PC Guide

PC Guide - รวมบทความ เทคนิค ไกด์ต่างๆของชาว PC วิธีผ่านเกมเก่า วิธีฟาร์มเกมใหม่ จัดทีมยังไง ต้องทางนี้

MHW Iceborne palico gadgets Cover playpost

Palico หรือเจ้าเหมียวตัวน้อย คู่หูช่วยล่าประจำตัวในภาค Monster Hunter World นั้น บอกได้เลยว่านอกจากความน่ารักแล้ว ยังมีประโยชน์ในการช่วยล่ากันแบบสุดๆ เลยนะเอ้อ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นเองก็จะสามารถปรับแต่งชุดหรืออาวุธของน้องเหมียว เพื่อความสวยงามหรือเพิ่มความสามารถ พลังป้องกันอะไรให้น้องเหมียวได้ด้วย และเมื่อเล่นไปนั้น ตัวเกมก็จะปลดล๊อคอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่นๆ ที่น้องเหมียวจะนำมาช่วยล่าให้มากขึ้นได้อีก เรียกได้ว่ามีแมวได้อุ่นใจกันสุดๆ เลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=Ewv15oifxkc อุปกรณ์เหมียว อุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นของที่น้องเหมียวสามารถติดตั้งเพื่อใช้ในระหว่างการล่าได้ หลายคนอาจจะพอใจกับเจ้าแมลงฟื้นพลังอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน ขอเพียงอ่านบทความนี้ รับไปเลยวิธีหาอุปกรณ์ให้น้องเหมียวฟรีอีก 5 ชิ้น หากแบ่งให้เพื่อนๆ อ่าน เพื่อนๆ จะได้อุปกรณ์น้องเหมียวกันตามจำนวนคนที่อ่านอีกด้วยนะ! (ทำเสียงแบบทีวีไดเร*ต์) โอเค นอกเรื่องซะยาว ตรงนี้ก็จะเป็นวิธีได้รับอุปกรณ์ที่เหลืออีก 5 ชิ้นจ้า โดยหลัก ในแต่ละแผนที่นั้นจะมี Doodle ให้เพื่อนๆ ได้ตามเก็บอยู่ เมื่อเก็บครบจะสามารถใช้ Scoutfly ชี้ตำแหน่งพวกเขาได้ หมายเหตุ Tailraider จะเป็นมอนขนาดเล็กตามฉาก น้องเหมียวจะมีโอกาสไปล่อมาเป็นพวกช่วยสู้ได้ (มีผลเฉพาะตอนเล่นคนเดียว) อุปกรณ์น้องเหมียวเลเวล 10 ขึ้นไปนั้นจะมีเมื่อมีภาคเสริม Iceborne ด้วยเท่านั้น   ► Vigorwasp Spray อุปกรณ์พื้นฐานของเจ้าเหมียว ทำให้น้องเหมียวสามารถพกพาสเปรย์ฟื้นค่า HP มาช่วยผู้เล่นได้ และเมื่อเลเวลสูงอุปกรณ์สูงขึ้นจะสามารถติดตั้งจุดฟื้นค่า HP ได้ด้วย และค่า Proficiency จะช่วยให้น้องเหมียวฟื้นค่า HP ได้มากขึ้นด้วย Level 6 : สามารถขอให้น้องเหมียวฟื้นพลังได้ (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 1) Level 10 : ขอให้น้องเหมียวติดตั้งจุดฟื้นพลังได้ (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 6) Level 11 : เมื่อพลาดตาย น้องเหมียวจะกระแทกยาชุบใส่หน้า ฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่งด้วยพลังชีวิตเล็กน้อย มีผล 1 ครั้งต่อ 1 เควสเท่านั้น และไม่มีคำสั่งใช้อุปกรณ์เพิ่มเมื่อเลเวล 15 การได้มา - มีติดตัวตั้งแต่แรก   ► Flashfly Cage น้องเหมียวจะสามารถใช้งานกับดักและเรียก Flashfly ระหว่างการล่าได้ เหมาะกับมอนสเตอร์ทั่วไปที่ไม่ใช่ Elder Dragon โดยเฉพาะตัวที่วิ่งค่อนข้างเร็ว Level 6 : น้องเหมียวจะวาง Flashfly Cage ตรงจุดที่ยืน (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 1) Level 10 : ขอให้น้องเหมียววาง Shock Cage ตรงจุดที่ยืน (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 6) Level 15 : ติดตั้ง Boombug Cage ตรงจุดที่ยืน เมื่อมอนสเตอร์"เดิน"มาเหยียบจะระเบิดทำความเสียหายและทำให้ชะงัก (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 11) การได้มา ต้องเป็นเพื่อนกับเผ่า Bugtrapper ที่อยู่ใน Ancient Forest - ไปยัง Camp 17 ที่อยู่ด้านบนสุดของแผนที่ (ถ้าไปไม่ถูก สามารถเริ่มจากรังนอนของ Anjanath และปีนเถาวัลย์ขึ้นไป จากนั้นเลี้ยวออกทางซ้ายมือ จะเข้าเขตเถาวัลย์บนป่าของ Camp 17) - โดยปกติเพื่อนๆ มักจะได้เจอเผ่านี้วิ่งหนีให้เราได้วิ่งตามเสียมาก ให้วิ่งตามไปเรื่อยๆ จนถึง Hideout ของพวกเขา - Hideout ของพวกเขานั้นจะอยู่ที่ Camp 17 โดยสามารถเดินทางไปได้ด้วยการโหนเถาวัลย์ไปยังอีกด้านหนึ่งและปีนขึ้นไปเรื่อยๆ - คุยกับ Grimalkynes ใน Hideout และจะได้รับ Flashfly Cage มาพร้อมกับสอนน้องเหมียวให้คุยกับพวกมอนตัวเล็กๆ ได้ Tailraider ที่ได้ : Jagras https://www.youtube.com/watch?v=0gwWM0CTI6M ► Shieldspire โล่ขนาดใหญ่ที่ช่วยให้น้องเหมียวป้องกันตัวได้ ซึ่งน้องเหมียวจะล่อเป้ามอนให้เรามีโอกาสโจมตีได้มากขึ้น และบางทีการป้องกันก็เป็นการโจมตีที่ดี ด้วยการเอาโล่เคาะมังกรหน้าสั่นได้ Level 6 : น้องเหมียวเคาะโล่เรียกความสนใจมอนสเตอร์ (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 1) Level 10 : น้องเหมียวจะใช้โล่กระแทกศัตรูให้ชะงักอย่างต่อเนื่อง (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 6) Level 15 : น้องเหมียวจะติดตั้งหุ่นแมวเป่าลม ล่อเป้ามอนสเตอร์อย่างมาก (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 11) การได้มา ต้องเป็นเพื่อนกับเผ่า Protectors tribe ที่อยู่ใน Wildspire Waste - ทำได้โดยการออกสำรวจใน Wildspire Waste และเดินทางไปยัง Grimalkyne's Hideout - Hideout ของพวกเขาจะอยู่ข้างๆ Camp 15 (เดินทางได้โดยการไปยังเขตทะเลทรายด้านบนขวา และมองหาโพรงถ้ำเล็กๆ เพื่อกระโดดลงมายังเขต Camp ได้) - คุยกับ Grimalkynes และจะได้ภารกิจย่อยมา เป็นการหาสมาชิกในเผ่าที่อยู่ใน Wildspire Waste โดยจะมีการแสดงให้เห็นในแผนที่ - ใช้ Scoutfly ตามหาพวกเขา เมื่อเจอแล้วใช้ Capture net ในการจับตัวมา แต่ถ้าเข้าไปใกล้พวกเขาจะรีบหนีทันที ให้ใช้ Ghillie Mantle ช่วยจะทำให้เข้าใกล้ตัวได้โดยไม่หนีไป - เมื่อจับได้ครบก็กลับไป Grimalkyne's Hideout เป็นอันจบจ้า Tailraider ที่ได้ : Kestodon https://www.youtube.com/watch?v=o5ygL6FVHtY ► Coral Orchestra หรือ Hunting Horn ฉบับน้องเหมียวนั่นเอง ทำให้น้องเหมียวเป่าเพลงช่วยบัพผู้เล่นได้ แม้เพลงที่ได้จะสุ่มออกมา แต่ก็ช่วยได้เหมือนกับมีคนเล่น Hunting Horn ให้ฟังนะ Level 6 : เป่าเพลงแบบสุ่มบัพ (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 1) Level 10 : ตีกลองจัดหนัก สุ่มบัพ (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 6) Level 15 : ติดต๊องฆ้องและเคาะซักเปรี้ยง ทำให้มอนชะงักเอ๋อไปพักนึง (สุ่มใช้ตั้งแต่มีเลเวล 11) การได้มา ต้องเป็นเพื่อนกับเผ่า Troupers Grimalkyne...

Read more

สกิลภายในเกม Monster Hunter World จะมีอยู่ด้วยหลายสกิลด้วยกัน ซึ่งทางเว็บไซต์ Myplaypost ได้ทำการแปลเอาไว้ให้เพื่อนๆ เพื่อที่จะได้เล่นเกมนี้ได้ง่ายขึ้นดังนี้ครับ โดยในส่วนแรกจะเป็นสกิลของชุดเกราะแบบ Set ที่ต้องใส่ให้ครบตามที่กำหนด กับอีกแบบนึงคือสกิลทั่วๆ ที่จะติดกับชุดหรืออัญมณี ตัวอย่างสกิลของชุดเกราะ โดยระบบจะแสดงให้เห็นว่าสกิลนี้มีจากส่วนไหนอยู่โดยเน้นสีเหลืองให้ Skill ของชุดเกราะแบบ Set (ต้องใส่ตามที่กำหนด) สกิลของชุดเกราะนั้นจะแบ่งเป็นสกิลในระดับ Low Rank และ High Rank เพื่อนๆ จะได้รับสกิลที่กำหนดเมื่อใส่ชุดเกราะครบจำนวนที่ตัวเกมระบุไว้ ซึ่งในระดับ High Rank นั้นจะสามารถผสมกันได้ทั้งในแบบ α และ β รวมถึง Sub Species ด้วย (เช่นการใส่ชุด Rathalos α ร่วมกับ Rath Soul β อย่างละชิ้น จะได้ผลของสกิล Rathalos Mastery ด้วยเช่นกัน) ซึ่งบางสกิลนั้นก็จะมีอยู่ในรูปแบบของเพชรด้วย ทำให้เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องใส่ชุด Set เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็ได้ ดูข้อมูลเพชรในเกมได้ในบทความ จ้า ► Low Rank Anjanath Power Anja Armor Set 3 ชิ้น : Adrenaline - ลดการใช้ค่า Stamina ลงเมื่อมีค่า HP เหลือน้อยกว่า 40% Diablos Power Diablos Armor Set 3 ชิ้น : Bludgeoner - เพิ่มพลังโจมตีของอาวุธเมื่อความคมลดลง, เพิ่มพลังโจมตีของการโจมตีระยะประชิดด้วยอาวุธระยะไกล และเพิ่มค่า KO เพิ่มเติม (เช่นเอาปืนทุบ ลูกธนูแทง) Kirin Blessing Kirin Armor Set 4 ชิ้น : Capture Master - มีโอกาสได้ของรางวัลจากการจับเป้าหมายมากขึ้น (ไม่มีผลหากไม่ได้เข้าร่วมเควสตั้งแต่แรก) Odogaron Power Odogaron Armor Set 3 ชิ้น : Punishing Draw - การโจมตีหลังจากการชักอาวุธออกมาจะมีผลเพิ่มค่า KO เพิ่มเติม (ใช้ร่วมกับ Slugger ได้) และเพิ่มพลังโจมตี +5 Rathalos Power Rathalos Armor Set 3 ชิ้น : Critical Element - เพิ่มพลังโจมตีของธาตุ เมื่อโจมตีติดคริติคอล Legiana Blessing Legiana Armor Set 3 ชิ้น : Good Luck - มีโอกาสที่จะได้รางวัลของเควสมากขึ้น (ไม่มีผลหากไม่ได้เข้าร่วมเควสตั้งแต่แรก)   ► High Rank Anjanath Will Anja α, Anja β 2 ชิ้น : Adrenaline 4 ชิ้น : Stamina Cap Up - ลดการใช้ค่า Stamina ลงเมื่อมีค่า HP เหลือน้อยกว่า 40% - เพิ่มค่า Stamina สูงสุด Bazelgeuse Protection Bazel α, Bazel β 3 ชิ้น : Guts - หากมีค่า HP มากกว่าที่กำหนด การรอดจากการถูกโจมตีที่ทำให้ถึงตายได้ในครั้งเดียว (มีผลแค่ 1 ครั้งเท่านั้น) Commission Guidance Commission α, Commission β 4 ชิ้น : Carving Master - เพิ่มจำนวนครั้งในการแล่ 1 ครั้ง (ไม่มีผลหากไม่ได้เข้าร่วมเควสตั้งแต่แรก) Diablos Mastery Diablos α, Diablos β, Diablos Nero α, Diablos Nero β 2 ชิ้น : Bludgeoner 4 ชิ้น : Non-Elemental Boost - เพิ่มพลังโจมตีของอาวุธเมื่อความคมลดลง, เพิ่มพลังโจมตีของการโจมตีระยะประชิดด้วยอาวุธระยะไกล และเพิ่มค่า KO เพิ่มเติม (เช่นเอาปืนทุบ ลูกธนูแทง) - เพิ่มพลังโจมตีของอาวุธไร้ธาตุ Guild Guidance Guild Cross α, Guild Cross β 4 ชิ้น : Great Luck - มีโอกาสสูงมากที่จะได้รางวัลของเควสมากขึ้น (ไม่มีผลหากไม่ได้เข้าร่วมเควสตั้งแต่แรก) Odogaron Mastery Odogaron α, Odogaron β 2 ชิ้น : Punishing Draw 4 ชิ้น : Protective Polish - การโจมตีหลังจากการชักอาวุธออกมาจะมีผลเพิ่มค่า KO เพิ่มเติม (ใช้ร่วมกับ Slugger ได้) และเพิ่มพลังโจมตี +5 - ความคมของอาวุธจะไม่ลดลง 60 วินาทีหลังจากที่พึ่งลับไป Pink Rathian Mastery Rath Heart α, Rath...

Read more

เชื่อได้ว่าหลายคนเจอวิธีการสร้างอาคารใน Staxel แล้วจะมีมึนกันบ้าง บอกตรงๆ ว่าผู้เขียนเองก็มึนไม่แพ้กันในตอนแรก เพราะพี่แกล่อมาครบเลย สร้าง หาของ วางในจุดที่กำหนด บลาๆ แหม่ แต่ก็นั่นล่ะ พอสร้างจริงจะเข้าใจมันเองว่าต้องวางอะไรยังไง (ฮา) ในที่นี้ก็ขอเขียนถึงอีกหนึ่งในอาคารที่ NPC ขอให้เราสร้าง และยุ่งยากลำดับสอง เจ้า Fishing Spot นั่นเอง Fishing Spot - จุดตกปลาของน้องเหมียว ผู้เล่นจะได้รับคำขอร้องนี้มาจาก NPC Riah น้องเหมียวผมชมพูหลังจากที่ได้ทักทายเธอซักพักแล้ว ซึ่งเธอจะบอกป้ายแสดงจุดตกปลา, แปลนการสร้าง Bailbox กับ Fish Rack กับเรามา ซึ่งก็ลุยได้เลย เงื่อนไขสำหรับจุดตกปลาก็จะมีของที่ต้องการในอาณาเขตดังนี้ Water 14 ช่องขึ้นไป Wood 10 บล๊อค Barrel 1 ใบ Bailbox 1 กล่อง Fish Rack 1 ราว ซึ่งก็ขอไล่ลงมาละกัน น้ำในทีนี้ต้องเป็นแหล่งน้ำ จะใช้ในเมืองหรือตะลุยไปถึงทะเลก็ได้จ้า แล้วแต่ว่าอยากแกล้งน้องเหมียวแค่ไหน ต่อมา Wood ในที่นี้ จะเป็นต้นไม้หรือบล๊อคไม้ก็ได้จ้า ซื้อเอาได้เลยไม่แพง Light Wooden Plank Block จะถูกสุด (30 Petals ต่อ 5 บล๊อคเอง) ต่อมา Barrel หรือถังได้ แนะนำให้โด้จากแถวสนามบินได้เลยจ้า ตัวสนามบินไม่ต้องใช้ลังไม้ จากนั้นก็จะเหลือของยุ่งยากสองชิ้นนั่นคือ Bailbox ที่ต้องใช้ Carving Station (ราคา 1000 ซื้อได้ที่ร้านก่อสร้างหรือร้านขายของ) และ Combine Station (ราคา 1000 ซื้อได้ที่เดียวกัน) ในการสร้างขึ้นมา แพงหูตูบมากในช่วงต้นเกม คร่อก โดยใช้วัตถุดิบคือ Lumber 1 ท่อน อันนี้ก็เอา Raw Wood 2 ชิ้นไปเลื่อนในร้านก่อสร้างได้เลยจ้า Sheet Metal 1 แผ่น ซื้อในร้านก่อสร้างได้เลย ไม่แพงจ้า Nail 1 กล่อง ร้านก่อสร้างเช่นเคย Raino Beetle 2 ตัว อันนี้ต้องจับเอาจากตามต้นไม้ สำหรับเจ้า Raino Beetle หรือด้วงกว่างนี้ ให้หยิบ Bug Net วิ่งตะลุยในป่าได้เลยจ้า จะมีลัักษณะเป็นด้วงสีเขียวฟ้า เกาะอยู่ตามต้นไม้ อันนี้อาจจะต้องใช้เวลาซักนิด เพราะส่วนมากเราจะเจอบนที่สูงพอตัว ก็อย่าลืมเอาบล๊อคไปวางต่อความสูงนะจ๊ะ ถ้าโชคดีก็จะเจอตรงที่ๆ จับง่ายหน่อย หลังจากได้วัตถุดิบครบแล้ว ก็ให้เอา Lumber, Sheet Metal และ Nail ไปวางบน Carving Station เพื่อจัดการทำกล่องเปล่าก่อนเลย และเอากล่องเปล่ากับ Raino Beetle ไปวางบน Combine Station ก็จะได้ Bailbox มาแล้วจ้า จากนั้นก็จะเป็นเจ้า Fish Rack หรือราวแขวนปลา อันนี้ทำง่ายหน่อย Lumber 3 ท่อน Nail 2 กล่อง Robe 2 เส้น ร้านก่อสร้างเจ้าเก่าเลยจ้า หลังจากซื้อเสร็จ มีไม้ดิบ 6 ท่อนไปเลื่อยอะไรครบแล้ว ก็วิ่งเข้าร้านก่อสร้างเพื่อจัดการรวมเป็นราวแขวนปลาบน Assemble Station ได้เลยจ้า รวมกับถังไม้ที่เราโด้มาจากสบายบิน(และการซื้อบล๊อคไม้อีกหน่อย) ก็เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการเตรียมวัตถุดิบในการสร้าง Fishing Spot ให้น้องเหมียวของเรา เพราะงั้นก็อย่ารอช้า เดี๋ยวจะเปลี่ยนวันกันอีกรอบก่อน ก็จัดไปเลยจ้า เอาไปวางโล้ด ใครชอบแนวสวยก็ตกแต่งตามสะดวกเลยจ้า Sandbox ทั้งที เมื่อวางครบแล้วซักพักเราจะเห็นน้องเหมียวมาแบบไม่ต้องไปรายงานกันเลยทีเดียว (ฮา) ซึ่งเมื่อเราแจ้งกับเธอแล้ว เธอก็จะมอบเบ็ดตกปลาเก่าๆ ให้เราอันหนึ่งเป็นของรางวัลที่เหนื่อยยากมา ทำให้เราสามารถตกปลาได้อย่างสบายอุราเพิ่มเติมกันไป เย่ะ เหมือนจะยุ่งยากแต่พอเริ่ทำเป็นก็สบายแล้วล่ะจ้า วิ่งหาวิ่งทำ จบ

