Console Guide

Console Guide - สำหรับส่วนนี้จะเป็นการรวบรวม guide ต่างๆของเครื่อง console ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเป่าตลับ เช็ดแผ่นหรือวิธีชุบตัวละครลับที่โดนไม้แขวนเสื้อตีตาย

Yelan ได้เข้าสู่ Genshin Impact เรียบร้อยแล้วหลังอัปเดตแพทช์ 2.7 เธอเป็นตัวละครที่มีความสามารถสูงมากตัวหนึ่ง เพราะเธอมีความคล้ายกับตัวละครสุดเทพอย่าง Xingqiu ในด้านการดีบัฟน้ำใส่ศัตรูเอามาก ๆ แถมเธอยังมาพร้อมกับบัฟโบนัสดาเมจให้กับตัวละครบนสนามไปอีก ซัพเก่งขนาดนี้ เธอจะขึ้นแท่นมาเป็นตัวละครเมต้าตัวใหม่หรือไม่ ตามมาดูกันได้เลย แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Yelan แบบคร่าว ๆ เมื่อเธอไม่ได้ต่อสู้ หรือไม่อยู่บนสนามเป็นเวลา 5 วินาที เธอจะได้รับบัฟลดเวลาชาร์จโจมตี 80% 1 ครั้ง และเมื่อยิงออกไปจะทำความเสียหายตามค่าพลังชีวิตของเธอเป็นวงกว้าง สกิลธาตุจะเป็นการพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว และพันธนาการศัตรูไว้กับเส้นด้าย เมื่อการพุ่งสิ้นสุดลง เส้นด้ายจะระเบิดใส่ศัตรู ถ้ากดค้างจะเป็นการพุ่งที่นานยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใช้สำรวจมาก ๆ เลยล่ะ ท่าไม้ตายจะเป็นการใช้ลูกเต๋าโจมตีศัตรูโดยรอบ แล้วบัฟให้กับสมาชิกในทีม บัฟท่าไม้ตายจะเสกกระสุนน้ำขึ้นมาโจมตีศัตรูเมื่อสมาชิกในทีมทำการโจมตีปกติ นอกจากนี้ยังบัฟโบนัสความเสียหายให้กับตัวละครที่อยู่บนสนามด้วย โดยบัฟจะเพิ่มความแรงมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แนะนำอาวุธ สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ Aqua Simulacra, Elegy for the End และ Favonius Warbow Aqua Simulacra อาวุธประจำตัว มีพลังโจมตีพื้นฐานต่ำ แต่ให้ความแรงคริที่สูงมาก ๆ โดยพลังโจมตีพื้นฐานที่ต่ำนั้นไม่ใช้ปัญหาเลยแม้แต่น้อย เพราะตัวเธอเองโจมตีแรงจากพลังชีวิต ไม่ใช่พลังโจมตี Elegy for the End อาวุธสายสนับสนุน ใช้บัฟเพื่อนในทีมที่ใช้ค่าชำนาญธาตุในการเร่งดาเมจ โดยเฉพาะกับตัวละครธาตุไฟสายระเหยอย่าง Diluc, Yoimiya, Hutao หรือ Xiangling Favonius Warbow ธนูสี่ดาวที่ช่วยเรื่องฟื้นฟูพลังงานตัวเอง กับทีมได้ดีเยี่ยม แถมให้ค่าฟื้นฟูพลังงานที่สูงเอามาก ๆ แนะนำอาร์ติแฟกต์ นาฬิกาควรใส่พลังชีวิต หรืออัตราฟื้นฟูพลังงาน ถ้วยโบนัสความเสียหายน้ำ หมวกคริ ออฟรองเน้นค่าอัตราคริ ความแรงคริ ฟื้นฟูพลังงาน และ พลังชีวิต โดยทั่วไปแล้วควรมีค่าฟื้นฟูอยู่ที่ประมาณ 200% เป็นอย่างต่ำ เพื่อให้วนท่าไม้ตายได้ตลอด เพราะจุดประสงค์หลักของเธอคือใช้ท่าไม้ตายสนับสนุนทีม และดีบัฟน้ำใส่ศัตรู อาร์ติแฟกต์มีแนะนำอยู่เพียง 1 เซ็ต คือ 4 Emblem of Severed Fate 4 Emblem of Severed Fate เพิ่มโบนัสอัตราฟื้นฟูพลังงาน 20%  เพิ่มโบนัสความเสียหายท่าไม้ตายตาม 25% ของอัตราฟื้นฟูพลังงานที่มี สูงสุด 75% แนะนำสมาชิกทีม คอมโบตัวละครแนะนำได้แก่ Yoimiya, Diluc, Hu Tao และ Xiangling Yoimiya / Diluc / Xiangling เป็นตัวละครที่เธอสามารถไปแทนที่ Xingqiu ในตำแหน่งตัวดีบัฟน้ำได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ แถมยังมีบัฟโบนัสความเสียหายเสริมให้เข้าแรงไปอีก Hu Tao การสนับสนุนตัวละครที่ป้ายไฟได้รัวมากอย่าง Hu Tao นั้นออกจะมีปัญหาอยู่บ้าง เพราะหากตัว Hu Tao นั้นปลดกลุ่มดาว 1 แล้ว จะทำให้เธอโจมตีได้ไวขึ้นมากจนทำให้การดีบัฟน้ำไม่เพียงพอ การจะเล่นคู่กับ Hu Tao ที่ปลดกลุ่มดาว 1 นั้น (ควรจะปลดกลุ่มดาว 2 ของเพิ่มเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้ายน้ำให้ดียิ่งขึ้น) พรสวรรค์ เน้นอัปเลเวลท่าไม้ตายเป็นหลัก จากนั้นจึงอัปพรสวรรค์สกิลธาตุตามมา ส่วนการโจมตีปกตินั้นไม่จำเป็นต้องอัปก็ได้ แนะนำกลุ่มดาว กลุ่มดาวเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มดาวที่ดี แต่กลุ่มดาวที่ปลดแล้วทำให้เก่งขึ้นมากได้แก่กลุ่มดาวที่ 1, 2, และ 3 กลุ่มดาว 1 สะสมจำนวนการใช้สกิลธาตุเพิ่มได้ 1 ครั้ง กลุ่มดาว 2 เมื่อบัฟท่าไม้ตายทำการโจมตีเสริม จะยิงลูกศรน้ำเพิ่มขึ้น 1 ครั้ง โดยจะมีความเสียหายคิดเป็น 14% ของพลังชีวิตสูงสุด การโจมตีเสริมนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุก ๆ 1.8 วินาที  กลุ่มดาว 3 เพิ่มเลเวลท่าไม้ตาย 3 เลเวล สนับสนุนทีมได้ดีอยู่แล้วที่กลุ่มดาว 0 โดยเธอจะสามารถสนับสนุนตัวละครได้แทบจะเท่า Xingqiu ในแง่ของการดีบัฟน้ำ พร้อมกับบัฟโบนัสความเสียหายที่นายน้อยไม่มี แต่ถ้าหากอยากจะเล่นเธอคู่กับ Hu Tao แบบสบาย ๆ แล้วล่ะก็ กลุ่มดาวที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มดาวที่น่าปลดมาก ๆ เลยทีเดียว เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Read more

