Mobile Guide

ก่อนที่ตัวเกม Birdie Crush จะทำการอัปเดตแพทช์ใหม่เข้ามานั้น ตัวละครทุกตัวภายในเกมมีค่าสเตตัสเท่ากันและมีเพียงแค่ 3 ค่าสเตตัสเท่านั้น ซึ่งในแพทช์ปัจจุบันปรับเพิ่มค่าสเตตัสเป็น 5 อย่าง และทุกตัวละครภายในเกมยังมีค่าสเตตัสไม่เท่ากันอีกด้วย แล้วแต่ละตัวละครควรควรเน้นไปค่าสเตตัสไหนดี วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปหาคำตอบกันครับ ไปลุยกันเลย! ค่าสเตตัส  ก่อนที่จะไปในส่วนอื่นๆ ผมอยากแนะนำให้รู้จักก่อนว่าตอนนี้ตัวเกมมีทั้งหมดกี่ค่าสเตตัสรวมถึงความหมายของแต่ละอันด้วย ภาพ ชื่อ คำอธิบาย Driving Distance ระยะของการตีลูก ยิ่งเยอะยิ่งตีได้ไกล Accuracy ค่าความแม่นยำมีมากเท่าไหร่ก็ตีลูกได้ลงจุดได้ตามใจต้องการ Swing Zone ค่าความกว้างของเกจบาร์ ยิ่งอัพเยอะแถบเกจจะยิ่งกว้างขึ้นทำให้ตีได้ง่าย Mentality ยิ่งหัวใจเยอะเส้นตอนตีในพื้นอื่นๆ จะวิ่งช้าลงทำให้ตีได้ง่ายขึ้น Putt บอกเส้นระยะตอนตีลูกพัตต์ ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งเห็นเส้นได้ไกลขึ้น จุดเด่น / ด้อย ของตัวละคร Erin G. Bridd: มึค่า Swing Zone สูง แต่ค่า Mentality จะค่อนข้างต่ำ ทำให้เกจบาร์เคลื่อนที่เร็วตีได้ยากเมื่อตกพื้นที่นอก Fair way Kris Lowell: ค่าสเตตัสจะข่อนข้างดีไม่มีอันไหนต่ำและสูงเกินไป จัดว่าเป็นตัวค่อนข้างสมดุล แต่เกจบาร์จะเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงเส้นไกด์ตอนพัตต์ค่อนข้างสั้นทำให้กะระยะได้ยาก Lucie de Bei: ค่าความแม่นยำสูงจนมิดหลอด แต่ค่าสเตตัสอื่นๆ จะค่อนข้างต่ำ ทำให้ตีไม่ค่อยไกล โอกาศตีติดเพอร์เฟคน้อย Martina Glow: มีค่า Driving Distance และค่า Mentality สูง แต่ไม่ค่อยแม่นยำและตีติดเพอร์เฟคได้ยาก สังเกตุได้ว่าแต่ละตัวละครนั้นถึงแม้ว่าจะมีค่าสเตตัสที่โดดเด่นแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถละเลยในการเพิ่มสเตตัสส่วนอื่นๆ ได้ อัพค่าไหนดี โดยหลักๆ แล้วจะให้เน้นไปตรงค่าที่ตัวละครเรามีน้อยสุดก่อน เพื่อให้เล่นได้ง่ายขึ้น หลังจานั้นตามด้วยค่าอื่นๆ Erin G. Bridd:ควรจะหาอุปกรณ์เพิ่มค่า Mentality เป็นหลักแล้วค่อยตามด้วย Putt และ Driving Distance Kris Lowell: ควรจะหาอุปกรณ์เพิ่มค่า Mentality และ Putt เป็นหลัก เพื่อให้ตีได้ง่ายขึ้นและเส้นพัตต์ที่ชัดเจน Lucie de Bei: หาอุปกรณ์เน้นไปทาง 4 ค่าที่เหลือ Driving Distance , Swing Zone , Putt และ Driving Distance จะทำให้เล่นได้ง่ายขึ้น  Martina Glow: หาอุปกรณ์ที่จะเพิ่ม Accuracy และ Swing Zone เป็นอันดับแรกก่อนค่อยไปเสริมในส่วนของค่า Putt  Character Upgrade โดยแบ่งออกเป็น 2 หัวขอด้วยกันคือ Train และ Trait  Train ในการอัพสกิลในส่วนนี้แต่ละตัวละครมีลำดับการจัดเรียงในรูปแบบ Skill Tree คล้ายๆ กับกิ่งไม้  ทุกตัวละครมีการให้อัพเกรดในหน้าตาที่คล้ายกันแต่การจัดเรียงอันดับต่างกัน ซึ่งมีให้เลือกในการอัพว่าเราจะต้องการอัพเกรดค่าไหนก่อน แนวทางการอัพเกรดจะเหมือนกับหัวข้อ อัพค่าไหนดี Trait  ในส่วนนี้จะปลดล็อคเมื่อเลเวลตัวละครถึง 20 และได้มาทุกๆ 5 เลเวล เช่น เมื่อถึงเลเวล 20 จะได้มา 1 แต้ม หลังจากนั้นเมื่อเลเวล 25 ก็ได้มาอีก 1 แต้ม และไม่สามารถทำการเลือกเพื่ออัพเกรดได้ แต่เป็นการสุ่มแทน มีทั้งหมด 9 อันให้อัพ นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว ในเลเวล 10 , 30 และ 50 เราจะปลดล็อคสกิลประจำตัวของตัวละครนั้นๆ และเพื่อนๆ สามารถเช็คค่าสเตตัสของตัวเองแบบละเอียดได้ในหัวข้อ Character จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Birdie Crush TH

ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ Birdie Crush ของทางเซิร์ฟไทยก็ได้เปิดให้เหล่าเพื่อนๆ ได้มาเป็นนักกีฬากอร์ฟอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งภายในเกมนั้นก็มีโหมดต่างๆ มากมายให้ได้เล่น แถมยังมีโปรโมชั่นเติมเงินเพียบ หลายคนน่าจะกำลังลังเลอยู่ว่าควรจะเติมอันไหนดีถึงจะคุ้มที่สุด จะพาไปดุกัน! เติมเงินซื้ออะไรคุ้มสุด? แพ็กเติมเงินในตอนนี้จะมีเป็นแบบโปรโมชั่นค่อนข้างเยอะมีทั้งที่เติมแล้วคุ้มมากๆ ไปจนถึงคุ้มน้อยหรืออยู่ที่เพื่อนๆ แต่ละคนอยากเติมเป็นพิเศษ เริ่มจากแพ็กคุ้มควรเติมก่อนเป็นอันดับแรก 1. เติมแพ็กคริสตัล 7 วัน เพียงเติม 29 บาทเท่านั้นก็จะได้รับเพชรทั้งหมด 7 วัน รวม 1000 เพชร! 2. BP (Birdie Pass) เป็นเหมือนสมุดสะสมแต้มทุกครั้งที่ทำเควสครบตามเงื่อนไขจะได้ EXP อัพ Birdie Pass ทุก 1 เลเวล จะได้รับไอเทมแตกต่างกัน โดยเริ่มแรกจะได้แค่ของแถวบนเท่านั้น แต่ถ้าซื้อ Birdie Pass เพิ่มก็จะได้รับของจากแถวล่างมาด้วยทั้งหมดรวมสูงสุด 3. สแตมป์เบอดี้ รับแคดดี้น้องลาฟรี เมื่อกดโปรครบ 4 อย่างจะได้รับแคดดี้น้องลามาเป็นของรางวัล ซึ่งน้องลามีสกิลเพิ่มสวิงช็อต 10 หน่วย เลยนะ โดยตัวแพ็กที่จะต้องซื้อเพื่อปลดน้องมาคือ แพ็กเกจคริสตัล 7 วัน Birdie Pass แพ็กเกจอุปกรณ์ต้อนรับสุดลิมิเต็ด แพ็กเกจคอสตูมต้อนรับสุดลิมิเต็ด 4. แพ็กเกจฉลองเปิดเกมชั้นยอด แพ็กโปรโมชั่นเริ่มเกมจะมีใหห้ซื้อได้สองราคาแต่ของที่ได้นั้นเกินคุ้มสุดๆ ใครอยากได้การันตีของทองก็จัดแบบ 3000 ไปเลย 5. แพ็กลิมิเต็ด แพคสำหรับสายเปย์ เติมแบบคุ้มๆ ใครจะเติมเพชรมาลองดูโปรจากหน้านี้ก่อนนอกจากจะได้เพชรเท่าเติมเพชรปกติแล้วยังได้เพชรไอเทมเพิ่มแบบจัดเต็มด้วยนะ โดยตัวแพ็กจะมี 3 ราคา 6. แพ็กโบนัสรายเดือน หากแพ็กอื่นๆ หมดแล้วไม่รู้จะเติมอะไรแนะนำให้ซื้อแพ็กส่วนนี้ สามารถซื้อได้ 10 ครั้งต่อเดือน 7. แพ็กโปรโมชั่นอื่นๆ ตัวของโปรโมชั่นนั้นจะมีมาให้เพื่อนๆ ได้ซื้ออยู่เรื่อยๆ โดยตัวโปรก็จะสลับปรับเปลี่ยนกันไปไม่แน่อาจจะเจอโปรที่ถูกใจในรอบนั้น จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Birdie Crush TH

