Console Guide

การลงดันฟาร์อาร์ติแฟกต์, เงิน, ใบ EXP, หาของบอส และอื่นๆ อีกหลายอย่างในเกม Genshin Impact นั้น จำเป็นที่จะต้องใช้เรซิ่นในการลงทั้งสิ้น ยิ่งหากได้ตัวละครใหม่มาสำหรับสายเรซิ่นน้อยมีจำกัดก็เป็นเรื่องยากที่จะฟาร์มของได้ทั้งหมดในทันที เพราะนอกจากจะต้องอัปเลเวลตัวละครแล้ว ยังมีเรื่องของการหาของอัปพรสวรรค์รวมไปถึงอาวุธกับอาร์ติแฟกต์อีก เชื่อว่าคนงบน้อยจะไม่ค่อยอยากใช้เพชรเติมเรซิ่นกันเท่าไหร่นัก เพราะต้องเก็บสะสมเอาไว้รอตัวละครอยากได้กลับมาหรือรอตัวใหม่ในอนาคตต่อไป ซึ่งในช่วงหลังเพชรหาได้ค่อนข้างน้อยทำให้ไม่ค่อยอยากใช้กัน ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีบริหารเรซิ่นเพื่อหาของอัปตัวละครกัน ตารางวันฟาร์ม การจะฟาร์มของแต่ละอย่างนั้นจำเป็นต้องใช้เรซิ่นหลายจำนวนในการฟาร์ม ยิ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนเล่นมานานจนแรงก์สูงแล้วการได้ตัวละครใหม่มาหรืออยากปั้นตัวเพิ่ม ในช่วงหลังพวกเรซิ่นแจกก็น่าจะใช้กันในช่วงแรกไปหมดแล้ว เพชรในตัวก็มีค่อนข้างจำกัด แถมยังต้องฟาร์มหลายส่วนหลายอย่างค่อนข้างเยอะ มาดูตารางในแต่ละวันเพื่อบริหารเรซิ่นให้คุ้มแถมไม่เกิดความสับสนจนฟาร์มปนกันหลายอย่างไปหมด หลังจากเลือกตัวละครที่จะทำการปั้นได้แล้ว ให้กดดูไอเทมต่างๆ สำหรับการใช้อัปเลื่อนขั้นเลเวลกับสกิลพรสวรรค์ก่อนว่าใช้อะไรบ้าง จากนั้นก็ดูวันที่ไอเทมชิ้นนั้นดรอปในดันเจี้ยน ตัวอย่างเช่น จะปั้น Eula จะต้องใช้ของอัปคือ สมุดอัปพรสวรรค์โล่ (Resistance) จะสามารถฟาร์มได้วันอังคาร, วันพฤหัสและวันอาทิตย์ จากนั้นก็เตรียมจัดตารางฟาร์มในแต่ละวันได้เลย ตัวอย่างตารางวันของ Eula  หากเป็นคนอื่นแนะนำให้ดูจากในแต่ละวันของตัวอย่างแล้วปรับสลับอีกครั้งให้เป็นของตัวละครที่เพื่อนๆ จะนำมาปั้น ฟาร์มของทุกวันและทุก 3 วัน ในทุกวันอย่างลืมวิ่งฟาร์มศัตรูที่ดอรปไอเทมอัปตัวละครทั้งขั้นเลเวลและสกิลพรสวรรค์กันด้วยเพราะพวกศัตรูเหล่านี้จะรีให้เก็บใหม่ได้ทุกวันหลังตี 3 และดอกไม้ประจำเมืองที่ใช้ในการอัปตัวละครเก็บได้ครบทุกจุดจะดีมากๆ หลังเก็บจะต้องรอครบ 3 วันจึงจะรีกลับมาให้เก็บได้อีกครั้ง วันจันทร์: ตีบอสประจำสัปดาห์ ในวันแรกของอาทิตย์แนะนำให้ตีบอสประจำสัปดาห์ให้ครบก่อน เพื่อเคลียร์ส่วนบอสและฟาร์มของต่างๆ ไปในตัว เพราะตัวบอสจะได้ของอัปเฉพาะบอสแต่ละตัว, ได้อาร์ติแฟกต์ (ไม่แน่อาจจะเจอออฟโดนใจสักอัน), หินธาตุอัปเกรดตัวละคร, หิน Dream Solvent เป็นต้น เมื่อฟาร์มครบแล้วเรซิ่นรีให้ไปฟาร์ม Ley Line สีเหลืองเก็บเงินต่อรอได้เลย หมายเหตุ: หากตัวละครที่ต้องใช้สมุดพรสวรรค์เปิดในวันจันทร์ ให้ขยับวันตีบอสประจำสัปดาห์ไปไว้วันถัดไปแทน วันอังคาร: ลงฟาร์มสมุดอัปพรสวรรค์ เน้นฟาร์มสมุดอัปพรสวรรค์ให้ได้เยอะที่สุดในวันที่มีสมุดของตัวละครเปิด เมื่อเรซินรีก็ให้มาลงฟาร์มต่อจนกว่าจะหมดวันเพราะสมุดพรสวรรค์ใช้อัปตัวละคร 1 คนค่อนข้างใช้เยอะ ฟาร์มให้ได้อย่างน้อยสมุดน้ำตาล 6 เล่ม / สมุดเงิน 63 เล่ม / สมุดทอง 38 เล่ม วันพุธ: ฟาร์มบอสธาตุประจำพื้นที่ ในแต่ละขั้นของเลเวลจำเป็นจะต้องใช้ทั้งหินธาตุเดียวกับตัวละครแล้วยังต้องใช้ของประจำตัวจากบอสอีก ฟาร์ม 1 ได้ถึง 2 อย่าง แต่ก็จำเป็นต้องใช้ค่อนข้างเยอะพอตัวเลย โดยตัวของจากบอสจะต้องใช้ทั้งหมด 46 อัน ที่จะอัปปลดถึงเลเวล 90 วันพฤหัส: ฟาร์มหลุม Ley Line สีฟ้าและสีเหลือง สำหรับวันนี้ให้เน้นฟาร์มเก็บใบ EXP กับเงินเป็นหลักสลับกันไปมา โดยเฉพาะเงินเป็นสิ่งจำเป็นในการอัปเกรดทุกอย่างแถมยังจำเป็นต้องใช้ค่อนข้างเยอะมากๆ แค่อัปขั้นตัวละครยังใช้ถึง 420,000 Mora (ยังไม่รวมช่วงกดอัปเลเวลนะ) ยังมีส่วนของสกิลพรสวรรค์อีก หากอัปเต็มเลเวล 10 ต้องใช้ 1,652,500 Mora รวมๆ กับอัปตัวละครใช้เกือบๆ 6,000,000 Mora! วันศุกร์: ลงฟาร์มสมุดอัปพรสวรรค์ หากฟาร์มสมุดครบแล้วแนะนำให้ไปฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลืองเก็บเงินต่อได้เลย วันเสาร์: ฟาร์มบอสธาตุประจำพื้นที่ หากฟาร์มสมุดครบแล้วแนะนำให้ไปฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลืองกับสีฟ้าต่อได้เลย วันอาทิตย์: ลงฟาร์มสมุดอัปพรสวรรค์ หากฟาร์มสมุดครบแล้วแนะนำให้ไปฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลืองกับสีฟ้าต่อได้เลย เพียงเท่านี้ก็สามารถลงฟาร์มของแต่ละอย่างในแต่ละวันได้อย่างเป็นระบบไม่วุ่นวายแล้ว เมื่ออัปตัวละครตัดเรียบร้อย ต่อไปให้เลือกที่อาวุธต่อหากเป็นอาวุธที่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่เลเวล 1 ก็ต้องเช็คของที่ต้องใช้ก่อนว่าต้องการอะไรบ้าง จากนั้นก็เริ่มดูไอเทมสำหรับเลื่อนขั้นอาวุธว่าอยู่ดันเจี้ยนวันไหนแล้วทำการจัดตารางแบบเดียวกับฟาร์มของตัวละครได้เลย อย่างเช่น ฟาร์มแร่ทุกวัน ควรวิ่งฟาร์มทุกวันเพื่อนำไปคราฟเป็นหิน EXP อัปเกรดอาวุธ เพราะยิ่งระดับอาวุธสูงจะยิ่งใช้ EXP เยอะมากๆ สามารถกดดูจุดฟาร์ประจำได้ที่ >>จุดฟาร์มแร่ประจำวัน<< วันจันทร์: ลงดันหาของอัปเกรดอาวุธ ลงฟาร์มของอัปเกรดอาวุธชิ้นที่จะทำให้ได้เยอะที่สุดในวันนั้น ยิ่งอาวุธ 5 ดาวจะยิ่งใช่เยอะ แถม EXP อัปยังใช้มากกว่า 4 ดาวเกือบเท่าตัว วันอังคาร: ตีบอสประจำสัปดาห์ เนื่องจากวันจันทร์มีดันของอัปเกรดอาวุธที่ต้องลงจึงย้ายบอสประจำสัปดาห์มาไว้อีกวันแทน วันพุธ: ฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลือง อาวุธเองก็ใช้เงินในการอัปเกรดแต่ละเลเวลและการอัปขั้นของอาวุธก็ใช้เยอะด้วยเช่นกัน จึงแนะนำให้ฟาร์มเงินเอาไว้เยอะๆ วันพฤหัส: ลงดันหาของอัปเกรดอาวุธ หากฟาร์มครบแล้วแนะนำให้ไปฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลืองเก็บเงินต่อได้เลย วันศุกร์: ฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลือง ฟาร์มเก็บเงิน วันเสาร์: ฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลือง ฟาร์มเก็บเงิน วันอาทิตย์: ลงดันหาของอัปเกรดอาวุธ หากฟาร์มครบแล้วแนะนำให้ไปฟาร์มหลุม Ley Line สีเหลืองเก็บเงินต่อได้เลย เมื่อทำอาวุธเสร็จเรียบร้อยต่อไปก็คือการวนลงฟาร์มอย่างไม่สิ้นสุดกับอาร์ติแฟกต์สุดเจ้าปัญหาเพราะนอกจากจะต้องมาลุ้นออฟหลักแล้วว่าจะได้ออฟหรือชิ้นที่ต้องการหรือไม่ก็ยังต้องมีลุ้นออฟรองอีกว่าจได้ตรงตามหวังหรือเปล่า ยังไม่หมดเท่านั้นยังมีช่วงการอัปเลเวลอาร์ติแฟกต์อีกจุด หลังจากอัปเลเวล 4 / 8 / 12 / 16 / 20 จะสุ่มได้ออฟใหม่เพิ่มหรืออัปเกรดออฟเดิมให้มีค่าสูงสุด แถมยังมีโอกาสเพียง 5 ครั้งเท่านั้นว่าจะลงตรงออฟที่หวังเอาไว้หรือไม่ ถ้าไม่ลงก็อาจจะกลายเป็นขนมเอาไว้อัปเลเวลให้กับชิ้นอื่นดูออฟอันต่อไปแทน! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

ถึงเวลากับช่วงดันเจี้ยนท้าทายกับกิจกรรมการต่อสู้แห่งเมืองลี้ลับในเกม Genshin Impact กันแล้ว เพราะในครั้งนี้เพื่อนๆ จะได้เล่นตัวละครที่ทางกิจกรรมจัดเอาไว้ให้เท่านั้นต้องเลือกตัวละครที่มีจับคู่คอมโบให้สามารถผ่านด่านไปให้ได้! กิจกรรมการต่อสู้แห่งเมืองลี้ลับ: ด่านทดสอบการทดลองใช้ตัวละคร ในช่วงเวลากิจกรรม นักเดินทางสามารถทดลองใช้ตัวละครที่กำหนดเพื่อทำการท้าทายในด่านที่แตกต่างกัน 6 ด่าน สำเร็จด่านทดสอบเพื่อรับรางวัล Primogem, Hero's Wit, วัสดุยกระดับพรสวรรค์ เป็นต้น 〓 ช่วงเวลากิจกรรม 〓 21 พ.ค. 2021 09:00 ~ 31 พ.ค. 2021 02:59 ต้องมีแรงก์ผจญภัยเลเวล 20 ขึ้นไปจึงจะสามารถเข้าเล่นกิจกรรมนี้ได้ ตัวละครทดลองใช้ ภายในกิจกรรมจะมีตัวละครให้เลือกใช้แบบเฉพาะสำหรับกิจกรรมนี้เท่านั้นทั้งหมด 10 คน ต้องเลือก 4 ใน 10 คนมาลงทีมแล้วลงดันเจี้ยนให้ผ่านให้ได้ (ไม่สามารถใช้ตัวละครในไอดีได้นะ) สำหรับอาวุธกับอาร์ติแฟกต์นั้นก็จะเป็นของทางกิจจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้วยเช่นเดียวกันไม่สามารถกดเปลี่ยนได้เพื่อเพิ่มความท้าทายให้เพื่อนๆ เข้าเล่นในกิจกรรม แต่ตัวของกลุ่มดาวหากมีตัวละครในกลุ่มนี้จะใช้กลุ่มดาวในไอดีให้ทันที เช่น มี Diona ในไอดี C6 ในกิจกรรมก็จะกลายเป็น C6 และถ้ามี Keqing C0 ในกิจกรรมก็จะเป็น C0 (หากไม่เคยมีตัวละครก็จะเป็น C0 เช่นกัน) ตัวละครที่แนะนำให้หยิบลงทีมคือ Sucrose เพราะเธอมีท่าไม้ตายสามารถรวบศัตรูได้พร้อมทำให้เกิดดาเมจแบบกระจายคอมโบกับตัวในทีมธาตุอื่นได้ดี, Albedo มีสกิลวางอาณาเขตดอกไม้ ถ้าศัตรูอยู่ในวงแล้วทำดเมจจะช่วยโจมตีด้วยดาเมจธาตุหินเป็นระยะ เป็นตัวซัพที่ดีมากๆ ส่วนอีกสองคนให้เลือกตัว DPS กับตัวละครสามารถสร้างเกราะป้องกันได้มาด้วยอย่าง Diona,  Noelle หรือ Xinyan มาลงทีมจะช่วยให้โดนดาเมจได้ยากขึ้น เงื่อนไขการเล่นกิจกรรม ด่านมั้งหมดจะมี 6 ด่าน จะปลดล็อคด่านใหม่ครั้งละ 2 ด่าน ภายในด่านจะไม่สามารถใช้ความสามารถของบัฟสั่นพ้องได้ ทำให้ท้าทายขึ้นไปอีก 1 ระดับ ทุกด่านจะมีเงื่อนไขภารกิจให้ทำและจะเจอศัตรูไม่เหมือนกัน ต้องดูศัตรูให้ดีแล้วจัดทีมให้ถูกเพื่อแก้ทางศัตรูเหล่านั้น สำหรับเวลาภายในดันจะมีให้ 15 นาที เพื่อตามหาเสารูน 3 จุดให้ครบจะทำให้กลไกใหญ่สามารถกดเปิดได้แล้วลงไปข้างล่างสู้กับศัตรูโซนสุดท้าย แต่ภายในดันจะไม่มีมินิแมพให้ต้องวิ่งหากันเอาเอง ส่วนการจะหาเสารูนทั้งสามให้เจอนั้นง่ายมาก เพียงแค่เงยมองขึ้นฟ้าหมุนกล้องดูรอบๆ ก็จะเจอแสงสีแดง 3 เส้นปรากฏอยู่ให้วิ่งไปตามทิศทางของแสงก็จะเจอเสารูนเหล่านั้นเอง นอกจากเสารูนแล้วยังมีเสากลไกที่จะให้บัฟต่างๆ แก่ตัวละคร เสาพวกนี้จะไม่เรืองแสงขึ้นฟ้านะ ต้องวิ่งหาตามแต่ละห้องแทน โดยบัฟแต่ละแบบจะมีหน้าตาแตกต่างกันออกไป สีเหลืองฟื้นคืน | สีแดงช่วงชิง | สีฟ้าประสงค์ของเทพ | สีเขียวมหันตภัยนับพัน ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นในดันเจี้ยนเหล่านี้ยังมีพวกกับดักอยู่ด้วย จะมีทั้งแสงเลเซอร์, เตาพ่นไฟ และเสากลไกกับดัก สังเกตได้ง่ายจะเป็นเสาทรงสามเหลี่ยมเมื่อเข้าไปใกล้มันจะเปิดออกแล้วเริ่มโจมตีทันที เพื่อนๆ จะต้องใช้ปฏิกิริยาธาตุทำให้เสากลไกเหล่านี้หยุดทำงานไม่ให้มาโจมตีป่วนได้อีก เพราะตัวกับดักโจมตีค่อนข้างแรงพอตัวเลย บททดสอบที่ 1, 2 https://youtu.be/qQpE77-I9OQ บททดสอบที่ 3, 4 https://youtu.be/aUGWaZSH9_E บททดสอบที่ 5, 6 https://youtu.be/jE_6LAayMAM จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

เพื่อนๆ น่าจะรู้จักกับระบบคราฟ (สรรสร้าง) ในเกม Genshin Impact กันอยู่แล้วอย่างแน่นอน ซึ่งตัวโต๊ะเล่นแร่แปรธาตุนี้ในแพทช์ก่อนๆ จะมีให้คราฟของต่างๆ เป็นระดับที่สูงขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น โดยในแพทช์ปัจจุบันได้มีการเพิ่มระบบแปลงไอเท็มเข้ามาด้วยเพื่อใช้ในการแปลงไอเท็มชิ้นนั้นกลายเป็นอีกชิ้นแทน เป็นอีก 1 ความสะดวกของระบบคราฟนี้ แต่การแปลงก็จำเป็นจะต้องใช้ไอเทมสำคัญอีกอย่างด้วยจึงจะสามารถทำได้ บทความนี้จะมีอธิบายระบบนี้กัน โต๊ะเล่นแร่แปรธาตุ โต๊ะเล่นแร่แปรธาตุหรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าโต๊ะคราฟ เป็นอุปรกณ์สำหรับคราฟของระดับต่ำให้กลายเป็นระดับสูงได้ด้วยอัตราตามเงื่อนไขของแต่ละอย่าง โดยตัวโต๊ะคราฟปัจจุบันจะมีทั้งหมด 2 ระบบ คือ ระบบสรรสร้าง เปลี่ยนไอเทมระดับต่างๆ ให้ได้ของระดับสูงขึ้น, นำไอเทมมารวบรวมเป็นของอีกชิ้นใช้งานได้สะดวกขึ้น เช่น ใช้ Original Resin 40 แต้ม กับ Crystal Core 1 ชิ้น เพื่อคราฟเป็นเรซิ่นอัดเม็ด (Condensed Resin) 1 อัน, ใช้หินธาตุไฟระดับ Chunk 3 ชิ้น คราฟเป็นหินธาตุไฟระดับ Gemstone 1 อัน เป็นต้น โดยตัวระบบสรรสร้างจะแบ่งหัวข้อให้หาได้ง่ายในแต่ละหมวดหมู่คือ วัสดุยกระดับตัวละครและอาวุธ | วัสดุเลื่อนขั้นอาวุธ | วัสดุพรสวรรค์ของตัวละคร | น้ำยาโพชั่น | วัสดุเลื่อนขั้นตัวละคร | ไอเทมขนาดเล็ก สามารถดูรายละเอียดต่างๆ ของโต๊ะคราฟได้ที่นี่  >>การเล่นแร่แปรธาตุ (Alchemy)<< ระบบแปลง เปลี่ยนไอเทมชิ้นเดิมระดับเดียวกันให้กลายเป็นอีกชิ้นแทน เช่น เปลี่ยนหินธาตุไฟระดับ Gemstone ให้กลายเป็นหินธาตุน้ำระดับ Gemstone แทน ซึ่งตัวระบบแปลงนี้จำเป็นจะต้องมีไอเทมที่เป็นวัสดุสำคัญเพิ่มขึ้นมาอีกชิ้นนึงจึงจะสามารถแปลงได้ โดยตัวระบบแปลงจะแบ่งออกเป็น 2 ข้อ 1.วัสดุเลื่อนขั้นตัวละคร ไอเทมจำเป็นสำหรับการแปลงจะมีหินธาตุระดับต่างๆ ดรอบได้จากบอสต่างๆ ทั้งประจำพื้นที่กับประจำสัปดาห์ และ Dust of Azoth หรือที่เพื่อนๆ ชาวเกมเรียกเจ้าสิ่งนี้กันง่ายๆ ว่า "ขวดเกลือ" สำหรับการแปลงหินธาตุในแต่ละระดับจะใช้ขวดเกลือจำนวนต่างกันจะใช้ตั้งแต่ 1 / 3 / 9 / 24 ของสิ่งนี้สามารถหาได้จากในร้านค้า Paimon (ซื้อได้ 100 ชิ้นต่อเดือน 10 ขวดใช้แต้ม Stardust 5 แต้ม) ในการแปลงหินธาตุสามารถสเปลี่ยนหินที่ระบบตั้งเอาไว้ให้เป็นธาตุอื่นที่มีอยู่เยอะกว่าได้ด้วยการกดรูปกระดาษมีลูกศรวนอยู่ข้างๆ ก็จะขึ้นหน้าต่างให้เปลี่ยนหินธาตุได้ตามต้องการ 2.วัสดุจากบอสอัปพรสวรรค์ เป็นการเปลี่ยนแปลงของบอสจากอีกชิ้นเป็นอีกชิ้นที่ต้องการใช้งานแทน โดยจะต้องใช้ไอเทมบอสดรอบจากบอสประจำสัปดาห์เท่านั้น และหิน Dream Solvent ที่จะแบบสุ่มจะบอสประจำสัปดาห์เท่านั้น ใครดวงดีอาจจะได้ก็อาจจะได้บ่อยสามารถดรอปได้ 4 ชิ้น ต่ออาทิตย์ (บอสประจำสัปดาห์ในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ตัว) ในการแปลงของบอสสามารถสเปลี่ยนของบอสที่ระบบตั้งเอาไว้ให้เป็นชิ้นอื่นที่มีอยู่เยอะกว่าได้ด้วยการกดรูปกระดาษมีลูกศรวนอยู่ข้างๆ ก็จะขึ้นหน้าต่างให้เปลี่ยนของบอสที่มีเยอะได้ตามต้องการ จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Eula หัวหน้า "กองสอดแนม" ของกองอัศวินแห่ง Favonius เป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูล Lawrence มีความถนัดในด้านใช้อาวุธดาบใหญ่ แม้ว่าจะมีสกิลกับท่าไม้ตายทำดาเมจน้ำแข็งแต่ดาเมจหลักของเธอนั้นเป็นสายกายภาพนะ ตัวท่าไม้ตายหลังใช้จะสร้างดาบน้ำแข็งเล็กๆ ขึ้นมาหนึ่งเล่ม ถ้าหมดเวลาหรือสลับตัวออกสนามเมื่อไหร่มันจะระเบิดทำดาเมจทันที! ข้อมูลตัวละคร ชื่อ : Eula Lawrence เกิด : วันที่ 25 ตุลาคม อยู่ฝ่าย : กองอัศวินแห่ง Favonius วิชั่นที่ครอบครอง : น้ำแข็ง กลุ่มดาว : Aphros Delos วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชา "ประกายแห่งเกลียวคลื่น" หัวหน้า "กองสอดแนม" ของกองอัศวินแห่ง Favonius และ "อัศวิน Spindrift" ที่มีชื่อเสียง Eula นำกองกำลังออกลาดตระเวนเป็นเวลานานและได้รับคุณงามความดีมากมาย ในภูเขาและป่าลึกมักจะตกเป็นเป้าหมายในการจู่โจมของพวกมอนสเตอร์ เธอ สามารถเข้าสนับสนุนได้อย่างรวดเร็วเพื่อกำจัดอันตรายและแก้ไขวิกฤตตอนนั้น Eula เป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูล Lawrence และถูกชาวเมือง Mondstadt มองว่าเป็นตัวแทนสายเลือดของคนบาป จากความเลวร้ายในอดีตของคนในตระกูลที่ก่อเอาไว้เธอจึงตัดขาดกับตระกูลแล้วมาเข้าร่วมกองอัศวินแห่ง Favonius แทน Eula ให้ค่ากับกองกำลังมากเพราะกองกำลังรับคนที่ฝีมือมิใช่อดีตตระกูล แต่ในสายตาของชาวเมือง Mondstadt เธอเป็น "คนนอก" หรือไม่ก็ "บุคคลอันตราย" อยู่ดี Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Favonius Bladework-Edel การโจมตีปกติ : โจมตีปกติได้ทั้งหมด 5 ครั้ง ท่าชาร์จโจมตี : (ใช้เกจสตามิน่า) โจมตีออกไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหยุดหรือสตามิน่าหมด https://youtu.be/u92pQAAg-9o https://youtu.be/S4qPpOkX2ok Icetide Vortex กดสกิล 1 ครั้ง จะสร้างดาเมจธาตุน้ำแข็งบริเวณด้านหน้าพร้อมได้รับบัฟตราดาบ Grimbeart ใช้สกิล 1 ครั้งจะได้รับบัฟดาบ Grimbeart 1 ขั้น สแตคได้สูงสุด 2 ขั้น บัฟดาบจะเพิ่มต้านทานหยุดชะงักและพลังป้องกันให้ Eula ระยะคงอยู่ของบัฟ 18 วิ คูลดาวน์ 4 วิ กดสกิลค้างจะชาร์ตสั้นๆ ก่อนโจมตีวงกว้างบริเวณด้านหน้าด้วยดาเมจน้ำแข็ง หากมีบัฟดาบ Grimbeart จะเปลี่ยนเป็นดาบน้ำแข็งโจมตีเสริมด้วยดาเมจน้ำแข็งได้สูงสุด 2 เล่ม เมื่อใช้สกิลตอนมีบัฟดาบ Grimbeart โดนศัตรู ศัตรูทั้งหมดในบริเวณจะถูกลดต้านทานดาเมจธาตุน้ำแข็งและกายภาพ คูลดาวน์ 10 วิ https://youtu.be/qI1rYSm6cik Glacial Illumination ท่าไม้ตายโจมตีด้วยดาบน้ำแข็งขนาดใหญ่ใส่บริเวณเป็นวงกว้างด้วยดาเมจน้ำแข็งอย่างรุนแรง พร้อมสร้างดาบน้ำแข็ง (Lightfall Sword) 1 เล่ม ลอยอยู่ข้างๆ อยู่ได้นาน 7 วิ ในระยะของดาบน้ำแข็งจะเพิ่มการต้านหยุดชะงักให้เธอ เมื่อโจมตี ชาร์จโจมตี โดนศัตรูจะสะสมพลังเข้าไปในดาบน้ำแข็งทุก 0.1 วิ สะสมได้เพียง 1 สแคตเท่านั้น หลังจากหมดเวลาหรือสลับตัวดาบน้ำแข็งจะระเบิดทำดาเมจกายภาพอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างทันที https://youtu.be/jl4tOENrYx0 Roiling Rime เมื่อกดสกิลค้างใช้บัฟดาบ Grimbeart 2 ขั้น จะสร้างดาบน้ำแข็งออกมาระเบิดดาเมจกายภาพทันที ดาเมจกายภาพจะเท่ากับ 50% ของดาเมจพื้นฐานของท่าไม้ตาย Wellspring of War-Lust หลังจากใช้ท่าไม้ตายจะรีเซ็ตคูลดาวน์ของสกิลทันที และได้รับบัฟดาบ Grimbeart 1 ขั้น Aristocratic Introspection เมื่อใช้ Eula คราฟสมุดพรสวรรค์จะมีโอกาส 10% ที่จะได้รับของคราฟเพิ่ม 2 เท่านั้น กลุ่มดาว : Aphros Delos หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Eula ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Eula ซ้ำเท่านั้น กลุ่มดาว สกิล รายละเอียด Lv. 1 Tidal Illusion หลังใช้บัฟดาบ Grimbeart ของสกิล ดาเมจกายภาพของ Eula เพิ่มขึ้น 30% ต่อเนื่อง 6 วิ (เมื่อใช้บัฟดาบ Grimbeart ทุก 1 ขั้นจะเพิ่มระยะของบัฟออกไป เพิ่มระยะเวลาได้สูงสุด 18 วิ) Lv. 2 Lady of Seafoam ลดเวลาคูลดาวน์ของสกิลแบบกดค้างลงจาก 10 วิ เหลือเพียง 4 วิ Lv. 3 Lawrence Pedigree เพิ่มเลเวลของไม้ตายขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 4 The Obstinacy of One's Inferiors หากศัตรูเลือดต่ำกว่า 50% จะทำดาเมจเพิ่มขึ้น 25% Lv. 5 Chivalric Quality เพิ่มเลเวลของสกิลขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 6 Noble Obligation เมื่อใช้ท่าไม้ตายสร้างดาบน้ำแข็งขึ้นมาจะได้รับพลังงาน 5 ชั้น และในขณะโจมตีปกติ สกิล หรือท่าไม้ตาย จะสร้างดาเมจเพื่อเก็บสะสมขั้นพลังงาน (มีโอกาส 50% ได้รับพลังงานเพิ่ม 1 ชั้น) จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่น จุดด้อย เมื่อใช้สกิลจะได้รับบัฟดาบ Grimbeart มาสะสมได้ 2 สแตค จะเพิ่มต้านทานหยุดชะงักและเพิ่มพลังป้องกันให้เธอ เก็บเกจท่าไม้ตายได้ช้าพอสมควรทำให้ใช้ท่าไม้ตายได้ไม่ต่อเนื่อง เมื่อมีบัฟ Grimbeart อยู่ หลังกดสกิลค้างจะใช้บัฟเหล่านี้โจมตีเป็นดาเมจน้ำแข็งใส่ศัตรู พร้อมทำให้ศัตรูทั้งหมดในบริเวณโดนลดต้านทานธาตุน้ำแข็งกับกายภาพ โจมตีปกติครั้งที่ 4 กับ 5 ค่อนข้างช้า ท่าไม้ตายโจมตีด้วยดาเมจน้ำแข็งเป็นวงกว้าง หลังจากนั้นจะสร้างดาบน้ำแข็งขึ้นมาหลังจากหมดเวลาหรือสลับตัวมันจะระเบิดทำดาเมจกายภาพอย่างรุนแรง สกิลกดค้างคูลดาวน์ค่อนข้างนาน เมื่อใช้ท่าไม้ตายจะรีเซ็ตคูลดาวน์สกิลให้สามารถใช้ได้อีกครั้งทันที แนะนำอาวุธ Eula เป็นสายดาเมจกายภาพมีการโจมตีที่รวดเร็ว และในสกิลกับท่าไม้ตายเองก็ยังมีผลของดาเมจกายภาพเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย จึงแนะนำให้อาวุธเพิ่มดาเมจกายภาพหรือเพิ่มพลังโจมตีให้เธอ โดยจะมีอาวุธแนะนำดังนี้ แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับอาร์ติแฟกต์ของ...

ศัตรูในโลกของ Teyvat เกม Genshin Impact นั่นมีค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นศัตรูทั่วไปอย่างพวกชนเผ่า Hilichur, ศัตรูใช้พลังเวทย์ Abyss Order และยังมีแยกออกไปอีกหลายรูปแบบตั้งแต่ศัตรูธรรมดารวมไปถึงตัวใหญ่ยักษ์ระดับบอสกันเลยทีเดียว ซึ่งระดับพวกบอสก็จะมีพลังที่ค่อนข้างสูงปราบได้ยากแต่หากสามารถปราบได้ก็จะได้รับรางวัลตอบแทนกลับมาคุ้มมากๆ โดยบอสเหล่านี้จะลงได้เพียง 1 ครั้งต่ออาทิตย์เท่านั้น สำหรับในบทความนี้จะพูดถึงตำแหน่งบอสภายใน Liyue กันว่าจะมีสกิลแบบไหนบ้างและวิธีการสู้ยังไงให้ชนะเพื่อเก็บของรางวัล! บอส Azhdaha Azhdaha เป็นบอสที่สามารถเข้าสู้ได้หลังจากจบเนื้อเรื่องบทสองของ Zhongli (ต้องจบเนื้อเรื่องหลักทั้งหมดก่อนจึงจะสามารถเข้าเล่นเนื้อเรื่องของ Zhongli ได้) ระดับที่สามารถลงได้นั้นจะมีทั้งหมด 4 ระดับด้วยกันจะปลดล็อคแต่ละระดับได้จากเลเวลรวมของทีมถึงจุดแนะนำให้ด่านกำหนดเอาไว้ ยิ่งลงระดับชั้นสูงขึ้นของรางวัลจะยิ่งได้ไอเทมหายากต่างๆ มากขึ้น การจะเข้าไปสู้นั้นจะต้องไปที่ดันเจี้ยนห้วงลึกแห่ง "ต้นปราบมังกร" ใต้เขาเซียน Mt. Hulao >> สังเกตธาตุหน้าทางเข้าก่อนว่าจะต้องเจอธาตุอะไรบ้าง (สีบนตัวอักษรจะเป็นตัวบ่งบอกถึงธาตุนั้น) >> เลือกระดับความยากเสร็จแล้วจัดทีมให้เรียบร้อยแล้วเข้าไปลุยได้เลย! สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนสู้ การเตรียมตัวก่อนสู้เป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่เลือกตัวละครหลักทั้ง 4 เตรียมอาหารและยาให้พร้อมสำหรับการปราบบอส โดยบอส Azhdaha ที่จะต้องเจอนั้นมีร่างเริ่มต้นเป็นธาตุหินและคู่ธาตุอีก 2 อย่างตามมาในช่วง 2 กับช่วง 3 ของบอสคือ ธาตุน้ำ, ธาตุน้ำแข็ง, ธาตุไฟ, ธาตุไฟฟ้า แถมในแต่ละอาทิตย์จะสุ่มคู่ธาตุตัวบอสแตกต่างกันออกไป ธาตุที่แนะนำ บอส Azhdaha จะมีการเปลี่ยนคู่ธาตุไปในทุกสัปดาห์จึงจำ แต่จะมีธาตุน้ำแข็งกับธาตุไฟฟ้าเท่านั้นที่จะมีผลเพราะ หากบอสเปลี่ยนร่างเป็นสองธาตุนี้เมื่อไหร่ บอสจะโดนดาเมจธาตุนั้นลดลง 50% สำหรับธาตุสามารถหยิบไปได้หมดไม่มีจำกัดแค่ให้ระวังสองธาตุดังกล่าวอย่าเอาไปชนกับบอสก็พอ ส่วนตัวละครแนะนำให้หยิบคนที่สามารถสร้างเกราะได้ไปด้วยเพื่อกันดาเมจต่อเนื่องจากบอสเช่น Zhongli, Xinyan, Diona, Noelle หากไม่มีหรือไม่ได้ทำของเอาไว้เลยแนะนำเป็นพวกฮิลสู้ได้อย่าง Barbara, Qiqi, Jean เป็นต้น อาหารและขวดยาเวทย์ สิ่งต่อไปต้องเตรียมเอาไว้ติดกระเป๋าให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินและช่วงวิกฤตคือพวกอาหารและยาเวทย์นั้นเอง สำหรับบอสตัวนี้จะมีการโจมตีด้วยธาตุต่างออกไปให้เตรียมขวดยาต้านธาตุที่ต้องเจอในแต่ละอาทิตย์เอาไว้หลายขวดช่วยลดดาเมจจากการปะทะกับธาตุได้ดี จะมีขวดยาเพิ่มพลังธาตุตามตัวละครที่นำไปลงให้สร้างดาเมจได้แรงขึ้นด้วยก็ได้เช่นกัน (สามารถสร้างได้ตรงเมืองหลักกับ Timaeus) อาหารให้เตรียมประเภทเพิ่มพลังโจมตี ฟื้นฟูเลือด เพิ่มพลังป้องกัน เป็นหลักเอาไว้ใช้จะช่วยให้ผ่านบอสได้ง่ายขึ้น ร่างของบอส บอสจะมีร่างต้นช่วงแรกเป็นธาตุหิน หลังจากเลือดลงไปได้ประมาณ 25% จะเปลี่ยนเป็นเฟตสองเปลี่ยนธาตุช่วงล่าง (ส่วนขา ท้อง คาง) ให้กลายเป็นธาตุไฟ หรือธาตุน้ำ และเมื่อเลือดบอสเหลือต่ำกว่า 50% จะเปลี่ยนเป็นเฟตสามเปลี่ยนธาตุช่วงบน (เขา หลัง หาง) กลายเป็นธาตุไฟฟ้า หรือน้ำแข็ง ทำให้บอสมีธาตุสองอย่าง ซึ่งในแต่ละสัปดาห์คู่ธาตุของบอสจะเปลี่ยนสลับไปเรื่อยๆ โดยบอสจะมีคู่ธาตุ 4 แบบ ธาตุน้ำ + ธาตุไฟฟ้า | ธาตุไฟ + ธาตุน้ำแข็ง | ธาตุน้ำ + ธาตุน้ำแข็ง | ธาตุไฟ + ธาตุไฟฟ้า พวกสกิลธาตุจากบอสหากโดนเข้าจะทำให้ตัวละครติดตราตัวอักษรตามธาตุขึ้นบนตัวละคร ทำให้โดนดาเมจธาตุอย่างต่อเนื่องแถมยังแรงมากๆ จำเป็นต้องมีเกราะป้องกันเพื่อไม่ให้โดนดาเมจจากตราได้ ซึ่งตัวตราจะทำดาเมจทั้งหมดประมาณ 8 ครั้ง ตราจึงจะหายไป และยังทำให้ติดธาตุถ้าโดนอีกธาตุของบอสโจมตีใส่ก็จะทำปฏิกิริยาพร้อมติดรีเซ้ตระยะเวลาของตราใหม่อีกครั้ง ปฏิกิริยาธาตุจากบอสจะมี นำไฟฟ้า, แช่แข็ง, ละลาย, โอเวอร์โหลด ตราตัวอักษรตามธาตุ ธาตุน้ำ + ธาตุไฟฟ้า https://www.youtube.com/watch?v=SJkzsXvRRwM&ab_channel=Myplaypost ธาตุไฟ + ธาตุน้ำแข็ง https://www.youtube.com/watch?v=1z_r0PEYpzw&t=175s&ab_channel=Myplaypost ธาตุน้ำ + ธาตุน้ำแข็ง https://www.youtube.com/watch?v=3Gwbny3TKts&ab_channel=Myplaypost ธาตุไฟ + ธาตุไฟฟ้า https://youtu.be/kxn90OqVxTU สกิลของบอสแต่ละธาตุ บอสแต่ละธาตุจะมีท่าคล้ายกันแต่จะมีสกิลแตกต่างกันออกไปในแต่ละธาตุด้วย ตัวธาตุจะฟิคเฉพาะส่วนเท่านั้นไม่มีการเปลี่ยนไป เช่น ธาตุน้ำแข็งอยู่ส่วนบนเท่านั้นจะไม่มีทางเปลี่ยนเป็นส่วนล่างอย่างแน่นอน ร่างธาตุหิน เริ่มมาบอสจะมีสกิลและท่าทั้งหมดเป็นธาตุหินเท่านั้น ในช่วงเฟตสองยังมีท่าของส่วนบนยังคงเป็นธาตุหินอยู่ แต่หลังจากเฟตสามไปจะไม่เหลือสกิลเป็นธาตุหินเหลือแล้ว ท่าแรก : หากอยู่ตรงบริเวณหน้าบอส เมื่อเห็นบอสเงยหน้าขึ้นพร้อมเสียงคำรามเล็กๆ ก่อนจะเอาคางทุบลงพื้นอย่างรุนแรงทำดาเมจธาตุเป็นเป็นวงยาวไปด้านหน้าของบอส หากเห็นบอสยกหน้าขึ้นให้รีบวิ่งออกด้านข้างทันทีก็จะไม่โดนดาเมจจากบอสแล้ว ท่าสอง : หลังจากผ่านไประยะนึง จะมุดหนีลงไปในพื้นก่อนจะทำให้เกิดหินถล่มเป็นระยะ ตรงส่วนที่หินจะหล่นลงมาจะมีวงบอกอยู่บนพื้นสามารถเดินหลบได้ง่าย ทุกครั้งหินจะดักทางหล่นมาบริเวณทางด้านหน้าของตัวละครเสมอ นอกจากหินจะร่วงลงมาแล้วบอสจะคอยเคลื่อนตัวอยู่ในพื้นจะเห็นเพียงส่วนหลังเท่านั้น ให้คอยหันมุมกล้องมองเอาไว้ เพราะจะมีช่วงที่บอสมุดหายไป จังหวะนั้นให้หลบหินแล้วหยุดอยู่นิ่งๆ ก่อนอย่าเพิ่งเดินไปไหนหมุนมุมกล้องหาควันปะทุ ตรงนั้นคือจุดล่าสุดของบอสมันจะพุ่งขึ้นมาหลังมีควันปรากฏเพียงเสี้ยววิ ให้รีบวิ่งออกข้างทันทีจะไม่โดนการพุ่งชนของบอส (หากหมุนหาไม่ทันให้สังเกตลุกศรแดงว่าอยู่ทางไหนแล้วรีบวิ่งหลบทันที) หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวในดินอีกระยะนึงก่อนจะกลับขึ้นมาบนพื้น ท่าสาม : หากเข้าไปตีตรงบริเวณขาข้างใดข้างนึงจะสุ่มใช้ท่าเหยียบพื้น (ใช้ได้ทั้ง 4 ข้าง) หลังจากยกขาเหยียบพื้นอย่างรุนแรงจะเกิดคลื่นรอบขา 3 ครั้ง วิธีหลบไม่ยากเพียงแค่วิ่งออกห่างจากตัวบอสก็พอ ท่าสี่ : เมื่ออยู่บริเวณข้างลำตัวบอสจะสุ่มใช้ท่ากระแทกด้านข้างอย่างรุนแรง หากบอสกำลังจะใช้ท่านี้มันจะเอียงตัวไปฝั่งตรงข้ามเล็กน้อยก่อนจะเหวี่ยงตัวหลับมาเพื่อกระแทกใส่ วิธีหลบหลังจากเห็นบอสทำตัวเอียงข้างเมื่อไหร่ ให้รีบแดชหนีออกด้านข้างให้เร็วที่สุด หรือรีบวิ่งออกมาทางด้านหน้าของตัวบอส (ระวังส่วนเขาของบอสกระแทกโดนด้วยนะ) ท่าห้า : ถ้าเห็นบอสย่อตัวลงต่ำเมื่อไหร่นั่นคือสัญญาณว่าบอสกำลังจะกระโดดแล้ว ให้รีบวิ่งออกมาให้ห่างที่สุด เพราะหลังจากบอสกระโดดขึ้นไปจะทำการกระแทกด้วยท้องลงมาบนพื้นอย่างรุนแรงพร้อมกับระเบิดคลื่นวงกว้าง 2 ชั้น ถือว่ากว้างมากๆ ไม่สังเกตให้ดีอาจจะโดนดาเมจแบบเต็มๆ (หากบอสมีการใช้ท่าแบบสามกับสี่ไปแล้วจะมักจะใช้อีกท่านี้ตามมา) ท่าหก : เมื่ออยู่ห่างจากบนบริเวณด้านหน้า บอสจะวิ่งพุ่งเข้ามาเพื่อขวิดเราด้วยเขาพร้อมกับเศษหินที่ทำดาเมจใส่ได้ด้วย แต่บอสจะวิ่งมาค่อนข้างช้าทำให้สามารถวิ่งหลบออกมาด้านข้างได้ไม่ยาก ท่าเจ็ด : หากเราตีบริเวณหาง บอสจะยกขาหลังทั้งสองข้างขึ้นเพื่อฟาดหางลงมาเป็นทางตรงพร้อมกับระเบิดดาเมจธาตหินทั้งสองฝั่งของหาง 1 ครั้ง ท่านี้สามารถหลบได้ไม่ยากเพราะการยกหางจะค่อนข้างช้า แค่เดินหลบมาข้างๆ ตัวบอสก็พอแล้ว ท่าแปด : เมื่ออยู่ด้านแบบมีระยะห่าง บอสจะเริ่มกระดิกหางนิดนึงก่อนจะเอี้ยวตัวฟาดหางเป็นครึ่งวงกลม สามารถหลบได้สองแบบคือรีบหนีออกมาให้ไกลรัศมีของหาง หรืออยู่ใต้โคนหางของบอสเอาไว้เพราะตอนบอสฟาดหางตรงส่วนโคนหางจะงอโค้งลงเกิดเป็นช่องว่างให้หลบได้ (แต่ค่อนข้างกะจังหวะยากแนะนำให้ทำแบบแรกก็พอ) ท่าเก้า : เมื่ออยู่ระยะไกลจากบอสบอสจะยิงกระสุนออกมาจากบนหลังลงมาบนพื้น 4 - 5 อัน ทิศทางของกระสุนจะลงมาทักทางข้างหน้าของตัวละคร วิธีหลบให้ยินรอจนกว่าจะเกิดวงบนพื้น แล้วค่อยเดินออกมาจากระยะของของกระสุนเพราะหลังจากลงมาถึงพื้นระยะสั้นๆ จะเกิดการระเบิดออกเรียงตั้งแต่อันแรกจนถึงอันสุดท้าย ท่าสิบ : หลังจากเลือดลดลงประมาณ 25% จะมีข้อความขึ้นกลางบนจอว่าบอสกำลังจะเปลี่ยนธาตุ เมื่อเห็นขอความให้รีบวิ่งออกมาทันที ถ้าสังเกตจากตัวบอส บอสจะสั่นหลัง 1 ครั้งแล้วเรียบยกขาขวาหน้าขึ้นช้าๆ ก่อนจะเริ่มเหยียบลงพื้นทำดาเมจเป็นวงกว้างหลายครั้งแล้วจบด้วยการกระแทกที่ไกลขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นเฟตต่อไป ร่างธาตุไฟ เมื่อมีเลือดต่ำกว่า 25% เข้าสู่เฟตสอง ธาตุไฟจะปรากฏขึ้นตรงส่วนล่าง ทำให้ท่าเกี่ยวกับส่วนขา ท้องและคาง เป็นท่าธาตุไฟทั้งหมด (ท่าทางของบอสจะเหมือนเดิมแต่มีสกิลที่เปลี่ยนไป) ทุกครั้งเมื่อบอสใช้ท่าเกี่ยวกับธาตุไฟมันจะเรียงแสงให้เห็นชัดขึ้นให้เตรียมหลบได้เลย หลังจากบอสใช้ท่าไฟจะเกิดลูกไฟเล็กๆ ตามมาตรงจุดตกจะกลายเป็นพื้นไฟทันทีอยู่นาน 10 วิ ท่าแรก : หลังจากเปลี่ยนเฟตและทุกๆ ระยะนึง บอสจะคำรามแล้วเรียกอุกกาบาตไฟลงมาบนสนามจะมี 2 จุดปรากฏขึ้นตรงจุดยืนแรก และอีก 1 ครั้งดักทางข้างหน้าของตัวละคร จากนั้นตรงจุดที่อุกกาบาดหล่นลงมาจะกลายเป็นวงพื้นไฟคงอยู่นานเกือบ 10 วิ ถ้าไปเผลอเฉียดเหยียบเข้าจะติดมาร์คไฟโดนทำดาเมจเรื่อยๆ ทันที ท่าสอง : หากอยู่ตรงบริเวณหน้าบอส เมื่อเห็นบอสเงยหน้าขึ้นพร้อมเสียงคำรามเล็กๆ ก่อนจะเอาคางทุบลงพื้นอย่างรุนแรงทำดาเมจธาตุไฟเป็นเป็นวงยาวไปด้านหน้าของบอสและปล่อยลูกไฟเล็กๆ ออกมาใกล้ๆ ท่าของบอสประมาณ 3 - 4 ลูก ท่าสาม : หากเข้าไปตีตรงบริเวณขาข้างใดข้างนึงจะสุ่มใช้ท่าเหยียบพื้น (ใช้ได้ทั้ง 4 ข้าง)...

ตัว Monster Hunter Rise นั้น ย่อยจะต้องเล่นออนไลน์กับนักล่าคนอื่นๆ ได้ตามแบบฉบับของเหล่ากิลด์นักล่า ซึ่งในเครื่อง Nintendo Switch เองก็เช่นกันที่สามารถเล่นออนไลน์ได้ทั้งแบบทั่วโลกและแบบในพื้นที่เดียวกัน สำหรับบทความนี้ก็จะมาพูดถึงขั้นตอนการเล่นกับเพื่อนๆ คนอื่นกันจ้าเผื่อนักล่ามือใหม่ท่านไหนยังไม่ทราบ ต้องการความช่วยเหลือจากเหล่านักล่าที่เดินผ่านมาจะได้ไม่ต้องลำบากกันไป วิธีการเล่นกับคนอื่น ก่อนอ่นเลยไม่ว่าจะเล่นแบบไหน เราต้องทำการเปิดห้อง (Lobby / Session) ของเราขึ้นมาก่อน เพื่อเป็นการแจ้งให้เกมรู้นะว่า เอ้อ เราพร้อมจะเล่นกับคนอื่นนะตอนนี้ สิ่งที่เราต้องทำคือ คุยกับ Senri the Mailman น้องแมวที่ยืนบนกล่องสีแดงในหมู่บ้านตรงทางขึ้นไปหา Elder Fugen เลือกเล่น Locally (เล่นแบบใกล้กัน) หรือ Play Online (เปิดสร้างห้องเล่นกับคนอื่นทั่วโลก) เลือกสร้างห้อง จะมีให้เราเลือกใส่ Passcode ได้ เพื่อเป็นการระบุว่า เราจะเล่นกับคนที่กำหนดได้เท่านั้นนะ ไม่งั้นใครที่อยู่ใกล้ๆ ก็สามารถร่วมแจมเข้ามาได้ หลังจากสร้างห้องแล้ว ก็พร้อมจะเล่นด้วยกันแล้ว ตอนนี้เพื่อนของเราจะสามารถดูรายชื่อเพื่อนและเลือก View Lobby Info เพื่อเข้าร่วมเล่นด้วยกันได้แล้ว ในแต่ละห้องจะมีได้แค่ 4 คนเท่านั้น แบบ Locally (เล่นใกล้กัน) วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่อยากเล่นด้วยกันใกล้ๆ เช่นเล่นในห้องเดียวกัน เจอกันตามงาน Meeting ต่างๆ การเล่นวิธีนี้จะไม่ต้องมีสัญญาณ Internet หรือ Nintendo Switch Online เพราะจะใช้ระบบ Wifi ของตัวเครื่องในการเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติให้เลย (ใครที่คุ้นเคยกับการเล่น PSP จะพอนึกภาพออกถึงความสะดวกในระดับเดียวกัน) ซึ่งตรงนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ทำตามขั้นตอนสร้างห้องด้านบน จากนั้นก็สามารถที่จะเข้ามาเฮฮาด้วยกันได้เลยจ้า สบายจริงๆ ให้ดิ้นตาย แบบ Online (เล่นทั่วโลก) ในการเล่นแบบนี้จำเป็นจะต้องใช้สัญญาณ Internet และมี Nintendo Switch Online ด้วยจึงจะเล่นด้วยกันได้ แต่ข้อดีคือเราจะเล่นจากที่ไหนด้วยกันก็ได้ ขอแค่ทั้งคู่สามารถเชื่อมต่อ Internet ได้ (แต่สภาพตอนเล่นก็จะขึ้นกับสัญญาณการเชื่อมต่อล่ะนะ) หากผ่านเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็จะสามารถเลือกที่จะสร้างห้อง หรือเลือกห้องที่จะเข้าได้ทันที ในส่วนของการเลือกห้อง ถ้ากด Find Lobby จะเป็นการเลือกห้องทั้งหมดที่มีให้ในการตั้งค่าของเราส่วนของ Filter ไว้ Hunter Connect เป็นการระบุเจาะจงห้องให้ชัดขึ้นจากการหาผ่าน Hunter Tag ที่เคยบันทึกเอาไว้ ซึ่งมันคือ Tag ที่ใช้ระบุว่านักล่าแต่ละคนใช้ระบุว่ามีอุปนิสัยการเล่น หรือคาดหวังจะเล่นอะไรยังไงนั่นเอง เพื่อนๆ สามารถสร้าง Hunter Connect ได้ที่หน้าจอเมนู หมวดที่ 4 หัวข้อสุดท้าย เพื่อนๆ สร้างได้สูงสุด 10 Connect และจะแก้ไขที่เคยสร้างไม่ได้ ต้องสร้างใหม่ / ลบของเก่าเท่านั้น ในตัว Tag แต่ละอันจะสามารถระบุชื่อ, รูปแบบการเล่น, เวลาที่เล่น, การตั้ง Join ได้ Enter Lobby ID เป็นการระบุตัวไอดีของห้องเพื่อเข้าไปในห้องนั้นๆ โดยเฉพาะไปเลย จะได้ไม่ต้องหาให้เมื่อย ซึ่งตรงนี้ต้องระวังว่า ตัวเล็กใหญ่ของไอดีต้องใส่ให้ถูกด้วย (รวมถึงถ้าเผลอใส่ Passcode ก็ต้องใส่ด้วยนะ)   การสร้างเควสให้คนอื่นเล่นได้ แน่นอนว่าเควสที่จะสร้างนั้น ต้องเป็นเควสที่สร้างใน Gathering Hub เท่านั้น เควสในหมู่บ้านจะใช้ไม่ได้ ให้เพื่อนๆ คุยกับ NPC Minato (มิโกะครีเควส) จากนั้นเลือกเควสที่จะสร้างขึ้นมา ในขั้นตอนหลังยืนยันตัวเควสจะมีถามว่าจะสร้างเควส ก็สร้างได้เลย และให้รอเพื่อนๆ นักล่าคนอื่นกดเข้าร่วม และรอให้เขาพร้อมหมด ก่อนกด Depart ลุยเควสตามปกติ ในตัวเลือกที่สองจะเป็นการสร้างเควสพร้อมกับส่ง Join Request (คำขอร้องให้ช่วยร่วมในเควส) หรือง่ายๆ มันคือการส่ง SoS ในภาค World โดยอัตโนมัติเมื่อเราเริ่มเควสไปแล้วนั่นเอง ทำให้คนอื่นสามารถเข้ามาแจมเควสเราได้ในทันทีที่เควสเริ่มต้นขึ้น หากไม่ได้ตั้งตรงนี้ไว้ เราก็สามารถกดส่ง Join Request ได้ภายในหน้าเมนูระหว่างการเล่นได้เช่นกัน ไม่ต้องกังวลไป เพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่กดยืนยันความพร้อมก่อนลงเควสจะโดนทิ้งไว้ใน Hub แต่ก็สามารถกด Join เข้ามาภายหลังในเควสได้ตลอดเวลา การเข้าร่วมเควสของคนอื่น การเข้าร่วมเควสของคนอื่น หลังจากที่เพื่อนๆ ปรับเป็นการเล่นแบบหลายคนจากน้องเหมียวแล้ว ให้ไปที่ Gathering Hub และรับเควสจากกระดานข่าว (ไม่ใช่ตัว NPC Minato น้า นั่นสำหรับครีเควส) เลือกเควสที่ต้องการแล้วก็ยืนยันความพร้อม รอเจ้าของเควสส่งเราลงเควสได้เลย ในกรณีที่เลือก Respond to Join Request จะเป็นการเข้าเควสแบบสุ่มจากที่มีคนตั้ง Join Request ทิ้งไว้ ซึ่งเหมาะกับการเล่นแบบเร่งด่วน ห้องไหนก็ได้ให้ได้มันส์เป็นพอ ดังนั้นถ้าอยากจะเข้าร่วมเควสที่กำหนด เลือกเควสโดยตรงจะดีกว่า   ระบบ Like ระบบนี้เป็นระบบที่เมื่อจบเควส เพื่อนๆ จะสามารถส่งการแสดงความชื่นชม เหมือนปุ่ม Like ใน Facebook นั่นแล แต่เหนือกว่าตรงที่ถ้าทั้งสองคนกด Like กัน จะทำให้สามารถเข้าร่วม Lobby ของทั้งคู่ได้ด้วย เหมือนกับการเป็นเพื่อนกัน ทำให้ในภายหลังสามารถเล่นด้วยกันได้ง่ายขึ้น บ่อยขึ้นนั่นเอง   ความแตกต่างของการเล่นคนเดียว VS หลายคน แน่นอนว่าการเล่นแบบหลายคนนั้น ก็ต้องมีข้อแตกต่างที่ทำให้เกมมันสมดุลย์มากขึ้นด้วย ซึ่งโดยรวมก็จะเป็นการทำให้มอนสเตอร์เลือดเยอะขึ้นตามจำนวนผู้เล่นในเควสขณะนั้น เช่นมีคนเดียวก็ไม่เพิ่มไม่ลด มีสองคนก็เพิ่มขึ้น มี 3-4 คนจะเพิ่มขึ้นไปอีก และถ้ากลับเป็นสองคนก็จะลดลงมา อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบหลายคนนั้นก็จะวุ่นวายขึ้นเพราะทุกคนสามารถนำน้องหมาหรือน้องแมวติดตัวไป 1 ตัวคอยช่วยเหลือได้ด้วย (จากเดิมที่น้องแมวจะปรากฎตัวถ้าเล่นคนเดียวหรือ 2 คนเท่านั้น แต่ตอนนี้มีกันได้แน่นอน 1 ตัว) ก็ขึ้นกับว่าเพื่อนๆ จะพาน้องหมาไว้วิ่งเร็วไป หรือเอาน้องแมวไว้ช่วยเรื่องสกิลลูกเล่นกันไปล่ะน้า Buddy ที่จะเอาไปลง Multiplayer ต้องเป็น Buddy 1 เท่านั้นจ้า ในด้านการเล่นแบบ Online โดยรวมนั้นก็จะมีเพียงเท่านี้ เพราะงั้นถ้าเพื่อนๆ นักล่าคนไหนรู้สึกว่ามอนสเตอร์โหดไป สู้ไม่ไหว อย่าลืมว่าโลกแห่งมอนฮันไม่ได้มีนักล่าเพียงคนเดียวเท่านั้น ยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะล่าไปด้วยกัน ไม่ว่ามอนสเตอร์ตัวไหนก็ต้องถูกพวกเราช่วยกันล้มมันให้ได้อย่างแน่นอน!

การผจญภัยในโลก Teyvat ของเกม Genshin Impact มีความอิสระค่อนข้างสูงผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางที่จะไปยังจุดหมาย ทั้งทางตรง ทางอ้อม ปีนเขา ว่ายน้ำ หรือแม้แต่ร่อนจากจุดสูงๆ ซึ่งเส้นทางเหล่านี้มักจะมีศัตรูหลากหลายรูปแบบรอให้ไปพิชิตอยู่เยอะพอสมควรตัวอย่างเช่นในพื้นที่จำพวก Hypostasis โดยในโซนของ Mondstedt จะพบได้ทั้งหมด 3 ตัว ด้วยกัน บอสแต่ละตัวนั้นจะมีธาตุแตกต่างกันออกไปสกิลเองก็เช่นกัน สำหรับผู้เล่นใหม่จะถือว่าเป็นเรื่องยากในการจัดการอย่างมาก วันนี้จะพาไปดูสกิลของบอสและวิธีการสู้ยังไงให้ชนะเพื่อเก็บของรางวัลกัน! https://www.youtube.com/watch?v=nDiC0q8JRTQ&ab_channel=Myplaypost บอส Hypostasis บอสพื้นที่จำพวก Hypostasis มีลักษณ์เป็นก้อนคิวบิกสี่เหลี่ยมมีแกนกลางเป็นคริสตัลธาตุอยู่ภายใน ปัจจุบันจะเจอได้ทั้งหมด 4 ธาตุ ด้วยกันคือ ธาตุลม , ธาตุไฟฟ้า , ธาตุหิน และ ธาตุน้ำแข็ง หลังจากกำจัดได้จะต้องรอระยะเวลาเกิด 3 นาที หากไปยังจุดบอสแล้วไม่เกิดให้ไปจุดอื่นที่อยู่ไกลจากบอสมากๆ ก่อนแล้วกลับมาใหม่ หรือออกเข้าเกมใหม่ตัวบอสจะเกิดกลับมาทันที ในช่วงมีคิวบิกปกคลุมอยู่จะไม่สามารถทำดาเมจใส่บอสได้ ทุกครั้งที่บอสใช้สกิลด้วยคิวบิกรอบตัวเป็นชุดใหญ่จบลงจะเหลือไว้เพียงคริสตัลธาตุข้างในเอาไว้ ตรงช่วงนี้ผู้เล่นสามารถเข้าไปโจมตีได้จะสร้างดาเมจลดเลือดบอสในระยะสั้นๆ ก่อนจะรวบรวมคิวบิกกลับมาป้องกันอีกครั้ง Cryo Hypostasis บอสธาตุน้ำแข็งจะพบจุดเกิดได้ในแมพภูเขาหิมะตรงลานกว้างแถว Wyrmrest Valley ในโซนนี้จะมีเรื่องของลมหนาวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กับจุดให้ความอุ่นเกจค่าความหนาวจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ถ้าปล่อยจนเต็มความหนาวจะกัดกินเสียเลือดอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเจอจุดอุ่นค่าความหนาวจึงจะลดลง และสำหรับบอสธาตุน้ำแข็งนี้เองเมื่อเราเข้าใกล้จะเกิดความหนาวกลายเป็นคูณ 2 เกจขึ้นไวกว่าเดิมมาก แต่ในบริเวณลานสู้จะมีแท่นกลไกความอุ่นเอาไว้พักพิง 3 จุด ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนความหนาวฆ่าตาย สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนสู้ การเตรียมตัวก่อนสู้เป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่เลือกตัวละครหลักทั้ง 4 เตรียมอาหารและยาให้พร้อมสำหรับการปราบบอส สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้ ธาตุที่แนะนำ บอสธาตุน้ำแข็งน่าจะเป็นบอสที่สู้ได้ง่ายที่สุดแล้วเพราะเมื่อน้ำแข็งเจอกับไฟจะเกิดปฏิกิริยาละลาย ทำให้โดนดาเมจเข้าไปแบบคูณ 2 ใครทำตัวธาตุไฟไว้บอกเลยงานนี้หมูมากๆ (แต่ต้องระวังเรื่องเกจความหนาวด้วยนะ) และอีกสองธาตุแนะนำให้ลงทีมด้วยจะเป็น ธาตุไฟฟ้าเพื่อทำปฏิกิริยานำไฟฟ้าลดเกราะป้องกันของบอสลง กับธาตุหินเมื่อโจมตีด้วยธาตุหินใส่บอสจะทำให้เกิดการตกผลึก หลังจากเก็บจะได้รับเกราะป้องกันธาตุน้ำแข็งของบอสมา หากใครมีตัวละครที่สามารถสร้างเกราะป้องกันให้ทีมได้เช่น Noelle, Zhongli, Diona จะช่วยให้โดนดาเมจจากบอสได้ยากขึ้นสู้ได้สบายขึ้นมาก อาหารและขวดยาเวทย์ สิ่งต่อไปต้องเตรียมเอาไว้ติดกระเป๋าให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินและช่วงวิกฤตคือพวกอาหารและยาเวทย์นั้นเอง สำหรับบอสตัวนี้จะมีการโจมตีด้วยธาตุน้ำแข็งเป็นหลักให้เตรียมขวดยาต้านธาตุน้ำแข็งเอาไว้หลายขวดช่วยลดดาเมจจากการปะทะกับธาตุน้ำแข็งได้ดี จะมีขวดยาเพิ่มพลังธาตุตามตัวละครที่นำไปลงให้สร้างดาเมจได้แรงขึ้นด้วยก็ได้เช่นกัน (สามารถสร้างได้ตรงเมืองหลักกับ Timaeus) อาหารให้เตรียมประเภทเพิ่มพลังโจมตี ฟื้นฟูเลือด เพิ่มพลังป้องกัน เป็นหลักเอาไว้ใช้จะช่วยให้ผ่านบอสได้ง่ายขึ้น สกิลของบอส ตัวบอสจะมีออร่าน้ำแข็งทำให้เมื่อเข้าใกล้จะเพิ่มเกจความหนาวอย่างรวดเร็ว พยายามอยู่ใกล้เสาอุ่นเอาไว้เพื่อไม่ให้โดนดาเมจจากความหนาวกัดกินได้ ท่าแรก : บอสจะชาร์จพลังแล้วปล่อยเกราะรอบตัวลงไปในพื้นก่อนจะสร้างน้ำแข็งติดตามใส่จุดล่าสุดที่เราอยู่ ท่านี้จะมีวิธีหลบสองแบบคือ 1. เดินวนไปรอบๆ จนกว่าจะสิ้นสุดท่า 2. เข้าไปอยู่กับบอสตรงกลางท่าของบอสจะไม่ตามเข้ามาด้วย ตอนบอสใช้ท่านี้อยู่จะเผยให้เห็นแกนกลางสามารถเข้าไปตีและหลบพร้อมกันไปในตัวได้เลย ท่าสอง : บอสจะแปลงร่างกลายเป็นกงล้อยักษ์เพื่อพุ่งชนใส่อย่างรวดเร็วเป็นเส้นตรง วิธีการหลบท่านี้ให้รอจังหวะที่บอสเข้ามาใกล้แล้วรีบกดแดชหลบทันที จะสามารถหลบท่านี้ได้ บอสจะเลี้ยวกลับมาเพื่อพุ่งชนประมาณ 2 - 3 ครั้ง ถ้าเราอยู่ใกล้กำแพง บางครั้งบอสจะเลี้ยวกลับไปทันแล้วพุ่งชนกำแพงแทน หลังจากที่บอสพุ่งชนกำแพงจะเหลือไว้เพียงแกนกลางให้สามารถเข้าไปตีได้ระยะนึง ท่าสาม : บอสจะรวบรวมพลังสร้างแท่งน้ำแข็งทรงมงกุฎขึ้นมาแล้วโจมตีรอบตัวเป็นวงกว้าง 3 ครั้ง จากนั้นจะเหลือไว้แค่แกนกลางให้เข้าไปตีได้ระยะสั้นๆ เป็นท่าที่สังเกตได้ไม่ยากทำให้สามารถเดินออกมาหลบข้างนอกได้สบายๆ ท่าสี่ : บอสจะลอยขึ้นฟ้าพร้อมสร้างวงเวทย์ก่อนจะชาร์จน้ำแข็งยิงเป็นจรวดติดตาม วิธีการหลบหากเห็นว่าบอสกำลังลอยขึ้นให้รีบหนีออกมาให้ห่างที่สุด แล้วรอบอสยิงน้ำแข็งมาเกือบใกล้ตายแล้วค่อยเดินหนี แต่ถ้าระยะใกล้บอสให้หนีออกมาเท่าที่ทำได้แล้ววิ่งไปทางซ้ายหรือขวาจังหวะเข้าใกล้ให้กดแดชก่อน 1 ครั้ง แล้วกดอีกรอบจังหวะชุดสองลอยมาจะสามารถหลบท่านี้ได้ ท่าห้า : เมื่ออยู่ระยะประชิดบอสจะสุ่มใช้ท่ากางเป็นกำแพงขนาดยักษ์แล้วพับสองข้างเข้าหากันเพื่อโจมตี หากเห็นท่านี้เมื่อไหร่ให้ถอยหลบออกมาโดยเร็ว หลังจากบอสใกล้ตายจะหายตัวจะวาร์ปกลับไปใจกลางพร้อมสร้างเกราะน้ำแข็งรอบตัวเอาไว้ แล้วคอยโจมตีด้วยดาวตกยักษ์รอบละ 3 ครั้ง ซึ่งการจะตีเกราะของบอสให้แตกนั้นจะต้อง "ใช้ท่าชาร์จโจมตีตีใส่ลูกดาวตกยักษ์" เพื่อให้มันพุ่งกลับไปชนใส่เกราะของบอส 1 ลูกจะลดเกราะเกือบครึ่งหลอด ต้องใช้ทั้งหมด 3 ลูกในการทำให้เกราะหายไป หรือตีกลับไป 2 ลูก แล้วเข้าไปใช้ธาตุไฟโจมตีใส่อีกนิดหน่อยก็ได้เช่นกัน เมื่อเกราะแตกจะสามารถเข้าไปโจมตีแกนกลางของบอสได้เพื่อจบการต่อสู้ทั้งหมด แต่ในระหว่างที่วิ่งไปตีดาวตกยักษ์นั้นบอสจะคอยใช้สกิลก่อกวนเรื่อยๆ โดยท่าแรกจะเป็นท่าจรวดน้ำแข็งติดตาม และอีกท่าหากอยู่ใกล้บอสมันจะสร้างแท่งน้ำแข็งออกมาครึ่งวงรอบตัว ถ้าหากทำลายไม่ทันบอสจะดึงพลังกลับไปแล้วฟื้นเลือดกลับมาค่อนข้างเยอะพอสมควร ต้องตีจนบอสใกล้ตายอีกครั้งแล้วทำลายเกราะใหม่อีกรอบแทน ไอเทมที่ดรอปจากบอส หลังจากใช้ Original Resin 40 ชิ้น เพื่อเปิดดอกไม้แห่งการยกทัพสำเร็จจะได้รับไอเทมดังต่อไปนี้ 1.EXP แรงค์ผจญภัย 200 EXP, EXP ค่าความสัมพันธ์ตัวละคร และเงินหนึ่งจำนวน หินเลื่อนขั้น (โอกาสสุ่ม) Crystalline Bloom อาร์ติแฟกต์ (โอกาสสุ่ม) จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

ใน Monster Hunter Rise นั้นเป็นการกลับไปสู่ภาค Console อีกครั้งของซีรี่ย์ Monster Hunter ดังนั้นสำหรับนักล่าหลายคนที่ผ่านการเล่นภาค World มาก่อน หรือนักล่ามือใหม่ที่ยังไม่เคยเล่นนั้น อาจจะสับสนได้ว่าเควสที่มีอยู่มากมาย แบ่งตรงนั้นตรงนี้เนี่ย มันมีอะไรบ้าง แล้วควรทำไหม บทความนี้จะมาพูดถึงตัวเควสเหล่านี้กันจ้า เควสต่างๆ ที่พบเจอได้ในเกม ในภาค Rise นี้จะมีเควสหลายชนิดให้เพื่อนๆ ได้พบเจอมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเควสพื้นฐานอย่าง เควสหมู่บ้าน หรือเควสออนไลน์ใน Hub นี่ยังไม่รวมถึงชนิดของเควสอย่างการออกสำรวจ Rampage หรืออย่างคำขอร้องต่างๆ อีก มันอาจจะชวนงง แต่เชื่อได้เลยว่าจริงๆ แล้วมันเข้าใจง่ายกว่าที่คิดมากเลยล่ะ เพราะงั้นเราไปดูกันทีละแบบดีกว่า ว่าเควสไหนเป็นอะไรกันบ้าง โดยเราจะแบ่งตัวเควสได้ทั้งหมดออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ รูปแบบของเควส : เป็นเควสที่เกี่ยวกับจำนวนของผู้เล่นหลักๆ ในเกมทั้งสองรูปแบบ เควสหลักของเกม : เป็นหัวข้อย่อยที่แยกเควสเป็นกลุ่มๆ ตามรูปแบบที่เราจะเล่น คำขอร้อง : เป็นเควสย่อยของเควสย่อยอีกทีหนึ่ง เมื่อรับมาแล้วจะทำตอนไหนก็ได้ในระหว่างที่เล่นเควสทั่วไปอยู่   ◘ รูปแบบของเควส ◘ เป็นการแบ่งเควสออกเป็นกลุ่มเควสหมู่บ้านและเควสในฮับที่แยกระหว่างเควสที่เล่นได้คนเดียวเท่านั้น และเควสที่สามารถครีเล่นหลายคนได้ออกจากกัน แต่ทั้งสองแบบก็มีความแตกต่างกันในระดับหนึ่ง ► เควสหมู่บ้าน (Village Quest) เควสในหมู่บ้านจะเป็นเควสที่เล่นได้คนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถให้เพื่อนช่วยได้ทุกกรณี (ยกเว้นเพื่อนมาเล่นให้) โดยแลกกับการที่มอนสเตอร์ในเควสนี้จะมีพลังชีวิตน้อยกว่าเควสใน Gathering Hub ถึงเท่าตัวเลยก็ว่าได้ และจะมีในระบดั Low Rank เท่านั้น ไม่มีมากกว่านั้น การเล่นเควสหมู่บ้านเป็นวิธีการที่ดีในการพยายามลองหัดเล่นตัวเกมด้วยตัวคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเล่น การลองอาวุธต่างๆ ความยากนั้นจะทำมาให้เหมาะสมกับผู้เล่นมือใหม่และได้ของต่างๆ ตามปกติอีกด้วย นอกจากนี้ของหลายๆ อย่างก็จะมีการปลดล๊อคให้เพื่อนๆ ด้วยระหว่างที่เล่นเควสหมู่บ้านนี้ และหากเล่นไปจนถึงระดับสูงๆ จะใช้เควสสอบเข้าเลื่อนระดับของเควสฮับได้เช่นกัน การเล่นเควสหมู่บ้านจบแล้วก็จะเป็นการปลดล๊อคฉากจบพื้นฐานของซีรี่ย์นี้ ทำให้หลายคนแซวกันว่า อีกด้วยล่ะ ► เควสในฮับ (Gathering Hub) เควสในกลุ่มนี้จะเป็นเควสที่เรียกได้ว่าเป็นเนื้อหาหลักของเกมที่แท้ทรู สามารถเล่นกับเพื่อนๆ นักล่าคนอื่นๆ ได้ แต่ว่าก็แลกมาด้วยการที่มอนสเตอร์จะมีพลังชีวิตเยอะขึ้นประมาณสองเท่าตัวกันเลยทีเดียว จากที่เคยนวดแป๊บๆ ตาย อาจจะต้องใช้เวลายาวนานขึ้นมากสำหรับคนที่ยังไม่ชิน นอกจากนี้แล้ว ในเควสหลักนี้ จะมีการแบ่งเป็นระดับ Low Rank และมอนระดับ High Rank รวมไปถึงการมีเควสที่เยอะกว่า มีความท้าทายกว่า และมีมอนสเตอร์ตัวใหม่ๆ ที่ไม่มีในเควสหมู่บ้านอีกด้วย • เควส Low Rank เป็นเควสระดับเริ่มต้น เหมือนกับในหมู่บ้าน แต่เลือดเยอะกว่า เป็นเหมือนกับเควสสอนการเล่นเบื้องต้นให้เจอกับศัตรูที่ยังตีไม่แรง ค่อยๆ อัพเกรดพัฒนาอาวุธและชุดเกราะไปเรื่อยๆ จนแข็งแกร่งขึ้น • เควส High Rank เควสที่ให้เพื่อนๆ ได้รีดเร้นความสามารถของตัวเองออกมาของจริง มอนจะเลือดเยอะขึ้น ตีแรงขึ้น รวมถึงบางตัวอาจจะมีท่าที่ใหม่ๆ เพิ่มเติมมาอีกด้วย นอกจากนี้เพ่อนๆ จะได้เจอกับมอนสเตอร์ที่ไม่เคยเจอมาก่อนอีกหลายต่อหลายตัว เรียกว่ามันคือพื้นที่ของนักล่าที่ผ่านบททดสอบกันมาได้แล้วนั่นเอง   ◘ เควสหลักของเกม ◘ เควสเหล่านี้หมายถึงเควสที่เพื่อนๆ ต้องทำการสร้างเควสขึ้นมาเพื่อเข้าไปเล่น ซึ่งจะมีการแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ แต่โดยรวมมีเป้าหมายเหมือนกันคือ "สร้างเควสขึ้นมา ทำตามเป้าหมายก็จบเรียบร้อยกลับบ้าน พลาดเควสก็ล่มไปเริ่มใหม่หมดน้า" ► Key Quest เควสเหล่านี้จะเป็นเควสที่เป็นเงื่อนไขในการปลดล๊อคเควสสอบเลื่อนระดับ (Urgent Quest) โดยสังเกตุได้จากสัญลักษณ์สีแดงที่อยู่ด้านหน้าของตัวเควส หากมีตรานี้อยู่จะหมายถึงเควสกลุ่มนี้ทั้งสิ้น ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเป็นเควสชนิดไหน ปกติก็จะได้ฟาดกับมอนสเตอร์ แต่ในต้นเกมอาจจะเจอแค่เควสส่งของก็ได้ ตัวเควสสำคัญเหล่านี้มักจะมีจำนวนมากกว่าตัวเควสที่ต้องทำเพื่อปลดล๊อค Urgent Quest เพื่อให้เพ่อนๆ มีตัวเลือกว่าจะล่าหรือไม่ล่าตัวไหนได้ ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด อันไหนที่ทำแล้วตราสีแดงจะกลายเป็นสีเทา และจำนวน Key Quest ด้านบนจะนับเพิ่มขึ้นให้ เมื่อทำครบแล้วก็จะปลดล๊อคตัว Urgent Quest มาให้ • Urgent Quest เควสสอบเลื่อนระดับ / เควสเร่งด่วน เป็นเควสที่เมื่อเพื่อนๆ เล่นผ่าน จะได้รับการเลื่อนระดับ Rank ทำให้สามารถรับเควสในระดับที่สูงขึ้นได้ มอนสเตอร์ในเควสจะมีความโหดกว่าตัวที่เคยเล่นในระดับก่อนหน้าค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากเพื่อนๆ เล่นล้มเหลว ก็แค่กลับไปเริ่มใหม่ ไม่ต้องไปไล่ทำ Key Quest ทุกอันใหม่หมดแต่อย่างใด เกมไม่ดุร้ายขนาดนั้น ► Expedition Quest เควสออกสำรวจ เป็นเควสที่ไม่มีเป้าหมายพิเศษ ไม่จำกัดเวลา ตายได้ไม่จำกัดครั้ง ไม่มีรางวัลจากการล่าเป็นพิเศษ ได้จากโบนัสและตัวที่เพื่อนๆ ล่าล้วนๆ โดยหลักเป็นเควสที่ไว้ให้เราได้ออกตามหาไอเทม ทรัพยากรต่างๆ เดินชมนกชมไม้ หาสัตว์หายาก ว่ากันไป ► Rampage Quest เควสที่ทำขายระบบการเล่นหลายคน เป็นเควสที่ให้เพื่อนๆ ได้เล่นเกมแนววางป้อมกันบ้านจากฝูงมอน แต่เราก็ลงไปหวดได้ ถ้าเล่นหลายคนจะเป็นเควสที่ค่อนข้างสนุกมากเลยทีเดียว เพราะมีอะไรให้เล่นเยอะ แบ่งหน้าที่หรือมั่วกันได้เต็มที่ แต่ถ้าเล่นคนเดียวอาจจะเครียดหน่อยเพราะต้องทำอะไรหลายอย่างด้วยตัวเองหมด แต่คิดในแง่ดี เควสนี้จะล่มต่อเมื่อประตูพัง ตัวเราจะตายกี่ครั้งก็ได้จ้า อ่านรายละเอียดของเควส Rampage แบบเจาะลึกได้   ► Special Quest เควสชุดนี้เป็นเควสที่จะได้รับจากเหล่า NPC ต่างๆ ซึ่งเมื่อทำแล้วก็จะได้รับของรางวัลพิเศษหรือปลดล๊อคอะไรออกมาให้ เช่นดังโงะชนิดใหม่ๆ ซึ่งเป็นเควสที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง สังเกตุได้จากไอคอนรูปเครื่องหมายคำพูดสีเหลืองด้านหน้าตัวเควสเหล่านี้   ► Arena Quest เควสพิเศษที่จะบังคับให้เพื่อนๆ นักล่าต้องเลือกชุดเกราะและอาวุธ รวมถึงไอเทมเป็นเซ็ตจากที่ตัวเกมกำหนดให้ เป็นเควสที่มีความเท่าเทียมที่สุดในเกมเพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงชุดหรือไอเทมในตัว แถมมอนสเตอร์ยังเป็นตัวเดิม ข้อมูลรายละเอียด Data เหมือนเดิม (ยกเว้นดวงออกท่ามอน...) เป็นเควสที่เมื่อเล่นจบจะมีรางวัลแปลกๆ ให้เสมอ เช่นต่างหูต่างๆ (ใส่ที่ส่วนหมวก) ที่มีสกิลอลังการ แต่ด้วยความที่ชุดและอาวุธมักจะทรมาณทรกรรม นักล่าส่วนมากเลยไม่ค่อยชอบเล่นกันนัก สามารถเล่นได้สูงสุด 2 คน เพื่อนๆ จะสามารถเล่นเควส Arena ได้จากการคุยกับ NPC Master Utsushi (อาจารย์นินจาที่ให้เราถ่ายรูปตอนแรกๆ) ใน Gathering Hub   ► Optional Quest เควสอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเควสดังกล่าวที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเควสที่จะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ แต่สายเก็บครบมักจะเล่นให้หมดเพื่อให้ได้เครื่องหมาติ๊กถูกสีแดงที่ด้านหลังของเควสชุดนั้น แหงล่ะน้า ถ้ามันมีขีดสีแดงบ้าง ไม่มีบ้าง มันก็ดูยังไงๆ ขาดๆ เกินๆ ล่ะนะ   ◘ คำขอร้อง ◘ ตัวคำขอร้องนี้จะเป็นเควสเล็กน้อยที่ได้รับมาจาก NPC ต่างๆ หรือเป็น Subquest ที่รับมา จุดเด่นของคำขอร้องเหล่านี้คือการที่ไม่ต้องครีตัวเควสโดยตรง จะเล่นในเควสไหน ตอนไหนก็ได้...

ในตอนแรกนั้น Monster Hunter Rise มีมอนสเตอร์ระดับ Apex อยู่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และเจ้า Apex Azuros จัดเป็นตัวแรกที่เพื่อนๆ จะได้เฮฮากับมันใน Rampage Quest ซึ่งหลังจากการอัพเดตมา เพื่อนๆ ก็สามารถได้ฟาดฟันกับเหล่า Apex Monster นอกเควส Rampage กันได้เสียที ..... เท่าที่ตัวเกมปลดล๊อคออกมาให้ล่ะนะ เพราะงั้นไปดูกันดีกว่าว่าเหล่า Apex Monster ทั้งหมดตอนนี้มีตัวไหนปลดล๊อคออกมาได้อย่างไรบ้างกัน วิธีการปลดล๊อค Apex Monster ต่างๆ รูป ชื่อ วิธีการปลดล๊อค Apex Azuros มีระดับ Hunter Rank 8 Apex Rathian มีระดับ Hunter Rank 40 ผ่านเควส Rampage Apex Rathian ผ่านเควส The Emperor of Flame Apex Mizutsune มีระดับ Hunter Rank 45 ผ่านเควส Rampage Apex Mizutsune Apex Rathalos ยังไม่สามารถปลดล๊อคได้ในเวลานี้ มีเฉพาะในเควส Rampage Apex Rathalos Apex Diablo ยังไม่สามารถปลดล๊อคได้ในเวลานี้ มีเฉพาะในเควส Rampage Apex Diablos   วิธีการรับมือเหล่า Apex Monster ก่อนอ่นสิ่งที่ควรทราบเลยคือ เหล่า Apex Monster ทุกตัวนั้น จะไม่ได้รับผลของกับดักใดๆ (พวกนายเป็น Elder Dragon เรอะ?) รวมถึงยังต้านทานสถานะอย่างชาหรือหลับได้ แต่ยังติดมึนได้อยู่ ยังถูกตีล้มได้อยู่ และไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดตบเราทีเดียวไส้แตกกลับบ้าน (แต่ท่าแรงๆ อาจจะทำให้เราโดนแบบนั้นได้) นอกจากนี้ยังไม่สามารถขี่พวกมันได้อีกต่างหาก ดังนั้นการต่อสู้กับพวกมันจึงเป็นการเรียนรู้วิธีสู้ เอาแรงฟาดกันเข้าว่านี่ล่ะ สิ่งที่ควรระวังมากๆ คือการที่ต้องมี Wirebug เหลือไว้ใช้ท่า Wirefall หลบหนีเวลาที่เจอท่างัดลอย ท่าจับทั้งหลาย (ท่าที่ทำให้ตัวเราปลิวอยู่กลางอากาศ ไม่ใช่กระเด็นลงไปกลิ้งกลุกๆ เป็นอมตะ) เพราะตอนเราปลิวหรือโดนจับ จะยังโดนความเสียหายได้ตามปกติ และพวกมันจะมีท่าต่อเนื่องที่ฆ่าเราให้ตายกลางอากาศแบบไร้ที่พึ่งพิงได้ทุกตัว การบริหาร Wirebug ให้ดีจึงเป็นจุดสำคัญในการเอาตัวรอดหากยังหลบไม่ชำนาญเลยทีเดียว   Apex Azuros แพ้ธาตุ : ไฟ น้องหมีตัวแรกสุดที่เราจะได้เจอกัน มาพร้อมกับความบ้าพลัง ขนาดตัวที่เล็กรับมือยาก มีท่าตบให้ลอยแล้วตบซ้ำให้เดี้ยงคาที่ได้หากไม่ใช่ Wirefall หลบหนีออกมาให้ทัน โดยรวมแล้วพี่หมีของเราไม่ได้รับมือยากเท่าตัวอื่น แต่ด้วยไซส์ตัวที่เล็ก ประกอบกับดูอะไรไม่ค่อยจะออกว่าท่าจะมาตอนไหน ทำให้บางทีมันก็รับมือยากเหมือนกันล่ะนะ ท่าใหม่ของน้องหมีส่วนมากจะมีการยืนนิ่งๆ ชาร์จพลังรอ ทำให้ถ้าคุ้นเคยกับการสู้กับน้องหมีปกติ จะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ส่วนในตอน Rampage นั้น แค่ล่อให้น้องหมีออกมาไกลจากประตูหลักซักหน่อย ก็จะเบาแรงลงไปได้เยอะเลย และปกติเราจะไม่มี Spilitfire ให้ยิง เพราะงั้นต้องอาศัยกำลังเข้าว่า ทุบน้องหมีให้ชะงักถึงจะหยุดท่าทุบประตูได้   Apex Rathian แพ้ธาตุ : มังกร ตัว Apex Rathian นั้นโดยรวมให้ความรู้สึกใกล้เคียงตัวปกติมาก แต่ว่ามีพิษที่ร้ายแรงยิ่งกว่า และการโดนหางตวัดใส่หน้า สามารถทำให้ติดพิษได้ และการโจมตีหลายๆ อย่างจะปล่อยพิษหรือหนามที่มีออร่าพิษแถมไปด้วย ทำให้มักจะตายกันเพราะพิษได้ง่าย ลีลาสะบัดหางก็จะร้ายขึ้น ต่อเนื่องขึ้นเป็นสอง-สามครั้งติดกันตลอด เรียกได้ว่าการ์ดอย่าตกกันเลยทีเดียว การสู้กับ Apex Rathian นั้น เพื่อนๆ ต้องห้ามลืมไอเทมอย่าง Herbal Medicine หรืออย่างน้อยสุด Antidote ก็ยังดี (แบบขวดจะกินช้ามากๆ) การมีสกิลอย่าง Poison Resistance 3 จะช่วยบรรเทาความเสียหายจากพิษของเจ๊แกได้อยู่บ้าง ถ้าไม่ลืมพกยาแก้พิษและระวังหนามกับท่าที่เกี่ยวกับหางแล้ว เจ๊จะค่อนข้างชิวเยี่ยงน้องหมีอยู่ ตอนเจ๊โกรธ หางจะมีพิษไหลออกมา ซึ่งเป็นแค่ effect สวยๆ เท่านั้น การเดินไปแตะหางไม่ทำให้ติดพิษ แต่ฟาดมาอ่ะติดแน่ๆ   Apex Mizutsune แพ้ธาตุ : สายฟ้าและมังกร เมื่อฟองสบู่น่ารักกลายเป็นฟองสบู่ระเบิด ความบรรเทิงจะไปไหนเสีย? Apex Mizutsune นั้นมาพร้อมกับฟองสบู่ธรรมดา และฟองสบู่สีฟ้าที่มีประกายไฟ ชนอะไรก็ระเบิดตู้ม แถมยังทำให้ติด Hellfire Blight อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นมังกรสารพัดธาตุเยี่ยงเจ้า Bishaten เลยก็ว่าได้งานนี้ การรับมือเลยค่อนข้างวุ่นวายมาก เจ้าฟองธรรมดายังโดนได้ แต่ฟองระเบิดนี่อย่าได้โดนเล่นเชียว หน้าสั่นแน่นอน อย่างไรก็ดี หากเพื่อนๆ โดนฟองสีฟ้า ยังสามารถใช้ Wiredash เพื่อสลัดเจ้า Hellfire Blight ออกจากตัวได้ อย่างน้อยก็ใช้เป็นอาวุธตอบโต้เจ้า Mizutsune กลับได้บ้าง อาจจะทำให้มันล้มเลยก็ยังได้นะ! ท่าชาร์จประตูของ Mizutsune จะเป็นท่าปล่อยฟองสบู่สีทองขึ้นฟ้า เป็นท่าที่อันตรายมาก แนะนำหาก Spiritfire ไม่พร้อม ให้ใช้ป้อมปืนระดมยิงฟองเหล่านี้ให้แตกให้ไวที่สุด จะช่วยลดความเสียหายต่อประตูได้   Apex Rathalos แพ้ธาตุ : มังกร ระเบิดกว้างขึ้น แรงขึ้น วินาศมากขึ้นคือ Apex Rathalos ตัวนี้ แต่ก็ยังโดน Flash ร่วงได้เช่นเคย การสู้กับพี่แกจึงต้องมีทั้ง Flash Bomb และชุดที่กันไฟได้ดี ไม่งั้นอาจจะเกรียมเอาได้ง่ายๆ และเป็นตัวหนึ่งที่ต้องเตรียม Wirebug ไว้ติดตัวตัวนึงเสมอ เพราะถ้าโดนมันเอากรงเล็บจับแล้วตอนเหวี่ยงออกไม่ Wirefall หนีล่ะก็ โดนปาดซ้ำตายสนิทชัวร์ๆ!!! หลักๆ เท่าที่ควรต้องระวังคือลูกไฟ ท่าโจมตีไฟต่างๆ ที่จะระเบิดเป็นวงกว้างขึ้น มีระเบิดแถมรอบๆ นี่แหละที่ทำให้ตายทีเผลอได้ง่ายๆ เลย ถ้าคิดว่าชุดกันไฟเอาไม่อยู่ การมีสกิลอย่าง Evade Window, Evade Extender จะช่วยได้มาก ท่าไม้ตายของพี่แกจะเป็นการชาร์จแล้วบินขึ้นสูงเสียดฟ้า (คุ้นๆ เหมือนภาคแรกๆ เนอะตัวเอง แค่รอบนี้ Flash ไม่ร่วง...) ก่อนจะยิงลูกไฟขนาดยักษ์ลงมาใส่ป้อมแบบสุ่ม ตามด้วยประตู การจะหยุดพี่แกจึงต้องหยุดตอนที่กำลังชาร์จเท่านั้น ขึ้นไปแล้วก็ GG จ้า วิ่งให้ทันละกัน   Apex Diablo แพ้ธาตุ...

ใน Monster Hunter World นั้น เหล่า Endemic Life เป็นเพียงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยสำหรับใช้ในการสะสมเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ความคิดนั้นก็ต้องเปลี่ยนไปใน Monster Hunter Rise เพราะในครั้งนี้ เหล่าสัตว์ตัวน้อยเหล่านี้ไม่ได้มีแค่การสะสมเท่านั้น แต่ยังใช้ล่ามอนได้อีกด้วย! วันนี้จะมาพูดถึงเหล่าสัตว์พวกนี้กันว่าพวกมันทำอะไรกันได้บ้าง Endemic Life คืออะไร? สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยในฉากหรือ Endemic Life นั้น แรกเริ่มเดิมทีเป็นแค่กับดักเล็กๆ น้อยๆ ไว้ช่วยเหลือผู้เล่น หรือใช้เป็นสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ ในบ้านจากในภาค World และ Iceborne แต่ในภาค Rise นี้ระบบได้ทำการเปลี่ยนจากการเป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่ใช้แต่งบ้านได้กลายมาเป็นไอเทมที่ช่วยเหลือในการล่าได้ 100% กันเลยทีเดียว! (แม้ว่าจะใช้แต่งบ้านไม่ได้แล้วก็ตาม แง...) เนื่องจากในภาค Rise นั้น เหล่า Endemic Life จัดเป็นส่วนหนึ่งที่นักล่าหลายคน จะมือใหม่หรือมือเก่าก็มีเผลอลืมกันบ้างล่ะ ว่ามันได้กลายเป็นอุปกรณ์ในการใช้ล่าได้อย่างเต็มตัวแล้ว และพวกมันถูกแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มต่างๆ เช่นไอเทมบัพ ไอเทมใช้งาน บัพชั่วคราว หรือแม้แต่สัตว์นำโชคที่ช่วยเพิ่มของดรอปก็ยังมี เรียกได้ว่าเลื่อนช่องเก็บของหาเจ้าสัตว์เหล่านี้มาใช้กันได้สนุกเลยทีเดียว แน่นอนว่าจะไม่ใช้พวกสัตว์น้อยใหญ่เหล่านี้ในการล่าก็ไม่เสียหาย และอาจจะประหยัดเวลาได้ถ้าเพื่อนๆ เซียนแล้ว แต่การที่จะเอามาใช้ ก็อาจจะช่วยเหลือในการล่าได้มากกว่าที่หลายคนคาดคิดเลยล่ะ เพราะงั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าเหล่าสัตว์พวกนี้มีอะไรให้เราใช้กันบ้าง   กลุ่ม Permabuffer พวกนี้จะเป็นเหล่านก Spiritbird ที่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ จะบินมาร้องเสียงหวานและบัพค่าสเตตัสของเพื่อนๆ ถาวรจนกว่าจะจบเควส หรือที่หลายคนเรียกนกบัพ โดยปริมาณที่บัพได้ต่อตัวและบัพสูงสุดจะขึ้นกับเจ้ากำลัง Patalace ที่เราใส่อยู่ในขณะนั้น หลายคนอาจจะเห็นเพื่อนๆ นักล่าวิ่งไปมาทั่วแผนที่ไม่มาตีมอนแล้วก็กลับมาพร้อมกับกล้ามใหญ่ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเขาไปไหนมา เก็บบัพยังไงล่ะ! รูป ชื่อ คุณสมบัติ Red Spiritbird นกสีแดง ช่วยเพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย Orange Spiritbird นกสีส้ม ช่วยเพิ่มพลังป้องกันเล็กน้อย Green Spiritbird นกสีเขียว ช่วยเพิ่มค่าพลังชีวิตสูงสุด Yellow Spiritbird นกสีเหลือง ช่วยเพิ่มค่า Stamina สูงสุด (ค่าที่เพิ่มมาจะต้องกดใช้ Ration หรือกินเนื้อถึงจะเพิ่มมา) Prism Spiritbird นกสีรุ้ง ช่วยเพิ่มทุกสเตตัสจนเต็มเท่าที่กำไล Patalace มีอยู่ในทันที   กลุ่ม Hunting Helper กลุ่มนี้จะเป็นไอเทมที่สามารถเก็บไว้ติดตัวได้ เมื่อทำการใช้งานก็จะเป็นการวางไว้ที่พื้นหรือขว้างออกไปเพื่อให้เกิดผลที่เราต้องการได้ หลักๆ แล้วจะช่วยทำให้เกิดสถานะผิดปกติมากกว่าใช้ทำความเสียหายโดยตรง ทำให้เพื่อนๆ ไม่ต้องพึ่งอาวุธสถานะผิดปกติ ก็สามารถทำให้มอนสเตอร์ติดสถานะต่างๆ ได้เช่นกัน หากใช้ถูกจังหวะและถูกวิธี รูป ชื่อ คุณสมบัติ เจอได้ที่ Poisontoad กบพิษ เมื่อกดใช้จะวางลงพื้น ก่อนจะปล่อยควันพิษเข้มข้นออกมา ทำให้ใครก็ตามในรัศมีติดพิษ Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Paratoad กบชา เมื่อกดใช้จะวางลงพื้น ก่อนจะปล่อยหมอกที่ทำให้ชาอย่างรุนแรงออกมา สามารถทำให้ติดชาได้ง่ายมาก Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Flood Forest Lava Caverns Sleeptoad กบหลับ เมื่อกดใช้จะวางลงพื้น ก่อนจะปล่อยแก๊สนอนหลับออกมาจำนวนมาก ใครที่โดนจะเกิดอาการง่วงหลับอย่างง่ายดาย Frost Islands Sandy Plains Flood Forest Blastoad กบระเบิด เมื่อกดใช้จะวางลงพื้น กบจะถุยเชื้อระเบิดเอาไว้ ก่อนจะระเบิดออกมาอย่างรุนแรงเยี่ยงระเบิดเวลา สามารถทำความเสียหายและทำให้ชะงักได้ (ถ้านักล่าโดนก็ปลิวไปเลย) Shrine Ruins Flood Forest Lava Caverns Firebeetle ด้วงกลิ้งดิน เมื่อกดใช้จะยิงกระสุนดินออกไปเป็นเส้นตรง ทำให้มอนสเตอร์ที่โดนติดสถานะ Fireblight Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Lava Caverns Mudbeetle ด้วงกลิ้งดิน เมื่อกดใช้จะยิงกระสุนดินออกไปเป็นเส้นตรง ทำให้มอนสเตอร์ที่โดนติดสถานะ Waterblight Shrine Ruins Sandy Plains Flood Forest Lava Caverns Thunderbeetle ด้วงกลิ้งดิน เมื่อกดใช้จะยิงกระสุนดินออกไปเป็นเส้นตรง ทำให้มอนสเตอร์ที่โดนติดสถานะ Thunderblight Shrine Ruins Frost Islands Flood Forest Lava Caverns Snowbeetle ด้วงกลิ้งดิน เมื่อกดใช้จะยิงกระสุนดินออกไปเป็นเส้นตรง ทำให้มอนสเตอร์ที่โดนติดสถานะ Iceblight Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Flood Forest Stinkmink ตัวมิ้งค์ที่มีกลิ่นแรง เมื่อกดใช้จะปล่อยควันที่จะช่วยล่อมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ มายังบริเวณเดียวกันนี้ เหมาะสำหรับเรียกมอนสเตอร์ให้เข้ามาตีกันอย่างยิ่ง Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Flood Forest Lava Caverns Escuregot หอกทากสีเขียว เมื่อกดใช้งานจะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตได้ ถ้าไปโจมตี จะปล่อยแสงจ้าออกมาเหมือนกับระเบิดแสง Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Flood Forest Puppet Spider แมงมุมเทพ เมื่อกดใช้จะวางลงพื้นและยิงใยเข้าใส่มอนสเตอร์ด้านหน้า หากมอนสเตอร์ตัวนั้นยังไม่เคยถูกขี่มาก่อน จะทำให้ขี่ได้เกือบจะทันทีเลยทีเดียว Shrine Ruins Frost Islands Lava Caverns Wailnard นกเสียงสูง เมื่อกดใช้จะร้องเสียงที่จะล่อมอนสเตอร์ทั้งหมดในพื้นที่นั้นมายังจุดนี้ทันที ตีกันเละไปข้าง Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Flood Forest Lava Caverns Trapbug แมลงเรือใบ เมื่อใช้จะโปรยไว้บนพื้น หากมอนสเตอร์มาเหยียบจะชะงักให้เสียงจังหวะได้ Shrine Ruins Frost Islands Sandy Plains Antidobra งูแก้สถานะต่างๆ เมื่อใช้จะช่วยรักษาสถานะผิดปกติและป้องกันสถานะต่างๆ ได้ชั่วคราว Shrine Ruins Flood Forest Lava Caverns Brewhare...