Read more

ในเมื่อไม่ต้องพะวงเรื่องความสัมพันธ์กับคนในหมู่บ้านมากนักแล้ว หลักๆ ใน Staxel ของผู้เล่นจึงเป็นการพะวงกับสัตว์และการหาเงินนั่นเอง แถมไอ้เจ้าผลผลิตเกมนี้ก็ช่างขายได้ราคาน้อยนิดเสียเหลือเกิน ขายเยอะๆ ก็ราคาตกอีก อ่ะ แต่นั่นเป็นเรื่องกลางเกม เอ้า มาดูดีกว่าว่าช่วงต้นเกมเราจะหาเงินกันอย่างไร จะได้มีเงินไว้ซื้อของใช้มาหมุนเพิ่มได้ วิธีการหาเงินต้นเกม ก่อนอื่นเลย สิ่งที่อยากให้ทราบคือ ในช่วง Tutorial ของเกมตอนวันแรกสุดนั้น เวลาในเกมจะถูกหยุดไว้จนกว่าผู้เล่นจะทำตามคำแนะนำของ Farm Girl จนจบที่การใช้ Magic Water รดเมล็ดพันธุ์หรือส่งจดหมายยืนยันฟาร์มให้กับ Maximilian แล้ว ทำให้เราสามารถใช้ช่วงนี้ในการหาเงินช่วงแรกๆ ได้ดีมาก ซึ่งก็ขอแนะนำให้ทำวิธีนี้ หากต้องการบูสเงินต้นเกม เนื่องจากกิจกรรมหาเงินตอนแรกๆ นั้นใช้เวลานานมากหลายวันในเกมตามปกติเลยทีเดียวล่ะ ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีคร่าวๆ ในการหาเงินช่วงแรกจ้า 1. ยุทธการ D-Day *แนะนำให้ใช้วิธีหยุดเวลาวันแรก* ที่ชายหาดของเกาะนั้น มีพื้นที่กว้างมาก และอุดมไปด้วยหอยทาก, ปูเสฉวน, ไข่มุกและสาหร่าย ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่ได้ใช้ทำอะไรพิเศษและสามารถนำมาขายได้ทั้งสิ้นจ้า แต่ว่าการจะวนทั้งหาดนั้นกินเวลานานมากกกกกกก แต่ก็ค่อนข้างที่จะคุ้มค่าในแง่การบูสเงินต้นเกม เพราะเมื่อวนหมดเราจะได้พวกหอยทากกับปูเสฉวนมาถึงอย่างละ 60-70 ตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแน่ใจว่าอณาคตจะมีการ update ให้ปูและหอยเหล่านี้เกิดใหม่หรือไม่ แต่ในปัจจุบันนั้นยังไม่มีการเกิดใหม่ของเหล่าปูและหอยพวกนี้ ดังนั้นควรเว้นจุดเก็บ มีเหลือทิ้งไว้เล็กน้อยบ้างก็อาจจะดีกว่าจ้า 2. แมลง แมล๊ง แมลง *แนะนำให้ใช้วิธีหยุดเวลาวันแรก* ในป่าและรอบตัวเมืองนั้น จะเป็นที่อยู่ของเหล่าแมลงจำนวนมากที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนไปกับเหล่าดอกไม้จำนวนมากยิ่งกว่า ซึ่งข่าวดีก็คือ เหล่าแมลงพวกนี้นั้น นอกจาก Raino Beetle, Queen Bee, Worker Bee แล้วไม่ค่อยได้ใช้ทำอะไรในตอนนี้จริงจัง เหมาะแก่การเอามาขายยิ่งนัก โดยเฉพาะเจ้า Monarch Butterfly ที่มีมูลค่าถึงตัวละ 120 petals เลยทีเดียว ซึ่งข้อดีของการจับแมลงนั้นก็คือพวกมันจะมีการเกิดใหม่เรื่อยๆ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจับแล้วจะหมดไปตลอดกาลแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าจะจับแมลงนั้น ผู้เล่นจะต้องไปซื้อ Bug Net ราคา 60 Petals มาจากร้านขายของก่อนนะจ๊ะ แน่นอนว่าเงินต้นเกมนั้นก็เหลือเฟือแล้วล่ะจ้า จะลำบากก็ตรงการตามหาตัวพวกมันตามดอกไม้หรือต้นไม้นี่ล่ะจ้าที่ลายตาซะเหลือเกิน 3. ของป่าถูกกฎหมาย นอกจากแมลงแล้วนั้น ผู้เล่นยังสามารถหาของป่ามาขายได้อีกด้วย หลักๆ นั้นก็จะเป็นลูกสน Acorn, เห็ดชนิดต่างๆ รวมถึงกล่องสมบัติที่อาจจะเจอบ้างบางครั้ง ที่สามารถนำมาขายได้ (เห็ดนั้นสามารถนำมาทำอาหารขายได้อีกด้วย แต่ต้องสะสมให้ครบทุกชนิดและนำมาปรุงก่อนน้า) ซึ่งถ้าผู้เล่นสังเกตุตามต้นไม้ อาจจะเจอกับดาวสีเงิน Star Jelly ที่มีมูลค่าถึง 210 petals ต่อดวงเลยทีเดียว แน่นอนว่าก็ไม่ได้เอาไปใช้อะไรในขณะนี้ เพราะงั้นขายโล้ดได้เลยจ้า เป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่น่าทำไปพร้อมกับการจับแมลงเพราะอยู่ในป่าเหมือนกันจ้า 4. ควงเบ็ดจับให้สิ้น แม้ว่าโดยหลักแล้วการตกปลาอาจจะทำเงินไม่ได้มากมายนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งในวิธีหาเงินแบบชิวๆ เผาเวลาในช่วงที่มีเหลือเฟือเพราะไม่ต้องแปรรูปของต่างๆ นั่นเอง แต่การจะตกปลานั้นก็มีต้นทุนที่สูงพอสมควร (ประมาณ 2,000 petals) โดยผู้เล่นจะต้องทำเควส Fishing Spot ของ Riah ให้เสร็จเสียก่อนจึงจะได้รับเบ็ดตกปลามาใช้ ยกเว้นจะโชคดีที่ร้านขายของเอาเบ็ดตกปลามาขาย ซึ่งจะประหยัดได้มากโข เพราะตัวเบ็ดถูกมาก การตกปลาให้ได้เงินนั้น ผู้เล่นจะต้องเสียเวลาวิ่งไปตกถึงทะเลเท่านั้น เนื่องจากในสระน้ำในเมือง ตามป่า หรือในฟาร์มนั้น โอกาสที่จะได้ขยะราคา 1 petals นั้นสูงมาก เรียกได้ว่าไม่คุ้มเลยกับเวลาที่เสียไป หากตกได้เจ้าหมึกยักษ์ Octopus ก็สามารถเอาทำอาหารได้อีกด้วย 5. เชฟมือหนึ่ง หากตัดเวลาแปรรูปแล้ว ผู้เล่นจะมีเวลาแต่ละวันในเกมเหลือเฟือมาก ซึ่งมักจะถูกนำไปใช้หาเงินทางอื่นๆ หรือก่อสร้าง แต่บอกได้เลยว่าการแปรรูปผักหรือผลผลิตจากสัตว์นั้น สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว และในเมื่อเกมเป็นแนว Sandbox ทำให้การแปรรูปนั้นก็ต้องใช้เวลาพอควร แต่บอกได้เลยว่าคุ้มค่าแน่นอนจ้า โดยเฉพาะบางเมนูอย่าง Cabbage Soup นั้น คุ้มค่าเครื่องครัวที่ไปซื้อมาทำเลยจริงจัง ลำพังแค่ตัดพวกผัก ไม้ผลบางอย่างที่ตัดได้ก็เพิ่มมูลค่าได้เล็กน้อยแล้วล่ะ ลองดูเอาน่อว่าของที่ปลูกมีอะไรแปรรูปได้บ้าง ถ้าทำเป็นอาหารได้ส่วนมากจะได้กำไรดีขึ้นมากเลยล่ะ 6. ยินดีช่วยเสมอนะเอ้อ การทำเควสหรือคำร้องของชาวบ้านนั้นเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและเสียเวลา บางครั้งค่าตอบแทนก็ไม่ได้คุ้มเลย แต่ถ้าเป็นแค่ของเล็กๆ น้อยๆ อย่างการหาผลไม้(ที่มีขายในร้านถูกๆ) หรือส่งจดหมาย หาของก็คุ้มค่าที่จะทำ แม้บ่อยครั้งผู้เล่นจะได้ของกิ๊งก๊องมา แต่บางทีก็อาจจะไก่มาทั้งตัวเลยก็เป็นได้ ซึ่งนั่นเป็นมูลค่าหลายพัน Petals เลยทีเดียวที่สามารถนำไปขายหรือประหยัดจากการซื้อได้ (เหวอ) อย่างไรก็ตาม ถ้าชาวบ้านร้องขออะไรที่เกินตัว เปย์กันหลักพันผู้เล่นอาจจะยอมปล่อยไปก็ได้ เพราะช่วงแรกนั้นเงินหลักพันเป็นอะไรที่หาได้ยากมากอยู่เช่นกัน โดยปกติแล้ววันไหนที่มีเรื่องให้ทำ ผู้เล่นสามารถเข้าไปที่บาร์และเลือกฟัง Any Rumors จาก Rowan ได้จ้า ถ้ามีคนกำลังต้องการความช่วยเหลือพี่แกจะบอกเรามาเอง *Carrot Cake เป็นหนึ่งในเมนูที่ NPC เรียกถามหาเป็นระยะๆ ถ้าสะดวกก็ลองทำทิ้งไว้ได้น้า* 7. ขุด ขุด ขุดดดดดดด ของเกือบทั้งหมดในเกมนั้นขายได้ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม นั่นรวมถึงหินและไม้ก็เช่นกัน แต่ทว่าการตัดไม้ที่ไม่สามารถพื้นฟูกลับมาได้นั้นดูจะเป็นการทำลายธรรมชาติและแหล่งแมลงไปซะหน่อย แต่ทว่าหินล่ะ!? ใช่ หินก็ฟื้นกลับมาไม่ได้ แต่ทว่ามันมีแทบไม่อั้นใต้ดินที่ไม่มีอะไรซ่อนอยู่นอกจากหินล้วนๆ เลย ก็เป็นอีกวิธีสำหรับคนที่อยากเก็บ Achievement ขุดหิน 1,000 ก้อนไปตัวจ้า โดยเริ่มจากการขุดหินลงไปเรื่อย เมื่อมั่นใจว่าลึกพอก็กวาดให้เรียบนั่นเอง แน่นอนว่าถ้าขี้เกียจทำบันได ก็จะใช้วิธีกด Teleport Home ก็ได้เหมือนกันนะจ๊ะ แต่วิธีนี้อาจจะลำบากต้องหาคบไฟหรือโคมไฟมาวางเป็นแสงสว่างหน่อยล่ะจ้า จะเห็นได้ว่า นอกจากรอผลผลิตจากสัตว์ในแต่ละวันและพืชต่างๆ แล้ว ผู้เล่นก็สามารถหาเงินจากวิธีอื่นได้ แม้จะไม่มาก แต่ก็ช่วยผู้เล่นใหม่ได้ดีมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเล่นแผนโจโจ้หยุดเวลาในช่วงแรกและกวาดของในป่ากับหาดนั้น จะช่วยให้ตั้งตัวได้ง่ายมากขึ้น

Read more
Staxel trick and tip cover myplaypost

ใช่ว่าเกมที่เน้นหาเงินต่อวันเป็นหลักจะไม่มี Trick หรือ Tip อะไร ใน Staxel นั้นความจริงก็มีอยู่เช่นกัน หรืออันที่จริง ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นข้อมูลในเกมที่ไม่ได้มีการบอกกันตรงๆ เสียมากกว่า ในบทความนี้ก็จะเอา Trick และ Tip ต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆกันจ้า บางอันก็อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ก็ได้น้า ยังไงถ้าผิดพลาดก็ชี้แจงแถลงไขได้จ้า Staxel Trick & Tip ใกล้ร้านค้าหลักทั้งสิงร้าน กำลังดีเลยทีเดียว 0. แผนที่ดีมีต่อ ด้วยการสุ่มตอนเริ่มเกมนั้น บางครั้งก็ต้องยอมรับเลยว่าแผนที่ที่สุ่มมาตอนแรกก็มีผลอย่างมากเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นถ้าลานกิจกรรมร้างอยู่ด้านเดียวกับฟาร์มของเราแล้วตัวฟาร์มดันผ่าไปอยู่ด้านหลังลานนี้อีก บอกได้เลยว่าวิ่งเข้าเมืองทีนี่ ม้ามกระเพื่อมแน่นอนจ้า หรือถ้าใครที่จะวางแผนสร้างอะไร อยากปลูกนู่นนี่นอกฟาร์มใกล้ๆ แต่ดันพื้นที่ไม่อำนวย ขั้นบันไดหลายตลบ ปรับเปลี่ยนยาก ก็จะต้องเสียเวลากันเป็นปีเพื่อจะปรับพื้นที่แน่นอน จึงบอกได้เลยว่าช่วงแรกที่สร้างโลกขึ้นมานั้น การเปิดแผนที่และลองเช็คตำแหน่งชัยภูมิคร่าวๆ นั้นจะช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างมากแน่นอน   กว่าจะหมดหาดนี่เป็นสิบนาทีอ่ะ ถ้านับวันในเกมนี่ 2-3 วันแน่นอน 1. วันแรกคือสวรรค์ อย่างเช่นที่เคยได้กล่าวไปก่อนหน้า วันแรกสุดของเกมนั้น หากผู้เล่นยังไม่ได้จบ Tutorial โดยการใช้ Magic water ใส่ผักและเก็บมา หรือส่งจดหมายให้กับ Maximilian (กรณีที่ลุงแกถาม) นั้นเวลาในเกมจะถูกหยุดเอาไว้ ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการเริงร่าได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการมองหาทำเล เตรียมพื้นที่ ไล่จับแมลง บุกถล่มหาด ตัดไม้อะไรต่างๆ แม้ว่าอาจจะดูน่าเกลียดไปนิด แต่เชื่อได้เลยว่าไอ้การหาทำเลหรือดูที่ทางนั้น เวลาในเกมไม่เพียงพอเท่าไหร่กับการวางแผนเล่นระยะยาวแน่นอน และหากเวลาไม่เดิน ผู้เล่นก็ทำอะไรไม่ได้มากนักเพราะผักก็ไม่โต รายได้ก็หาได้ยาก อุฮิ   2. Teleport Home ไม่อั้น อันนี้เป็นอะไรที่พื้นฐานจริงจังมาก แต่หลายคนก็ไม่ค่อยได้กดใช้เท่าไหร่ ซึ่งอันที่จริงเป็นอะไรที่ประหยัดเวลาเดินทางได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปตกปลาที่ทะเลแล้วจะกลับ การแวะเข้าเมืองแล้วรีบชิ่งกลับ นอกจากนี้แล้วจริงๆ คำสั่งนี้นั้นจะใช้วาร์ปกลับไปยังเตียงที่นอนล่าสุด เพราะงั้นผู้เล่นสามารถใช้เตียงของชาวบ้านหรือเอาเตียงของตัวเองก็ได้ ไปวางบันทึกตำแหน่งที่อยากจะวาร์ปกลับได้ดังใจเลยทีเดียว แน่นอนก็เสียที่วาร์ปได้แค่จุดเดียวนั่นแล แต่ถ้าเลือกจุดดีๆ แล้วจะทำให้สามารถประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แถมผู้เล่นอยากกด Teleport กี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัดในแต่ละวัน   ทายซิว่านี่ที่ไหน .... ใต้ฟาร์มลึกลงไป 20 ช่องยังไงล่ะ :3 3. ทุกที่คือฟาร์ม แน่นอน ด้วยความที่มันเป็น Sandbox ทำให้พื้นที่การทำฟาร์มของผู้เล่นนั้นไม่จำกัด อากจะไปทำในเมือง กลางภูเขา ใต้ดิน หรือในฟาร์มตัวเองก็ไม่มีใครห้าม NPC ก็ทำอะไรเราไม่ได้มุฮ่า ไม่ต้องถูกจำกัดกับขอบเขตของฟาร์มตัวเองเท่าที่รั้วมีเท่านั้นเหมือนที่สามัญสำนึกของเราคิดไว้ อย่างไรก็ดี การทำฟาร์มนอกพื้นที่กว้างๆ นั้นก็ต้องระวังในเรื่องของการบริหารเวลาและการตามไปรดน้ำล่ะจ้า เพราะถ้าพลาดรดน้ำซักวันนี่เหนื่อยตามเก็บแน่นอนจ้า จะใช้วิธีขุดดินลงไปด้านล่างเพื่อลัดเวลาก็ได้ ไม่ต้องวิ่ง โดดลงไปเลย ขากลับก็ Teleport กลับ แต่วิธีนี้คงต้องขุดหินเตรียมที่กันนานนนนนนนน หน่อยล่ะจ้า ไม่นับหน้าดินอีก (ฮา)   รดได้ก็จริง แต่ไม่จำเป็นจ้า 4. ต้นไม้และพุ่มไม้ ดูแลน้อยแต่คุ้มค่า หลายคนอาจจะสังเกตุว่าเวลาเรารดน้ำต้นไม้ทีไร ตัวเกมจะเด้งเตือนว่าพืชชนิดนี้ไม่ต้องรดน้ำ ซึ่งก็ตามนั้นเลยจ้า ต้นไม้ผลต่างๆ และพุ่ม Berry ต่างๆ นั้นจะไม่จำเป็นรดน้ำแต่อย่างใด แค่หาที่ปลูกมันลงไปก็เพียงพอแล้ว แถมทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งคือความสะดวกสื่อของไม้ทั้งสองชนิดนั่นเอง ในขณะที่ต้นไม้ผลนั้นสามารถปลูกได้ตลอดปี แต่จะออกผลแค่ในหน้าของตัวเองเท่านั้น ในเวลาเดียวกัน พุ่มเบอร์รี่จะถูกบังคับให้ปลูกได้เฉพาะในฤดูของตัวเองเท่านั้น แต่ไม่จำเป็นต้องรดน้ำเหมือนกันและไม่กินพื้นที่เยอะเท่ากับต้นไม้อีกด้วย *อย่าลืมเว้นช่องว่างเล็กน้อยระหว่างต้นไม้ จะได้เดินผ่านได้นะ*   5. Shipping Box & Shipping Catalog ของสองอย่างนี้จะต้องใช้คู่กัน (อันที่จริง Box น่ะไม่ต้อง แต่ Catalog ต้อง...) โดยมีมูลค่าถึงชิ้นละ 2,500 petals แต่ก็คุ้มค่าเป็นอย่างมาก โดยตัว Catalog จะทำให้ผู้เล่นสามารถซื้อของกว่า 80% ในเกมได้โดยไม่ต้องรอร้านค้าสุ่มออกมาขาย แถมเลือกจำนวนเป็นหน่วยที่ต้องการได้สบายๆ อีกด้วย แถมยังซื้อของประดับที่ปกติจะเก็บไม่ได้อย่างดอกไม้ แท่งไม้ ได้อีกด้วย ตัวผู้เล่นจะจำกัดการซื้อได้เพียง 10 ชนิดต่อรอบการซื้อเท่านั้น ส่วน Shipping Box นั้นจะใช้ในการรับของที่สั่งจาก Catalog และขายของ โดยของที่ขายจะขายได้เพียง 6 ชนิดต่อวัน และจะได้รับเงินในวันรุ่งขึ้น รวมถึงของที่สั่งจาก Catalog เองก็เช่นกัน ต้องรอเวลาส่งของหนึ่งวัน แต่ถ้ารีบใช้ด่วน ก็สามารถใช้คำสั่ง Expend ซึ่งจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกพอสมควรเลยทีเดียว แต่เมื่อจ่ายแล้วของที่สั่งไปก็จะส่งมาในทันทีที่ Shipping Box เลยจ้า   ขี้เกียจการบางตัวก็ซื้อมันดื้อๆ นี่ล่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะซื้อได้ทุกตัว แย่จริงๆ 6. Collection ซื้อเอาได้นะ!? อาจจะเป้นจุดที่ทางคนทำมองข้าม หรือไม่ได้เขียน Code กำกับไว้ แต่ก็เป็นไปแล้ว นั่นคือ Achievement แบบในเกมที่ขึ้นกับ World นั้นๆ จะได้สามารถได้รับจากการครอบครองของชนิดนั้นๆ เอาไว้ (พวกแมลงหรือปลา) นั่นหมายถึงเพื่อนๆ ที่มี Shipping Catalog / Box นั้นสามารถซื้อของที่ขายไปมาสะสมได้เลยนั่นเองจ้า อย่างไรก็ดี ตัว Catalog ก็จะไม่ได้มีขายทุกอย่างนะจ๊ะ เพราะงั้นของบางอย่างก็ยังต้องหาเองอยู่ แต่ก็ทำให้สามารถข้ามบางอย่างที่หาได้ยากและเสียเวลาเกินไปได้เช่นกัน โดยเฉพาะแมลงที่บางทีก็หาตัวยากหรือหายไปเหมือนไม่มีตัวตนเลยซะงั้น แย่   ขายแค่พอจำนวนให้ตลาดฟื้นตัวทันก็เป็นวิธีที่ง่ายอยู่ 7. รับมือกับระบบ Demand - Supply ตัว Staxel นั้นตลาดจะมีการล๊อคจำนวนของที่ขายได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นปั้มของอย่างเดียวกันเยอะๆ มาขายเพราะทำเงินได้ดีสุดเหมือนเกมอื่นๆ นั่นเอง ทำให้ผู้เล่นถูกบังคับให้ต้องหาของที่ขายได้ไม่ดีเท่าหมุนวนกันไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรับมือเลย ซึ่งวิธีรับมือก็ง่ายกว่าที่คิด โดยแบ่งเป็นสองอย่างคือ ขายในปริมาณที่เหมาะสมเป็นช่วงๆ แทน ด้วยวิธีนี้จะทำให้ราคามีการฟื้นตัวทัน ไม่ขาดทุนมากเกินไป สะสมแล้วเทขายบรึ้มเดียวในวันสุดท้ายของฤดูนั้น วิธีนี้จะทำให้ได้กำไรชุดเดียวเต็มๆ เลย แลกกับการที่เงินจมลงไปจากการที่ต้องรอขาย แต่กว่าที่ฤดูที่เราจะปลูกและรอขายใหม่ได้อีกครั้งวนกลับมา ราคาก็ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติแล้วล่ะ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผู้เล่นยังไม่เงินสะสมสำรองไม่มากและยังต้องซื้อของบ่อยๆ อย่างในปีแรกๆ นั้น แนะนำให้ขายของจำนวนน้อยๆ ในช่วงต้น-กลางฤดูและสะสมไปถล่มตอนหมดฤดูจะดีกว่าจ้า   ไม่จำเป็นต้องมีดอกไม้ใกล้ๆนะจ๊ะ จะวางมันกลางบ้านเลยก็ยังได้ เทพ เทพ เทพ 8. รังผึ้ง ความคุ้มที่เหลือจะคุ้ม น้ำผึ้งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการหาเงินเสริม เนื่องจากไม่ต้องการดูแลอะไรเป็นพิเศษเลย ผู้เล่นเพียงแค่ซื้อ Aspires จากในร้านค้าในเมือง ตามด้วยการหาราชีนีผึ้ง Queen Bee ตามป่า (ไม่ก็ซื้อเอาซะเลยจาก Catalog) มายัด ซึ่งราชีนีผึ้งจะใช้เวลา 10 วันในการรวบรวมผึ้งงาน...

Read more
Staxel Beginner Cover myplaypost

พูดถึงเกมทำฟาร์มแล้วก้ย่อมมีข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับตัวเกมหรือ NPC ต่างๆ อย่างมากมาย ใน Staxel แม้จะเป็น Early Access ในช่วงแรก แต่ก็มีหลายอย่างที่ผู้เล่นต้องค้นหาหรือจำอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งในบทความนี้ก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ เบื้องต้นที่ผู้เล่นควรทราบนั่นเองจ้า เริ่มต้นกับการควบคุมตัวละคร ก่อนอื่นเลยว่าด้วยการควบคุมตัวละคร ใน Staxel นั้นจะเป็นเกม 3D แบบ voxel world (โลกแบบกล่องๆ) เหมือนกับ Minecraft แต่ด้วยความที่เกมพึ่งพัฒนาทำให้ยังไม่มีการตั้งค่าปุ่มได้ในเกม ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ก็จะมีดังนี้ W A S D : ปุ่มพื้นฐานนี้จะใช้ในการควบคุมทิศทางของตัวละครเป็นหลักในการเดินหน้า ถอยหลัง ไปทางซ้ายหรือขวา Spacebar : ใช้ในการกระโดด / ลุกขึ้นจากเตียง, เก้าอี้ Tab : ใช้ในการเปิดหน้าจอไอเทมของเรา M : ใช้ในการเปิดแผนที่ของเกม Q : ใช้สำหรับโยนไอเทมที่ถืออยู่ลงพื้น คลิ๊กซ้าย : ใช้งานไอเท็มที่ถืออยู่, วางไอเท็มบนพื้นที่ เช่นชั้นวางของ ที่ขายของ คลิ๊กขวา : ใช้คุยกับ NPC, สำรวจ, หยิบของ (ถ้าเป็นร้านคือซื้อของ), ใช้งานของ ลูกกลิ้ง Mouse : ใช้เลื่อนของที่กำลังถืออยู่ในมือ แถบตัวเลข 1-0 : สลับไปถือของที่อยู่ในช่องนั้น หมุนของตอนวาง : กดคลิ๊กซ้ายค้างไว้ตอนวางของ จากนั้นเลื่อนลูกกลิ้ง Mouse เพื่อหมุนทิศทาง ESC : เปิดเมนูของเกม F10 : หยุดเกมและเรียก Curser ของ Mouse ขึ้นมาโดยไม่ต้องกด ESC F11 : สลับระหว่าง Full Screen / Window Mode โดยไม่ผ่าน Menu ตามด้วยเกี่ยวกับตัวละครแบบอื่นๆ การซื้อของ : เล็งของที่ต้องการให้แน่ใจ และกดคลิ๊กซ้าย รอซักครู่ให้ขึ้นข้อความว่าซื้อแล้วค่อยขยับตัว เดี๋ยวจะได้อย่างอื่นแทน เกมนี้ซื้อทันที ณ การคลิ๊กนะจ๊ะ ระวังหมดตูด การขายของ : นำของที่ต้องการวางบนกล่องสำหรับขายด้วยการคลิ๊กซ้าย และกดคลิ๊กขวาที่ตัวกล่อง (หากกดที่ไอเทมคือหยิบกลับมา) แสดงมุมมองแบบบุคคลที่สาม : เลือก Option และตั้งเป็น Third Person ปรับตัวละครผู้เล่นให้ใส : เลือก Option และตั้งเป็น Transparent Player Avatar ทำให้ NPC ไม่หันมามอง : เลือก Option -> Control (ด้านบนหัวข้อสุดท้าย) -> Other -> ติ๊ก Prevent NPC Staring แสดงมุมมองกล้อง (ไม่มีรายละเอียดและชื่อ NPC) : เลือก Option และตั้งเป็น Camera Mode (ปิดได้ด้วยปุ่ม ESC)   การเริ่มต้นกับฟาร์มของเรา เนื่องจากตัวเกม Staxel มีความเป็น Sandbox ทำให้แผนที่แต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน โดยหลักจุดที่จะต่างก็จะเป็นตำแหน่งของฟาร์มและตัว Festival Square ที่อยู่ด้านไหนแทน ตรงนี้ผู้เล่นแต่ละคนเลือกไม่ได้แต่สามารถกดเปิดแผนที่ดูก่อนได้ว่าตำแหน่งอะไรโอเคไหมนะจ๊ะ เช่นเดียวกับเกมอื่นๆ ผู้เล่นจะเริ่มมาโดยมีคนช่วยแนะนำเกี่ยวกับฟาร์มให้กับเรา ซึ่งในที่นี้ก็คือ NPC สาวน้อยชื่อว่า Farm Fan นั่นเอง เธอจะแนะนำสถานที่บางส่วนให้กับเรา พาเราไปดูฟาร์ม เพื่อนๆ สามารถเดินตามเธอและทำตามที่เธอบอกได้เลย ไม่มีอะไรวุ่นวายเป็นพิเศษในช่วงนี้ ตอนที่คุยกับ Rowan ครั้งแรก เขาจะถามว่าชอบหมาหรือแมว ตรงนี้จะเป็นการเลือกสัตว์เลี้ยงประจำตัวเราจ้า Farm Fan จะเดินช้าๆ ให้เราตามทัน แต่ถ้าเราตามหลังเธอติดๆ แล้วเธอจะเดินเร็วขึ้นเท่ากับเรา ย่นเวลาได้เยอะเลย ในช่วงแรกเกมจะไม่มีการคิดเวลา ผู้เล่นสามารถแว่ปไปซื้อของล่วงหน้ามาเคลียร์พื้นที่ฟาร์มได้เลย นอกจาก NPC ทุกคนยังสามารถมอบงานให้เราได้ตั้งแต่แรกอีกด้วย หลังจากมาถึงฟาร์มแล้ว เธอจะเริ่มมอบอุปกรณ์ทำฟาร์มให้กับเราและให้เราลองทำทีละขั้นตอน จากนั้นก็จะให้เรากลับไปเอาเครื่องดื่มจาก Rowan อีกครั้งหนึ่ง เมื่อไปถึงเขาก็จะให้เราไปเอาของจาก Leif ที่ร้านขายของชำ (Supermarket / Glossary Store) เพื่อนๆ จะได้รับชามข้าวและอาหารสัตว์เลี้ยงมาจาก Leif ด้วย จากนั้นค่อยกลับไปหา Rowan เมื่อกลับมาหา Farm Fan อีกครั้ง ก็จะได้รับบ้านสัตว์ที่ได้เลือกไว้และการโดนบังคับให้หาที่วางบ้านสัตว์ ตรงนี้ก็แล้วแต่สะดวกเพื่อนๆ เลยจ้า แต่ก็ต้องเตือนไว้ก่อนว่าเจ้าหมา แมวที่ได้มาเนี่ย เวลาอยู่ในฟาร์มมันจะติดเราแจเลยทีเดียว ระวังจะเกะกะนะจ๊ะ (เกะกะมากก็ทุบบ้านสัตว์ก่อนก็ได้น่อ) เมื่อวางบ้านเสร็จ ก็จะตามด้วยการวางชามข้าวและเติมอาหาร เป็นอันเสร็จกิจชุดนี้ ตามด้วยการที่เธอจะแนะนำการใช้น้ำวิเศษเร่งโตให้กับเราต่อ เอาไปรดเจ้าหัว Beetroot และเก็บกลับมาก็จะเสร็จหน้าที่ของเธอ แยกย้ายกันไป *เวลาในเกมจะเริ่มเดินหลังจากผู้เล่นได้รับใบยืนยันฟาร์มมาจ้า* ต่อจากนั้นให้ไปหา Maximilian ที่เป็นผู้ว่าอีกครั้ง (บางครั้งอาจจะไม่อยู่ที่ City Hall ให้กดเปิดแผนที่หาตัวลุงหน้าตาใจดีใส่หมวกสีฟ้าเอาแทนจ้า) พร้อมกับยื่นใบลงทะเบียนฟาร์ม เป็นอันลงทะเบียนเสร็จสิ้น และแนะนำให้เราไปหา Aliza เพื่อสร้าง Barn หรือคอกเลี้ยงสัตว์ Aliza จะเป็น NPC สาวก่อสร้างผู้รับผิดชอบงานเกี่ยวกับการสร้างในเมือง เธอจะอยู่ในชุดชอปช่างที่ดูออกได้ง่ายพร้อมและมักจะอยู่ที่ร้านของเธอ เมื่อคุยกับเธอแล้วเราก็จะได้รับป้ายสร้างคอกและขวานมาเพื่อใช้ในการเริ่มสร้างคอก ด้วยความเป็น Sandbox ทำให้การสร้างนั้นไม่ใช่แค่หาวัตถุดิบมา แต่ต้องแปรรูป ต่อเติมเองอีกตะหาก *ข้อควรระวัง ของที่หล่นตามพื้นจะหายไปหากทิ้งไว้นานๆ หรือเมื่อออกจากเกม เพราะงั้นอย่าลืมเก็บก่อนนะจ๊ะ* ซึ่งเมื่อเล่นมาถึงตรงนี้แล้ว ตัวเกมก็จะปล่อยให้ผู้เล่นเป็นอิสระ อยากทำอะไรก็ทำชิวๆแล้วล่ะจ้า ก็เริ่มตะลุยเล่นจริงๆ ได้เลย   รู้จักกับ NPC ต่างๆ ขึ้นชื่อว่าฟาร์มเกม จะไม่มี NPC เลยก็จะตลกเกินไปแล้ว แต่ก็น่าเสียดายที่ Staxel ยังกำลังพัฒนาอยู่(รอบที่แล้วไหร่แล้วเนี่ย เง้อ) ทำให้ยังจีบใครไม่ได้ อ่ะไม่เป็นไร มาดูกันก่อนดีกว่าใครเป็นใคร เผื่อ NPC มีการถามหาจะได้ไปหาถูก อันที่จริงแต่ละคนในตอนนี้ก็จะยังไม่มีหน้าที่อะไรพิเศษ แต่ก็จะมีการถามหาไอเทมเป็นเสมือนเควส หรือให้เราช่วยสร้างอะไรซักอย่างให้เช่นกันจ้า   Farm Fan คนแนะนำฟาร์มให้กับเรา  ...