Venti เป็นตัวละครลิมิเต็ดตัวแรกจากเกม Genshin Impact เขาเป็นตัวละครยืนหนึ่งเสมอมาหากเป็นการต่อสู้กับศัตรูขนาดเล็ก หรือกลางจำนวนมาก เนื่องจากท่าไม้ตายของเขานั้นเป็นท่าไม้ตายที่มีประสิทธิภาพมากหากใช้กับศัตรูที่สามารถยกให้ลอยได้ แม้ปัจจุบันจะมีศัตรูใหม่มากมายที่เขาไม่สามารถยกให้ลอยได้ แต่ความเก่งของเขานั้นไม่ได้มีเพียงการรวมกลุ่มศัตรูเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับความเก่งของเขากัน ! แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Venti แบบคร่าว ๆ สกิลธาตุจะเป็นการเสกพายุลมข้างหน้าตัวละครเพื่อโจมตีศัตรูให้ลอยขึ้น หากกดค้างจะเป็นการสร้างพายุลมขนาดใหญ่ขึ้นมารอบตัวแทน ซึ่งการกดสกิลแบบค้างจะสร้างกระแสลมขึ้นมายังจุดที่กดใช้สกิลด้วย ผู้เล่นสามารถใช้กระแสลมบินขึ้นไปข้างบนได้ มีประโยชน์ในการสำรวจ และใช้หลบการโจมตีบนพื้นดินได้ดี ท่าไม้ตายจะเป็นการยิงพายุลมทรงกลมขนาดใหญ่ขึ้นไปด้านหน้า พายุจะทำการดูดศัตรูเข้ามายังใจกลางพายุอย่างรวดเร็ว หากเป็นศัตรูขนาดใหญ่ จะถูกดึงเข้าหาพายุอย่างช้า ๆ แทน เป็นหนึ่งในท่าไม้ตายสายรวบที่ดีที่สุดในเกม ในการใช้พายุนั้น ตัวละครบางตัวจะไม่สามารถโจมตีศัตรูที่ถูกดูดเข้าไปในพายุได้ เนื่องจากศัตรูอยู่สูงเกินไป สามารถแก้ไขได้ด้วยการอัพเลเวล Venti ไว้ให้น้อยกว่าศัตรูประมาณ 20 เลเวล เพราะศัตรูเลเวลสูงจะไม่สามารถถูกพายุยกให้ลอยขึ้นได้ เมื่อพายุจากท่าไม้ตายหมดเวลาลง Venti จะฟื้นฟูพลังงาน 15 หน่วยให้กับตนเองกับตัวละครในทีมที่มีธาตุตรงกับพายุดูดซับเข้าไป ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่ยังไม่ตกเมต้าไป และยังสามารถใช้งานได้ดีแม้จะไม่สามารถยกศัตรูใหม่ ๆ บางตัวให้ลอยได้ แนะนำอาวุธ สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 5 แบบด้วยกัน คือ Elegy for the End , Skyward Harp, The Stringless, Windblume Ode และ Favonius Warbow Elegy for the End อาวุธประจำตัว เป็นธนูที่ให้ค่าฟื้นฟูพลังงานสูง และสามารถใช้งานบัฟได้ง่าย เนื่องจากท่าไม้ตายของตัวละครเป็นท่าไม้ตายที่โจมตีถี่ ทำให้ใช้งานบัฟเพิ่มค่าชำนาญธาตุและพลังโจมตีได้สบาย ๆ Skyward Harp ธนูที่เพิ่มทั้งอัตราคริ และความแรงคริในอันเดียวกัน The Stringless ตัวธนูเพิ่มค่าชำนาญธาตุ ซึ่งมีผลต่อความแรงการกระจาย และมีสกิลอาวุธที่ช่วยเพิ่มโบนัสความเสียหายของสกิล และท่าไม้ตาย Windblume Ode ธนูจากกิจกรรม เพิ่มความแรงได้ใกล้เคียงกับ The Stringless แต่จำเป็นต้องกดสกิลก่อนท่าไม้ตาย เพื่อเอาบัฟพลังโจมตีมาจากสกิลอาวุธก่อน Favonius Warbow ธนูที่เน้นสนับสนุนทีมด้วยการเสกพลังงานสีรุ้งผ่านสกิลอาวุธ แม้ดาเมจอาจจะไม่สูง แต่ทำให้ทีมวนท่าไม้ตายได้ง่ายขึ้น แนะนำอาร์ติแฟกต์ นาฬิกาควรใส่ฟื้นฟูพลังงาน หรือพลังโจมตี ถ้วยโบนัสความเสียหายลม หมวกความแรงคริ หรือหมวกอัตราคริ ออฟรองที่เหมาะสมคือค่าชำนาญธาตุ อัตราคริ ความแรงคริ ฟื้นฟูพลังงาน และ พลังโจมตี หรือเพื่อน ๆ สามารถใช้ของเน้นชำนาญธาตุทุกชิ้นก็ได้อีกเหมือนกัน แต่อย่าลืมอัพเลเวลตัวละครให้ถึง 90 ด้วย เพราะความเสียหายของปฏิกิริยากระจายนั้นขึ้นอยู่กับเลเวลของตัวละครเป็นหลัก อาร์ติแฟกต์มีแนะนำอยู่เพียง 1 เซ็ต คือ 4 Viridescent Venerer 4 Viridescent Venerer เพิ่มโบนัสความเสียหายลม 15%  เพิ่มความเสียหายจากปฏิกิริยากระจายขึ้น 60% เมื่อทำปฏิกิริยากระจาย จะลดต้านทานธาตุที่ทำปฏิกิริยากระจายลง 40% เป็นดีบัฟที่แรงเป็นอันดับต้น ๆ ของเกม แนะนำสมาชิกทีม คอมโบตัวละครแนะนำได้แก่ Ayaka, Ganyu, Klee และ Mona Ayaka / Ganyu คอมโบท่าไม้ตายยอดนิยมของทีมแช่แข็งที่สามารถกวาดศัตรูขนาดเล็ก และกลางได้หมดในคอมโบเดียวด้วยการใช้ท่าไม้ตายรวบ และปิดคอมโบด้วยท่าไม้ตาย รวมกับการใช้ธาตุน้ำเข้ามาช่วยแช่แข็งของ Mona หรือ Kokomi Klee สกิลธาตุ ท่าไม้ตาย และการชาร์จโจมตีของน้องสามารถโจมตีศัตรูที่ถูกพายุดูดเข้าไปได้อย่างสบาย ๆ นอกจากนี้ถ้าพายุดูดธาตุไฟเข้าไป น้อง Klee ที่ใช้ค่าพลังงานเยอะจะได้พลังงานคืนมาด้วย Mona แม้จะไม่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่เป็นตัวละครที่ถูกนำไปใช้คู่กันบ่อย เนื่องจากตัว Mona เองเป็นตัวดีบัฟเพิ่มความเสียหายให้กับทีมแช่แข็ง ซึ่งเป็นทีมยอดนิยม ทำให้เวลาที่ใช้ Ayaka หรือ Ganyu คู่กับ Venti ก็แทบจะต้องติด Mona ไปด้วยตลอด พรสวรรค์ เน้นอัปเลเวลท่าไม้ตายเป็นหลัก จากนั้นจึงอัปสกิลธาตุรองลงมา เพราะตัวละครเน้นทำความเสียหายด้วย สกิลธาตุ และท่าไม้ตายเป็นหลัก การโจมตีปกตินั้นจะอัปไว้นิดหน่อย หรือไม่อัปเลยก็ยังได้ แนะนำกลุ่มดาว แม้จะเป็นตัวละครสายสนับสนุน แต่กลุ่มดาวส่วนใหญ่ของเขาจะเน้นไปทางเพิ่มความเสียหายที่ตัวเองทำได้เสียมากกว่า ส่วนกลุ่มดาวสายสนับสนุนที่น่าสนใจนั้นได้แก่ กลุ่มดาว 2 และ 6 กลุ่มดาว 2 เมื่อใช้สกิลธาตุโดนศัตรู จะลดต้านทานธาตุลม และกายภาพลง 12% 10 วินาที หากศัตรูถูกพัดให้ลอยขึ้นไปบนอากาศจะลดต้านท้านลม และกายภาพเพิ่มอีก 12% กลุ่มดาว 6 ศัตรูที่ได้รับความเสียหายจากท่าไม้ตายจะถูกลดพลังป้องกันธาตุลม และลดต้านทานธาตุที่ดูดซับเข้าไป 20% Venti นั้นสามารถสนับสนุนทีมได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้วที่กลุ่มดาว 0 เป็นตัวละครที่ได้หลายอย่างในตัวเดียวกัน ทั้งรวบศัตรู ฟื้นฟูพลังงาน และลดต้านทานธาตุต่าง ๆ ให้ทีม แถมยังเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมยอดฮิตอย่างทีมแช่แข็งอีกด้วย หากเพื่อน ๆ มีเพชรเพียงพอ ก็เป็นตัวละครที่น่าสุ่มมาเก็บไว้มาก ๆ เลยล่ะ เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Read more

ในแพทช์ 2.6 Genshin Impact ได้อัปเดตอาร์ติแฟกต์ใหม่ 2 เซ็ตคือ Vermillion Hereafter และ Echoes of an Offering มาพร้อมพื้นที่ The Chasm ซึ่งอาร์ติแฟกต์ใหม่นั้นสามารถหาได้จากดันเจี้ยนโซนใหม่นี้ อาร์ติแฟกต์ใหม่นั้นเป็นอาร์ติแฟกต์ที่มีความสามารถค่อนข้างซับซ้อน ในไกด์นี้จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับความสามารถ และตัวละครที่เหมาะกับอาร์ติแฟกต์ใหม่กัน ความสามารถของอาร์ติแฟกต์ Vermillion Hereafter ความสามารถเมื่อใส่ 2 ชิ้น เพิ่มพลังโจมตี 18% ความสามารถเมื่อใส่ 4 ชิ้น เมื่อใช้ท่าไม้ตายจะได้รับบัฟเพิ่มพลังโจมตี 8% เป็นเวลา 16 วินาที และจะได้รับพลังโจมตีเพิ่มขึ้นอีก 10% หากพลังชีวิตลดลง โดยพลังโจมตีจะถูกเพิ่มขึ้นได้สูงสุด 4 ครั้ง เปรียบเทียบความสามารถกับอาร์ติแฟกต์เก่า ตัวละครในเกมที่สามารถลดพลังชีวิตของตัวเองลงอย่างต่อเนื่องอย่าง Xiao นั้นดูเหมือนจะเป็นตัวละครเพียงตัวเดียวที่สามารถใช้งานอาร์ติแฟกต์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนตัวละครอื่น ๆ นั้นไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาร์ติแฟกต์นี้จนครบ 4 ชิ้นแต่อย่างใด ยังมีอาร์ติแฟกต์เก่าอย่าง Gladiator’s Finale ที่ให้ผล 2 ชิ้นเหมือนกันอยู่ ก่อนแพทช์ 2.6 จะได้รับการอัปเดตเข้ามานั้น Xiao ยังไม่มีอาร์ติแฟกต์แบบ 4 ชิ้นที่เหมาะกับตัวเองเลย ทำให้เขาต้องใส่อาร์ติแฟกต์ผสม 2 ชิ้นมาโดยตลอด อาร์ติแฟกต์ Vermillion Hereafter จึงกลายเป็นอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะกับ Xiao มากที่สุดโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ  ความสามารถของอาร์ติแฟกต์ Echoes of an Offering ความสามารถเมื่อใส่ 2 ชิ้น เพิ่มพลังโจมตี 18% ความสามารถเมื่อใส้ 4 ชิ้น เมื่อทำการโจมตีปกติ มีโอกาส 36 % ที่จะทำให้การโจมตีปกติครั้งต่อไปทำควายเสียหายได้มากขึ้นโดยคิดจาก 70% ของพลังโจมตี หากโจมตีปกติแล้วไม่ได้รับบัฟ การโจมตีครั้งต่อไปจะเพิ่มโอกาสในการติดบัฟขึ้น 20% เปรัยบเทียบความสามารถกับอาร์ติแฟกต์เก่า ตัวละครที่เหมาะกับอาร์ติแฟกต์นี้จะเป็นเหล่าตัวละครที่เน้นปริมาณการโจมตีปกติ มากกว่าการโจมตีช้า ๆ เนื่องจากไม่ว่าจะโจมตีแรง หรือโจมตีเบา บัฟความเสียหายของ Echoes of an Offering ก็จะคิดพลังโจมตี 70% เท่ากันหมด ทำให้เหมาะตัวละครสายดาเมจยืนสนามนาน ๆ ที่โจมตีปกติได้รวดเร็วอย่าง Yoimiya และ Kamisato Ayato สำหรับความสามารถเมื่อใส่ 2 ชิ้นนั้น ก็ยังมี Gladiator’s Finale ที่ให้ผลสองชิ้นเหมือนกันอยู่ ดังนั้นการใช้งานหลักของอาร์ติแฟกต์ Echoes of an Offering นั้นจะเน้นไปที่การใช้ประโยชน์ของโบนัส 4 ชิ้นมากกว่า โดยเมื่อเทียบกับอาร์ติแฟกต์เก่าของ Yoimiya อย่าง Shimenawa's Reminiscence แล้ว ความเสียหายโดยรวมที่ทำได้นั้นใกล้เคียงกันมาก ๆ แต่ Echoes of an Offering จะสามารถใข้งานท่าไม้ตายได้บ่อยกว่า เพราะไม่กินพลังงานเมื่อกดใช้งานสกิลธาตุ แต่ถ้า Yoimiya ของเพื่อน ๆ มีเพื่อนร่วมทีมเป็น Xingqiu เพื่อให้ Yoimiya ทำปฏิกริยาระเหยได้บ่อย ๆ แล้วล่ะก็ Echoes of an Offering อาจจะไม่เหมาะกับ Yoimiya เนื่องจากความเสียหายที่ทำได้นั้นจะแกว่งเอามาก ๆ เพราะจากการโจมตีของ Yoimiya ในครั้งที่ติดระเหยอาจจะไม่ใช่การโจมตีที่ติดบัฟจากอาร์ติแฟกต์ สำหรับ Kamisato Ayato ที่มักจะใช้อาร์ติแฟกต์ Heart of Depth เป็นหลักนั้น การใส่ Echoes of an Offering นั้นไม่ทำให้ดาเมจโดยรวมต่างกันกับ Heart of Depth มากนัก เพียงแต่ Echoes of an Offering จะมีความแกว่งของดาเมจที่มากกว่า เพราะบัฟของอาร์ติแฟกต์นั้นบางครั้งก็ติดบ่อย บางครั้งก็ติดน้อย Domain อาร์ติแฟกต์ใหม่นั้นคุ้มค่าที่จะฟาร์มหรือไม่ โดยรวมแล้ว อาร์ติแฟกต์ใหม่ทั้งสองแบบนั้น มีความสามารถที่ค่อนข้างเฉพาะทางมาก ๆ ทำให้มีตัวละครที่ใช้ประโยชน์ได้น้อย จุดประสงค์หลัก ๆ จึงจะเน้นไปที่ อยากให้ Yoimiya กดท่าไม้ตายได้บ่อย ๆ หรืออยากให้ Xiao ตีได้แรงกว่าเดิมเป็นหลัก ส่วน Kamisato Ayato เพื่อน ๆ สามารถใช้อาร์ติแฟกต์เก่า หรือกลับไปฟาร์ม Domain ของ Blizzard Strayer และ Heart of Depth แทนได้  เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Read more

