนี้ บอสตัวนี้จะให้เราตีฟรีรัวๆ อย่างเมามันมาก ชนิดที่กากกว่าบอสรูบิคอีก จุดหลักเลยนั้น บอสตัวนี้ถ้ายังไม่ล้มลงจากการโดนเจาะเกราะ จะต้านทานการโจมตี ทำให้ตีเข้าเบามากๆ แต่เมื่อเจาะเกราะแล้วตัวจะนุ่มนิ่มตามปกติ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเล็งที่ลำต้นหรือเกสรก็ได้ในระหว่างที่ร่วงอยู่นี้ ที่ลำต้นตรงฐานจะมีจุดๆ หนึ่งที่จะเป็นแก่นของมันอยู่ แก่นนี้จะถูกปกป้องด้วยเกราะธาตุไฟเป็นวงเล็กๆ ที่ถ้าไม่สังเกตุอาจจะดูไม่ออกเพราะสีกลืนกันมาก ... ใช่แล้ว มันมีเกราะ และเหมือนเหล่า Abyss Mage ที่พอเกราะแตก ก็จะเอ๋อนิ่งให้ตีฟรีนั่นแหละ! แต่ทว่าไม่ใช่แค่นั้น เกราะของเจ้าบอสนี้จะมีอีกจุดหนึ่งที่เกสรด้วย บอสตัวนี้จะสร้างเกราะสลับไปมาสองจุดนี้ตลอดเวลา หลังจากที่เกราะแตกแต่ละครั้งก็จะร่วงมาให้ตีฟรี และสลับไปสร้างเกราะอีกจุดแทน ขั้นตอนการตีบอสจึงเป็นการฟาดเกราะให้แตก ร่วงมาให้ทุบง่ายๆ พอลุกกลับไปก็รอเกราะขึ้นใหม่แล้วก็ตีให้แตก ร่วงมาให้นวดต่อ วนเวียนจนตาย มีโอกาสตีเราไม่กี่ชุดต่อรอบเท่านั้นเอง แต่ถ้าเพื่อนๆ พยายามฝืนตีโดยที่เกราะมันยังไม่แตกนั้น มันจะเป็นตัวที่เสียเวลาสู้เป็นอย่างมหาศาลเลยทีเดียว สกิลของบอส ท่าของเจ้าดอกไม้ไฟจะเน้นความต่อเนื่องเป็นชุดมากกว่าตัวน้ำแข็ง พยายามสลับเอาตัวละครสายสนับสนุนหรือตัวสำรองมาในการหลบหลีกท่าแรงๆ และเก็บตัวเจาะเกราะไว้เป็นหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเจาะเกราะของเราตาย เสียเวลามาชุบ/ติดคูลดาวน์อาหารชุบให้การต่อสู้ยากขึ้นและยืดเยื้อเปล่าๆ ► ร่ายลูกไฟนำวิถี ท่านี้บอสจะใช้ก้านของมันเรียกวงเวทย์ลูกไฟออกมาจำนวนหนึ่ง ลูกไฟชุดนึงจะกระจายกึ่งสุ่มไปด้านหน้า ลูกที่เหลือจะพุ่งเข้าติดตามเพื่อนๆ ท่านี้ไม่แรงแต่ทำให้เราเสียจังหวะและน่ารำคาญมากกว่า ให้หลบด้วยการวิ่งล่อไปทางนึงและวนเป็นวงกลมไปอีกด้านจะสลับออกได้ง่าย ไม่เปลืองเวลาและค่า Stamina มาก ► ระดมยิงลูกไฟ บอสจะใช้กิ่งยิงลูกไฟเป็นเส้นตรงรัวซ้ายขวาเยี่ยงปืนกล ไม่แรงแต่ต่อเนื่อง ถ้าโดนทั้งชุดก็เกรียมได้เหมือนกัน หลบง่ายมาก แค่เดินออกด้านข้างตลอดเวลาก็รอดชิวๆ แล้ว ► ทุบสร้างคลื่นกระแทก ท่านี้จะเป็นท่าที่ใช้เป็นระยะๆ และเปิดโอกาสให้เราโจมตีได้ดี โดยบอสจะรวมพลังเป็นแสงที่ตัวดอก ก่อนจะยกดอกขึ้นเหมือนคนกำลังเงยหน้า หลังจากนั้นจะทุบลงมาที่พื้นในทิศที่เราอยู่ พร้อมสร้างคลื่นไฟประทุพุ่งออกมาเป็นสามสายติดกันหน้ากระดานใส่เรา (คลื่นจะขยายตัวกว้างขึ้นเล็กน้อยตามระยะทาง) ท่านี้จะมีสองแบบคือแบบทุบทีเดียว กับแบบทุบสามครั้งติด จุดสังเกตุไม่ค่อยชัดนัก แต่ให้เพื่อนๆ ดูได้จากการที่เมื่อบอสทุบแล้ว บอสค่อยๆ ยกตัวขึ้นไหม แต่ถ้าบอสยกตัวขึ้นต่อทันที ให้หลบต่อได้เลย แปลว่าทุบสามครั้งติดแน่นอน ซึ่งการหลบนั้น ให้เข้าไปใกล้ตัวบอสให้มากขึ้นจะหลบง่ายขึ้นกว่าอยู่ไกลๆ มาก โดยเฉพาะการทุบสามครั้ง ถ้าเราอยู่ใกล้บอสมากพอจะสามารถวิ่ง(ไม่ต้อง Dash ด้วย)ธรรมดาหลบเป็นวงรอบตัวได้เลย