วันนี้ผู้เขียนจะได้มาแนะนำพาร์ทใหม่ใน Event Gundam Festival นั่นก็คือ Gundam X Maoh, Narrative Gundam และพาร์ทกิจกรรมคือเจ้า Vigna Ghina II ที่มาพร้อมกับกาชาในเกม GUNDAM BATTLE: GUNPLA WARFARE ครั้งนี้จะได้นำข้อมูลของพาร์ทกับความน่าใช้งานว่าชิ้นไหนน่าใช้งานหรือเหมาะกับการโมหุ่นของเราครับ 1.Gundam X Maoh ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Gundam X Maoh Model number GX-9999 ซี่รี่ Gundam Build Fighters ความหายาก ✦✦✦✦✦ attribute Technique EX skill Part Body Mobile Suit Gundam X Maoh EXskill Breast Vulcan ประเภท Physical Shot Penetration B+ power D จำนวนกระสุน 8 Cooldown 60 วินาที (เริ่ม 0 วินาที) คำอธิบาย ยิงกระสุน Vulcan จากหน้าอกโจมตีศัตรูด้านหน้า ขณะยิงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ Alteration Power เพิ่มจาก D เป็น B+ Part Back Mobile Suit Gundam X Maoh EXskill Maoh Sword ประเภท Beam Melee Penetration D power B+ Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 8 วินาที) คำอธิบาย รวบรวมพลังงานจากแสงอาทิตย์ด้วย Satellite System แล้วโจมตีศัตรูอย่างรุนแรงด้วย Maoh Sword เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดและโจมตีการยิงให้กับทีมขึ้น 10% Alteration Power เพิ่มจาก B+ เป็น A เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดให้กับทีมจาก 10% เป็น 20% เพิ่มพลังโจมตีการยิงให้กับทีมขึ้น 10% (เท่าเดิม) Part Traits Part Part Traits Head เมื่อทำการโจมตีเป็นประเภทลำแสงจะเพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 17% Body - Arms เมื่อเวลาผ่านไป 10 วินาที จะลด Cooldown ลง 35% จำนวน 1 ครั้ง Legs เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Technique จะเพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 17% Back - Long Beam Sword เมื่อติดตั้ง Tag High Firepower จะเพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดขึ้น 17% Shield Buster Rifle เมื่อศัตรูจำนวน 1 เครื่องถูกทำลายจะลด Cooldown ลง 35% จำนวน 1 ครั้ง Alteration Part Part Traits (Slot 2) Head เมื่อความทนทานมากกว่าหรือเท่ากับ 60% จะค่อยๆ ฟื้นฟูความทนทานขึ้น 50 หน่วย Body - Arms เมื่อทำการโจมตีเป็นประเภทลำแสงจะเพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดขึ้น 20% Legs ชิ้นส่วนหลัง เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 20% Back - Long Beam Sword เมื่อทำการโจมตีเป็นประเภทลำแสงจะเพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดขึ้น 20% Shield Buster Rifle เมื่อทำการโจมตีเป็นประเภทลำแสงจะ เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 20% Word Tag Part Tag 1 Tag 2 Head High Firepower Gundam Type Body High Firepower Gundam Type Arms High Firepower Gundam Type Legs High Firepower Long-Range Back High Firepower Long-Range Long Beam Sword High Firepower Long-Range Shield Buster Rifle High Firepower Gundam Type High Firepower เมื่อเปิดใช้งานพลังโจมตีระยะประชิดเพิ่มขึ้น 5% พลังโจมตีของการยิงเพิ่มขึ้น 5% Gundam Type เมื่อเปิดใช้งานความทนทานเพิ่มขึ้น 5% ความต้านทานทางกายภาพเพิ่มขึ้น 5% Long-Range เมื่อเปิดใช้งานพลังโจมตีของการยิงเพิ่มขึ้น 5% พลังการป้องกันการยิงเพิ่มขึ้น 5% ระดับความน่าใช้งาน SS SS SS+ S+ SS+ SSS  SS+ https://www.facebook.com/gbmobilehk/videos/462920638422540 2.Narrative Gundam ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Narrative Gundam Model number RX-9 / C ซี่รี่ Mobile Suit Gundam NT ความหายาก ✦✦✦✦✦...

Durandal : Dea Anchora เรียกสั้น ๆ ว่า DA ตัวละคร Rank S ประเภทชีวภาพโจมตีระยะประชิด เป็นตัวละครสายโจมตีธาตุไฟ มีความคล่องแคล่ว รวดเร็วในการออกท่วงท่าโจมตี สามารถสร้างความเสียหายบนสนามได้ต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่สถานะพิเศษจะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Crux Galactica ท่าไม้ตายของตัวละครทั้งทีมแรงขึ้น 18%/21%/24% และหากตัวละครทั้ง 3 คนในทีมมีคุณสมบัติสร้างความความเสียหายธาตุไฟ ทั้งทีมจะสร้างความเสียหายธาตุไฟเพิ่มขึ้น 21%/25.5%/30% (เมื่อ Rank S/SS/SSS) Argo the Navigator เกจ : สูงสุด 200 หน่วย เมื่อปล่อยท่าไม้ตาย 1 ครั้งขณะอยู่ในร่างปกติจะได้รับ ครั้งละ 50 หน่วย หลังตัวละครเข้าสู่สถานะ พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น γ – Vela of Speed (Rank SS) ตัวละครฟื้นฟู SP x หน่วยต่อวินาทีขณะอยู่นอกสนาม ζ– Puppis of Power หลังปล่อยท่าไม้ตายจะสร้างความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น X% เป็นเวลา 3 วิ ซ้อนทับได้ 2 ครั้ง หากปล่อยซ้ำจะรีเซ็ตระยะเวลา α – Carina of Flames เมื่อตัวละครโจมตีศัตรูที่อยู่ในสถานะติดไฟ ความเสียหายไฟที่ศัตรูได้รับจากตัวละครเพิ่มขึ้น X% (เอฟเฟกต์นี้จะเป็นบัฟแยกต่างหาก) เกจ Flight of Bellephoron หลบต่อเนื่องได้ 2 ครั้ง เมื่อแตะปุ่ม หลังจากหลบ หรือหลังจากเคลื่อนที่ขณะสวมชุดเกราะจะใช้ท่า และสามารถโจมตีปกติครั้งที่ 2 ต่อได้ทันทีเมื่อหลบสำเร็จจะทำให้สกิลหลบ ทำงาน เกิดมิติหยุดเวลา 3 วิ และเมื่อแตะปุ่ม จะใช้ท่าโจมตีสวนกลับ สร้างความเสียหายไฟ 600% หลังจากโจมตีสวนกลับจะสามารถโจมตีปกติครั้งที่ 3 ต่อได้ทันที คูลดาวน์ 15 วิ ε – Stallion’s Muzzle คูลดาวน์ของสกิลหลบลดลง x วิ β – Stallion’s Shoulder หากการโจมตีครั้งสุดท้ายของ โดนศัตรู จะฟื้นฟู SP x หน่วย https://youtu.be/HR1cmq8S55o Orion the Hunter โจมตีปกติได้ 5 ครั้ง เมื่อเสริมพลังการโจมตีครั้งที่ 3, 4, 5 จะสร้างความเสียหายธาตุไฟเพิ่มขึ้น α – Shoulder of Orion ศัตรูที่โดนการโจมตีปกติครั้งที่ 5 จะติดไฟเป็นเวลา x วิ β – Foot of the Hunter ความเสียหายทั้งหมดที่ได้รับขณะโจมตีปกติ และโจมตีเสริมพลังครั้งที่ 3, 4, 5 ลดลง X% QTE- γ – Bellatrix ทำงานเมื่อศัตรูถูกยกลอย หรือ ติดไฟ เกิดมิติหยุดเวลา 3 วิ สร้างความเสียหายไฟ X% ฟื้นฟู SP x หน่วย และดึงดูดศัตรูโดยรอบให้มารวมกัน https://youtu.be/Ob5zEeorFz0 https://youtu.be/fukLMmUsCXs Hercules the Warrior เมื่อเกจ เพิ่มถึง 200 หน่วย แตะปุ่ม ค้างเพื่อใช้ ทำให้ตัวละครเข้าสู่สถานะ ขณะอยู่ในร่างนี้จะเผาผลาญ 20 หน่วยต่อวินาที ตัวละครจะใช้ ได้เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นการแตะปุ่ม ค้างจะเป็นการใช้ เพื่อเข้าสู่สถานะ แทน และ เป็นการชาร์จโจมตี สร้างความเสียหายไฟ 800% และทำให้เกิดมิติหยุดเวลา 2 วิ β – Fighting Arm ขณะอยู่ในสถานะ จะสร้างความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น X% การต้านทานขัดจังหวะเพิ่มขึ้น ความเสียหายทั้งหมดที่ได้รับลดลง X% ζ - Red Ember เมื่อเข้าสู่สถานะ จะได้รับ SP x หน่วยทันที หลังจากนั้นจะฟื้นฟู SP x หน่วยทุก ๆ 0.2 วิ เป็นเวลา 5 วิ ตรา Stardust https://youtu.be/pljMGKeQobo Sagittarius the Archer ใช้ได้ต่อเนื่องเมื่อ SP พอ เมื่อแตะปุ่ม จะใช้ท่า เมื่อแตะปุ่ม ต่อเนื่องจากการใช้ท่า หรือแตะปุ่ม ขณะใช้การโจมตีปกติครั้งที่ 3, 4, 5 จะใช้ท่า   ปล่อยท่าไม้ตายในร่างปกติใช้ SP 15 หน่วย ฟื้นฟู 50 หน่วย และได้กายาเหล็กขณะใช้ : สร้างความเสียหายไฟ 1000% : ขว้างหอกสร้างความเสียหหายไฟ 800% และดึงดูดศัตรูในระยะนาน 2 วิ   ขณะอยู่ในร่าง จะปล่อยท่าไม้ตายขั้นสูงใช้ SP 15 หน่วย ขณะใช้จะเป็นอมตะ และไม่เสีย : ท่าขั้นสูงของ สร้างความเสียหายไฟ 1280% : ท่าขั้นสูงของ สร้างความเสียหายไฟ 720% และสร้างหอก 3 เล่มโจมตีศัตรูในระยะ สร้างความเสียหายไฟ 3*80%   ในร่าง เมื่อใช้ท่าไม้ตายขั้นสูงต่อเนื่อง 3 จะปล่อยท่าพิเศษ : โจมตีศัตรูด้านหน้าในระยะ สร้างความเสียหายไฟ 700% และทุก SP 1 หน่วยที่ใช้ไปจะสร้างความเสียหายไฟเพิ่มเติม 60%...

การปรับระบบใหม่ภายในเกม Birdie Crush ไม่ว่าจะเป็นโหมดใหม่ กิจกรรมใหม่ ไอเท็มใหม่ๆ อีกมาก และ 1 ในนั้นยังมีสิ่งที่เรียกว่า Birdie Pass หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีไว้ทำอะไร และมีดีตรงไหนไปดูกันเลยครับ Birdie Pass / Battle Pass Birdie Pass ในเกมนี้ก็คือ Battle Pass ซึ่งเปรียบได้กับสมุดสะสมแต้มเพื่อชิงของรางวัลต่างๆ ในเกม โดยได้รับของรางวัลมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับความขยันของผู้เล่น ยิ่งเล่นบ่อยก็ได้รับของรางวัลเยอะขึ้นเท่านั้นเพราะไอเทมจะปลดล็อคตามลำดับของเลเวล ภายในเกมนี้จะแบ่งของรางวัลเป็น 2 รูปแบบคือ Free Reward และ Birdie Pass Free Reward และ Birdie Pass อย่างที่บอกไปว่าเกมนี้แบ่งของรางวัลเป็น 2 แบบ สำหรับ Free Reward นั้นคือไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นคนไหนก็สามารถได้รับของราวัลจากตรงนี้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อ แต่สำหรับ Birdie Pass นั้นเราจะได้ของรางวัลจากทั้ง 2 ส่วน ทั้ง Free Reward และ Birdie Pass ซึ่งตัวของ Battle Pass ในครั้งนี้จะสูงสุดที่ 30 หมายความว่าเพื่อนๆ จะได้รับของทั้งหมด 30 ชิ้น สำหรับ Free Reward ส่วน Birdie Pass จะได้ 60 ชิ้น หาแต้มจากไหน แต้มของเกมนี้ได้มาจากการเล่นและการทำมิชชั่นตามที่ตัวเกมกำหนด โดยในเกมนั้นมีมิชชั่นให้ทำเพื่อเพิ่มระดับเลเวลของ Battle Pass ซึ่งตัวมิชชั่นถูกแบ่งออกเป็นเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ Daily Mission: รีเซ็ทใหม่ทุกวัน โดยมีมิชชั่น 3 อัน โดยแบ่งออกมาเป็น ล็อคอินเข้าเกม , เข้าร่วม Grade Match 5 ครั้ง , เข้าเล่น Single 5 ครั้ง Challenge Mission: เปิดให้ทำเรื่อยๆ จนกว่าจะสำเร็จ ถ้าเพื่อนๆ สังเกตุจะเห็นว่ามีบางมิชชั่นที่ยังไม่ได้ถูกปลดล็อคจนกว่าจะถึงเวลาแต่เราสามารถทำล่วงหน้าได้และเมื่อเปิดเควสใหม่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาทำเพิ่ม นอกจากการทำมิชชั่นที่ตัวเกมให้มาแล้ว ภายในระบบของ Battle Pass ยังสามารถทำการใช้เพชรเพื่ออัพเลเวลได้อีกเช่นกัน โดยจะเสีย 100 เพชร ต่อ 1 เลเวล Battle Pass จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Birdie Crush TH

การผจญภัยในโลก Teyvat ของเกม Genshin Impact มีความอิสระค่อยข้างสูงผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางที่จะไปยังจุดหมาย ทั้งทางตรง ทางอ้อม ปีนเขา ว่ายน้ำ หรือแม้แต่ร่อนจากจุดสูงๆ ซึ่งเส้นทางเหล่านี้มักจะมีศัตรูหลากหลายรูปแบบรอให้ไปพิชิตอยู่เยอะพอสมควร ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่แห่งหนึ่งใต้ดินนั้น สำหรับบอสตัวใหม่ล่าสุดในเวลานี้ก็ไม่พ้นเจ้า Primo Geovishap ที่แม้ชื่อจะเหมือน Primogem แต่ไม่ drop Gem ให้นะจ๊ะ บอส Primo Geovishap บอสพี่ก๊อตจิ บอสกิ้งก่า น้องก่าบ้าพลัง เป็นเจ้ากิ้งก่าดินตัวใหม่ที่ปรากฎกายในรูปแบบบอสของเขต Liyue ซึ่งการเข้าไปตบตีกับพี่กิ้งตัวนี้ก็ไม่มีเงื่อนไขอะไรพิเศษ ยกเว้นการเตรียมตัวเตรียมใจที่จะรับแรงกระแทกอันรุนแรง(มากๆ) เท่านั้น การจำกัดบอสได้ครั้งแรก หลังจากที่กำจัดบอสได้ครั้งแรกนั้น จะสามารถไปหา Zhiping เพื่อรับของรางวัลได้ จริงๆ จะไปคุยกับเขาก่อนแล้วค่อยไปตีบอสก็ได้นะ ผลลัพพ์ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะทางกิลด์นักผจญภัยได้สงสัยว่าทำไมแถวที่เราไปสู้กับบอสมีแผ่นดินไหวผิดปกติ Hero's Wit x3 Primogem x30 Mora x30,000 Mystic Enhancement Ore x6 สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนสู้ การเตรียมตัวก่อนสู้เป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่เลือกตัวละครหลักทั้ง 4 เตรียมอาหารและยาให้พร้อมสำหรับการปราบบอส โดยบอส Primo Geovishap ที่จะต้องเจอนั้นมีร่างเริ่มต้นเป็นธาตุหินและอีก 1 ธาตุมาด้วย โดยในแต่ละครั้งหลังจากกำจัดไปแล้วเมื่อรีใหม่จะสุ่มธาตุของบอสจะมี ธาตุน้ำ, ธาตุน้ำแข็ง, ธาตุไฟ, ธาตุไฟฟ้า ธาตุที่แนะนำ บอส Primo Geovishap จะสุ่มธาตุที่ได้เจอทุกรอบอาจมีสกิลแตกต่างกัน แต่สามารถนำธาตุต่างๆ ไปสู้ได้ยกเว้นธาตุดินเพราะบอสมีป้องกันดาเมจธาตุดิน 50% ส่วนตัวละครแนะนำให้หยิบคนที่สามารถสร้างเกราะได้ไปด้วยเพื่อกันดาเมจจากสกิลยเฉพาะตอนมีโล่ได้เช่น Zhongli, Noelle ส่วนธาตุน้ำแข็งกับไฟเฉพาะจะมี Xinyan, Diona      อาหารและขวดยาเวทย์ สิ่งต่อไปต้องเตรียมเอาไว้ติดกระเป๋าให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินและช่วงวิกฤตคือพวกอาหารและยาเวทย์นั้นเอง สำหรับบอสตัวนี้จะมีการโจมตีด้วยธาตุดินกับธาตุติดตัวอีก 1 ให้เตรียมขวดยาต้านธาตุที่ต้องเจอในรอบนั้นเอาไว้หลายขวดช่วยลดดาเมจจากการปะทะกับธาตุได้ดี จะมีขวดยาเพิ่มพลังธาตุตามตัวละครที่นำไปลงให้สร้างดาเมจได้แรงขึ้นด้วยก็ได้เช่นกัน (สามารถสร้างได้ตรงเมืองหลักกับ Timaeus) อาหารให้เตรียมประเภทเพิ่มพลังโจมตี ฟื้นฟูเลือด เพิ่มพลังป้องกัน เป็นหลักเอาไว้ใช้จะช่วยให้ผ่านบอสได้ง่ายขึ้น วิธีการตบตีบอส พี่กิ้งของเรานั้นมาพร้อมกับท่าโจมตีที่รุนแรง กินวงกว้าง มีความต่อเนื่องเป็นคอมโบ มีทริคในการหลบหลีกท่าบางอย่างได้ โดยรวมจะให้ความรู้สึกคล้ายกับการที่เพื่อนๆ ได้ตีกับบอสหมาป่ารายอาทิตย์ แต่เปลี่ยนจากหมาป่าตัวพริ้วๆ เป็นกิ้งก่ากล้ามล่ำๆ แทน และไม่มีการแยกเฟสตอนสู้ ธาตุที่ตัวของพี่กิ้งของเราเองก็มีผลแค่แท่งหินที่จะระเบิดจากการใช้ท่าบางท่าเท่านั้น ทำให้จำนวนท่าทั้งหมดที่ต้องจำและระวังก็มีไม่เยอะเท่าไหร่อีกด้วย เอาจริงถ้าว่ากันแล้ว ด้วยความที่บอสตัวใหญ่และท่าค่อนข้างช้า (แต่กินวงกว้าง) ทำให้เป็นตัวที่เพื่อนๆ จะมองเห็นท่าบอสว่าจะมีอะไรออกมาได้ไม่ยาก ฝึกเรียกรู้การหลบท่า, การกะจังหวะต่างๆ ได้ดีตัวนึงเลยทีเดียวล่ะ สกิลของบอส พี่กิ้งของเรานั้นท่ากินวงกว้างค่อนข้างมาก และรุนแรง แถมยังมีการเปลี่ยนธาตุและลูกเล่นตามธาตุของตัวเองในขณะนั้นได้ด้วย แต่ปริมาณของท่านั้นไม่ได้เยอะเท่าบอสตัวอื่นๆ เท่าไหร่นัก และออกจะเป็นท่าครือๆ เดิม ทำให้ถ้าจับทางได้แล้ว ก็จะกะจังหวะวิ่งหลบหรือใช้ช่วงระยะเวลาอมตะตอนพุ่งตัวในการหลบท่าได้ดีขึ้นมากเลยทีเดียว ► ง้างหมัดต่อย ท่าธรรมดาๆ พื้นฐาน บอสจะง้างหมัดแล้วต่อยใส่ครั้งหนึ่ง ระดับความแรงพอประมาณ แต่จะทำให้กระเด็นได้อยู่ ► ต่อยคอมโบ การโจมตีนี้ บอสจะขยับตัวเป็นสัญญาณว่าจะวิ่งเข้ามาต่อยให้เห็นชัดเจนถ้าเพื่อนๆ อยู่ไกลจากบอกพอประมาณ แต่อาจจะดูยากนิดถ้าอยู่ประชิดตัว บอสจะต่อยกวาดซ้าย ขวา ตามด้วยการทุบพื้นอย่างรุนแรงปิดท้าย โดยปกติก็ไม่น่ากลัวอะไร แต่ถ้าจังหวะที่จะโดนค่า Stamina หมดพอดี อาจจะรับประทาน 3 หมัดต่อเนื่องได้เหมือนกัน ► มุมดิน บอสจะใช้มือขุดพื้นเป็นสัญญาณบอกว่าจะมุดดินก่อนจะมุดหายลงไป ในจังหวะนี้จะมองเห็นหลังของบอสที่มุดมาหาพร้อมกับมีการปล่อยแท่งหินทิ้งไว้ (แท่งหินจะระเบิดเป็นวงธาตุตามธาตุของบอส) ตามทาง ก่อนจะพุ่งขึ้นมาตรงจุดที่เรายืนอยู่ ตามด้วยการยกแขนฟาดพื้นอย่างรุนแรงปิดท้าย ► ยกหางยิงกระสุน บอสจะใช้ท่านี้หากเราอยู่ไกลจากตัวบอสจนเกินไป บอสจะชูหางขึ้นและยิงกระสุนธาตุออกมา เป็นหน้ากระดานในทิศที่เรายืนอยู่ กระสุนเมื่อตกพื้นจะสร้างวงธาตุขึ้นมา แต่โดยรวมแล้วไม่มีอะไรที่จัดว่าน่ากลัวมากสำหรับท่านี้ เพราะต่อให้เราอยู่ไกล ก็มองเห็นได้ง่ายเลยว่าบอสจะยิงใส่ตอนไหน ► พ่นคลื่นธาตุ ท่านี้บอสจะยืนสองขา ก่อนจะพ่นคลื่นพลังกวาดออกมาเป็นเส้นจากปาก และส่ายหัวไปมาหวังจะให้โดนเรา มีความแรงค่อนข้างมาก ท่านี้จะโดนแค่ระยะกลางๆ เท่านั้น ถ้าอยู่ติดตัวบอสหรือไกลมากๆ นั้นไม่มีปัญหาแน่นอน ► สะบัดหาง บอสจะบิดตัวเล็กน้อยและยืนตั้งตัวก่อนจะหมุนตัวสะบัดหางโจมตีรอบตัวเป็นวงกว้าง มีความแรงไม่มากนัก ► บีมระเบิดพลัง ท่านี้ปกติจะมีคำแจ้งเตือนขึ้นบนหน้าจอให้ทราบ บอสจะพ่นบีมเป็นเส้นตรงอัดลงไปที่พื้นซักพักหนึ่ง ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างมาก ท่านี้ถ้าเพื่อนๆ มีโล่อะไรก็ตามติดตัวอยู่ (จะเป็นโล่จากสกิล หรือโล่ที่ได้จากการทำปฎิกิริยาตกผลึกก็ตาม) จะช่วยป้องกันความเสียหายได้ และถ้าโล่แข็งแกร่งพอที่จะรับพลังของท่านี้ได้โดยที่ยังไม่แตก จะสะท้อนความเสียหายกลับไปใส่ตัวมันอีกด้วย โล่แข็งเกิน สะท้อนหน้าสั่น อีกวิธีในการหนีคือการลอยตัวหรือปีนขึ้นที่สูง (สกิลของ Venti, ปีนเสาหินของ Zhongli, ยืนบนแท่นดอกไม้ของ Albedo) ก็จะไม่โดนความเสียหายเช่นกัน (โอ่งดินของ Traveller สูงไม่พอน้า) ► สลัดแท่งหินรอบตัว ท่านี้เป็นท่าที่นานๆ ทีบอสจะใช้ออกมา โดยเป็นการสะบัดตัวไปมา โปรยแท่งหินออกไปรอบๆ ฉาก เพื่อสร้างภาระในการหลบหลีกให้กับเพื่อนๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นแท่งหินธาตุอะไร ก็สามารถก่อปัญหาหลังจากนั้นได้ทั้งสิ้น ► แท่งหินธาตุต่างๆ จุดที่เปลี่ยนไปของธาตุต่างๆ ในตัวบอสตัวนี้จะมีแค่ธาตุที่โจมตีออกมา และแท่งหินที่จะปรากฎขึ้นมาจากการดำดินของตัวบอส หรือท่ายิงกระสุนไกลของบอสเท่านั้น โดยแบ่งเป็นสี่ธาตุด้วยกันดังนี้ ธาตุน้ำ : เมื่อระเบิดจะเกิดเสาน้ำปะทุขึ้นแบบสุ่มรอบๆ ตำแหน่งของแท่งหิน ธาตุไฟ : เมื่อระเบิดจะกลายเป็นบ่อลาวาอยู่เป็นเวลาค่อนข้างนาน ธาตุน้ำแข็ง : เมื่อระเบิดจะกลายเป็นแท่งน้ำแข็งแทงขึ้นมาเป็นวง ธาตุไฟฟ้า : เมื่อระเบิดจะกลายเป็นประกายสายฟ้ารูปกากบาท ไอเทมที่ดรอปจากบอส หลังจากใช้ Original Resin 40 ชิ้น เพื่อเปิดดอกไม้แห่งการยกทัพสำเร็จจะได้รับไอเทมดังต่อไปนี้ 1.EXP แรงค์ผจญภัย 200 EXP, EXP ค่าความสัมพันธ์ตัวละคร และเงินหนึ่งจำนวน หินเลื่อนขั้น (โอกาสสุ่ม)       Juvenile Jade อาร์ติแฟกต์ (โอกาสสุ่ม) จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

ในหลายๆ เกมมักจะมีให้อัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ตัวละครเก่งขึ้นหรือมีสเตตัสเพิ่มขึ้น เกม Birdie Crush เองก็มีให้อัพเกรดอุปกรณ์เพื่อเพิ่มสเตตัสด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าการอัพเกรดนั้นต้องใช้ไอเทมสำหรับตีบวกของ แต่เราจะไปหาไอเทมมาจากไหนกันล่ะ วันนี้ผมมีคำตอบให้ ถ้าพร้อมแล้วไปดูวิธีหาไอเทมตีบวกกันเลยดีกว่า การทำมิชชั่นและ Achievement ในการทำมิชชั่นทั้งรายวันและรายสัปดาห์จะมีมิชชั่นที่ให้ไอเทมตีบวกอยู่ เช่นในแต่ละวันจะต้องซื้อของจากไอเทมช็อป 1 ชื้น จะได้ Low Power-Up Stone มา 100 ชื้น เช่นเดียวกับ Achievement แต่ในหัวข้อนี้จะเป็นการสะสมไอเทมในแต่ละระดับให้ครบตามจำนวนจึงจะได้ Low Power-Up Stone มา Flo’s Trip กิจกรรมทอยลูกเต๋าจะมีรางวัลใหญ่ในแต่ละจุดและจากช่องที่ทอยไปตกลงด้วย ซึ่งจะมีไอเทม Low Power-Up Stone ให้เป็นของรางวัลด้วยเช่นกัน Grade Match  ภายในการเล่นโหมดนี้จะได้ Low Power-Up Stone มาจำนวนนึงแต่ถ้าเพื่อนๆ เจอกล่องทองภายในด่านขอแนะนำให้พยายามเก็บมันให้ได้ครับเพราะในบางครั้งจะมีการสุ่มให้ไอเทมตีบวกมา รวมถึงถ้าเรามีในส่วนของแคดดี้แล้วทำเควสตามที่ได้มาเราก็จะได้ไอเทมตีบวกเพิ่มขึ้นจากเดิมเช่นกัน รางวัลจากไต่แรงก์ VS Grade Match และ Team Ranking Match รางวัลจากการไต่แรงก์ VS ทั้งสองแบบจะมีให้เก็บไอเทม Low Power-Up Stone อยู่ค่อนข้างเยอะ อย่าลืมไปลงเล่นกันนะ Single Mode เป็นอีกส่วนนึงที่เราจะได้ Low Power-Up Stone มาแต่จะไม่เหมือนกับในส่วนของ Grade Match เพราะตัวแคดดี้จะไม่ได้ให้เควสและจะไม่มีกล่องทองให้เก็บ แต่จะได้รางวัลเยอะกว่าถ้าเราเล่นจนครบและสามารถผ่านซีซั่นไปได้นอกจากนั้นถ้าทำผลงานออกมาได้ดีก็จะได้รางวัลเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน Cafe  ในคาเฟ่เองก็สามารถหาไอเทมตีบวกได้เช่นกันเพียงแค่ส่งตัวละครของเราให้ไปทำงานก็จะได้ Low Power-Up Stone แต่มากน้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวละครที่เราส่งเข้าไปว่าจะมีโอกาศได้ถึงระดับไหน แต่แนะนำว่าพยายามทำให้ได้ถึงขั้น Perfect เพราะจะได้มาเยอะที่สุด Tri Mode ในโหมดนี้จะมีของรางวัลให้เก็บมากมายเมื่อเล่นถึง ซึ่งในโหมดนี้เองก็มีของรางวัลเป้นไอเทม Low Power-Up Stone อยู่ด้วยนะ แต่การลง 1 ด่านจะต้องใช้กุญแจในการลง 1 ดอก Glory Test Field โหมดนี้จะให้เพื่อนๆ ตีให้ผ่านด่านโดยมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปตามหัวข้อตามตัวเกมกำหนดมาให้เมื่อชนะก็จะได้ของรางวัลไปไม่ว่าจะเป็น 1 2 หรือ 3 ดาว แต่การจะไปด่านถัดไปได้ต้องเล่นให้ได้ครบ 3 ดาวเท่านั้น โดยของรางวัลที่ได้จะแตกต่างกันไปตามจำนวนดาวหลังจากเล่นจบ นอกจากนี้ยังมีการจำกัดจำนวนรอบในการเข้าเล่น แต่เมื่อหมดแล้วเพื่อนๆ สามารถซื้อเพิ่มได้รอบละ 500 เพชร (ของรางวัลจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน) เลเวลอัพ ในส่วนของการเลเวลอัพเองเราจะได้รับของราวัลประจำเลเวลนั้นๆ แต่ในเลเวลที่ลงท้ายด้วยเลข 3 และ 8 เราจะได้เป็น Power-Up Stone มาในจำนวนนึง และยิ่งเลเวลเยอะก็จะได้ไอเทมตีบวกมากขึ้น ย่อยอุปกรณ์ อุปกรณ์ไหนที่ไม่ใช้สามารถนำมาย่อยให้เป็น Power-Up Stone ได้ แถมยังสามารถได้โบนัสจากการย่อยเพิ่มได้ด้วยนะ Birdie Pass BP หรือ Battle Pass เป็นเหมือนสมุดสะสมแต้ม โดยให้เราสะสมแต้มจากการเล่นและทำมิชชั่นต่างๆ มากมาย เมื่อได้มา 1 ขั้นก็จะได้ของรางวัลตามที่กำหนด ซึ่งภายใน Birdie Pass นั้นมีราวัลเป็น Power-Up Stone อยู่ด้วย ในร้านค้า ร้านค้าหัวข้อ Daily Special จะมีผลัดกันมาขายในราคาพิเศษให้ได้ซื้อกัน และมีให้ซื้อได้จากร้านค้าเติมเงินโปรต่างๆมากมาย จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Birdie Crush TH