Kamisato Ayato ได้เข้าเกม Genshin Impact มาแล้วเรียบร้อย โดยเขาคนนี้มาพร้อมกับสกิลที่ทำให้โจมตีได้อย่างรวดเร็วว่องไว และท่าไม้ตายวงกว้าง มีหน้าที่หลักเป็นตัวยืนสนามของทีม และเล่นง่าย ถูกใจผู้เล่นสายชิลแน่นอน ส่วนต้องใช้ของอะไร สมาชิกทีมคนไหน ไกด์นี้มีคำตอบ ตามมาดูกันได้เลย แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Kamisato Ayato แบบคร่าว ๆ เขาเป็นตัวละครดาบธาตุน้ำระดับ 5 ดาว สกิลจะเป็นการเข้าสู่สถานะชักดาบโจมตี ซึ่งในขณะที่อยู่ในสถานะนี้ จะเปลี่ยนการโจมตีปกติเป็นธาตุน้ำ และได้รับโบนัสความแรงการชักดาบตามค่าพลังชีวิตสูงสุดของตน ในขณะที่อยู่ในสถานะชักดาบจะสามารถกดโจมตีค้างเพื่อโจมตีต่อเนื่องแทนการกดโจมตีรัว ๆ ได้ ช่วยลดเรื่องการปวดนิ้วได้ดีเลย ท่าไม้ตายจะเป็นการสร้างพื้นที่น้ำขนาดใหญ่ ศัตรูภายในวงจะโดนหยดน้ำโจมตีอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวละครภายในพื้นที่จะได้รับบัฟโบนัสความเสียหายจากการโจมตีปกติ ตัวท่าไม้ตายจะใช้พลังงานสูงถึง 80 หน่วย ดังนั้นควรมีค่าฟื้นฟูพลังงานเพียงพอ หรือตัวละครที่สามารถสนับสนุนเรื่องอณูธาตุได้อยู่ในทีม แนะนำอาวุธ  สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 5 แบบด้วยกัน คือ Haran Geppaku Futsu, Mistsplitter Reforged Primodial Jade Cutter, The Black Sword และ Lion's Roar Haran Geppaku Futsu ดาบประจำตัว มีโบนัสเพิ่มความเสียหายธาตุ และโบนัสความเสียหายการโจมตีปกติเมื่อกดใช้สกิลธาตุ เป็นดาบที่ใส่แล้วโจมตีปกติได้รุนแรงที่สุด Mistsplitter Reforged  ดาบห้าดาวที่เหมาะกับแทบทุกตัวละครหากเป็นตัวละครสายเน้นดาเมจ มีสกิลเพิ่มโบนัสความเสียหายธาตุจำนวนมาก Primodial Jade Cutter ดาบที่ให้อัตราคริสูงที่สุดในเกม แม้ดาบจะไม่มีโบนัสความเสียหายธาตุ แต่ก็ยังมีดีตรงค่าสเตตัสอัตราคริสูง The Black Sword อาวุธสี่ดาว สามารถได้รับจาก Battle Pass เป็นดาบระดับ 4 ดาว ที่สามารถโจมตีปกติได้รุนแรง เพราะให้ทั้งค่าอัตราคริ และโบนัสความเสียหายการโจมตีปกติ Lion's Roar อาวุธสำหรับทีมคอมโบธาตุน้ำ และไฟฟ้า โดยอาวุธชิ้นนี้จะมีข้อจำกัดตรงจำเป็นต้องโจมตีศัตรูที่ติดดีบัฟธาตุไฟฟ้า หรือไฟจึงจะโจมตีได้แรง แต่ทีมคอมโบธาตุน้ำ และไฟฟ้านั้นจะมีจุดเด่นที่สามารถดีบัฟศัตรูด้วยธาตุน้ำ และไฟฟ้าได้ตลอดเวลาจึงสามารถใช้ดาบนี้ได้อย่างคุ้มค่า แนะนำอาร์ติแฟกต์ อาร์ติแฟกต์ควรใส่นาฬิกาพลังโจมตี หมวกอัตราคริ หรือความแรงคริ ถ้วยโบนัสความเสียหายน้ำ ส่วนออฟรองควรเน้น อัตราคริ ความแรงคริ ค่าฟื้นฟูพลังงาน และพลังโจมตี ส่วนพลังชีวิตนั้นก็สามารถเพิ่มดาเมจได้เหมือนกัน แต่จะเพิ่มได้น้อยกว่าพลังโจมตี อาร์ติแฟกต์แนะนำจะมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ 4 Heart of Depth, 4 Echoes of an Offering และ 4 Thundering Fury 4 Heart of Depth ตัวอาร์ติแฟกต์เน้นไปที่โบนัสความเสียหายน้ำ และโบนัสการโจมตีปกติเมื่อกดใช้สกิลธาตุ เป็นอาร์ติแฟกต์ที่เพิ่มดาเมจได้ดี และมีความเสถียรของดาเมจ 4 Echoes of an Offering อาร์ติแฟกต์ใหม่ มีความสามารถในการเพิ่มความแรงของการโจมตีปกติครั้งถัดไปหากติดบัฟของอาร์ติแฟกต์มาก่อน เป็นอาร์ติแฟกต์ที่ทำความเสียหายโดยรวมได้สูงที่สุดจากทุกอาร์ติแฟกต์ แต่ก็มีข้อเสียตรงดาเมจจะไม่คงที่ 4 Thundering Fury อาร์ติแฟกต์สำหรับสายเน้นสนับสนุนตัวละครแถวหลังอย่าง Fischl และ Beidou เพราะการลดคูลดาวน์จากตัวอาร์ติแฟกต์จะทำให้ใช้สกิลธาตุได้เกือบตลอดเวลา นอกจากนี้การกดใช้สกิลธาตุได้บ่อย ๆ จะยังช่วยเรื่องพลังงานได้อีกด้วย แนะนำสมาชิกทีม คอมโบตัวละครแนะนำได้แก่ Fischl, Xingqiu, Yunjin และ Kazuha Fischl เป็นตัวสนับสนุนดาเมจที่ดี และหากปลดกลุ่มดาว 6 แล้วจะทำให้สนับสนุนได้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะกลุ่มดาว 6 ของ Fischl จะติดได้ถี่มาก ๆ เนื่องจาก Ayato โจมตีได้อย่างรวดเร็ว Xingqiu ช่วยเรื่องสนับสนุนดาเมจ และพลังงานได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตัวคุณชายชานมเองใช้พลังงานในการกดท่าไม้ตายสูงมาก Yunjin สนับสนุนความเสียหายการโจมตีปกติได้ค่อนข้างดี และมีกลุ่มดาวเพิ่มความแรง และความเร็วในการโจมตีปกติ Kazuha ช่วยรวมกลุ่มศัตรู ให้เข้ามาอยู่ในรัศมีท่าไม้ตาย ลดต้านทานธาตุต่าง ๆ และบัฟโบนัสความเสียหายธาตุไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้หากเล่นทีมคอมโบธาตุน้ำ และไฟฟ้า ยังมีโอกาสที่จะกระจายธาตุทั้งสองธาตุได้พร้อมกันอีกด้วย แนะนำการอัปพรสวรรค์ ควรอัปสกิลธาตุนำ เนื่องจากความเสียหายส่วนใหญ่มาจากโหมดชักดาบฟัน รองลงมาเป็นท่าไม้ตาย เพื่อความแรง และบัฟโบนัสความเสียหายการโจมตีปกติ ส่วนพรสวรรค์โจมตีปกตินั้นจะไม่อัปเลยก็ได้ เพราะในขณะที่ใช้งานสกิลธาตุอยู่นั้น ความแรงของการชักดาบจะขึ้นอยู่กับเลเวลพรสวรรค์ของสกิลธาตุ แนะนำกลุ่มดาว กลุ่มดาวที่ใช้ได้ดี ได้แก่กลุ่มดาว  2, 3 และ 6 กลุ่มดาว 2 เมื่อใช้งานสกิลธาตุ จะเพิ่มขั้นสูงสุดของบัฟสกิลธาตุเป็น 5 ขั้น และเมื่อบัฟถึงขั้นสูงสุด จะเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดของตนเองขึ้นอีก 50% กลุ่มดาว 3 เพิ่มเลเวลสกิลธาตุ 3 เลเวล กลุ่มดาว 6 เมื่อเปิดใช้สกิลธาตุ การชักดาบโจมตีจะมีคมดาบโจมตีเพิ่มขึ้นมาสองครั้ง โดยความแรงจะคิดเป็น 450% ของพลังโจมตี เพื่อน ๆ จะสังเกตได้ว่ากลุ่มดาวส่วนใหญ่ของ Kamisato Ayato จะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มดาเมจเป็นหลัก หากเพื่อน ๆ จะเน้นไปทางความเสียหายรวมที่ทีมทำได้นั้น เพื่อน ๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องปลดดาวแต่อย่างใด เนื่องจากตัวละครตัวนี้มีจุดเด่นที่สามารถใช้งานตัวละครสนับสนุนอย่าง Fischl และ Beidou ได้เป็นอย่างดีอยู่แล้วที่กลุ่มดาว 0 เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Read more
Pokemon Arceus Tactic cover playpost