Read more

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Staxel นั้นก็คือการที่รองรับการเล่นแบบ Multiplayer กับคนอื่นได้ ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นด้วยกัน ทำฟาร์มไปด้วยกัน แย่งแมลงกันได้ แถมในตอนนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีการจำกัดจำนวนผู้เล่นที่เล่นพร้อมกันได้อีกด้วย เรียกว่าชนกันตายยังได้ แต่การจะเล่นผ่านระบบ Multiplayer นั้นก็ออกจะวุ่นวายเล็กน้อยจ้า มาดูกันว่าทำอย่างไรบ้างดีกว่า วิธีการ Host แบบ Dedicate Server 1. ให้ทำการคลิ๊กขวาที่ตัวเกม Staxel ใน Steam และเลือก Launch Dedicated Server จะปรากฎส่วนของ Server Wizard ขึ้นมา 2. สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ตามสะดวกตรงนี้เลย แต่ถ้าจะเอาง่ายก็ไม่ต้องตั้งอะไรพิเศษก็ได้จ้า และกด Start Server เป็นอันเรียบร้อย ห่ะ ง่ายไปแล้ว! .... ก็นะ ไม่มีกระทั่งตัวเลือกให้เลือกจะสร้างโลกยังไงเลยนี่นะ อย่างไรก็ตาม การ Host แบบนี้ หากคนครี(เฉพาะคนที่เล่นผ่าน Steam)ต้องการเข้าไปเล่นนั้น ต้องทำการกด Start Game Client / Start Game Client with Steam จ้า ไม่งั้นจะเข้าเกมไม่ได้เพราะตัว Server ทำงานอยู่ทำให้ตัว Steam เข้าใจว่าเป็นการเปิดเกมซ้อนกัน *หากต้องการรี World ใหม่ให้ปิด Server และเข้าไปลบ World ทิ้งจ้า   การ Join server ผู้เล่นจะมีวิธีการ Join Server ได้สองวิธี นั่นคือการเข้าผ่านในเกม วิธีการ Join ผ่านเพื่อนที่กำลังเล่น Staxel อยู่ 1. การเข้าผ่านในเกมนั้น ทำได้โดยการเข้าเกมไปและเลือกในส่วนของ Multiplayer ซึ่งตัวเกมจะให้กรอก IP Address และ Password ของตัว Server ที่ผู้เล่นอยากเข้าไปเล่น ก็ต้องใส่ให้ถูกต้องจ้า เมื่อถูกต้องก็จะโหลดเข้าไปเล่นกันได้ เพื่อนที่เล่นต้องติ๊กตรงนี้ก่อนเข้าไปเล่นนะจ๊ะ 2. การเข้าผ่านวิธีการ Join ด้วย Steam วิธีนี้จะง่ายกว่า แต่ว่าเพื่อนที่กำลังเล่นอยู่จะต้องมีการติ๊กให้เพื่อนเข้าเล่นได้ (Allow Friend Join) ด้วยเสียก่อน (ในเกมจะไม่มีให้ตั้งตรงนี้จ้า) การใช้ Hamachi ในการเล่นด้วยกัน ในกรณีที่บางครั้งมีปัญหาเล่นด้วยกันไม่ได้ อาจจะด้วยว่าติด Firewall, Net ชนกัน หรือ Steam เข้ากันไม่ได้ซักที ผู้เล่นก็มีตัวเลือกสำรองเช่นการใช้โปรแกรมช่วยเหลืออย่าง Hamachi มาใช้ได้ สำหรับวิธีการติดตั้งและการใช้งานเบื้องต้นสามารถอ่านได้ จ้า เมื่อเพื่อนๆ ที่จะเล่นกันเชื่อมกันใน Hamachi Network แล้ว ก็สามารถเลือกวิธีการ Host ได้ตามสะดวกเลยจ้า เพียงแต่คราวนี้ให้เปลี่ยนจาก IP ของเครื่องจากเดิมเป็น IPv4 ของทาง Hamachi แทนในกรณีที่เป็นการ Host แบบ Dedicate Server เท่านั้นก็พอจ้า ก็เป็นอันจบวิธีการเล่นกับเพื่อนๆ พร้อมกันใน Staxel จ้า ในส่วนของ Quest อะไรต่างๆ ก็จะอ้างอิงจากคนที่เป็น Host จ้า คนที่ Join ไม่ต้องกังวลอะไรมากแต่อย่างใด

Read more

เครื่องประดับเนื่องจาก Dungeon ทั้งหมดใน Tree of Savior นั้นถูกเปลี่ยน level ที่เข้าได้ใหม่เกือบทั้งหมด ส่งผลให้ item ที่เคย drop จาก cube มีการเปลี่ยนแปลง ทางเราจึงรวบรวมรายชื่อ item ทั้งหมด รวมถึงจำนวน silver ทั้งหมดมาให้เพื่อนๆ แล้วครับ Credit: Greyheim from iTOS Forum หมายเหตุ: ในอนาคตจะมี patch update UI ที่จะแสดงรายละเอียด item ที่มีโอกาสได้รับใน dungeon   Dungeon 50 อาวุธหลัก อาวุธรอง เกราะ อาวุธเกรดสีฟ้า level 40 Silver Falchion Mandrapick Ice rod Iron bow Wide crossbow Five hammer Recipe - beetleback Arde dagger Dratt shield ไม่มี เครื่องประดับ อื่นๆ จำนวน Silver ที่มีโอกาสได้รับ (ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์การเคลียร์ดันเจี้ยน) Recipe - Magic Talisman Recipe - Strength Pendant Auru medal Platina medal Plants bracelet Recipe - control bangle Broken anti-dark property bracelet, Slightly Broken Anti-Cold Property Necklace Recipe - knotted armband Instanced dungeon clear voucher (1 ดาว) Talt Opal Zircon Enhance hair accessory scroll gem 1 ดาว ทุกสี silver bar gold bar mercury shadowgaler card Sapphire 8,000 - 40,000 silver   Dungeon 120 อาวุธหลัก อาวุธรอง เกราะ Maledic Recipe - Valia Recipe อาวุธเซ็ต Tilly Recipe อาวุธเซ็ต Seimos Ledas shield เกราะเซ็ต Turn เครื่องประดับ อื่นๆ จำนวน Silver ที่มีโอกาสได้รับ (ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์การเคลียร์ดันเจี้ยน) Recipe - petamion Petamion (เป็นชิ้น) Recipe - Agny necklace Recipe - Anti Dark Property Necklace Recipe - Anti Cold Property Bracelet Instanced dungeon clear voucher (1 ดาว) Talt Opal Zircon Enhance hair accessory scroll gem 1 ดาว ทุกสี silver bar gold bar mercury Necroventer Card 18,000 - 90,000 silver   Dungeon 180 อาวุธหลัก อาวุธรอง เกราะ อาวุธเกรดสีฟ้า, ม่วง, ส้ม level 170 Recipe - Hell and Heaven Recipe - Grajus Recipe - Viper Recipe - Drake tail Recipe - Isbality Recipe อาวุธเซ็ต Khasti Recipe อาวุธเซ็ต Catacombs Recipe - Ignition Recipe อาวุธเซ็ต Magas items Recipe อาวุธเซ็ต Maga items อาวุธเซ็ต Aston Recipe - Brandish อาวุธเซ็ต Vienie Recipe - Manamana Recipe - Aias Rcipe - Venom Recipe - Otrava Shield Superior Aston pistol ชุดเกราะเซ็ต Tyla Recipe ชุดเกราะเซ็ต Roxona เครื่องประดับ อื่นๆ จำนวน Silver ที่มีโอกาสได้รับ (ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์การเคลียร์ดันเจี้ยน) Recipe - Max Petamion Recipe - Sissel Bracelet Recipe - Animus Instanced dungeon clear...

Read more

Diana เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่เก่งกาจใน Heroes Evolve อีกตัวหนึ่งที่สามารถพลิกแพลง skill เพื่อรับมือกับรูปเกมต่างๆ ที่พบเจอได้ในขณะนั้น ซึ่งถือว่าเป็นแครี่ที่มีความสามารถในการหลบหนี และทำ damage ได้ดีในตัวเดียว นอกจากนี้ยังเป็นฮีโร่ที่ได้รับความนิยมใน rank เช่นเดียวกันครับ Skills ภาพ ชื่อสกิล ความสามารถ Soul Shock ยิงลูกศรไปยังเป้าหมาย สร้างความเสียหายทางกายภาพ เสริมพลัง : ยิงได้สองครั้ง การยิงครั้งแรกจะทำการล็อคศัตรูอยู่กับที่ 1 วินาที และหากยิงครั้งที่สองจะผลักศัตรูกระเด็นถอยหลังไป ความเสียหาย : 150/190/230/270 ใช้มานา : 70/80/90/100 คูลดาวน์ : 10 รัศมี : 900   Hunter’s Dash กระโดดไปยังทิศทางเป้าหมาย การโจมตีครั้งต่อไปของ Diana จะได้รับโบนัสความเสียหายกายภาพ นาน 3 วินาที เสริมพลัง : ศัตรูจะมองไม่เห็น Diana นาน 4 วินาที หลังจากกระโดด โบนัสความเสียหาย : 75/120/165/210 ใช้มานา : 45/55/65/75 คูลดดาวน์ : 8 ระยะ 550   Divine Power(Ultimate) เพิ่มบัฟให้แก่สกิลต่างๆ   Curse Of Flesh(Passive) การโจมตีพื้นฐานแต่ละครั้งจะทำเครื่องหมายศัตรูเป้าหมายด้วยคำสาปแช่ง 1 สำหรับ 5 การโจมตีขั้นพื้นฐานครั้งต่อไป จะทำให้เกิดการสาปแช่ง สร้างความเสียหายให้กับหน่วยโดยมีสแต็คสูงสุด 3 เสริมพลัง : การโจมตีของ Diana จะไม่สนใจการลดเกราะและการสะกดของเป้าหมายหากมีการสาปแข่ง แต่ละการซ้อนทับเพิ่มโบนัสความเสียหาย 12/18/24/30   แนวทางการอัพสกิลของ Diana จุดเด่นของ Diana อยู่ที่ skill Ultimate ที่เป็นการเพิ่มความสามารถของสกิลต่างๆ นั่นทำให้ Diana สามารถปรับสกิลเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์ตรงหน้าได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น • กรณีต้องการ CC ในการเข้าไฟท์ หรือการการันตีการฆ่า กับอัพสกิลอัลติและเลือกเพิ่มความสามารถให้กับสกิล Soul Shock ก็ถือว่าเป็นอะไรที่เด็ดดวงมาก • กรณีที่ต้องการหนีจากการ gank หรือไฟท์ที่ไม่มีทางสู้ชนะ การอัพ Ultimate และเลือกความสามารถ Hunter’s Dash ก็จะช่วยให้เราหนีรอดได้ค่อนข้างจะ 100 เปอร์เซ็นต์จากการล่องหนเลย นอกจากนี้การนำผลของสกิล passive และสกิล Hunter's Dash มาใช้ร่วมกันจะสามารถทำ damage ได้สูงมาก พูดภาษาง่ายๆก็คือการยิงให้ครบ 3 สแต็ค และกลิ้งยิงอีก 1 ทีนั่นเอง สกิล 1 นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อ damage แต่เอาไว้ CC ศัตรูเท่านั้น ดังนั้นอัพไว้แค่ 1 ก็เพียงพอแล้ว แนวทางการเล่น 1. Ultimate ของ Diana นั้นเมื่อกดอัพแล้วจะต้องเลือก skill ที่ต้องการจะอัพเกรดอีกที ดังนั้นจะอัพเกรดอะไร ต้องดูสถาณการณ์ในเกมเป็นหลัก 2. Diana เป็นแครี่ที่มีความสามารถในการยิงเป้าหมายเดี่ยว และเธอไม่มีาสกิลหมู่เลยแม้แต่สกิลเดียว ดังนั้นหากในทีมมีตัวที่ใช้สกิลเดี่ยวเยอะแล้ว อย่าเลือกเล่นเด็ดขาด 3. ประโยชน์ของสกิล 1 คือการ CC ในตอนแรกหากยังไม่ได้อัพเกรด จะสามารถยิงได้แค่ครั้งเดียว และคุณสมบัติจะเป็นผลักศัตรูออก ซึ่งไม่ควรยิงสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะว่าอาจจะทำให้การฆ่าครั้งนั้นล้มเหลวเลยก็ได้ แต่เมื่ออัพเกรดแล้ว การยิงนัดแรกจะเป็นล็อคขา ซึ่งมันช่วยให้เราม๊โอกาสได้จัดการฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น ยิงครั้งเดียวก็พอ นัดที่ 2 ที่เป็นผลัก ไม่ต้องยิงก็ได้ 4. การใช้สกิลกลิ้ง (Hunter’s Dash) นั้นช่วยให้ damage ของเราเพิ่มขึ้น สามารถใช้คู่กับ passive 3 สแต็คของเราได้ 5. เนื่องจากเป็นแครี่ยิงเดี่ยว จึงทำให้มีความสามารถในการดันป้อมสูงมาก สามารถแยกดัน และหนีกลับโดยศัตรูจับไม่ทันได้อย่างง่ายดาย การออกไอเทม เน้นดูดเลือด/ร่างแยก หลังจากออกไอเทมชิ้นที่ 2 ได้แล้ว จะเร่งทำขวานแยกร่างทันที เพื่อเร่งดาเมจเป้าหมายเดี่ยวให้กับเราครับ และปิดท้ายด้วยหน้ากากที่สามารถกดดูดเลือดให้กับเราเมื่อทำการโจมตีครับ เซ็ตนี้จะค่อนข้างอาศัยความสามารถในการใช้ไอเทมขวานแยกร่างให้ถูกสถานการณ์ครับ เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ เน้นทำดาเมจในแต่ละฮิต / หลบหลก อันนี้เป็นเซ็ตที่ไม่ต้องกดใช้ไอเทมในการเข้าไฟท์เลยครับ เพราะว่ามันไม่มีให้กด (ฮา) เหมาะสำหรับคนที่เน้นกดสกิล และพริ้วๆ หน่อยนึง ไอเทมชิ้นที่ 3 และ 5 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้เข้ากัน ซึ่งจะทำดาเมจได้มหาศาล ตัวแทงค์ก็ตัวแทงค์เถอะครับ ยิงล้มมาเยอะแล้ว   Glyph แนะนำ สีแดงก็ใช้ Glyph แครี่ทั่วไปครับ เน้นเอาซักอย่างว่าจะเอา attack speed หรือ damage โดยผมขอแนะนำเป็น attack speed เพื่อจะทำให้เราสร้างสแต็คได้ไวครับ สีแดง: Thievery/Trickster สกิลสีแดงที่แนะนำ: Miser ในส่วนของสีฟ้าก็เช่นเดิม เลือกเอาซักอย่าง แต่ต้องไปในทิศทางเดียวกับสีแดงนะครับ อย่าเอากึ่งๆ สีฟ้า: Shiv/Burst สกิลสีฟ้าที่แนะนำ:  Oppressor สีเขียวเจาะเกราะ ไม่มีอะไรเหมาะกับแครี่มากกว่า Glyph นี้แล้วครับ สีเขียว: Penetration สกิลสีเขียวทีแนะนำ:  Devourer/Back and forth (Major) กรณีชอบแยกดัน   ข้อดี ข้อเสีย เป็นแครี่ที่มีความสามารถในการหลบหลีกได้ดีเยี่ยม การฆ่า Diana นั้นถ้ามาแบบเดี่ยวๆ นั้นทำได้ยากมาก หากใช้สกิลผิดจังหวะ ยกตัวอย่างเช่น เผลอใช้ไปแล้ว จะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เพราะว่าสกิล CD นานมาก และการอัพสกิลไม่ได้ช่วยลดระยะเวลา CD แต่อย่างใด สกิล 1 สามารถผลัก และล็อคขานั้นถือว่าเด็ดมาก เป็นแครี่อีกตัวหนึ่งที่สามารถชงให้เพื่อนได้ดี สกิล 1 damage เบามาก การยิงเป้าหมายเดี่ยวนั้นแรงมาก ยิงได้แค่เป้าเดียว หากดาเมจมีไม่ถึงคุณจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยในไฟท์

Read more

Special Thanks : คุณ CoCo กลุ่ม walkthrough สามารถเข้ากลุ่มพูดคุยเพื่อมาสอบถามเกี่ยวกับเกมได้ที่ :  TOS Walkthrough  หรือ Tree of Savior ณ ประเทศไทย วิธีเปิดดัน Challenge Mode หรือที่เรียกสั้นๆว่า CM คือ ระบบใหม่ที่เราสามารถลงได้วันละครั้ง ต่อหนึ่งตัวละครเท่านั้น (การมี token ไม่ส่งผลต่อจำนวนครั้งที่ลงได้) ซึ่งการจะเข้าร่วมระบบนี้ จะสามารถทำได้โดยการฆ่ามอนเตอร์จำนวนหนึ่งในแมพที่มีเลเวลตั้งแต่ 200 ขึ้นไป จนมอนเตอร์กระพริบแสงสีม่วงโผล่ออกมา ซึ่งการฆ่ามอนเตอร์กระพริบสีม่วงนี้ จะเป็นการเปิดประตูเข้าสู่ Challenge Mode นั่นเอง โดยประตู Challenge Mode จะมีระยะเวลาคงอยู่ 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งทุกๆ คนสามารถเข้าได้หมด ไม่ได้จำกัดว่าคนฆ่ามอนกระพริบม่วงเท่านั้นที่เข้าร่วมได้ ในการเข้าร่วม Challenge Mode นั้นไม่สามารถ Auto Match ได้จะต้องสร้างปาร์ตี้กันเองก่อนกดเข้า การเคลียร์ Challenge Mode เงื่อนไขในการเคลียร์ Challenge Mode คือการกำจัดมอนเตอร์เพื่อเติม Challenge gauge ให้เต็ม ซึ่งเมื่อเกจเต็มแล้ว จะมีบอสปรากฏออกมา โดยทั้งหมดนี้จะจำกัดเวลา 10 นาทีในการเคลียร์เงื่อนไข หลังจากกำจัดบอสได้แล้วจะมีประตูเปิดขึ้นเพื่อให้เลือกว่าจะไป Stage ถัดไป หรือ จบการ Challenge Mode โดยใน Challenge Mode นี้ จะมีทั้งหมด 5 stage ซึ่งในแต่ละ Stage ที่เพิ่มขึ้น จะได้โบนัส Looting Chance เพิ่มขึ้น 100 และ Challenge Cube เพิ่มขึ้น 1 กล่อง แต่มอนเตอร์ที่ออกมาจะเก่งขึ้นด้วยเช่นกัน (Stage 1 ได้ 1 Challenge Cube, Stage 5 ได้ 5 Challenge Cube) ข้อควรระวัง ใน Challenge Mode ตั้งแต่ Stage 2 ขึ้นไป ถ้ามีคนหลุดขึ้นมา จะไม่สามารถกลับเข้ามาใหม่ได้ และจะติด Debuff Challenge Mode ด้วย ถ้าตัวละครเรามีเลเวลห่างกับแมพที่จะ Challenge Mode เกิน 30 เลเวล จะไม่สามารถเข้า Challenge Mode ได้ ไม่สามารถเปิด Challenge Mode ใน Hunting Ground ได้ ของรางวัล สาเหตุหลักของการลง Challenge Mode เลยคือ ของที่อยู่ใน Challenge Cube นั่นเอง (ไม่สามารถ Re-Roll ได้) โดยตัว Challenge Cube นี้มีโอกาสดร็อป Recipe – Raid Portal Stone ที่ไว้สำหรับเป็นกุญแจเข้าสู่ Unique Raid เพื่อหาไอเท็มระดับ 350 ต่อไป และนอกจากนี้ยังดร็อป Material สำหรับ ทำไอเท็ม 315 และ แร่ต่างๆ อีกด้วย Item Material Raid Portal Stone -Blessed Shard x2 -Mithril Ore x5 -Opal x5 -Recipe – Raid Portal Stone   Map ที่น่าสนใจในการลง Challenge Mode

Read more
Page 100 of 137 1 99 100 101 137