แคมปัสเป็นเขตพื้นที่โรงเรียนของตัวละครภายในเกม Birdie Crush ถ้าพูดถึงโรงเรียนเราก็คงนึกถึงกิจกรรมภายในโรงเรียนที่มีให้ทำเต็มไปหมด แต่ว่าใน Campus ภายในเกมนี้จะมีอะไรให้เราทำบ้างกันนะ ไปดูกันเลยครับ Lesson Center เป็นโหมดที่มีมาตั้งแต่เกมเปิดเลยก็ว่าได้ ภายในโหมดนี้จะฝึกที่จะแนะนำให้เพื่อนๆ เข้าใจวิธีการเล่นเกมนี้ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากจะให้เข้าใจวิธีการเล่นได้มากขึ้นแล้วยังให้เงินเรามา และเมื่อทำการฝึกจนจบ 1 บทเรียนแล้วยังจะได้ของรางวัลเป็นเพชรอีกด้วย Course Practice Field เป็นอีก 1 โหมดฝึกซ้อมเช่นกันแต่เพื่อนๆ จะต้องมีตัวละครเลเวล 15 อย่างน้อย 1 ตัวก่อนจึงจะสามารถปลดล็อคได้ โดยจะฝึกตีตามด่านต่างๆ ภายในเกม และถ้าฝึกสำเร็จก็จะได้ของรางวัลมาเป็นไอเท็มช่วยเหลือที่ใช้ในระหว่างเกม ในแต่ละพื้นที่จะมีทั้งหมด 9 หลุม และแบ่งออกเป็น 5 จุดตี Tri Mode เป็นโหมดที่ต้องใช้กุญแจในการเข้าร่วมแล่น โดยใช้ตัวละครทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน ในการที่จะผ่านในแต่ละด่านนั้นจำเป็นต้องทำตามเงื่อนไขของเกมให้ครบจึงจะผ่าน และทุกๆ 3 ด่าน จะมีของรางวัลให้ยิ่งด่านสูงก็จะได้รางวัลสูงขึ้น โดยทั้งหมดจะมี 42 ด่าน ภายในโหมดนี้จะมีเวลาจำกัดในการเล่น โดยจะมีระยะเวลาตามซีซั่นของเกมหรือประมาณ 1 เดือน Glory Test Field เป็นอีกโหมดไว้ทดสอบความสามารถของเรา โหมดนี้จะให้เพื่อนๆ ตีให้ผ่านด่านโดยมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปตามหัวข้อตามตัวเกมกำหนดมาให้เมื่อชนะก็จะได้ของรางวัลไปไม่ว่าจะเป็น 1 2 หรือ 3 ดาว แต่การจะไปด่านถัดไปได้ต้องเล่นให้ได้ครบ 3 ดาวเท่านั้น โดยของรางวัลที่ได้จะแตกต่างกันไปตามหัวข้อการทดสอบ นอกจากนี้ยังมีการจำกัดจำนวนรอบในการเข้าเล่น แต่เมื่อหมดแล้วเพื่อนๆ สามารถซื้อใหม่ได้ Principal's Office / Cafe ใน 2 โหมดนี้จะเป็นการเอาตัวละครเราไปทำงาน โดย 2 โหมดนี้ไม่สามารถใช้ตัวละครทำงานซ้ำกันได้ ใช้ได้มากสูงสุด 2 ตัว ต่อ 1 โหมด ในการเลือกตัวนั้นจะค่อนข้างสำคัญ เนื่องจากยิ่งมีค่าสเตตัสเยอะเท่าไหร่ก็จะได้รับของรางวัลมากขึ้นเท่านั้น ต้องพยายามทำให้ถึงขั้นเพอร์เฟค Studio เป็นโหมดที่มีไว้เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ถ่ายรูปตัวละครจัดท่าทางต่างๆ รวมถึงมีรูปเก็บไว้ในตอนที่เราตีได้แต้มดีๆ รวมถึงตอนเลื่อนขั้นต่างๆ โดยถ้าเราชอบอันไหนก็สามารถกดแชร์ไปตามโซเชี่ยลมีเดียได้อีกด้วย และยังมีโหมดที่ยังไม่เปิดอีกบางจุดที่ยังไม่เปิดจะกลับมาอัปเดตอีกครั้งนะ จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Birdie Crush TH

ในกิจกรรม Lantern Rite ของ Genshin Impact ในครั้งนี้ จะมีส่วนของมินิเกมตั้งป้อมกันบ้านหรือที่มีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า Theater Mechanicus นั่นเอง ในบทความนี้ก็จะมาอธิบายวิธีการเล่นของตัว minigame ตัวนี้พร้อมกับวิธีการผ่านในแต่ละแผนที่กันไปเผื่อเพื่อนๆ คนไหนยังติดอยู่จ้า พื้นฐานการเล่นมินิเกม Theater Mechanicus สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับตัวมินิเกมนี้นั้นก็จะอยู่ที่มันไม่ใช่การที่เพื่อนๆ จะได้นำตัวละครที่ปั้นมาเป็นอย่างดีในการบวกกับศัตรู แต่เป็นการใช้ป้อมปราการ Mechanicus ในการโจมตีศัตรูที่พยายามเดินจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งแทนตามแนวของเกม Tower Defence รวมถึงมีของที่ต้องใช้เพื่อเปิดเล่นตัวมินิเกมด้วย ต้องใช้ โคม Xiao 1 ชิ้นต่อการเล่น 1 ครั้ง สามารถเล่นแบบคนเดียวหรือจับคู่สองคนได้ กรณีจับคู่สองคน จะแชร์จำนวนป้อมที่สร้างได้ด้วยกัน แต่ระดับของป้อมจะขึ้นกับผู้เล่นแต่ละคนแยกกันต่างหาก เช่นผู้เล่น A มีป้อมเลเวล 5 ส่วนผู้เล่น B มีป้อมเลเวล 3 และเล่นด้วยกัน ผู้เล่น B จะสร้างได้แค่ป้อมเลเวล 3 ส่วนผู้เล่น A จะสร้างป้อมเลเวล 5 ได้ ระดับความยากคือการเลือกแผนที่ให้เล่น (ไม่ใช่การเลือกระดับความยาก แล้วค่อยเลือกตัวแผนที่อีกทีหนึ่งแต่อย่างใด) การเล่นจะแบ่งเป็นฉากๆ และมีศัตรูออกมาเป็นช่วง (Wave) โดยเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ก่อนเริ่มในแต่ละช่วง จะมีเวลาให้สร้างป้อมปราการ (Theater Mechanicus) สำหรับการรับมือกับศัตรูล่วงหน้าได้ เมื่อศัตรูเริ่มบุกมา จะยังสามารถสร้างป้อมปราการได้อยู่หากมีค่าใช้จ่ายในการสร้างเพียงพอ ตัวละครของเพื่อนๆ จะไม่สามารถช่วยทำความเสียหายใส่ศัตรูได้ แต่ช่วยทำให้เกิดสถานะของธาตุต่างๆ ได้ ผลเสริมของสกิล เช่นการทำให้กระเด็น, สิ่งกีดขวาง (เช่นโอ่งหินของตัวนักเดินทาง) จะส่งผลกับมอนสเตอร์ด้วย ผลของความเสียหายธาตุเช่น นำไฟฟ้า หากเกิดขึ้นโดยผู้เล่นจะไม่ทำความเสียหาย แต่สามารถใช้การแปะธาตุนำไว้แล้วให้ป้อมช่วยยิงให้เกิดสถานะนำไฟฟ้าได้ ไม่สามารถใช้ไม้ตายได้เพราะเกจท่าไม้ตายไม่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะทำความเสียหายใส่พลังชีวิตของศัตรูโดยตรงไม่ได้ แต่ยังทำความเสียหายใส่เกราะและโล่ของศัตรูได้อยู่ (สำคัญมาก) หากศัตรูเดินทางไปยังอีกประตูทางออกได้จะนับว่าหลบหนีไปสำเร็จ หากศัตรูหลบหนีได้ถึงจำนวนที่กำหนดก็จะพ่ายแพ้ในมินิเกมนี้ เมื่อผ่านในแต่ละรอบ (Wave) จะมีให้เลือกผลเสริมในฉากที่เรียกว่า Mystic Art ในจุดนี้เพื่อนๆ จะเลือกได้เพียง 1 อย่างในแต่ละช่วงเท่านั้น หรือจะไม่เลือกก็ได้ถ้ารู้สึกว่าไม่คุ้มค่าที่จะจ่ายแต้ม ในมินิเกมจะมีการท้าทาย (Challenge) เพิ่มเติมที่ทำให้เพื่อนๆ ได้รับตรา Veneficus Sigil ในการอัพเกรดป้อมปราการให้ทรงพลังมากขึ้น และเล่นในฉากได้ง่ายขึ้น การผ่านตัวด่านในเงื่อนไขของหน้ากิจกรรม Theater Mechanicus จะได้รับเหรียญ Peace Talisman ที่ใช้แลกของใน ตลาดนัด Xiao ที่เป็นของรางวัลหลักในกิจกรรม Lantern Rite นี้   ► ของที่ใช้ในการลงเล่นมินิเกม ในการเล่นเพื่อนๆ จะต้องมีไอเทม "โคม Xiao" 1 ชิ้นในการเล่นแต่ละครั้ง ตัวไอเทมนี้จะสามารถสร้างขึ้นได้เมื่อทำการเล่นผ่านเนื้อเรื่อง ฟากฟ้าทะเลดาว - แสงมาจากไหนกันนะ แล้ว ของที่ต้องใช้ก็จะประกอบไปด้วย Lantern Fiber ได้จากการเก็บวัตถุดิบประเภทพืชต่างๆ Wick Material ได้จากมอนสเตอร์อย่าง Hilichurl หรือ Fatui ระดับสูง Plaustrite Shard ได้จากการเก็บแร่ และมอนสเตอร์ที่เป็นหินเช่น Geovishap Hatching เมื่อมีวัตถุดิบแล้วก็สามารถไปที่โต๊ะประกอบชิ้นงาน (โต๊ะเล่นแร่แปรธาตุ) เพื่อสร้างตัวโคมได้เลย แต่ละโคมจะต้องใช้เงินอีก 50 Mora ในการสร้างขึ้นมา   ป้อมที่มีให้ใช้ รูปป้อม ตัวป้อม Veneficus Mechanicus ความสามารถ Tidal Flats โจมตีศัตรูรอบป้อมด้วยธาตุน้ำ Lv 3 : รัศมีกว้างขึ้น Lv 5 : สร้างฟองน้ำโดยรอบเพื่อขังศัตรูไว้ข้างใน Spark โจมตีศัตรูรอบป้อมด้วยลูกไฟระยะไกลที่จะระเบิดเป็นวงแคบๆ Lv 3 : รัศมีระเบิดจะกว้างขึ้น Lv 5 : ทำให้เกิดเปลวไฟที่ติดไฟอย่างต่อเนื่อง Thin Ice ยิงกระสุนน้ำแข็งไปด้านหน้าเป็นระยะๆ Lv 3 : กระสุนจะลดความเร็วการเคลื่อนที่ของศัตรูลง Lv 5 : กระสุนจะระเบิดทำความเสียหายเป็นกลุ่ม Thunderstrike เรียกสายฟ้าผ่าใส่ศัตรู 1 ตัว Lv 3 : สายฟ้าจะผ่าใส่ศัตรูได้ 3 ตัว Lv 5 : เรียกสายฟ้าฟาดแบบสุ่มใส่ศัตรูใกล้ๆ เพิ่มเติม Recovery Mark I ได้โบนัสคะแนนเวทย์ถ้าศัตรูตายในพื้นที่ของป้อม Lv 3 : รัศมีของป้อมกว้างขึ้น Lv 5 : เพิ่มคะแนนที่ได้รับให้สูงขึ้น Gust โจมตีด้วยลมที่ทำให้ศัตรูถอยหลังได้ หมุนทิศทางได้ Lv 3 : เพิ่มความแรงการผลัก Lv 5 : มีผลการดูดศัตรูเข้ามาหาตัวป้อมด้วย Longbow โจมตีไปด้านหน้าด้วยความเสียหายกายภาพ Lv 3 : มีผลรุนแรงขึ้นต่อธาตุหิน (เกราะ/โล่หิน) Lv 5 : กระสุนของหน้าไม้จะมีผลในการติดตามเป้าหมาย Desire เพิ่มพลังโจมตีของป้อมปราการอื่นในรัศมี ไม่มีผลซ้อนทับกันเอง Lv 3 : รัศมีกว้างขึ้น Lv 5 : บัพจะสามารถซ้อนทับกันได้ Ambush Mine ติดตั้งกับระเบิดที่จะทำความเสียหายไฟอย่างรุนแรงเมื่อเหยียบ Lv 3 : ลดคะแนนเวทย์ที่ต้องใช้สร้างลง Lv 5 : เมื่อกำจัดศัตรูได้จะเกิดการระเบิดซ้ำ Portal of Wonders สร้างพื้นที่วาร์ปไปมาสองจุดในกระดาน ในแต่ละกระดานจะมีได้แค่ 2 จุดวาร์ปเท่านั้น   ทริคในการเล่น อย่างที่ได้เกริ่นไว้ว่า เพื่อนๆ สามารถใช้สกิลช่วยในการเล่นได้ ทำให้สกิลบางชนิดรวมถึงการใช้สถานะธาตุนั้นส่งผลเป็นอย่างมากต่อการขัดขวางศัตรู เนื่องจากถ้ามีแค่ป้อมอย่างเดียวนั้น การโจมตีจะช้าและไม่อาจจะรับมือได้หมดนั่นเอง และการเล่นแบบ Co-op สองคนก็จะช่วยให้ช่วยกันรับมือและสร้างสถานะให้กับศัตรูอย่างต่อเนื่องได้ด้วย ตัวละครสายสื่อเวทย์ที่สามารถสร้างสถานะให้กับศัตรูได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องก็ส่งผลเป็นอย่างมากและสามารถใช้แทนป้อมปราการบางชนิดอย่างป้อมปราการน้ำได้เช่นกัน ศัตรูหลายๆ ตัวเองก็จะมีโล่หรือเกราะ เช่นโล่ไม้ โล่หิน ที่จะป้องกันการโจมตีของป้อมปราการ ทำให้เพื่อนๆ ต้องใช้ตัวละครที่มีธาตุต่างๆ มาช่วยในการทำลายโล่เหล่านี้ ก่อนที่พวกมันจะเดินผ่านป้อมไปหน้าตาเฉยอย่างชิวๆ ได้ ตัวละครบางตัวที่สกิลมีคุณสมบัติในการขัดขวางศัตรูนั้นจะส่งผลได้มากต่อการเล่น ในขณะเดียวกันตัวละครที่เน้นการบัพหรือการสร้างความเสียหายนั้น จะมีความโดดเด่นน้อยลง...

มาว่ากันถึงในส่วนของแลนด์มาร์คบ้าง เพื่อนๆ รู้รึเปล่าว่าของตกแต่งสวยงามภายในเกมนี้บางชิ้นจะมีคุณประโยชน์มากกว่าของตกแต่งนะ ซึ่งในปัจจุบันตอนนี้ก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 แลนด์มาร์ค โดยแต่ละแห่งก็จะมีโบนัสแตกต่างกันไป แล้วทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงบ้างล่ะว่าอันไหนควรสร้างก่อนหรืออันไหนไม่ควรสร้าง งั้นผมก็ขอแนะนำเพื่อนๆ มาในบทความนี้เลยกับ รวมแลนด์มาร์คควรสร้างใน Cookie Run : Kingdom เอาเป็นว่าเรามาเริ่มดูกันเลยดีกว่า แลนด์มาร์คสุดจำเป็น (ควรสร้างเป็นอันดับแรก) รูปปั้นสิงโตเยลลี่ในฝัน ประโยชน์ : เพิ่มพลังโจมตี วัตถุดิบ : 2,400 เพชร เป็นแลนด์มาร์คอันแรกสุดที่แนะนำเลยครับ เพียงแค่เลเวลก็เพิ่มพลังโจมตีให้เราถึง 5% โดยไม่ต้องทำอะไรเลย สร้างเสร็จตั้งไว้ในอณาจักรก็ได้บัฟแล้ว แต่หลายๆ คนมักจะมองข้ามเพราะด้วยค่าใช้จ่ายกว่า 2,400 เพชรนี่สิ เพิ่มอีก 600 ก็สุ่มกาชาตัวใหม่ได้แล้ว เอาเป็นว่ายอมลงทุนสร้างเพื่ออนาคตที่ดีกันเถอะ ลูกแก้วโลกหิมะแห่งฤดูหนาวนิรันดร์ ประโยชน์ : เพิ่มพลังป้องกัน วัตถุดิบ : เสาออโรร่า 15 ชิ้น + เงิน 100,000 ทอง อีกหนึ่งแลนด์มาร์คแนะนำอันดับแรกเหมือนกับลูกแก้วโลกหิมะ คอยเพิ่มพลังป้องกันให้กับทั้งทีมเลยทีเดียว เริ่มต้นที่เลเวลแรกก็ 5% แล้ว แถมวัตถุดิบในการสร้างยังไม่หนักหนาเท่าไหร่นัก เพียงแค่ใช้เสาออโรร่า 15 ชิ้นกับเงินหนึ่งแสน ซึ่งสามารถหาได้ง่ายๆ ภายในเกม ไม่จำเป็นต้องลงเงินเปย์อะไรเลยด้วย สวนแก้วหยดนํ้าค้าง ประโยชน์ : เพิ่มพลังชีวิต วัตถุดิบ : 2,400 เพชร