เชื่อได้ว่าสำหรับหลายๆ คนแล้ว เกมแนวโปเกม่อนนั้นก็อาจจะมีรูปแบบการเล่นที่ชวนให้งงๆ กันซักหน่อย ซึ่งสำหรับตัว Pokemon Legends: Arceus นั้นเองก็มีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากโปเกม่อนเดิมๆ อยู่พอสมควร ในบทความวันนี้ก็จะมาแนะนำ เทคนิค, Tip ต่างๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่พึ่งเคยเล่น เพื่อให้ช่วยให้เล่นตัวเกมได้สะดวกขึ้นกันจ้า อาจจะไม่ใช่สุดยอดเทคนิคที่เปลี่ยนโลกทำให้เกมง่ายสุดๆ แต่หลายอย่างก็น่าจะเปลี่ยนได้จริงอยู่ (ฮา) เพราะงั้นไปดูกันจ้า แนะนำ เทคนิค และทิปใน Pokemon Legends: Arceus ตั้งค่าการเซฟเป็นเซฟด้วยตัวเอง! ตัว Pokemon Legends: Arceus นั้นใช้ระบบเซฟช่องเดียว และมีระบบ Auto-save ให้ใช้งาน นั่นหมายถึงเพื่อนๆ ไม่สามารถใช้ระบบการเซฟทำพวกจุด check point ของตัวเองในส่วนที่ต้องการได้เลย (ถ้าใครเล่นเกม RPG จะนึกออกว่าเราชอบเซฟเกมเป็นระยะๆ ในจุดที่เราคิดว่าน่าจะเจออะไรแปลกๆ หรือไว้ย้อนมาเล่นทีหลังได้) ซึ่งนั่นทำให้ถ้าเราเปิดระบบ auto-save ไว้ ตัวเกมจะคอยเซฟทับ อัปเดตเซฟอยู่เสมอ ในแง่ของความสะดวกมันก็ดีอยู่ แต่ในบางครั้งที่เราอยากทำอะไรเป็นพิเศษ เช่นการฟาร์มหาไชนี่ นั้น ก็จะทำให้เราไม่สามารถใช้เทคนิคการโหลดเซฟได้ การตั้งปิดไว้ก็อาจจะเป็นการดีกว่า แม้ว่าจะลำบากต้องมานั่งคอยจำว่าต้องเซฟอยู่เรื่อยๆ แต่ก็เปิดโอกาสให้เราได้ใช้วิธีการเล่นแบบโหลดเซฟได้ด้วยเช่นกัน เล่นเนื้อเรื่องจนได้ Wyrdeer แล้วค่อยสำรวจก็ไม่สาย ในขณะที่ตัวเกมไม่ได้บังคับตายตัวว่าเพื่อนๆ ต้องเล่นแต่เนื้อเรื่องอย่างเดียว ทำให้หลายคนเจอโลกกว้างก็อยากออกสำรวจให้สะใจ แต่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ อดทนรอซํกนิด เล่นเนื้อเรื่องจนถึงจุดที่ได้เจ้า Wyrdeer มาเสียก่อนค่อยออกไปสำรวจจะดีกว่า เนื่องจากเจ้า Wyrdeer นั้น นอกจากจะเคลื่อนที่ได้ไวกว่ามาก มันยังกระโดดได้อีกด้วย! ไอ้การกระโดดนี้สามารถใช้ข้ามพื้นที่บางส่วนได้ด้วย ทำให้เราลัดพื้นที่ หรือไปไหนมาไหนได้เร็วกว่าวิ่งเองมากๆ เลยล่ะจ้า อ้อ ตัวเกมมีระบบ Fast Travel ด้วยนะ ถ้าการขี่โปเกม่อนไปไหนมาไหนอาจจะไม่ทันใจพอ กดใช้ Fast Travel ก็เป็นตัวเลือกที่ดีจ้า เพราะต่อให้พื้นที่มันสวย งดงาม น่าตื่นตาแค่ไหน แต่เวลารีบๆ ล่ะมันก็ต้องรีบป่ะ! เก็บมันให้เรียบทุกอย่าง! อัปเกรดกระเป๋าเข้า ด้วยความที่ตัวเกมภาคนี้มีเนื้อหาแบบที่เป็นโลกกว้าง มีอะไรให้เราสำรวจเยอะมาก ดังนั้นการพยายามสำรวจพื้นที่ให้ทั่ว เก็บนู่นนี่ให้หมดเลยเป็นอะไรที่ช่วยให้การเล่นของเราสะดวกขึ้นบ้าง เพราะสำหรับมือใหม่แล้ว เราไม่รู้เลยว่าอะไรจะต้องใช้บ้าง การมีเก็บเอาไว้เสมอจึงช่วยแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ในระดับหนึ่ง และของต่างๆ ก็สามารถนำไปสร้างเป็นของอย่างอื่นได้เสมอ แถมยังประหยัดกว่าการไปซื้อจาก NPC อีกด้วย เพียงแต่ว่าการจะเก็บให้หมดนั้นก็อาจจะทำให้กระเป๋าเราเต็มได้ง่าย ก็ให้เอาพวกวัตถุดิบไปเก็บในหีบเก็บของที่แคมป์ของเรา แล้ววิ่งสำรวจต่อได้เลยจ้า แน่นอนว่าถ้าเพื่อนๆ สามารถหาเงินได้มากพอมีเงินเหลือทำนู่นนี่ได้ การไปอัปเกรดกระเป๋าก็จะช่วยให้สามารถเก็บของได้เยอะขึ้นไม่ชวนคิ้วขมวดเวลาเก็บของบ่อยๆ แล้วล่ะ อนึ่ง ถ้าเพื่อนๆ เจอต้นไม้หรือก้อนหินที่สั่นอย่างรุนแรงแล้วล่ะก็ แปลว่ามีโปเกม่อนซ่อนตัวอยู่ในนั้นยังไงล่ะ! จับโปเกม่อนให้หมด! เพื่อ Pokedex ที่สมบูรณ์ แน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในเป้าหมายกลายๆ ของการเล่นโปเกม่อนไปแล้วที่เราจะอยากจับให้ครบทุกตัว ซึ่งการจับโปเกม่อนนั้นไม่เพียงแค่ช่วยให้เรามีโปเกม่อนตัวเลือกในการเล่นมากขึ้น แต่ในแง่ของการสะสมข้อมูลของ Pokedex แล้วนั้น เราจะต้องเห็นการใช้ท่าของโปเกม่อน มีการต่อสู้ การจับด้วย ซึ่งถ้าเราจะรอไปสู้กับโปเกม่อนป่าตัวนั้นๆ รอมันออกท่ามันก็เรียกว่าเสียเวลามากๆ การที่เราจับมาแล้วมาเก็บเลเวล เอามาสู้หรือใช้ท่าด้วยตัวเอง จะทำให้เราเก็บข้อมูลของ Pokedex ได้ไวกว่ามากๆ เลย โปเกม่อนที่เพื่อนๆ ไม่ได้คิดว่าจะได้ใช้งานนั้นก็ยังสามารถปล่อยเพิ่มรับไอเทมอย่าง Grit Gravel, Grit Pebble, Grit Rock ได้อีกด้วย จับโดยไม่ต้องสู้ก็ยังได้! ใน Pokemon Legends: Arceus นั้น เพื่อนๆ จะสามารถจับโปเกม่อนได้โดยไม่ต้องทำการต่อสู้ก่อนก็ยังได้ แน่นอนว่ามันคงไม่ใช่การเดินดุ่มๆ ไปปาบอลอัดหน้ากันใส่ตรงๆ เดี๋ยวจะโดนงัดหน้าหงายกลับมา แต่จะเป็นการที่ให้เราแอบซุ่มในพุ่มไม้ และใช้ ชนิดต่างๆ ในการโยนไปเพื่อจับพวกมันทีเผลอนั่นเอง บอลหลายชนิดก็จะมีโอกาสจับที่สูงขึ้นถ้าใช้กับโปเกม่อนที่ยังไม่รู้ตัว ถ้าพลาดรัวๆ ไม่ได้ซักทีก็ค่อยสู้ก็ยังได้ อันที่จริงก็มีหลายคนที่เตรียม Pokeball เยอะๆ แล้วปาเป็นจังหวะรัวๆ จนจับได้แบบที่โปเกม่อนยังต้องถอนหายใจ เออ ยอมก็ได้ถ้าจะปากันขนาดนี้ ก็มี รับเควสมาให้หมด! ปั่นแรงค์เพิ่ม ช่วยปลดของเพิ่มเติมทั้งนั้น ในภาคนี้นั้นตัว side quest จะเป็นส่วนของ ที่ได้จาก NPC ตามพื้นที่ต่างๆ ในจุดนี้ก็อยากขอแนะนำให้เพื่อนๆ กดรับมาให้หมดเนื่องจากมันไม่มีอะไรเสียหายที่จะรับมาก่อน และในทางกลับกัน จะช่วยประหยัดเวลาในการเล่นของเราไม่ต้องแบบ อ้าว request ตะกี้ต้องเอานู่นนี่จากตรงนั้นมานี่นา ตัว request แต่ละอันเมื่อทำเสร็จก็จะมีรางวัลให้ที่เรียกได้ว่าไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอน รวมถึงหลายๆ request เมื่อทำแล้วก็จะปลดของเพิ่มเติมในร้านขายของอีกด้วย การอัปแรงค์ของ Survey Corps นั้นก็จะช่วยให้ได้รับรางวัลจากการวิจัยมากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็จะเป็นการที่ช่วยปลดล๊อควิธีการสร้าง Pokeball ระดับสูงขึ้นให้ด้วย เปลี่ยนช่วงเวลาของวันได้ด้วยการพัก ตัวเกมนั้นมีการเล่นกับช่วงเวลาในเกมอยู่พอสมควร การจะนั่งรอเพียงอย่างเดียวเลยเป็นอะไรที่ก็เรียกได้ว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก ตัวเกมจึงได้ใส่ระบบข้ามเวลามา โดยเพื่อนๆ สามารถใช้งานได้ด้วยการคุยกับ NPC Galaxy Member ในแคมป์ต่างๆ และเลือกตัวเลือก I could use a rest (ขอพักผ่อนหน่อย) และเลือกเวลาที่ต้องการได้เลยจ้า เท่านี้เราก็ไม่ต้องเสียเวลารอให้เวลาในเกมเป็นเวลาอย่างที่ต้องการแล้วล่ะ ฟาร์มมันเข้าไปดิพี่น้อง เรียนรู้การใช้ Style ด้วย! ใน Pokemon Legends: Arceus นี้ถึงระบบการแพ้ชนะทางต่อธาตุหรือสายต่างๆ จะยังคงอยู่เหมือนเดิม และแพ้ชนะกันแบบเดิม แต่โปเกม่อนที่เราต่อสู้ด้วยนั้นตบเรากลับแรงกว่าภาคก่อนๆ อยู่เอาการเลย ดังนั้นการจะหวังว่าจะใช้โปเกม่อนที่เลเวลต่างกันมากๆ แต่แพ้ชนะทางกันสุดๆ หากินอย่างเดียวก็อาจจะไม่เวิร์คในภาคนี้เท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเรายังคงต้องพยายามเลือกโปเกม่อนที่ชนะทางไปสู้อยู่ แต่การเก็บเลเวลเพิ่มให้เพียงพอด้วยก็สำคัญไม่แพ้กัน รวมถึงการพกไอเทมพื้นพลังหรือชุบโปเกม่อนกลับมาก็เช่นเดียวกัน เพราะพอมันตบกลับมาแรง จะให้วาร์ปกลับไปฮีลตลอดมันก็ไม่ไหวเหมือนกันน้า นอกจากด้านของการแพ้ชนะทางแล้ว ภาคนี้ยังมีส่วนของ Style มาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งมี Agile Style ที่จะตีเบาลงแต่ขยับได้เร็วกว่า และ Strong Style ที่ตีแรงขึ้นแต่ขยับได้ช้าลง ควบคู่กับไปการใช้ท่าแบบธรรมดา การที่เพื่อนๆ กะจังหวะได้ว่าตอนไหนควรใช้ท่าธรรมดาหรือใช้เป็น Style แบบไหน จะช่วยให้ต่อสู้กับเหล่าโปเกม่อนโหดๆ ทั้งหลายได้ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว ถึงกระนั้นการจะเปลี่ยน Style ได้ก็ต้องทำการ master ท่านั้นๆ ก่อน ตรงนี้ก็มีสองวิธีคือ ใช้ Seed of Mastery ร่วมกับการฝึกกับ NPC Zisu ที่อยู่ใน Training Ground ของหมู่บ้าน Jubilifeเก็บเลเวลของโปเกม่อนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ master เอง อันนี้ประหยัดกว่าแต่ก็จะช้ากว่าหน่อยจ้า ในส่วนของ เทคนิค เล็กๆ น้อยๆ สำหรับมือใหม่หรือคนที่พึ่งเคยเล่นตัว Pokemon Legends: Arceus ก็จะมีประมาณนี้ ก็อาจจะไม่ใช่ถึงกับเป็นเทคนิคหรือทิปเปลี่ยนโลก (ยกเว้นการปรับเซฟเพื่อล่าไชนี่ไหมนะ? ฮา) แต่ก็น่าจะช่วยให้เพื่อนๆ...

Read more
Pokemon Arceus Request Cover playpost

ในตัวเกม Pokemon Legends: Arceus นั้นมีเนื้อหามากมายให้เราได้นั่งเล่นกัน ไม่ว่าจะเป็น collectible ต่างๆ รวมถึงพวกเควสมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะเป็นเรื่องของ Request ที่มีมากถึง 94 request (และการอัปเดต Daybreak ทีมีเพิ่มมาอีก) บางอันก็จะเป็นเรื่องราวของเหล่าผู้คนในหมู่บ้าน Jubilife บ้างก็เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้เราเล่นตัวเกมได้ง่ายหรือสะดวกขึ้น ในบทความนี้ก็จะพูดถึง Request ทั้งหมดที่เราหาเจอได้ในเกมกัน Request ทั้งหมดที่เจอได้ใน Pokemon Legends: Arceus อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในบทความจะมีรายชื่อ request ทั้งหมดให้เพื่อนๆ แต่ว่า request บางอันก็จะถูกล็อคเอาไว้ที่ต้องผ่านการเล่นบางส่วนหรือ request บางอย่างเสียก่อนถึงจะปรากฎออกมา เช่น request 76 ที่จะไม่ปรากฎขึ้นมาจนกว่าจะทำ request ก่อนหน้าของตัว NPC Morel ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนบาง request ที่ปรากฎบน blackboard ใน Galaxy Hall นั้นจะไม่ปรากฎจนกว่าจะจับโปเกม่อนที่เป็น feature อยู่ได้เช่น request 21 "Back-Alley Mr. Mine" ที่ต้องจับ Mr. Mine ให้ได้ก่อนถึงจะปรากฎขึ้นมา อนึ่ง เควสที่ให้เราพาโปเกม่อนไปให้ NPC ดูนั้นจะแค่พาไปให้ดูเฉยๆ แต่ถ้าเป็นเควสที่เอา NPC ให้กับโปเกม่อนนั้น เราจะเสียโปเกม่อนตัวนั้นไปเลย ลำดับRequestเป้าหมายรางวัลที่ได้เริ่มที่1Wurmple Can Evolveพา Wurmple ไปหา Beauregard3 Dazzling HoneyJubilife Village2Adorable Starlyเก็บข้อมูล Pokédex ของ Starly ให้ครบและเอาให้ Marli ดู10 Poké BallsJubilife Village3What Did Shinx's Ears Look Like?พา Shinx ไปหา Toshi3 PotionsJubilife Village4Big Buizel, Little Buizelพา Buizel ที่ตัวใหญ่กว่า 2'8 ไปหา Dorian5 Oran Berries, 1 Exp. Candy SJubilife Village5What It Takes to Be Awesomeเอา Poké Balls 5 ลูกให้ Sho3 Grit DustJubilife Village6Mushroom Cake Marketingเอา Springy Mushroom 1 ชิ้นให้กับ MorelMushroom Cake recipeObsidian Fieldlands7Playing with Drifloonไปตรวจสอบ Drifloon ที่Prelude beach ช่วงตอนเย็น1 StardustGalaxy Hall8Bothersome Bidoofหา Bidoof 3 ตัวที่อยู่ใน Jubilife Village โดยมี Bidoof อยู่ในทีมด้วย1 Rare CandyGalaxy Hall9Zubat's Eyesพา Zubat ไปหา Clarissa2 Aux PowerGalaxy Hall10Wurmple's Evolved!พา Silcoon ไปหา Beauregard1 Exp. Candy SGalaxy Hall11The Timbre of the Fieldsเก็บข้อมูล Pokédex ของ Kriketot ให้ครบและเอาให้ Yeo ดู3 VivichokesObsidian Firelands12A Perfect Pickling Stoneเอา Radisa ให้กับเจ้า Geodude3 Honey Cake, 1 Exp. Candy SGalaxy Hall13Trees That Bear Berriesเอา Cheri Berries 3 ลูกให้กับ Bjorn15 Poké BallsObsidian Fieldlands14Berry Helpfulเอา Oran Berries 5 ลูกให้กับ Andra3 RevivesJubilife Village15Balloon Race in the Fieldlandsเจาะลูกโป่งให้ได้อย่างน้อย 17 ลูกในการแข่ง Obsidian Fieldlands balloon race1 Rare Candy, 15 Feather BallsObsidian Fieldlands16Strange Happenings at Midnightสำรวจบ้านของ Sanqua ตอนกลางคืน7 Nanab BerriesJubilife Village17To Bloom or Not to Bloomเก็บข้อมูล Pokédex ของ Cherrim ให้ครบและเอาให้ Kichi ดู5 VivichokeJubilife Village18Please! Make me a Pokéshi Doll!เอา Pokéshi Doll ให้กับ Anvin1 Pokéshi DollJubilife Village19A Peculiar Ponytaพา Shiny Ponyta ไปหา Yota5 Razz BerryGalaxy Hall20The Mysterious Will-o'-the-Wispพา Chimchar จาก Obsidian Fieldlands ไปหา Paira2 Exp. Candy SJubilife Village21Back-Alley Mr. Mimeช่วยหาตัว Mr. Mime ที่ซ่อนอยู่ใน Jubilife Village ให้เจอ2 Aux...

Read more

Genshin Impact ได้มีการรีรัน Sangonomiya Kokomi เข้ามาพร้อมกับ Raiden Shogun ณ แพทช์ปัจจุบันวิธีการเล่นของเธอถูกเปลี่ยนไปมากพอสมควร โดยเธอจะเน้นไปที่การออกมาโลดแล่นบนสนามไม่นาน แล้วก็สลับตัวกลับไป ซึ่งเป็นผลดีต่อทีมมากกว่าการเอาเธอมายืนโจมตี เพราะความเสียหายที่เธอทำนั้น ไม่สามารถเทียบกับตัวละครสายดาเมจแท้ ๆ ได้ ในบทความนี้ เราจะพานักเดินทางทุกท่านไปชมวิธีเล่นของเธอกัน แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Sangonomiya Kokomi แบบคร่าว ๆ เธอเป็นตัวละครสื่อเวทน้ำระดับ 5 ดาว สกิลธาตุของเธอจะเสกแมงกะพรุนขึ้นมาตรงหน้าของเธอ แมงกะพรุนจะทำความเสียหายน้ำ และฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับตัวละครโดยรอบ เป็นสกิลธาตุที่สามารถดีบัฟน้ำใส่ศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับฟื้นฟูพลังชีวิตให้ทีมไปพร้อม ๆ กัน ท่าไม้ตายจะเป็นการบัฟตนเอง เมื่อกดท่าไม้ตาย เวลาของแมงกะพรุนที่อยู่บนสนามจะถูกนับเริ่มต้นใหม่ และในขณะที่เปิดใช้ท่าไม้ตาย การโจมตีปกติ และการชาร์จโจมตีจะแรงขึ้นตามพลังชีวิตสูงสุด นอกจากนี้เมื่อโจมตีโดนศัตรู เธอจะฟื้นพลังชีวิตให้กับสมาชิกทั้งทีมอีกด้วย แนะนำอาวุธ  สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 4 แบบด้วยกัน คือ Thrilling Tales of Dragon Slayers, Hakushin Ring, Prototype Amber และ Everlasting Moonglow Thrilling Tales of Dragon Slayers สมุดบัฟ 3 ดาว ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี เพราะความแรงในการฮิลของเธอขึ้นอยู่กับค่าพลังชีวิตสูงสุด นอกจากอาวุธจะมีสเตตัสที่ต้องการแล้ว ยังสามารถสนับสนุนทีมได้ด้วยสกิลอาวุธที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับตัวละครในทีมอีกด้วย Hakushin Ring สื่อเวทระดับ 4 ดาวที่หาได้จากการคราฟ มีความสามารถเพิ่มโบนัสความเสียหายให้กับสมาชิกในทีมเมื่อผู้ใส่ทำปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับสายฟ้า เหมาะกับทีมชาร์จไฟฟ้า Prototype Amber สื่อเวทระดับ 4 ดาว สกิลอาวุธอาจจะซ้ำซ้อนกันกับการฮิลของเธอไปหน่อยจนทำให้ฮิลเกินพอดี แต่ในส่วนของการฟื้นฟูพลังงานนั้นถือว่าค่อนข้างดี เพราะเราจำเป็นต้องกดใช้ท่าไม้ตายเพื่อยืดระยะเวลาของแมงกะพรุน Everlasting Moonglow อาวุธประจำตัว เหมาะกับสายเน้นออกมายืนโจมตีอยู่บนสนามเป็นหลัก ไม่เหมาะกับสายเน้นการสนับสนุนทีมด้วยแมงกะพรุนเพียงอย่างเดียว และจะมีข้อเสียที่แพ้ Prototype Amber ในกรณีที่กดใช้ท่าไม้ตายเพื่อยื้อเวลาแมงกะพรุนอย่างเดียว แล้วไม่ได้ตีธรรมดาต่อ เนื่องจากถ้าจะใช้ประโยชน์จากการฟื้นฟูพลังงานของสกิลอาวุธ ผู้ถือต้องโจมตีธรรมดา แนะนำอาร์ติแฟกต์ อาร์ติแฟกต์ควรจะใส่เป็นนาฬิกาพลังชีวิต หรือฟื้นฟูพลังงาน หมวกโบนัสรักษา ถ้วยพลังชีวิต ส่วนออฟรองควรเน้นค่าฟื้นฟูพลังงาน และพลังชีวิต อาร์ติแฟกต์แนะนำจะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ 4 Tenacity of Millelith และ 4 Ocean-Hued Clam 4 Tenacity of Millelith แมงกะพรุนสามารถเปิดใช้งานบัฟเพิ่มพลังโจมตีทั้งทีมของอาร์ติแฟกต์ได้อย่างเต็มที่ เพราะทำความเสียหายต่อเนื่อง และแทบจะไม่มีช่วงหมดเวลาหากคอยใช้ท่าไม้ตายเพื่อยืดเวลาของแมงกะพรุนออกไป เหมาะกับสายเน้นแมงกะพรุนจากสกิลธาตุ 4 Ocean-Hued Clam เป็นอาร์ติแฟกต์เน้นดาเมจเสริมจากการรักษาสมาชิกในทีม แต่การฮิลของแมงกะพรุนนั้นอาจจะน้อยเกินไป จึงจำเป็นต้องใช้การโจมตีในขณะใช้ท่าไม้ตายเข้ามาช่วย เพื่อให้ได้ฟองระเบิดที่รุนแรง เหมาะกับสายที่เน้นกดท่าไม้ตาย แล้วนำมายืนเป็นตัวหลักบนสนาม แนะนำสมาชิกทีม คอมโบตัวละครแนะนำได้แก่ Ayaka, Ganyu, Fischl และ Beidou Ayaka / Ganyu เมื่อเทียบกับ Mona ทำหน้าที่ดีบัฟธาตุน้ำเหมือนกันแล้ว Kokomi จะเน้นความปลอดภัย และระยะเวลาคอมโบแช่แข็งที่นานกว่า ในขณะที่ Mona จะให้ดีบัฟเพิ่มความแรงเป็นหลัก Fischl แมงกะพรุนสามารถสนับสนุนในเกิดปฏิกิริยา ชาร์จไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อใช้ร่วมกับนกของ Fischl Beidou ตัวละครที่มักขาดบัฟพลังโจมตี เพื่อทำให้ท่าไม้ตายรุนแรง ซึ่งเธอจะได้รับบัฟพลังโจมตีรวมถึง 68% จากสมุดบัฟ และอาร์ติแฟกต์ 4 Tenacity  แนะนำการอัปพรสวรรค์ ควรอัปสกิลธาตุควบคู่ไปกับท่าไม้ตาย ส่วนการโจมตีปกตินั้น ถ้าเน้นสนับสนุนทีมด้วยแมงกะพรุนเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องอัปโจมตีปกติก็ได้ แต่ถ้าใช้โจมตีปกติบ่อย หรือใช้เป็นตัวหลัก ก็ควรอัพโจมตีปกติด้วย แนะนำกลุ่มดาว กลุ่มดาวที่ใช้ได้ดี ได้แก่กลุ่มดาว  1, 3, 4 และ 6 กลุ่มดาว 1 เมื่ออยู่ในสถานะท่าไม้ตาย การโจมตีครั้งสุดท้ายจะมีการโจมตีเสริมขึ้นมา 1 ครั้ง โดยความแรงขึ้นอยู่กับพลังชีวิตสูงสุด กลุ่มดาว 3 เพิ่มเลเวลท่าไม้ตาย 3 เลเวล กลุ่มดาว 4 เมื่ออยู่ในสถานะท่าไม้ตาย จะโจมตีปกติไวขึ้น 10% และเมื่อการโจมตีปกติจะฟื้นฟูพลังงานให้ 0.2 หน่วย กลุ่มดาว 6 เมื่ออยู่ในสถานะท่าไม้ตาย แล้วการโจมติปกติ หรือชาร์จโจมตีฮิลสมาชิกในทีมที่มีพลังชีวิตสูงกว่า 80% จะได้รับโบนัสความเสียหายน้ำ 40% เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่ากลุ่มดาวแนะนำจะเกี่ยวข้องกับ Sangonomiya Kokomi สายเน้นยืนบนสนามเป็นหลัก หากจะเน้นใช้งานเพียงแค่แมงกะพรุนเป็นหลัก เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นจะต้องปลดดาวแต่อย่างใด เนื่องจากความสามารถในการฮิลของเธอนั้นยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Read more
Pokemon Arceus Noble Pokemon Cover

จุดที่เรียกว่ามาแปลกและโดดเด่นอย่างหนึ่งของ Pokemon Legends: Arceus นั้นก็คงต้องเรียกว่าเป็นระบบการสู้กับบอสแบบใหม่ หรือที่หลายคนรู้จักในการสู้กับ Noble Pokemon นั่นเอง เนื่องจากระบบนี้จะไม่ได้ใช้โปเกม่อนสู้กันตามปกติ แต่เป็นการหลบการโจมตีของบอสไปพลางปาไอเทมทำความเสียหาย(?)ใส่บอสไปพลางๆ จนกว่าเลือด เอ้ย หลอดความบ้าคลั่งของบอสจะหมดลงนั่นเอง เรียกว่ารู้สึกได้เยี่ยงเล่นเกมตระกูลโซลเลยล่ะ ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงเหล่า Nobel Pokemon ทั้ง 5 ตัวกับวิธีการสู้รวมถึงเจ้าบอสใหญ่ด้วยเลยจ้า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนไม่อยากถูก spoil ท่าบอสก็แนะนำให้ข้ามน้า แต่ถ้าใครกำลังติดอยู่ บทความนี้น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยจ้า Table of contentsการสู้กับ Noble Pokemon ใน Pokemon Legends: ArceusKleavorLilligantArcanineElectrodeAvaluggDialga, Palkia การสู้กับ Noble Pokemon ใน Pokemon Legends: Arceus ต้องบอกก่อนว่า Noble Pokemon แต่ละตัวนั้นจะต่างกันในด้านของท่าทางการโจมตี แต่ลักษณะการต่อสู้เหมือนกันหมด นั่นคือการที่เพื่อนๆ จะต้องหลบท่าโจมตีของบอสไประหว่างปา balms ใส่บอสเพื่อลดเกจความบ้าคลั่งลงเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดหลอดถึงจะชนะในการต่อสู้ ระหว่างที่สู้ จะมีจังหวะที่บอสมึน หมดแรง เปิดโอกาสให้เราเอาโปเกม่อนที่เรามีไปสู้กับบอสเหมือนการต่อสู้ทั่วไปของเกมได้ ถ้าเราทำความเสียหายได้ระดับหนึ่ง บอสก็จะชะงัก เปิดโอกาสให้เราปา balms อัดรัวๆ ได้ (และช่วงนี้ balms จะลดเกจบอสได้เยอะมาก) แน่นอนว่าเพื่อนๆ จะหลบแล้วปาอย่างเดียวไม่อาศัยโปเกม่อนช่วยสู้เลยก็ยังได้ (โปเกม่อนทั้งหมดในปาร์ตี้จะได้รับค่า EXP แม้จะไม่ได้สู้ด้วย) และถ้าเกิดพลาดท่าโดนบอสตีร่วง ก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอจาก checkpoint ของตัวเกม Kleavor เจ้า Kleavor นั้นจะเป็น Noble Pokemon ที่เราจะได้เจอ ตัวมันมีเลเวล 18 เป็นชนิด Bug, Steel ทำให้จุดอ่อนมีไม่เยอะเท่าไหร่ เพื่อนๆ สามารถใช้ท่าสาย Rock, Steel, Water เพื่อทำความเสียหายเป็นสองเท่าได้ ท่าโจมตีของ Kleavor นั้นหลักๆ จะมีแค่สองท่าคือท่าชาร์จเข้าใส่จากระยะไกล และท่าฟันรอบตัวถ้าเราอยู่ใกล้ตัวมัน จัดว่าเป็น Nobel Pokemon ตัวแรกที่ให้เรามีเวลารับมือและมีความชิวในการสู้มาก ขอแค่ไม่โลภปา balms รัวจนเกินไปก็ไม่มีปัญหาอะไรจ้า กลิ้งหลบชิวๆ ระวังหลบผิดทิศติดผนังโดนอัดฟรีก็พอ Lilligant Noble ตัวที่สองก็จะเป็น Lilligant ที่โดดไปโดดมาระรัว คึกเป็นอย่างมาก บอสตัวนี้มีเลเวล 30 สาย Grass, Fighting ทำให้แพ้ทางค่อนข้างเยอะ สามารถใช้ท่าสาย Fire, Flying, Poison, Psychic, Ice, Fairy ในการทำความเสียหายเป็นสองเท่า และเอาจริงต้องบอกว่า Flying กับ Psychic นั้นทำความเสียหายเป็น"สี่"เท่าเลย เพราะงั้นสำหรับตัวนี้ใช้ท่าสองสายนี้จะค่อนข้างสะดวกกว่า บอสจะกระโดดไปมาเป็นจังหวะ และทำความเสียหายเป็นพื้นที่รอบๆ จุดที่กระโดดไป ดังนั้นให้หลบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหยุดโดด อีกท่าที่บอสจะใช้จะเป็นท่าสายเกม action ต้องเคยเจอ นั่นคือการปล่อยวงแหวนออกมารอบตัว ที่ต้องหลบด้วยการกลิ้งสวนวงแหวนไป (ตัวเราเป็นอมตะตอนกลิ้งเพราะงั้นก็นั่นแหละจ้า) เป็นการต่อสู้ที่เริ่มสงสัยละว่านี่เล่นเกมโปเกม่อนอยู่แน่นะ เป็นตัวที่เล่นกับจังหวะอมตะในการกลิ้งมากๆ เลยทีเดียว Arcanine ตัวที่สามของเราก็จะเป็น Arcanine เจ้าตัวนี้ก็จะมีเลเวลที่ 36 เป็นสาย Rock, Fire ซึ่งแพ้ทาง Water, Ground, Fighting ที่ทำความเสียหายได้สองเท่า แต่ถ้าใช้ Water, Ground จะทำความเสียหายได้สี่เท่าเลย เพราะงั้นเน้นไปที่สองสายนี้เถอะ ตัวบอสนั้นจะพุ่งชนคล้ายๆ กับ Kleavor แต่พื้นที่ของลานบอสที่เป็นแบเหมือนเครื่องหมายกากบาทจะทำให้หลบค่อนข้างยากหน่อย พยายามอยู่แถวกลางๆ ลาน หรือตรงกลางของจุดกากบาททางออก จะทำให้หลบง่ายกว่า ถ้าแม่นจังหวะอมตะ จะกลิ้งสวนบอสเลยก็ยังได้ (สาย Soul ล่ะถนัดกันเลยแบบนี้) และมีท่ากระโดดไปทับที่กลางลานเป็นวงกว้าง อันนี้จะกะจังหวะยากนิด และท่าสุดท้ายคือชาร์จลูกไฟ 5 ลูก ซึ่งเป็นท่าที่หลอกให้หลบ แต่จริงๆ คือปา balms อัดเข้าไปเลยแล้วลูกไฟจะดับไปเอง ตีฟรีชัดๆ ในช่วงหลังของการสู้ บอสจะเรียกไฟขึ้นมาตรงกลางลาน ทำให้ใช้หลบไม่ได้และถูกล๊อคไว้ที่เขตใดเขตหนึ่ง ให้เพื่อนๆ พยายามเน้นการล่อบอสไถมาตรงพื้นที่ตรงกลางจะหลบง่ายกว่า และปา balms สูงขึ้นก็จะเอาชนะได้ Electrode บอสตัวนี้จะเป็นบอสที่กลายคนเกลียดค่อนข้างมากเพราะมันอะไรก็ไม่รู้เต็มจอไปหมด ตัวบอสจะมีเลเวล 46 สาย Electric, Grass และแพ้ทางต่อ Poison, Bug, Fire, Ice เป็นหลักที่ช่วยทำความเสียหายได้สองเท่า บอสจะมีหลักๆ ด้วยกันสี่ท่าที่ชวนให้กำหมัด ท่าแรกคือการปล่อยลูกไฟฟ้าติดตามเราไม่ปล่อย ทำไงก็ไม่หายไป ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้โป้งเดียวเราหลับ แต่ก็จะบังคับให้เราต้องเสียเวลาหลบตลอดเวลามากๆ ท่าต่อมาจะเป็นการปล่อยระเบิดแบบสุ่มเด้งขึ้นมาจากพื้นเป็นระยะๆ ท่าที่สามคือการกระโดดทับเรา ทำความเสียหายเป็นพื้นที่ไม่กว้างมากนัก และท่าสุดท้ายคือการชาร์จพลังงานและระเบิดเป็นวงกว้างมากๆ (จะมีรัศมีบอกอยู่ว่าระเบิดถึงไหน) ให้เรารีบหนีออกนอกวง เมื่อสู้กับบอสได้ซักระยะหนึ่ง ท่าบอสจะอัปเกรด บอลสายฟ้าที่ติดตามเราจะกลายเป็นสีฟ้าและเร็วขึ้น ส่วนท่าชาร์จจะชาร์จนานมาก แลกกับการที่บอสจะไล่ตามเราไม่หยุดเลย ให้พยายามวิ่งและกลิ้งหนีไปเรื่อยๆ วงหยุดขยับเมื่อไหร่ต้องรีบออกจากวงให้ทันจ้า หลังบอสระเบิดตัวเองจะมึน ให้ปาโปเกม่อนไปสู้และน็อคให้ได้จะมีเวลาในการปา balms เยอะขึ้น ทำให้สู้ได้ง่ายขึ้นมาก Avalugg Noble Pokemon ตัวสุดท้ายที่เพื่อนๆ จะได้สู้กันใน Pokemon Legends: Arceus ซึ่งตัว Avalugg นั้นจะมีเลเวล 56 สาย Ice, Rock ทำให้แพ้ทางเยอะมากไม่ว่าจะเป็น Fighting, Ground, Rock, Steel, Water, Grass และได้รับความเสียหายสี่เท่าจากสาย Fighting, Steel ท่าของบอสนั้นจะเป็นท่าที่บังคับให้หลบด้วยการกลิ้งเกือบทั้งหมดเลย โดยมีด้วยกันสี่ท่า เริ่มจากการพ่นบอลน้ำแข็งเป็นสายสลับซ้ายขวา ให้กลิ้งหลบสวนไป, ท่าปักหอกน้ำแข็งเป็นเส้นตรงที่จะมองเห็นวงน้ำแข็งขึ้นมาชั่วขณะก่อนหอกน้ำแข็งจะปรากฎออกมา, ท่าชาร์จบอลน้ำแข็งที่หัวก่อนจะพุ่งมาใส่ที่ตัวเรา (กะจังหวะกลิ้งหลบตอนบอลมาถึงตัว), ยิงบีมน้ำแข็งกวาดเป็นทาง ให้กลิ้งสวนบีมไปอีกด้านหนึ่ง ในช่วงหลังบอสจะมีการเรียกหอกน้ำแข็งมาปักและสร้างหนามน้ำแข็งไว้กลางลานด้านหน้าสุดกับด้านหลัง ทำให้พื้นที่หลบน้อยลงด้วย แต่ท่าบอสจะยังเหมือนเดิมอยู่ แค่เราต้องเปลี่ยนจุดยืนในการหลบเฉยๆ ถ้าเพื่อนๆ ดูท่าบอสไม่ทัน ให้ถอยออกมาสู้ซักหน่อย อย่าไปยืนด้านหน้าสุด จะมีเวลาให้หลบเยอะขึ้นมากเลยทีเดียว Dialga, Palkia แม้ว่าทั้งสองตัวนี้จะไม่ใช่ Noble Pokemon แต่ก็ยังมีรูปแบบการสู้แบบเดียวกันอยู่ ซึ่งการที่เพื่อนๆ จะได้สู้กับตัวไหนนั้น จะขึ้นกับว่าเพื่อนๆ เข้าร่วมกับ Clan ไหนเป็นหลัก ทั้งสองตัวมีเลเวล 65 และมีสายต่างกัน โดย Dialga นั้นเป็นสาย Steel, Dragon ซึ่งแพ้ทางแค่...

Read more
Pokemon Arceus Whip playpost

ในหลายๆ เกมนั้นมักจะมี Collectible หรือไอเทมสำหรับเก็บสะสมอยู่มากมาย ซึ่งใน Pokemon Legends: Arceus เองก็เช่นกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ Wisps หรือดวงไฟสีม่วงๆ ที่จะเจอได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น แถมใน Request หนึ่งก็ยังพูดถึงการสะสม Wisp ให้ครบ 108 ตัวในเกมอีกด้วย ในบทความนี้ก็จะมาพาเพื่อนๆ ไปเก็บเจ้า Wisps เหล่านี้กันให้แบบครบๆ กันไปเลยจ้าว่าอยู่ที่ไหนกันบ้าง อาจจะวิ่งกันเหนื่อยหน่อยเท่านั้นเอง Table of contentsการหา Wisp ใน Pokemon Legends: Arceusตำแหน่งของ Wisp ในเกมJubilife VillageObsidian FieldlandsCrimson MirelandsCobolt CoastlandsCoronet HighlandsAlabaster Icelands การหา Wisp ใน Pokemon Legends: Arceus โดยปกติแล้ว หลังจากเริ่มเกมได้ซักพัก จะมี cutscene ที่ชวนให้เพื่อนๆ ไปหาดวงไฟสีม่วงตอนกลางคืนอยู่ และจะทำให้ Request #22 "Eerie Apparitions at Night." เปิดใช้งานขึ้นมาด้วย ถ้าเกิดเพื่อนๆ ทำ Request นี้สำเร็จจะสามารถจับ Spiritomb ได้ (โปเกม่อนธาตุ Ghost, Dark) ตัวหมู่บ้าน Jibilife นั้นจะมี Wisp ทั้งหมด 7 ตัว (tutorial อันแรกอีกหนึ่งตัว) และแผนที่อื่นๆ จะมีอีกแผนที่ละ 20 ตัว รวมทั้งสิ้น 108 ตัว โดยเจ้า Wisp นี้จะปรากฎตัวเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น ทำให้การจะล่าให้ครบนั้นต้องใช้เวลามากพอสมควรเลยทีเดียว ถ้าเกิดเพื่อนๆ ไม่อยากใช้ตัวแผนที่ด้านล่างนี้ ก็สามารถใช้เจ้า Braviary บินไปหาตอนกลางคืนก็ได้ เพราะตัวเกมนั้นมีการแสดงภาพของ Wisp ค่อนข้างไกลและชัดเจนมาก สะสมกันได้เรื่อยๆ เลย ตำแหน่งของ Wisp ในเกม ขอขอบคุณแผนที่จากทาง Polygon Jubilife Village Obsidian Fieldlands Crimson Mirelands Cobolt Coastlands Coronet Highlands มี Wisp ตัวหนึ่งอยู่ใน Wayward Cave และตัวที่ Ancient Quarry จะอยู่ด้านในของอุโมงค์ Alabaster Icelands Wisp ทางใต้ของ Avalugg’s Legacy จะอยู่ใต้ดินใกล้ๆ แถวๆ ถ้ำ และมี Wisp ตัวหนึ่งที่แถว Snowpoint Temple ด้วย แม้ว่าการไล่ล่า Wisp ทั้ง 108 ตัวจะเป็นงานที่ค่อนข้างเหนื่อยอยู่ แต่สำหรับคนที่ต้องการเก็บสะสมสิ่งต่างๆ ในเกมให้ครบ หรือโปเกม่อนทุกตัว Request นี้ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อยู่ดีจ้า ก็ถือซะว่าเป็นการออกเดินทางสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในตัวเกม Pokemon Legends: Arceus ก็น่าจะได้อยู่จ้า เพราะส่วนมากแล้ว Collectible เหล่านี้ในเกมต่างๆ มักจะทำมาเพื่อให้ผู้เล่นได้ออกสำเร็จพื้นที่ต่างๆ ที่ทีมงานได้สร้างขึ้นมาอยู่แล้ว (บางอย่างอาจจะเกี่ยวข้องกับเควสหรือเนื้อเรื่องด้วย) ก็ขอให้เพื่อนๆ สนุกกับการผจญภัยใน Pokemon Legends: Arceus กันน้า หาข้อมูลเพิ่มเติมของตัวเกม Pokemon Legends: Arceus ได้

Read more

Genshin Impact ได้มีการรีรัน Raiden Shogun ออกมาให้ผู้เล่นสุ่มหากันอีกครั้งแล้วในแพทช์ 2.5 เธอเป็นตัวละครที่ผู้เล่นหลายคนชื่นชอบ และถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ในบรรดาตัวละครทั้งหมดในเกม เพราะเธอเป็นตัวละครที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำความเสียหายได้ดี และยังสนับสนุนทีมไปพร้อม ๆ กันอีก ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการเล่น และวิธีการจัดของให้เธอกัน แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Raiden Shongun แบบคร่าว ๆ เธอเป็นตัวละครหอกธาตุไฟฟ้าระดับ 5 ดาว สกิลธาตุของเธอจะโจมตีไปข้างหน้าหนึ่งครั้ง พร้อมกับแจกบัฟพิเศษของเธอให้แก่ตัวละครที่อยู่บนสนาม โดยบัฟของเธอจะเพิ่มโบนัสความเสียหายท่าไม้ตายตามพลังงานของตัวละครที่ใช้ท่าไม้ตาย และเมื่อศัตรูได้รับความเสียหาย จะมีสายฟ้าออกมาประสานการโจมตีนั้นอีกด้วย ท่าไม้ตายจะเป็นการทำความเสียหายอย่างรุนแรงหนึ่งครั้ง พร้อมกับบัฟเปลี่ยนธาตุการโจมตีของตนเองเป็นธาตุสายฟ้า และฟื้นฟูพลังงานให้กับตัวละครทั้งทีมเมื่อโจมตี ในขณะที่อยู่ในบัฟนี้ ความเสียหายทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับจำนวนบัฟที่เธอเก็บสะสมมาก่อนใช้ท่าไม้ตาย โดยสามารถสะสมบัฟได้ด้วยการใช้ท่าไม้ตายของตัวละครอื่นภายในทีม ยิ่งท่าไม้ตายใช้พลังงานเยอะเท่าใด จำนวนบัฟที่สะสมได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น แนะนำอาวุธ  สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 4 แบบด้วยกัน คือ Engulfing Lighting, Staff of Homa, Wavebreaker’s Fin และ The Catch Engulfing Lighting อาวุธประจำตัวของเธอ มีความสามารถเพิ่มค่าพลังโจมตีตามอัตราฟื้นฟูพลังงาน เป็นอาวุธที่ดีที่สุด เพราะเธอมีความสามารถติดตัวในการเปลี่ยนค่าฟื้นฟูพลังงานมาเป็นโบนัสความเสียหาย Staff of Homa หอกระดับห้าดาวที่ใช้งานง่าย และจะยิ่งแรงขึ้นไปอีกเมื่อเลือดลดต่ำกว่าครึ่ง ให้ค่าความแรงคริจำนวนมาก Wavebreaker’s Fin อาวุธ 4 ดาวดี ๆ อีกหนึ่งชิ้น ตัวอาวุธมีพลังโจมตีพื้นฐานที่สูง และสามารถเพิ่มโบนัสความเสียหายได้จำนวนมาก หากขัดเกลาสูง ๆ แล้ว สามารถแรงได้เทียบเท่า Staff of Homa เลยทีเดียว  The Catch หอกฟรีคุณภาพที่ได้จากการตกปลา เป็นอาวุธ 4 ดาวอีกชิ้นที่สามารถทำความเสียหายได้ใกล้เคียงหรือมากกว่าอาวุธเกือบทุกชิ้นที่ไม่ใช่ Englufing Lighting แนะนำอาร์ติแฟกต์ อาร์ติแฟกต์ควรจะใส่เป็นนาฬิกาโจมตี% หรือฟื้นฟูพลังงาน หมวกอัตราคริ หรือความแรงคริ ถ้วยโบนัสความเสียหายไฟฟ้า ส่วนออฟรองควรเน้นค่าฟื้นฟูพลังงาน พลังโจมตี อัตราคริ และความแรงคริ อาร์ติแฟกต์แนะนำจะมีอยู่ 1 แบบ ได้แก่ 4 Emblem of Severed Fate 4 Emblem of Severed Fate ตัวเธอเองมีความสามารถในการเปลี่ยนค่าฟื้นฟูพลังงานมาเป็นโบนัสความเสียหายอยู่แล้ว อาร์ติแฟกต์ 4 Emblem of Severed Fate ที่เพิ่มโบนัสความเสียหายของท่าไม้ตายตามค่าฟื้นฟูพลังงานจึงเป็นอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะกับเธอที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แนะนำสมาชิกทีม คอมโบตัวละครแนะนำได้แก่ Xiangling, Xingqiu, Bennett และ Sara Xiangling Xiangling เป็นหนึ่งในตัวละครที่ท่าไม้ตายแรงที่สุดในเกม แต่มีปัญหาเรื่องฟื้นฟูพลังงานสุด ๆ ซึ่งปัญหาตรงนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยเทพสายฟ้า และ Bennett Xingqiu เราสามารถเปลี่ยนดาบ Sacrificial Sword ออก แล้วเปลี่ยนเป็นอาวุธแบบอื่นที่เน้นความเสียหายได้มากขึ้น เพราะปัญหาเรื่องพลังงานได้ถูกแก้ไขแล้ว Bennett ตัว Raiden Shogun มีโบนัสความเสียหายที่สูงมาก แต่มีพลังโจมตีต่ำ บัฟพลังโจมตีของ Bennett จะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี Sara เช่นเดียวกับ Bennett คือ Sara สามารถบัฟชดเชยค่าพลังโจมตีได้เหมือนกัน แต่ที่กลุ่มดาว 6 Sara จะบัฟได้แรงกว่า Bennett เพราะเธอจะเพิ่มค่าความแรงคริให้อีก 60% แนะนำการอัปพรสวรรค์ ควรอัปท่าไม้ตายนำ เนื่องความความเสียหายเกือบทั้งหมดนั้นมาจากท่าไม้ตาย จากนั้นจึงอัปสกิลเพื่อเพิ่มความแรงของบัฟ ส่วนการโจมตีปกตินั้นไม่มีความจำเป็น เนื่องจากขณะที่กดใช้ท่าไม้ตาย เกมจะใช้เลเวลพรสวรรค์ของท่าไม้ตายมาคิดความแรง แนะนำกลุ่มดาว กลุ่มดาวที่ใช้ได้ดี และมีผลมากได้แก่กลุ่มดาว  2 และ 3  กลุ่มดาว 2  เมื่การโจมตีจากท่าไม้ตายจะทะลุพลังป้องกัน 60% ของศัตรู กลุ่มดาว 3 เพิ่มเลเวลท่าไม้ตาย 3 เลเวล เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่ากลุ่มดาวแนะนำจะเกี่ยวข้องกับความแรงของท่าไม้ตายเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มดาวที่ 2 ที่ทำให้โจมตีทะลุพลังป้องกัน 60 % นั้นมีผลความความเสียหายที่ Raiden Shogun ทำได้เป็นอย่างมาก โดยรวมแล้ว C0 (ไม่ปลดกลุ่มดาว) เธอก็เป็นตัวละครที่เก่งมากอยู่แล้ว แต่ถ้าเพื่อน ๆ ปลดกลุ่มดาวที่ 2 หรือ 3 มา เธอจะเด่นในด้านการทำดาเมจขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด หากเพื่อน ๆ มีงบพอแล้วล่ะก็ กลุ่มดาวที่ 2 เป็นกลุ่มดาวที่น่าลงทนปลดมาก ๆ เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Read more
Page 7 of 53 1 6 7 8 53