บอสหันตามไม่ทัน ถ้ามีเกราะที่เกสรอยู่ หลังทุบเสร็จจะเป็นโอกาสให้เพื่อนๆ เจาะเกราะที่เกสรเลย ► หมุนตัวฟาดดอก ท่านี้ออกจะดูยากนิดถ้าอยู่ใกล้ๆ แต่จะเป็นท่าหลักที่บอสใช้เพื่อดันเพื่อนๆ ออกจากตัว โดยจะใช้เมื่อเพื่อนๆ อยู่ใกล้กับบอสมากเพียงพอเท่านั้น ท่านี้ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากที่บอสจะล้มลงหมุนดอกอัดให้เราปลิวเท่านั้น หากเพื่อนๆ ออกห่างจากตัวบอสก็จะไม่โดนแล้ว เพียงแค่มันดูยากมากโดยเฉพาะเวลาเพื่อนๆ เข้าไปนวดลำต้นบอสอยู่แค่นั้นเอง ท่านี้จะมีสองแบบเช่นกัน แบบหมุนทีเดียว กับแบบหมุนคอมโบ แบบหมุนคอมโบนั้นเมื่อฟาดแล้ว จะหมุนกลับด้านอีกทีหนึ่ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการทุบสร้างคลื่นกระแทก ดังนั้นหากเห็นบอสหมุนตัวสองที ต้องเตรียมหลบท่าคลื่นกระแทกด้วย อย่าคิดว่าอยู่นอกรัศมีฟาดแล้วจะรอดสบายๆ ► สร้างพื้นไฟเผารอบตัว ท่านี้บอสจะสร้างวงที่พื้นแจ้งเตือน ก่อนจะหันขึ้นและหมุนตัวเป็นวงกลมและทิ้งตัวลงมาอัดให้ปลิว สร้างพื้นไฟเผาที่ทำความเสียหายต่อเนื่องค่อนข้างแรง ป้องกันไม่ให้เราเข้าไปใกล้ๆ พื้นไฟนี้จะอยู่ราวๆ 10-15 วินาทีได้ ► ระเบิดไฟต่อเนื่อง บอสจะหันหน้าขึ้น กางกลีบดอกออกและชาร์จพลังไฟ ก่อนที่จะเกิดวงเวทย์ขึ้นที่พื้นแบบสุ่ม วงเวทย์นี้จะระเบิดค่อนข้างไวมาก แทบจะต้อง Dash หนีอย่างเดียว วงเวทย์จะมีทั้งสุ่มในพื้นที่และเกิดขึ้นที่ใต้ขาเพื่อนๆ ทำให้ต้องเคลื่อนที่เตรียมหลบตลอดเวลา ระเบิดครั้งนึงค่อนข้างแรงมากเลยทีเดียว การโดนต่อเนื่องจนตายในท่านี้เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก จุดอ่อนของท่านี้คือนอกลานจะไม่มีเลย (แต่เสี่ยงที่บอสจะรีเซ็ทเลือดใหม่) และพื้นที่ใกล้กับตัวบอสจะมีโอกาสสุ่มหรือเล็งใส่น้อยกว่าพื้นที่ด้านนอก ให้หลบเข้าไปวนรอบตัวบอสจะหลบง่ายขึ้นมาก ท่านี้ของบอสจะกินเวลาค่อนข้างนาน พยายามหลบแบบรักษาค่า Stamina ให้ดี ► ชาร์จระเบิดดอกตูม บอกจะงอกิ่งมาด้านหน้าก่อนจะชาร์จพลังไฟซักพักหนึ่งให้เห็นเลยว่าจะเล่นอะไรอันตรายๆ และยิงดอกตูมออกมาระเบิดเป็นวงกว้างมากใส่เพื่อนๆ ให้กะจังหวะหลบดีๆ หรือ Dash สุดใจจากนั้นจะมีดอกตูมปรากฎขึ้นที่จุดระเบิด ดอกตูมนี้จะค่อยๆ โตขึ้นและระเบิดออกเป็นพื้นไฟเผาเป็นเวลาพักหนึ่ง (แต่นานมากกว่าจะระเบิด) เพื่อนๆ สามารถทำลายดอกตูมทิ้งได้เพื่อกันไม่ให้มันระเบิดได้ และว่ากันตรงๆ ว่าบางทีปล่อยไปแล้วเราไปยิงมุมอื่นก็ได้ถ้าขี้เกียจ เพราะบอสตัวนี้มีพื้นที่ให้เราวิ่งเล่นแบบ ยิ่งกว่าคิดว่าเหลือเฟือสำหรับดอกตูมกิ๊กก๊อกแค่ดอกเดียวจะช่วยอะไรมันได้ (ฮา) ไอเทมที่ดรอปจากบอส หลังจากใช้ Original Resin 40 ชิ้น เพื่อเปิดดอกไม้แห่งการยกทัพสำเร็จจะได้รับไอเทมดังต่อไปนี้ 1.EXP แรงค์ผจญภัย 200 EXP, EXP ค่าความสัมพันธ์ตัวละคร และเงินหนึ่งจำนวน หินเลื่อนขั้น (โอกาสสุ่ม) Everflame Seed อาร์ติแฟกต์ (โอกาสสุ่ม)     จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more
Page 29 of 53 1 28 29 30 53