เหมือนกับรูปปั้นสิงโตเยลลี่ในฝันเลยครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากในส่วนของพลังโจมตีมาเป็นพลังชีวิตแทนนั่นเอง แถมราคายังเหมือนกันด้วยในราคา 2,400 เพชร อาจจะดูเหมือนน้อยนะ 5% ของพลังชีวิตน่ะ แต่ลองมาเทียบเป็นอัตราส่วนกับพลังชีวิตของตัวแทงค์ดูสิเพิ่มมาเยอะพอควรเลยนะ แถมยิ่งอัพเลเวลเพิ่มขึ้นค่าเปอร์เซ็นต์ก็เพิ่มตามไปด้วย เป็นอีกอันที่ควรสร้างอันดับต้นๆ เลยล่ะ บ้านผีสิงสุดสยอง ประโยชน์ : เพิ่มอัตราคริติคอล วัตถุดิบ : อิฐออโรร่า 10 ชิ้น + 70,000 ทอง ด้วยต้นทุนที่ไม่แพงแค่อิฐ 10 ก้อนกับทองแค่ 7 หมื่นเท่านั้น แต่สิ่งที่ได้มาคือการเพิ่มอัตราคริติคอลอันคุ้มค่าอย่างมาก ยิ่งถ้าเกิดใครเล่นสายจำพวกโจมตีระยะไกลหวังผลคริยิ่งถูกใจแลนด์มาร์คชิ้นนี้อย่างมากเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คควรสร้างถัดมาจากสามอันก่อนหน้านี้นั่นเองครับ หอนาฬิกาคุกกี้ ประโยชน์ : ลดเวลาการผลิต วัตถุดิบ : 50,000 ทอง แลนด์มาร์คที่ต้นทุนการสร้างถูกสุดจากทั้ง 12 ชิ้นเลยก็ว่าได้ ด้วยเงินเพียงห้าหมื่นทองเท่านั้นเอง แต่เราสามารถนำมาลดเวลาการผลิตไอเทมต่างๆ ได้ ยิ่งเวลาการผลิตน้อยลงนั่นก็หมายความว่า เพื่อนๆ สามารถทำเควสจาก “ต้นแห่งความหวัง” ได้บ่อยขึ้น ซึ่งเป็นแหล่งอัพเลเวลของเราและเป็นแหล่งหาทองหลักเลยก็ว่าได้ ปราสาทจอมมารสุดอลหม่าน ประโยชน์ : ลดดาเมจที่ได้รับ วัตถุดิบ : 5,000 เพชร เป็นแลนด์มาร์คที่ควรสร้างอันดับสุดท้ายใน “แลนด์มาร์คสุดจำเป็น” ด้วยว่าต้นทุนการสร้างค่อนข้างจะสูงกว่าห้าพันเพชรเลยแน่ะ ซึ่งมันก็หนักหนาพอสมควรเลย แต่การได้บัฟลดพลังโจมตีมามันก็ช่วยสามารถยื้อให้เรายืนได้นานขึ้นล่ะน่ะ เอาเป็นว่าหลังจากสร้างห้าอันก่อนหน้านี้ไปเสร็จแล้ว ค่อยแวะกลับมาสร้าง “ปราสาทจอมมารสุดอลหม่าน” ทีหลังก็ได้นั่นเอง แลนด์มาร์คแล้วแต่ชอบ (งบเหลือค่อยสร้าง / ไม่รีบ) แกรนด์ทาวเวอร์ขนมหวาน ประโยชน์ : ลดเวลาฟื้นฟูสเตมิน่า วัตถุดิบ : 3,000 เพชร แลนด์มาร์คเหมาะสำหรับสายผจญภัยใคร ที่ชอบการลงดันตะลุยด่านมักจะพบปัญหากับสเตมิน่าไม่พอใช่ไหมล่ะ แกรนด์ทาวเวอร์นี้จะช่วยให้สเตมิน่าของเพื่อนๆ ฟื้นฟูได้ไวขึ้น หมดปัญหาการกังวลกับต้องมานั่งรอนานๆ ในส่วนของวัตถุดิบอาจจะแพงสักหน่อยแต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราเองว่าอยากได้ไม่อยากได้ล่ะนะ  ภูเขาแมกมา ประโยชน์ : ลดเวลาสถานีรถไฟ วัตถุดิบ : 70,000 ทอง การใช้งานสถานีรถไฟในแต่ละครั้งนั้นค่อนข้างจะนานพอสมควรเลยทีเดียว นานซะจนบางคนลืมไปแล้วว่าส่งรถไฟไปด้วยซํ้า การสร้างภูเขาแมกมาก็จะช่วยลดเวลาดังกล่าวได้สักเล็กน้อย อาจจะไม่ได้ลดแบบเห็นชัดเจนนักแต่ก็ยังดีกว่าเวลาเต็มๆ 4 - 6 ชั่วโมงนั่นล่ะนะ แถมต้นทุนวัตถุดิบก็ไม่แพงเท่าไหร่เพียงเจ็ดหมื่นทองเท่านั้นเอง นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่จะสร้างก็ดีไม่สร้างก็ไม่เป็นไร  เรือบินครีมฮอร์น ประโยชน์ : ลดเวลาบอลลูนผจญภัย วัตถุดิบ : เสาออโรร่า 20 ชิ้น + 200,000 ทอง คุณประโยชน์อย่างเดียวกับภูเขาแมกมาเลย เพียงเปลี่ยนจากสถานีรถไฟมาเป็นบอลลูนผจญภัยแทน ถึงแม้ในส่วนของบอลลูนผจญภัยนั้นการส่งออกไปแต่ละรอบอาจจะไม่ได้นานเท่ากับรถไฟก็จริง แต่ในแต่ละครั้งก็ยังถือว่ายังกินเวลาอยู่ดี การสร้างแลนด์มาร์คนี้ก็จะช่วยลดเวลาดังกล่าวได้ส่วนนึง ทำให้เราสามารถส่งบอลลูนออกไปได้บ่อยและไวขึ้น แลนด์มาร์คไม่คุ้มทุน (ไม่แนะนำให้สร้าง) หอชมจักรวาลดาวลูกกวาด ประโยชน์ : เพิ่มเหรียญหลังจบด่าน วัตถุดิบ : เข็มทิศออโรร่า 20 ชิ้น + 200,000 ทอง ในการจบด่านแต่ละรอบเราจะได้เงินค่อนข้างจะน้อย ทำให้ถึงแม้จะสร้างแลนด์มาร์คนี้ขึ้นมาเหรียญที่เราจะได้รับหลังจบก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่างเลย แถมต้นทุนการสร้างก็ใช้ของพอสมควรเลยทีเดียว เข็มทิศออโรร่ากว่า 20 ชิ้นนี่สามารถเอาไปสร้างอะไรได้หลายอย่างมากเลยนะ แถมสองแสนทองถ้าเพื่อนๆ ไม่ใช่สายเปย์หนักจริงๆ เงินจำนวนนี้ก็เรียกว่าขูดเลือดขูดเนื้อเอาเรื่องเลยล่ะ ชิงช้าสวรรค์หลากสี ประโยชน์ : สุ่มหินวิญญาณ (Common, Rare, Epic) วัตถุดิบ : 4,000 เพชร สุ่มหินวิญญาณสำหรับคนที่ไม่เข้าใจก็คือ “เศษตัวละคร” นั่นล่ะครับ เจ้าแลนด์มาร์คนี้จะทำการสุ่มให้เพื่อนๆ ครั้งละหนึ่งชิ้นเสมอ ซึ่งในแต่ละครั้งก็จะใช้เวลาหนึ่งวันเต็มเลยทีเดียว เอาจริงๆ คือมันค่อนข้างจะใช้เวลานานและไม่คุ้มเลย เราไม่รู้ด้วยว่าเราจะได้เศษชิ้นส่วนของตัวละครไหนบ้าง บางทีก็ได้ตัวที่เราไม่ได้เล่น แถมต้นทุนการสร้างยังใช้กว่าสี่พันเพชรก็ค่อนข้างจะแพงเอาเรื่องเลยล่ะ เครื่องสุ่มลูกบอล ประโยชน์ : สุ่มหินวิญญาณ (Common, Rare, Epic) วัตถุดิบ : 4,000 เพชร เหมือนกับชิงช้าสวรรค์หลากสีทุกประการเลยครับ ต่างก็แค่ชื่อกับรูปลักษณ์แลนด์มาร์คเท่านั้นเอง ก็ยังยืนยันคำเดิมครับสร้างแล้วไม่คุ้มกับค่าวัตถุดิบเลย แต่ถ้าเกิดใครอยากได้ไว้ตกแต่งอาณาจักร หรือเพชรเหลือเฟือเอามาโยนเล่นสร้างไว้ก็ได้นะ เอาจริงๆ ก็คือจะมีอยู่ 6 แลนด์มาร์คที่ควรสร้างนั่นแล่ะครับ ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่เพื่อนๆ เลยว่าอยากได้หรือไม่ได้ บางคนก็อาจจะสร้างเมื่อให้คอลเล็คชั่นสมบูรณ์เพื่อรับของรางวัลก็ได้ด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าเป็นการจบบทความ รวมแลนด์มาร์คควรสร้างใน Cookie Run : Kingdom หวังว่าจะสามารถช่วยเพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับผม