Mobile Guide

ภายในเกม Latale W นั้นหลังจากที่เราเก็บเลเวลมาอย่างยากลำบากแล้ว เราสามารถที่จะเปลี่ยนคลาสตัวละครของเราเป็นคลาสที่มีระดับสูงกว่าเดิมได้ โดย Max Lv.ของ Job จะเพิ่มขึ้น รวมไปถึงเมื่อเราเปลี่ยนอาชีพเรียบร้อยแล้วสกิลทั้งหมดจะมีการเปลี่ยนซึ่งเราจะได้รับแต้มสกิลคืนมาหลังจากการเปลี่ยนอาชีพเรียบร้อยแล้วด้วย สำหรับขั้นตอนและเงื่อนไขในการเปลี่ยนอาชัพนั้นมีดังนี้ครับ วิธีการเปลี่ยนคลาส 1.ต้องมีตัวละครที่เลเวล 40 ก่อน หลังจากนั้นให้กลับไปที่เมืองเริ่มต้น 2.ให้ไปคุยกับ NPC อาเซส (아세스) ซึ่งนางจะอยู่แถวๆ เยื้องไปทางซ้าย ของเมือง 3.เลือกไปที่คำสั่งทางขวาสุดจากนั้นตัวเกมจะให้เราเลือกอาชีพ 4.กดยืนยัน สำหรับวิธีกาเปลี่ยนอาชีพก็มีเพียงเท่านี้ครับ ซึ่งก็ไม่ยากเลยแต่ที่ยากคือการเก็บเลเวลมาจนถึง 40 นี่แหละครับที่เป็นอะไรที่แอบโหดมากๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวหากมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมทางกบจะมาอัพเดตให้เพิ่มเติมนะครับ หากใครชอบไกด์นี้ล่ะก็ฝากกดไลค์ไปทีแฟนเพจได้เลยจ้า

หลังจากการอัพเดทเข้าของเนื้อเรื่องบทใหม่ เนื้อเรื่อง บทที่ 8 เจตจำนงของแฮชเชอร์ หรือตามชื่อบทภายในเกม สายเลือดราชินี ได้ผ่านมาหลายวันแล้วซึ่งในวันที่ 4 ตุลาคม 2561 เป็นการปลดล็อคด่านเนื้อเรื่องในส่วนที่สองของบทที่ 8 นี้ให้กัปตันได้เข้าไปเล่นและติดตามเนื้อเรื่องกันต่อจากในส่วนแรกกันอย่างเข้มข้นหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีฉาก CG อลังการให้ได้รับชมกันอีกด้วย งานนี้จุดจบของเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไรเหล่าวาลคิเรียจะสามารถผ่านมันไปได้หรือไม่ ! ด่านเนื้อเรื่องในระดับปกติจะมีทั้งหมด 4 ด่านด้วยกันและจะบังคับให้ใช้ตัวละคร Raiden Mei : Crimson Impulse ในการผ่านเนื้อเรื่องและลุยด่านทั้งหมด ( ยกเว้นในด่าน 8-7 ที่จะมี Theresa  Apocalypse : Valkyrie Pledge มาให้ใช้ในช่วงแรก ) ** ในบทความนี้จะพูดถึงด่านทั้งหมดในระดับปกติเท่านั้นและจะไม่มีการสปอยเนื้อเรื่องแต่อย่างใด ** Act. 2 ภายในด่านจะมีให้เล่นทั้งหมดสองช่วงด้วยกันในช่วงแรกจะเป็นของ Theresa  Apocalypse : Valkyrie Pledge ศัตรูที่พบจะเป็นพวกหุ่นยนต์ทั้งหมดไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วงแค่พยายามกดสะกิดอาวุธให้ได้บ่อยๆ ก็เพียงพอแล้ว และในช่วงที่สองจะเป็นของ Raiden Mei : Crimson Impulse ศัตรูที่เจอจะเป็นพวกปีศาจฮงไกประเภทพลังจิตทั้งหมด เน้นใช้ท่าคอมโบเรื่อยๆ กำจัดศัตรูให้หมดก็จะผ่านด่านทันที Act. 2 ศัตรูที่พบจะเป็นพวกปีศาจฮงไกเหมือนเดิมและในด่านจะมีปุ่มสกิลพิเศษเพิ่มขึ้นมาให้เราได้กดใช้ตามในวงกลมสีแดง มันคือสกิลพื้นน้ำแข็งจะทำให้พื้นบริเวณที่เป็นหลุดไฟภายในฉากไม่สามารถเผาใหม่ใส่เราได้ ( หากไปเผลอเหยียบเข้าจะโดนดาเมจเผาใหม่ทุกๆ 100 ต่อวิ ) จะเจอพื้นไฟทั้งหมด 2 ด่านคือ 8-8 และ 8-9 Act. 2 ศัตรูที่พบเป็นพวกปีศาจฮงไกทั้งหมดด่านนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษกำจัดให้หมดภายในเวลาก็เพียงพอแล้ว Act. 2 พบบอสใหญ่ Herrscher Kiana หรืออีกชื่อที่กัปตันหลายๆ คนรู้จักกันในชื่อของ God Kiana ซึ่งจะเป็นศึกสุดท้ายของเนื้อเรื่องบทที่ 8 นี้ บอสมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมักจะวาร์ปไปวาร์ปมาตลอดเวลาเมื่อเราเข้าถึงตัว การจะโจมตีได้ทันจะต้องเน้นใช้สกิลหลบของ Raiden Mei : Crimson Impulse เพื่อหยุดเวลาทำให้มีโอกาสที่จะโจมตีบอสเข้าได้เยอะที่สุด เมื่อเลือดของบอสลดไป 1 หลอดจะเข้าสู่อีกมิติทันทีเจอบอสอีก 1 ตัวแทนคือ Shadow of the Herrscher หรือที่ชื่อที่คุ้นเคยคือ Knight Moonbeam และจะมีตัวละคร Kiana Kaslana : White Comet มาช่วยเราต่อสู้ด้วยเมื่อกำจัดบอสได้จะกลับมายังมิติเดิมเพื่อสู้กับ Herrscher Kiana อีกครั้ง ในช่วงแรกบอสจะโจมตีใส่เพียงแค่สองสามท่าเท่านั้นจากนี้คือของจริงบอสจะเริ่มใช้สกิลที่ไม่คุ้นตามากขึ้นและหลายท่ามากขึ้นจนหลบกันไม่ทันเลยทีเดียวพยายามเก็บเกจท่าไม้ตายเอาไว้ใช้ตอนเข้าถึงตอนได้จะช่วยให้กำจัดบอสได้ไวขึ้น และเมื่อบอสเหลือเลือดหลอดสุดท้ายจะตัดจบเข้าสู่ cut scene สุดท้ายทันทีรับรองว่าอลังการสมกับที่รอคอย ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH

ผ่านไปเร็วเหมือนโกหกกับการฉลองครบรอบ 1 ปีของเกม Honkai Impact 3 ที่มาพร้อมกับเนื้อเรื่องบทใหม่ที่ทุกคนต่างรอคอยได้เปิดให้เล่นกันแล้วกับเนื้อเรื่อง บทที่ 8 เจตจำนงของแฮชเชอร์ หรือตามชื่อบทภายในเกม สายเลือดราชินี ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นเข้าไปอีกอาจจะเรียกได้ว่าใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้วก็เป็นได้เนื้อเรื่องต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต้องติดตามชม! บทที่ 8 เจตจำนงของแฮชเชอร์ Kiana ถูกจับตัวไป ทาง Theresa จึงสร้างกองกำลังพันธมิตรกับ Anti-Entropy และนำกำลังไปบุกศูนย์บัญชาการ Schicksal และช่วยเหลือวาลคิเรียสาว แล้วแผนการช่วยเหลือ Kiana ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่? เนื้อเรื่องบทที่ 8 จะมีอยู่ 2 ช่วงและ 3 ระดับความยาก: ช่วงที่ 1 ทุกระดับความยาก: ปลดล็อคหลังจากอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่วันที่ 27 กันยายน ช่วงที่ 2 ทุกระดับความยาก: ปลดล็อคหลังจากวันที่ 4 ตุลาคม 03:00 น. ** ในบทความนี้จะพูดถึงด่านทั้งหมดในระดับปกติเท่านั้นและจะไม่มีการสปอยเนื้อเรื่องแต่อย่างใด ** Act. 1 ในด่านจะบังคับให้ใช้แค่ Murata Himeko : Scarlet Fusion คนเดียวเท่านั้นในการผ่านด่าน ศัตรูที่เจอจะเป็นประเภทหุ่นยนต์ทั้งหมด เมื่อผ่านทางช่วงแรกไปจะพบกบศัตรูทรงกลมเมื่อโจมตีไปสักระยะจะมีบาเรียโผล่มาป้องกันไว้จะต้องกัดจัดลูกน้องที่โผล่มาทั้งหมดเสียก่อนเกราะจึงจะหายไปถึงจะสามารถโจมตีต่อได้ หลังจากจะมีศัตรูโผล่มาให้เราจัดการอีกจึงจะเปิดทางต่อไปจะพบกับบอส Mecha  Act. 1 ยังคงบังคับให้ใช้ Murata Himeko : Scarlet Fusion เหมือนเดิมสู้กับศัตรูประเภทหุ่นยนต์ ศัตรูจะโผล่มาเรื่อยๆ จนกว่าจะไปถึงบันไดสุดทาง เมื่อขึ้นบันไดไปจะเจอ Tesla ยืนอยู่กลางจอมอนิเตอร์ยักษ์ให้เข้าไปใกล้ๆ เพื่อคุย หลังจากนั้นเดินกลับมาเพื่อขึ้นไปควบคุมหุ่นสีแดงแล้วจะต้องป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ายังวาร์ปด้านหลังหากศัตรูเข้าไปได้ 3 ครั้งจะแพ้ทันที Act. 1 เริ่มมาจะให้เดินไปคุยให้ครบ 3 คนคือ Einstein, Tesla และ Mei หลังจากนั้นให้ไปคุยกับ Theresa ตรงข้างบันได เพื่อลงไปยังพื้นที่ด้านล่างสำรวจพื้นที่ทั้งหมด 2 จุดแล้วไปยังสุดทางคุยกับ Tesla เพื่อจบด่าน ( ด่านนี้ไม่มีศัตรูให้สู้ ) Act. 1 ด่านนี้จะบังคับใช้ Fu Hua : Shadow Knight สู้กับศัตรูฮงไกประเภทพลังจิตทั้งหมดหลังจากกำจัดบอสของด่านได้ให้วิ่งขึ้นไปอ้อมเสาใหญ่ไปจะเจอตัวละครปริศนาอยู่ Act. 1 เริ่มมาจะได้กลับมาใช้ Murata Himeko : Scarlet Fusion อีกครั้งซึ่งด่านนี้จะค่อยข้างยาวเล็กน้อยและศัตรูที่เจอจะเป็นพวกหุ่นยนต์ทั้งหมดเช่นเคย หลังจากกำจัดศัตรูในโซนแรกแล้วให้วิ่งขึ้นไปทางขวาจะเจอเครื่องควบคุมเมื่อกดแล้วจะเปิดทางไปอีกฝั่ง เมื่อกลับมาจะพบกับศัตรูจนถึงทางลานกว้าง หลังจากนั้นจะมีเวลานับถอยหลังจะต้องอยู่รอดให้ได้จนหมดเวลาบาเรียที่ป้องกันศัตรูอยู่จะหายไปเมื่อกำจัดได้จะเจอบอสอีกสองชุดจะจบด่าน Act. 1 ด่านสุดท้ายจะเจอกับบอสใหญ่อย่าง Fu Hua : Shadow Knight มาในชุดเกราะเต็มยศโดยจะบังคับใช้ Murata Himeko : Scarlet Fusion สู้ด้วยเท่านั้น สกิลที่ควรระวังก็คือ ท่าสร้างเกราะด่านหน้าหากโจมตีใส่ในช่วงนั้นจะโดนเคาท์เตอร์กลับทันที และท่ากำแพงสีส้มบอสจะร่ายท่าใส่ทำให้พื้นตรงที่เรายืนจะมีสีส้มปรากฏขึ้นระยะสั้นๆ ก่อนที่แท่งกำแพงจะโผล่ขึ้นมาจากพื้นสร้างดาเมจใส่เราทันทีแถมหากโดนกำแพงที่ปรากฏขึ้นมาจะโดนดาเมจด้วยแนะนำให้วิ่งออกมาไกลๆ จากจุดนั้นให้เยอะที่สุดเป็นการล่อให้บอสออกมาไกลๆ ด้วย จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH

ความท้าทายแห่งอัศวินที่แท้จริง กลับมาอีกครั้งกับความท้าทายในด่านใหม่ที่เหล่ากัปตันจะต้องใช้วาลคิเรียคลาสใหม่ไฟแรง Night Squire เพื่อพิชิตด่าน ศึกดวลปีศาจ ที่จะต้องพบกับศัตรูสุดโหดยิ่งใกล้ตายยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เพื่อของรางวัลและเหรียญตราอัศวิน ศึกดวลปีศาจ ท้าทายความยาก! หมัดเหล็กกับเขี้ยวนรก ใครจะเป็นผู้รอดชีวิตจากสนามประลองแห่งความสิ้นหวังกันแน่? กัปตันจะต้องใช้ตัวละคร Night Squire ที่มีอุปกรณ์ที่กำหนดให้แล้วในการเข้าเล่นด่านท้าทายของกิจกรรม เมื่อผ่านด่านในแต่ละครั้ง กัปตันจะได้รับไฟแห่งการสาบสูญ 5 ชิ้น และในครั้งแรกที่ผ่านด่านจะได้รับรางวัลโบนัสไฟเท็งงู 2 ชิ้น ศัตรูที่จะเจอในด่านนี้ใครๆ ก็ต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั้นก็คือ Ganesha หรือที่เรียกกันว่าบอสช้างนั้นเองกัปตันหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับด่านลักษณะนี้กันดีว่าศัตรูที่เจอการโจมตีทั้งหมดจะรุนแรงขึ้นหลายเท่าตัว โดนโจมตีใส่ทีเดียวกลับขึ้นสวรรค์อย่างแน่นอน แถมเมื่อเราตายด่านจะจบลงและนับคะแนนที่ทำได้ทันที สำหรับด่าน ศึกดวลปีศาจ นี้ วิธีการการผ่านด่านคือให้ยืมวาลคิเรีย Lightning Empress ของเพื่อนเพื่อให้เริ่มต้นด่านมีเกจท่าไม้ตาย 50 SP ทันทีทำให้สามารถใช้ท่าไม้ตายได้เร็วขึ้น โจมตีอัดบอสไปเรื่อยๆ จนใกล้ระยะที่เกราะของบอสจะหมดให้กดใช้ท่าไม้ตายทันทีกดรัวหมัดและลูกเตะใส่บอสให้ยับ เมื่อเข้าสู่ช่วงเลือดหลอดสุดท้ายบอสจะคลั่งทำให้การโจมตีและการเคลื่อนไหวทั้งหมดเร็วขึ้นสองเท่า แนะนำให้ทำตามแบบช่วงแรกโจมตีใส่บอสจนเกราะใกล้แตกแล้วกดท่าไม้ตายอัดบอสให้ตายไวที่สุด สามารถดูสกิลของบอสได้ที่ลิ้งค์นี้   https://playpost.gg/honkai-impact-3-boss-ganesha/ ด่านนี้สามารถลงได้วันละ 99 รอบ ใช้ 10 พลังงานในการลงแต่ละรอบเท่านั้นสามารถลงใหม่ได้เรื่อยๆ เพื่อแก้ตัวใหม่ให้ได้คะแนนที่สูงขึ้น ( ยิ่งจบด่านได้เร็วคะแนนที่ได้จะเยอะขึ้น ) เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจ กัปตันที่สามารถทำอันดับได้ถึงที่กำหนดจะได้รับรางวัลโบนัสเป็นคริสตัลดังนี้! อันดับสูงสุด 1%: 500 คริสตัล อันดับสูงสุด 2-3%: 220 คริสตัล อันดับสูงสุด 4-5%: 170 คริสตัล อันดับสูงสุด 6-10%: 120 คริสตัล อันดับสูงสุด 11-30%: 60 คริสตัล อันดับสูงสุด 31-65%: 30 คริสตัล ภารกิจกิจกรรม ผ่านการท้าทาย (ไม่ว่าคุณจะผ่านด่านหรือไม่ก็ตาม) เพื่อรับรางวัลภารกิจ 60 คริสตัล เมื่อมีคะแนนถึงจำนวนที่กำหนด ก็จะได้รับรางวัลเหรียญตราอัศวิน! ( เลเวลของกัปตันต้องมีเลเวล 15 ขึ้นไปจึงจะสามารถเข้าเล่นได้ ) Glorious Knight Emblem ( 30 วัน ) Divine Knight Emblem ( 30 วัน ) Supreme Knight Emblem ( 30 วัน ) *หากได้รับเหรียญตราจำกัดเวลาซ้ำ จะเป็นการเพิ่มระยะเวลาของเหรียญตราแทน* คลิปตัวอย่างการเล่นโหมดศึกดวลปีศาจ https://www.youtube.com/watch?v=CzDPJLIyxGA จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH

ระบบเบิร์นนิ่ง คือ event ที่ทำให้สามารถเก็บเลเวลไวขึ้นมาก ปกติเมื่อเราเลเวลอัพมันจะเพิ่มที่ละ 1 เลเวล แต่ถ้าหากตัวละครใดได้เบิร์นนิ่งเวลจะอัพทีละ 1+2 เลเวล (เท่ากับอัพทีละ 3 เลเวล) ระบบเบิร์นนิ่ง รายละเอียด 1. คุณสามารถเลือกตัวละคร Burning ซึ่งจะต้องเป็นตัวละครที่สร้างใหม่ในช่วงเวลากิจกรรม 2. ตัวละคร Burning จะได้รับเลเวลเพิ่มอีก 2 เลเวล ทุกครั้งที่เลเวลอัพในช่วงเวลาที่กำหนด หมายเหตุ - คุณสามารถเลือกตัวละคร Burning จากตัวละครที่สร้างใหม่ในช่วงเวลากิจกรรม - Burning level-up buff จะให้เลเวลเพิ่มอีก 2 เลเวล ทุกครั้งที่เลเวลอัพในช่วงเลเวล 3 ถึงเลเวล 75 *ตัวละคร Burning จะเลเวลอัพจากเลเวล74 ได้สูงสุดที่เลเวล 75 - คุณสามารถเลือกตัวละคร Burning ได้หนึ่งตัวต่อหนึ่งบัญชีเท่านั้น - ถ้าคุณลบตัวละคร Burning ของคุณ คุณสามารถเลือกตัวละครที่สร้างใหม่เป็นตัวละคร Burning ได้ (ถ้าตัวละคร Burning อยู่ในสถานนะ “กำลังรอการลบ” จะไม่สามารถสร้างตัวละคร Burning ได้) - ถ้าตัวละคร Burning ของคุณถึงเลเวล 75 แล้ว จะไม่สามารถเลือกตัวละครอื่นเป็น Burning ได้ *ตัวละคร Burning ไม่สามารถใช้ Storm growth elixir ในช่วงเลเวล 3 ถึง 75 ได้ *บัฟกิจกรรม Burning จะหายไปเมื่อกิจกรรมสิ้นสุด ขั้นตอนการสร้างตัวละครเพื่อรับ Burning 1. กดปุ่มสร้างตัวละคร 2. เลือกสายอาชีพที่ต้องการ แล้วกด “ยืนยัน” 3. เมื่อกดยืนยันจะมี Burning เด้งขึ้นมาให้กด “ยืนยัน” 4. หลังจากการยืนยันแล้วตัวละครจะมีออร่าไฟ Burning ที่ตัวละครของเรา

รู้เขารู้เรารบร้อยชนะร้อย ใน Survival Heroes ก็จะมีอาวุธมากมายให้ใช้ โดยในครั้งนี้ก็จะมาพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับอาวุธสายระยะประชิด (Melee Weapon) ต่างๆ ทั้งในแบบกายภาพและแบบเวทย์ไปพร้อมกัน แต่โดยมากนั้นเราจะได้เจออาวุธประชิดที่เป็นกายภาพเสียมากกว่า อาวุธระยะใกล้ ► Club (Physical) - ATK 10, Magic DEF +10, HP +623 Passive : ทุกๆ 20 วินาทีจะได้รับโล่ป้องกันความเสียหาย 1 ครั้ง หลังจากป้องกันได้แล้ว จะได้รับความเสียหายน้อยลง 33% เป็นเวลา 3 วินาที Wide Sweep ควงอาวุธรอบตัว สร้างความเสียหายกายภาพ 50(+84) หน่วยใส่ศัตรูและทำให้กระเด็นถอยหลังเล็กน้อย Cooldown : 6 วินาที Air Club เล็งพื้นที่ที่กำหนด ก่อนจะสั่งให้เขี้ยวหมาป่าพุ่งลงมาโจมตี สร้างความเสียหายกายภาพเท่ากับ 11% ของพลังชีวิตในปัจจุบันของศัตรู (สูงสุด 289 หน่วย) พร้อมทั้งทำให้ติด Stun 1 วินาทีและลดเกราะลง 20% เป็นเวลา 3 วินาที สะสมแต้มการใช้งานได้สูงสุด 3 แต้มและได้รับ 1 แต้มทุกๆ 15 วินาที Cooldown : 3 วินาที Violent Hammer ฟาดพื้นเป็นเส้นตรง เมื่อฟาดโดนจะสร้างความเสียหายกายภาพ 75(+126) หน่วย (เพิ่มขึ้น 1.5 เท่าหากชาร์จท่านี้) และสร้างความเสียหายอีก 12% จากพลังชีวิต (สูงสุด 315 หน่วย) พร้อมทำให้ศัตรูลอยขึ้น สามารถชาร์จท่านี้ได้ ส่งผลให้แรงขึ้นและทำให้ศัตรูลอยนานขึ้น ระหว่างชาร์จจะมองเห็นไกลขึ้น 5 เมตรแต่ลดความเร็วลง 50% Cooldown : 35 วินาที   ► Void Dagger (Physical) - ATK 19, HP 250, CRI 5.0% Passive : หากมีศัตรูในระยะ 30 เมตรที่พลังชีวิตน้อยกว่า 35% จะเพิ่มความเร็วการโจมตี 10% และความเร็วการเคลื่อนที่ 15% และได้รับรัศมีการมองเห็นของเป้าหมายด้วย หากทำความเสียหายด้วยการโจมตีปกติ, Boomerang, Cloak จะติดแต้ม Dagger Mark ใส่เป้าหมาย Boomerang ปาบูมเมอแรงค์ออกมารอบตัวหกอัน การหมุนแต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายกายภาพ 35(+16) หน่วย Cooldown : 12 วินาที Cloak ล่องหนเป็นเวลา 3.5 วินาที ระหว่างนี้การเดินจะไม่เกิดเสียง พร้อมเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 25% ระหว่างที่ล่องหน หากโจมตีจะเทเลพอร์ทไปด้านหน้าศัตรูและเพิ่มความเร็วการโจมตี 35% Cooldown : 20 วินาที Fatal Edge เทเลพอร์ทไปยังพื้นที่ที่กำหนด สร้างความเสียหายกายภาพ 55(+63) หน่วยและทำให้ติด Slow 50% เป็นเวลา 1.5 วินาที พร้อมทำให้เป้าหมายได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 8% ของพลังชีวิตที่หายไปด้วย หากสกิลนี้ใช้ใส่เป้าหมายที่มี Dagger Mark 3 อันหรือสังหารเป้าหมายได้จะรีเซ็ทคูลดาวน์ทันที Cooldown : 15 วินาที   ► Brutal Fist (Physical) - ATK +26, HP +327 Passive : หลังจากใช้สกิล ภายใน 5 วินาทีการโจมตีปกติครั้งต่อไปจะสร้างความเสียหายกายภาพเพิ่มขึ้น 30% Fist Mark ยิงคลื่นพลังไปยังด้านหน้าเพื่อทำเครื่องหมายที่ศัตรูเป็นเวลา 3 วินาที การกดใช้สกิลอีกครั้งจะพุ่งเข้าโจมตี สร้างความเสียหายกายภาพ 45(+84) หน่วย หากเป้าหมายมีพลังชีวิตน้อยกว่า 50% จะทำให้ติด Slow 30% เป็นเวลา 2.5 วินาทีพร้อมทำความเสียหายเพิ่มเติมเท่ากับ 6% ของพลังชีวิตที่หายไปเพิ่มเติม (สูงสุด 158 หน่วย) Cooldown : 10 วินาที Rapid Slam กระโดดไปต่อยพื้นที่ที่เล็งไว้ สร้างความเสียหายกายภาพ 30(+73) หน่วย และทำให้ศัตรูกระเด็นถอยหลังเล็กน้อย Cooldown : 10 วินาที Groundsplit ทุบพื้นอย่างรุนแรงรอบตัว สร้างความเสียหายกายภาพ 55(+94) หน่วยและทำให้ศัตรูลอยขึ้น กดใช้สกิลอีกครั้งเพื่อเตะรอบตัว สร้างความเสียหายกายภาพ 61(+94) หน่วยและผลักให้กระเด็นออกไปไกล เป้าหมายที่โดนจะถูกลดเกราะลง 20% เป็นเวลา 3 วินาที และหากกระเด็นไปชนกำแพงหรือสิ่งกีดขวาง จะได้รับความเสียหายอีก 65% เพิ่มเติมพร้อมติด Stun 1.5 วินาที รีเซ็ทคูลดาวน์ของสกิล Flying Blow เมื่อใช้งานโดนเป้าหมาย Cooldown : 16 วินาที   ► Storm Hammer (Magic) - ATK +20, HP +538 Passive : หากพลังโจมตีเวทย์น้อยกว่าหรือเท่ากับพลังป้องกันรวม (เกราะ+ป้องกันเวทย์) จะได้รับบัพ Wind ทำให้ได้รับความเสียหายลดลง 10% แต่หากพลังโจมตีเวทย์สูงกว่าหรือเท่ากัน จะได้รับบัพ Lightning ทำให้เมื่อใช้สกิล จะมีโอกาส 15% ที่จะสุ่มรีเซ็ทคูลดาวน์ของสกิลอื่น 1 สกิล (คูลดาวน์การรีเซ็ท 10 วินาที) Wind Hammer ปาค้อนลมไปด้านหน้า สร้างความเสียหายเวทย์ 80(+0) หน่วยและทำให้ติด Stun 1 วินาที...

การไล่เก็บอาวุธเป็นอีกหนึ่งในสีสรรของเกมแนว Battle Royale ซึ่งใน Survival Heroes เองก็จะมีอาวุธมากมายให้หาเก็บไว้ โดยในครั้งนี้ก็จะกล่าวถึงอาวุธระยะไกล (Range Weapon) กันบ้างจ้า บอกได้เลยว่ารู้ไว้ไม่เสียหาย แถมรับมืออีกฝ่ายได้ง่ายขึ้นด้วยล่ะ อาวุธระยะไกล ► Stun Bow (Physical) - ATK 26, HP 115 Passive : เมื่อโจมตีปกติหรือใช้สกิลทำความเสียหายได้ จะได้รับแต้ม Wind Edge 1 แต้มเป็นเวลา 5 วินาที หากมีครบ 10 แต้มจะสร้างบัพ Gust ทำให้โจมตีเร็วขึ้น 40% และเคลื่อนที่เร็วขึ้น 15% Splitting Arrow ยิงลูกศรไปเป็นแถวหน้ากระดาน 6 ดอก สร้างความเสียหายกายภาพ 50(+89) หน่วย พร้อมทำให้ติด Slow 25% เป็นเวลา 1.5 วินาที Cooldown : 9 วินาที Spiral Arrow ยิงลูกศรทะลวงที่จะผลักให้ศัตรูกระเด็นถอยหลัง สร้างความเสียหายกายภาพ 35(+89) หน่วยและทำให้ติด Silence เป็นเวลา 2 วินาที Cooldown : 16 วินาที Arrow Array ยิงผลลูกธนูไปยังพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเสียหายกายภาพ 18(+17) หน่วยต่อครั้งอย่างรวดเร็วและทำให้ติด Slow 40% เป็นเวลา 1.5 วินาที Cooldown : 40 วินาที   ► Dragon Gun (Physical) - ATK +26, HP +269, CRI +5.0% Passive : การโจมตีปกติจะสร้างความเสียหายเป็นกลุ่ม โดยเป้าหมายที่อยู่ห่างไปจะได้รับความเสียหายน้อยลง การโจมตีมีผลทำให้เป้าหมายรองชะงักถอยหลังเล็กน้อย เมื่อใช้สกิลจะโจมตีต่อได้ทันที Critical Gunplay กลิ้งไปด้านหน้า เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 20% เป็นเวลา 1 วินาทีและเพิ่มค่าคริติคอล 40% เป็นเวลา 3 วินาที หากใช้สกิลนี้ระหว่างที่อยู่ในพุ่มไม้ จะลดคูลดาวน์ลง 2 วินาทีและทำให้ความเร็วการเคลื่อนที่เพิ่มเป็น 40% แทน Cooldown : 7 วินาที Smoke Bomb ปาระเบิดควันไปยังพื้นที่ที่กำหนด สร้างความเสียหายกายภาพ 55(+73) หน่วย ควันจะอยู่เป็นเวลา 4 วินาทีและมีขนาด 3 เมตร ศัตรูในควันนี้จะถูกลดระยะการมองลง Cooldown : 15 วินาที Steel Arrow พุ่งไปด้านหน้าสั้นๆ พร้อมกับลดล้างสถานะผิดปกติออก ฟื้นพลังชีวิต 10% จากที่ขาดหายไป หลังจากนั้นจะป้องกันสถานะผิดปกติเป็นเวลา 2 วินาที โดยในช่วงเวลานี้หากได้รับสถานะผิดปกติอีก จะฟื้นพลังชีวิต 5% จากที่ขาดหายไปด้วย Cooldown : 30 วินาที   ► Hunter Crossbow (Physical) - ATK +20, HP +96, CRI +5.0% Passive : ทุกครั้งที่โจมตีโดนจะเพิ่มอัตราคริติคอล 2% เป็นเวลา 3 วินาที ซ้อนทับได้ 5 ครั้ง Shrewdness กลิ้งไปข้างหน้า หลังจากนี้ 3 วินาทีการโจมตีจะสร้างความเสียหายกายภาพเพิ่มเติม หากการโจมตีปกติติดคริติคอลจะทำให้คูลดาวน์สกิลนี้ลดลง 0.5 วินาที Cooldown : 6 วินาที Trap วางกับดักที่จะทำให้ศัตรูขยับไม่ได้เป็นเวลา 2 วินาทีหากเหยียบโดน สามารถสะสมกับดักได้สูงสุด 3 อัน โดยจะได้รับ 1 อันทุกๆ 15 วินาที Cooldown : 3 วินาที Frenzy ล่องหนเป็นเวลา 5 วินาที การโจมตีจะเปิดเผยตัวเอง 0.5 วินาที ระหว่างนี้ค่าคริติคอลจะเพิ่มขึ้น 20% และความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 25% Cooldown : 30 วินาที   ► Elemental Orb (Magical) - ATK +41, HP +115 Passive : เมื่อโจมตีโดนศัตรูจะทำให้เป้าหมายติด Elemental Mark เป็นเวลา 2 วินาที แต่ละแต้มจะลดป้องกันเวทย์ลง 6% ซ้อนทับได้ 3 ครั้ง Elemental Return ปาบอลเวทย์ไปยังทิศที่กำหนดก่อนจะดึงกลับ สร้างความเสียหายเวทย์ 105(+0) หน่วย ทั้งขาไปและขากลับ Cooldown : 7 วินาที Flicker วาร์ปไปยังจุดที่กำหนด สร้างความเสียหายเวทย์ 115(+0) ใส่เป้าหมายบนพื้นที่ และทำความเสียหายจริง 3% ของพลังชีวิตสูงสุดตามจำนวนแต้ม Elemental Mark ที่เป้าหมายมี (สูงสุด 95 หน่วย) สามารถกดใช้สกิลนี้อีกครั้งเพื่อย้อนกลับตำแหน่งเดิมได้ Cooldown : 9 วินาที Link สร้างความเสียหายเวทย์ 150(+0) หน่วยใส่เป้าหมายในระยะ หากภายใน 2 วินาทีเป้าหมายยังไม่หลุดจาก Link จะยิง Elemental Cannon ใส่ได้รับความเสียหายเวทย์เพิ่ม 150(+0) และทำให้ติด Stun 0.5 วินาที การยิง Elemental Cannon...

ไอเทมเป็นอีกหนึ่งในหลักของเกมต่างๆ ไม่ว่าจะ Moba หรือ Battle Royale แน่นอนว่าเกมที่มาเป็นลูกคู่อย่าง Survival Heroes เองจะขาดไปก็คงไม่ได้ ซึ่งในที่นี้ก็จะพูดถึงไอเทมสายบัพเสริมพลังกันบ้างจ้า ซึ่งถ้าเปรียบแล้วก็จะเหมือนกับสเปลหรือสกิลผู้เล่นในเกม Moba ทั่วไปนั่นเอง ไอเทมบัพต่างๆ รูปไอเทม ชื่อไอเทม คุณสมบัติ Speed Potion เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 30% เป็นเวลา 8 วินาที Cooldown : 20 วินาที Invisibility Potion ทำให้ผู้ใช้ล่องหนเป็นเวลา 12 วินาที การโจมตีจะยกเลิกสถานะนี้ทันที Cooldown : 30 วินาที Flash Scroll วาร์ปไปยังตำแหน่งที่กำหนดเป็นระยะทางสั้นๆ Cooldown : 20 วินาที Lightning Scroll เรียกสายฟ้าฟาดใส่ศัตรู สร้างความเสียหายและทำให้ Stun 1 วินาที หลังจากนั้นจะติด Slow 20% อีก 1 วินาที Cooldown : 25 วินาที Scout ทิ้งทุ่นสำรวจที่จะแสดงพื้นที่รอบๆ ไว้เป็นเวลา 90 วินาที สามารถวางได้สูงสุด 10 อัน Cooldown : 3 วินาที Pumpkin Trap วางฟักทองระเบิดไว้เป็นเวลา 120 วินาที มันจะระเบิดออกเมื่อศัตรูเข้ามาใกล้และสร้างความเสียหายได้ Cooldown : 3 วินาที Hourglass เป็นอมตะ 2 วินาที แต่ระหว่างนั้นจะขยับ โจมตี หรือใช้สกิลไม่ได้ Cooldown : 30 วินาที Healing Scroll เพิ่มพลังชีวิต 15% ให้กับผู้ใช้และเพื่อนร่วมทีมในระยะ 3 เมตร จากนั้นเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ให้ 15% เป็นเวลา 2 วินาที Cooldown : 30 วินาที Weakening Potion ทำให้เป้าหมายอ่อนแรงลง ลดพลังโจมตี การเคลื่อนที่ลง 40% และลดความเร็วการโจมตีลง 30% เป็นเวลา 2.5 วินาที Cooldown : 30 วินาที Molotov ปาระเบิดขวดที่จะสร้างเปลวไฟ ทำความเสียหาย 4% จากพลังชีวิตสูงสุดให้กับศัตรูในพื้นที่ Cooldown : 30 วินาที Purifying Ption ลบล้างสถานะผิดปกติ หลังจากนั้น 3 วินาที จะลดเวลาของสถานะผิดปกติที่ได้รับลง Cooldown : 30 วินาที  

ไม่ว่าจะ Moba หรือจะ Battle Royale อุปกรณ์สวมใส่ก็เป็นอีกหนึ่งในของที่จะช่วยเพิ่มความสามารถของตัวละครได้เช่นกัน ซึ่งใน Survival Heroes เองก็ยังคงอุปกรณ์สวมใส่ (Equipment) ในแนวของ Moba ไว้ แต่มีการกำหนดกลุ่มเหมือนกับแนว RPG มากขึ้น ทำให้การเลือกใส่อุปกรณ์แต่ละส่วนนั้นต้องเลือกให้เหมาะกับอาวุธที่ใช้ด้วย ลองไปดูกันว่าอุปกรณ์แต่ละอย่างมีอะไรกันบ้างดีกว่าจ้า Helm (หมวก) รูปไอเทม ชื่อไอเทม ค่า Status สกิล Passive Unwavering Helm Attack +14, HP +268, ลดคูลดาวน์ 10% ลดระยะเวลาของสถานะผิดปกติที่ได้รับลง 30% ฟื้นพลังชีวิต 0.55% จากพลังชีวิตสูงสุดทุกๆ วินาที Protector's War Helm เกราะ +21, ต้านทานเวทย์ +21, HP +272 หากได้รับความเสียหายหลังมีพลังชีวิตน้อยกว่า 35% จะได้รับโล่ป้องกันความเสียหายเท่ากับ 30% ของพลังชีวิตสูงสุดเป็นเวลา 5 วินาที โล่นี้จะลดระยะเวลาของสถานะผิดปกติได้ 30% ด้วย มีคูลดาวน์ 45 วินาที Judgement War Helm Attack +43 ทำความเสียหายเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเป้าหมายมีพลังชีวิตต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง สกิลที่ทำความเสียหายจะทำให้เป้าหมายติดสถานะ Serious Injury ลดผลการรักษาลง 50% และเปิดเผยตำแหน่งเป็นเวลา 8 วินาที Vicious Leather Helm Attack +14, Cri +25% ความเสียหายคริติคอลเพิ่มเป็น 250% แทน Hurricane War Helm Attack +18, ความเร็วโจมตี +35% การโจมตีจะกระจายเป็นกลุ่ม เป้าหมายรอบๆ เป้าหมายหลักจะได้รับความเสียหาย 40% Demonic Crown Attack +34, ลดคูลดาวน์ +10% ความเสียหายเวทย์จะทำให้เป้าหมายถูกเผาไหม้ สร้างความเสียหาย 4% จากพลังชีวิตปัจจุบันเป็นเวลา 5 วินาที (ต่ำสุด 10 สูงสุด 105 หน่วย) ซ้อนทับไม่ได้ Survival Hood HP +268, ลดคูลดาวน์ +10% ฟื้นพลังชีวิต 0.55% จากพลังชีวิตสูงสุดทุกๆ วินาที ความเร็วการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 10% เมื่ออยู่นอก Magic Barrier     Armor (ชุดเกราะ) รูปไอเทม ชื่อไอเทม ค่า Status สกิล Passive War God's Armor Attack +25, เกราะ +22, ต้านทานเวทย์ +22 ทุกๆ 1.5 วินาที การโจมตีปกติครั้งต่อไปภายใน 3 วินาทีจะสร้างความเสียหายเวทย์เพิ่ม (80% Atk + 70% M.Atk) Ancient Chest Armor เกราะ +53, HP +254 เมื่อถูกโจมตี ลดความเสียหายจากการโจมตีปกติที่ได้รับลง 12% และทำให้ผู้ดจมตีถูกลดความเร็วการโจมตีลง 25% เป็นเวลา 2 วินาที Dark Crystal Plate Armor ต้านทานเวทย์ +56, HP +274 เมื่อไม่ได้ทำการต่อสู้ จะฟื้นฟูพลังชีวิต 1.5% จากพลังชีวิตสูงสุดทุกๆ วินาที Bloodthristy War Armor Attack +49 ดูดเลือด +18% Hurricane War Armor Attack +20, ความเร็วโจมตี +40% การโจมตีปกติจะสร้างความเสียหายเวทย์เพิ่มเท่ากับ 5% ของพลังชีวิตที่มีอยู่ (ต่ำสุด 13 สูงสุด 131 หน่วย) Annihilation Robe Attack +49 การทำความเสียหายเวทย์จะทำให้เกิดการระเบิดซ้ำในพื้นที่นั้น สร้างความเสียหายเวทย์เพิ่มเติม 175% M.Atk คูลดาวน์ 6 วินาที     Greaves (เกราะขา) รูปไอเทม ชื่อไอเทม ค่า Status สกิล Passive Gargoyle Greaves เกราะ +39, ต้านทานเวทย์ +40 เพิ่มเกราะ 20 หน่วยตามจำนวนศัตรูที่อยู่ในรัศมี 6 เมตร (สูงสุด 80) เมื่ออยู่ในสถานะล้ม จะคลานได้เร็วขึ้น 75% Ancient Greaves เกราะ +50, HP +192 เมื่อทำความเสียหายจะทำให้เป้าหมายติด Slow 25% เป็นเวลา 2 วินาที Dark Crystal Leg Armor ต้านทานเวทย์ +53, HP +212 สร้างโล่ป้องกันสกิลหรือไอเทม 1 ครั้ง เมื่อโล่แตกจะได้รับความเสียหายน้อยลง 35% เป็นเวลา 2.5 วินาที คูลดาวน์ 18 วินาที Defender Greaves Attack +34, ลดคูลดาวน์ 10% การโจมตีมีผลเจาะเกราะ 30% Vicious Leather Pant ความเร็วโจมตี +20%, Cri +25% เจาะเกราะ +12 ดูดเลือด +8%...

หน่วยลับในรอบต่อไปใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของอาจารย์ใหญ่ที่น่ารักที่สุดในโลกงานนี้ได้ออกโรงกันแล้วกับหน่วยลับรอบที่สามที่เหล่ากัปตันจะต้องเจอเป็นด่านของ Theresa ผู้มาพร้อมกับกางเขนยักษ์คู่ใจที่ตอนนี้พร้อมปฏิบัติภารกิจลับที่ได้รับหมอบหมายแล้ว ในภารกิจลับของเธอนั้นจะต้องเจอกับอะไรบ้างมีความลับอะไรที่ซ่อนอยู่ในแต่ละด่านรายละเอียดมีดังนี้ หน่วยลับ ( Theresa ) ในระหว่างที่ Theresa กำลังทำภารกิจลับอยู่นั้นได้ตรวจพบพลังงานองไกบางอย่างที่มาพร้อมกับเสียงลึกลับที่คอยพูดวนเวียนอยู่ในทุกๆ ที่ที่ Theresa ไปจนเกิดความกลัวคิดไปไกลว่าสิ่งที่ได้ยินอาจจะเป็นเสียงของผีก็เป็นได้ !! หน่วยลับ จะเปิดให้เล่นทั้งหมด 2 ด่านด้วยกันคือ ภารกิจลับ – ปกติ และ ภารกิจลับ – เสมือนจริง ( รอเปิดให้เข้าเล่นเมื่อเวลาด่านเหลือ 6 วัน และต้องเล่นผ่านระดับปกติก่อนจึงจะปรากฏให้เล่น ) แต่ละรอบจะสับเปลี่ยนวาลคิเรียไปเรื่อยๆ ในรอบนี้เป็นรอบของ Theresa ที่สามารถใช้ตัวละครได้เพียง Theresa เท่านั้น ค่าสเตตัสทั้งหมดของทีมจะขึ้นอยู่กับวาลคิเรียที่มีสเตตัสนั้นๆ เยอะที่สุดเป็นหลักและใช้งานร่วมกันทั้งหมด ( หากคนนึงถูกโจมตีอีก 2 คนที่เหลือเลือดก็จะลดตาม ) ภารกิจลับ – ปกติ เน้นการผ่านด่านให้ได้เร็วที่สุดเนื่องจากทุกด่านจะมีเงื่อนไขการผ่านด่านภายใน 160 วิเท่านั้น และต้องอาศัยความชำนาญเล็กน้อยเพื่อใช้การหลบจากการโจมตีให้ไม่เกิน 10 - 20 ครั้ง ในรอบนี้ใครที่ชื่นชอบ เทริเทริ๊จัง มีครบทุกคลาสงานนี้หวานหมูอย่างแน่นอน สำหรับคนที่มีเพียง 1 – 2 ตัวนั้นอาจจะต้องใช้ความพยายามในการผ่านด่านพอสมควร ด่านภารกิจลับ – 1 ศัตรูที่พบในด่านแรกจะเป็นพวกเดธลี่ทั้งหมดแต่จะมีศัตรูที่เป็นสีฟ้าปรากฏรวมมาด้วยแถมบอสของด่านนี้เป็นเดธลี่ผีล่องหนแบบตัวสีฟ้าที่จะโจมตีใส่เราด้วยธาตุน้ำแข็งควรรีบกำจัดให้ไวอย่าให้คลาดสายตาเป็นอันขาด ด่านภารกิจลับ – 2 ศัตรูในด่านนี้ทั้งหมดจะเป็นหุ่นล้วนๆ ใครมีตัวหลักเป็น Valkyrie Pledge ติดกางเขนสุดโหดอย่าง Oath of Judah ด่านนี้จะกลายเป็นขนมไปในทันที และภายในด่านจะมีนับเวลาถอยหลังทุกๆ 20 วินาทีเมื่อนับถึง 0 ศัตรูทั้งหมดจะเข้าสู่การจำศีลในน้ำแข็งทำให้ฟื้นเลือดขึ้นมาอย่างมหาศาลภายในเวลาสั้นๆ ( ในด่านภารกิจลับ 2 จนถึง ด่านภารกิจลับ 4 จะเจอบัพเวลาน้ำแข็ง ) เมื่อเจอบัพเวลาจำศีลให้กะจังหวะจัดการศัตรูให้ตายก่อนเวลานับถอยหลังถึง 0 สัก 3 – 4 วิโดยประมาณเมื่อศัตรูชุดใหม่กำลังจะปรากฏออกมาตอนที่เวลานับถอยหลังถึง 0 พอดีศัตรูจะไม่เข้าสู่การจำศีลทำให้การจำศีลต้องรอนับถอยหลังใหม่อีก 20 วิ เราจะสามารถโจมตีใส่ศัตรูได้ทันที ด่านภารกิจลับ – 3 ศัตรูทั้งหมดเป็นพวกปีศาจฮงไกประเภทพลังจิตคละแบบกันไปด่านไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงจัดการให้จบภายในเวลาที่เควสเป้าหมายกำหนดก็เพียงพอแล้ว ด่านภารกิจลับ – 4 ด่านเป็นแบบโถงทางเดินยาวเมื่อไม่ได้ต่อสู้กับศัตรูปุ่มหลบจะกลายเป็นปุ่มเร่งความเร็วแทนทำให้วิ่งภายในด่านได้เร็วขึ้นเพื่อแข่งกับเวลาศัตรูภายในด่านจะเป็นพวกเดธลี่ทั้งหมดในเวฟบอสจะเจอทั้งหมดสามตัวเป็นเดธลี่ดาบคู่ 2 ตัว และเดธลี่โลงศพ 1 ตัว ด่านนี้หากใครมี Violet Executer รอกดใช้ท่าไม้ตายตอนถึงบอสก็ผ่านได้สบายๆ ด่านภารกิจลับ – 5 ด่านสุดท้ายกับบอสฮงไกที่กัปตันหลายๆ คนไม่อยากจะเจอมันอย่างแน่นอน ด้วยทั้งความถึกหนาแถมยังตียากยิ่งการเข้าถึงตัวยิ่งยากเข้าไปอีก ในด่านในนี้หากใครมี Celestial Hymn หรือ Luna Kindred บอสตัวนี้คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่สำหรับคนที่ไม่มีทั้งสองที่กล่าวว่า Valkyrie Pledge หรือ Sakuro Rondo ของแน่นๆ หน่อยก็พอแทนกันได้บ้างเล็กน้อย ( ใครที่ของไม่ถึงแนะนำให้พยายามผ่านบอสตัวนี้ให้ได้แล้วหาด่านที่ถนัดที่สุดลงเก็บคะแนนสะสมรับของรางวัลแทนดีที่สุด ) จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH