คลาส Gunslinger ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคลาสในเกม Dragon Raja เพราะด้วยความพริ้วที่จับตัวได้ยาก และระยะการโจมตีที่ไกล ทำให้สามารถทำดาเมจระยะไกลได้แรงและป่วนมากๆ ไม่ว่าจะใน PvP หรือ GvG
ข้อมูลโดยพื้นฐาน
Gunslinger (DPS)
ตำแหน่งหน้าที่: ตัวทำดาเมจ
ระยะโจมตี: ไกล
ค่าสถานะที่จำเป็น: CON, STR, DEX
สกิล
Pulse Bomb: ใช้ Energy 40 หน่วย เพื่อยิง pulse bomb ทำดาเมจกายภาพให้กับเป้าหมาย 5 ตัวรอบๆ – คูลดาวน์ 4 วินาที
Wind Shot: ทำดาเมจกายภาพให้กับเป้าหมาย และฟื้นฟู Energy 20 หน่วย และทำให้เป้าหมายติดสถานะ Wind Mark 3 วินาที การโจมตีปกติหรือใช้สกิล Pulse Bomb ใส่เป้าหมายที่ติด Wind Mark จะเป็นการกระตุ้นให้เกิด Wind Blast ซึ่งทำดาเมจมหาศาลให้กับเป้าหมาย อีกทั้งดาเมจที่โจมตีใส่เป้าหมายที่ติดสถานะ Wind Mark จะกระจายโดนมอนสเตอร์รอบๆ และยังช่วยฟื้นฟู Energy 2 หน่วยอีกด้วย – คูลดาวน์ 12 วินาที
α-partice Cannon: รวบรวม Energy และยิงใส่เป้าหมาย 5 ตัวเป็นเส้นตรงและทำให้เป้าหมายติดดีเลย์ 1.2 วินาที โดยดาเมจจะเพิ่ม 5% ทุก 1 Energy ที่ใช้ (สูงสุด 500%) ต้องการ Energy ขั้นต่ำ 30 หน่วย เมื่อใช้สกิลนี้จะทำให้สกิลควบคุมเกือบทุกประเภทไม่มีผลต่อตัวเรา – คูลดาวน์ 40 วินาที
Arbiter of Peace: กระแทกเป้าหมายรอบๆ 5 ตัวให้ล้มลง และทำดาเมจกายภาพใส่เป้าหมาย หลังจากนั้นจะเปลี่ยนอาวุธเข้าโหมด Heavy Form หรือพูดง่ายๆ ว่า ปืนกล/ปืนแก็ตลิ่ง เป็นเวลา 15 วินาที เมื่ออยู่ในโหมด Heavy Form จะทำให้สกิลประเภท ดีเลย์ ห้ามการโจมตี และควบคุม ไม่มีผลต่อตัวเรา ในโหมดนี้จะทำให้ความเร็วการเคลื่อนที่เราลดลง 25% – คูลดาวน์ 60 วินาที
Stealth Camouflage: เข้าสู่สถานะล่องหน ล้างสถานะสกิลควบคุมที่เราโดนอยู่ และเพิ่ม DEF เป็นเวลา 10 วินาที เมื่อเข้าสู่สถานะล่องหน ศัตรูจะไม่สามารถมองเห็นเราได้ แต่เรายังสามารถโดนดาเมจจากสกิลหมู่ (AoE) ได้อยู่ – คูลดาวน์ 40 วินาที
Heat Blast: เรียกกำลังเสริมจากดาวเทียม ทิ้งระเบิดศัตรู (หลังจากกดใช้ต้องรอ 3วินาที รอระเบิดตก อิอิ)ทำดาเมจกายภาพมหาศาลแก่เป้าหมายสูงสุด 5 ตัว และทำให้ติดดีเลย์ 1.2 วินาที – คูลดาวน์ 75 วินาที
SPI Landmine: วางกับระเบิดไว้ที่พื้น ระเบิดจะอยู่ในสถานะล่องหนหลังจากกดใช้ไปแล้ว 3วินาที หากมีศัตรูเข้ามาใกล้ ระเบิดจะทำงานโดยการพุ่งเข้าไปหาศัตรู ทำดาเมจกายภาพแก่เป้าหมายสูงสุด 5ตัว นอกจากนี้หากเป้าหมายอยู่ในสถานะล่องหนและเดินผ่านมา ก็สามารถโดนระเบิดได้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยระเบิดจะอยู่ได้นานถึง 25 วินาที – คูลดาวน์ 20 วินาที
Tesla Solenoid: เสกขดลวดไฟฟ้าใส่จุดที่เป้าหมายอยู่เป็นเวลา 7 วินาที ขดลวดไฟฟ้าจะช็อตศัตรูที่อยู่ในพื้นที่ 1 ตัว(สุ่ม) ทุกๆ 0.7 วินาที, ทำดาเมจกายภาพ และ ทำให้ติดสถานะช็อค 3 วินาที – คูลดาวน์ 40 วินาที
แนวทางการเล่น Gunslinger
หัวใจหลักของการเล่น Gunslinger คือ “โยกให้ไหว หลบให้เป็น” แม้ว่าคลาสนี้จะสามารถทำดาเมจได้อย่างมหาศาล แต่ต้องอย่าลืมว่าคลาสนี้เป็นคลาสที่แทบจะบางที่สุดในเกมแล้ว แต่ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะจริงๆ คลาสนี้ก็มีการเคลื่อนไหวที่เรียกได้ว่า โกงเป็นอันดับต้นๆ ในเกมเหมือนกัน เพราะนอกจากจะสามารถพุ่งหลบสกิลด้วยความพริ้วได้แล้ว ยังสามารถพุ่งกลางอากาศได้อีก และเป็นคลาสเดียวในเกมที่สามารถทำดาเมจระยะไกลอย่างสูงได้ในเวลาสั้นๆ อีกด้วย
สำหรับการ PvE
ถ้าแค่ฟาร์มมอนทำเควส หากอุปกรณ์สวมใส่เลเวลไม่ต่ำเกินไป แค่ปล่อย Auto ไว้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่หากจะต้องลุยบอส ผมขอแนะนำให้เล่นเองดีกว่า หากใช้ระบบออโต้ในการล่าบอส สำหรับคลาสนี้จะทำให้ตัวละครของเราห่วยสุดๆ ไปเลย เพราะความโกงของตัวละครตัวนี้ คือความพริ้วในการหลบการโจมตีอย่างรวดเร็ว แต่การกด Auto ไว้ตัวละครของเราจะยืนแช่และทำดาเมจไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหลบสกิลนั่นเอง ทำให้บ่อยครั้งที่ตัวละครของเราจะตายก่อนเพื่อน
สำหรับการ PvP หรือ GvG
หากต้องไฝว้กับผู้เล่นคนอื่นๆ แล้ว แน่นอนว่าเราจะต้องดึงศักยภาพของตัวละครเราออกมาให้เต็มที่ นั่นคือ การยิงตอด และพุ่งหนีไปเรื่อยๆ รับรองว่าคู่ต่อสู้ต้องหัวร้อนอย่างแน่นอน เพราะมันเร็วจนตามไม่ทันยังไงล่ะ !! ส่วนตัวแนะนำว่า ตัวละครของเราจะเก่งสุดๆ ไปเลยหากมีเพื่อนเป็น Soul Dancer ห้อยไปด้วย เพราะหากเราพลาดหนีไม่ทันก็มีเพื่อนคอยช่วยเหลืออยู่ข้างหลังนั่นเอง หรือหากศัตรูเล็งไปที่เพื่อนเรา ก็ปล่อยเพื่อนเราโดนกระทืบไปแล้วเราก็ยิงฟรี ฮ่าๆ
การวนสกิลในคลาส Gunslinger
สำหรับการวนสกิลในคลาส Gunslinger ผมขอแบ่งสายในการเล่นออกเป็นสองสายนะครับ
สายแรกขอเรียกว่า สายปืนใหญ่
จะเน้นทำดาเมจจากสกิล α-partice Cannon เป็นหลัก ส่วนตัวผมมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นสายนี้คือการสะสม Energy ให้มากที่สุดก่อนจะยิง α-partice Cannon ซึ่งถือเป็นสกิลที่ทำดาเมจได้สูงที่สุด ดังนั้นผมจะเลือกเปิดด้วย Wind shot เพื่อฟื้นฟู Energy 20 หน่วยในตอนแรก หลังจากนั้นจะชาร์จปืนใหญ่และยิงเพื่อรีด Energy ออกมาให้ได้มากที่สุด และต่อด้วยสกิลอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซีเรียส แต่ให้ปิดจบด้วย Arbiter of Peace เพื่อเข้าสู่โหมด Heavy Form และทำดาเมจไปยาวๆ 15 วินาที หลังจากนั้นสกิลก็น่าจะรีคูลดาวน์เสร็จหมดพอดี
สายถัดมาขอเรียกว่าสาย Wind Blast
จริงๆ สายนี้เหมาะกับการบู๊ 1vs1 มากกว่า เพราะสายนี้หัวใจในการเล่นสายนี้คือการยิ่งแล้วหนี ดังนั้นสกิลที่ผมเลือกใช้ในสายนี้จะมีท่าค่อนข้างเร็ว และไม่แช่ตัวเองอยู่กับที่นานเกินไป ดังนั้นผมจะเปิดด้วย Wind Shot เพื่อทำให้ศัตรูติด Wind Mark แล้วโจมตีต่อด้วยสกิล Pulse Bomb เพื่อให้เกิด Wind Blast แล้วสแปมสกิลอื่นต่อไปเรื่อยๆ การเล่นสายนี้จะทำให้เรามี Energy เหลือใช้มหาศาล สกิลที่จะไม่ใช้เด็ดขาดคือ α-partice Cannon เพราะชาร์จค่อนข้างนาน และกิน Energy หมดหลอด ทำให้ความพริ้วหายไป
Talent
สำหรับ Talent เป็นอะไรที่ไม่ตายตัวครับ ต้องบอกว่าเป็นการปรับใช้ตามสถาณการณ์ สไตล์การเล่น และการเลือกใช้สกิลของแต่ละคนครับ (ในรูปผมยังปลดล็อคขั้น A และ S ไม่ได้ เนื่องจากเลเวลไม่ถึง T_T)
C – Level
Charging Core: เมื่อ Energy เต็ม, จะเปิดสถานะ Energy imbued เมื่อเข้าสู่สถานะ Energy Imbued จะเพิ่มดาเมจทั้งหมด 15% เป็นเวลา 6วินาที, หาก Energy เต็ม เปิดทุกๆ 10 วินาที
Charged Implosion: การโจมตีปกติ, Wind Shot, และ Wind blast หากติดคริ จะให้ Energy เป็น 2 เท่า
Precision Strike: เมื่อคริ, จะเพิ่ม Crit DMG 6% เป็นเวลา 10 วินาที, สามารถผลเอฟเฟคสามารถสแตคสูงสุดได้ 5 ครั้ง
B – Level
Explosive Rounds: Energy ในการใช้สกิล Pulse Bomb เป็น 60 หน่วย (ปกติ 40 หน่วย) แต่ทำดาเมจสูงขึ้น เพิ่มถึง 1.5 เท่า
Pulsing Wind: สถานะ Wind Mark ที่เกิดเมื่อใช้สกิล Wind Shot จะมีระยะเวลาเพิ่มอีก 3 วินาที และ Wind Blast ที่เกิดขึ้นในระหว่างนี้จะช่วยฟื้นฟู Energy เพิ่มอีก 1 หน่วย
Electromagnetic Storm: สกิล Tesla Solenoid ทำดาเมจใส่ศัตรูได้เป็น 3 ตัว (จากปกติ 1 ตัว)
A – Level
Fragment Mine: เพิ่มโอกาสคริด้วยสกิล SPI Landmine 10% เป็นเวลา 5 วินาที
Concealment: เมื่อใช้สกิล Stealth Camouflage จะได้ DMG Reduction 50% เป็นเวลา 6 วินาที
Sneak Attack: เมื่อออกจากโหมดล่องหน 5 วินาทีแรก เพิ่มโอกาสคริ 30% และ ได้รับสถานะ Super Armor
S – Level
Focused Bombardment: สกิล Heat Blast จะทิ้งระเบิด 3 รอบ และทำดาเมจ 80% ในแต่ละครั้ง พร้อมดีเลย์ 3 วินาที
Gamma Chain: ทุกการโจมตีปกติจะลดคูลดาวน์สกิล α-partice Cannon 2 วินาที
Infinite Firepower: เมื่ออยู่ในโหมด Heavy Form, จะได้รับดาเมจกายภาพลดลง 30% และ การโจมตีจะช่วยฟื้นฟู Energy, ยิ่งโจมตีโดนศัตรูมากเท่าไหร่ ยิ่งฟื้นฟู Energy มากเท่านั้น
Gear/ของสวมใส่
สำหรับอุปกรณ์สวมใส่ ผมจะเล็งไปที่ออฟ Crit, STR, DEX, CON และเพิ่มพลังการโจมตีธาตุลมเป็นหลัก การติด DEF มาด้วยดูจะไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะเพิ่มไปก็เพิ่มนิดเดียว ไปเน้นดาเมจดีกว่า ในช่วงแรกยัดอะไรได้ก็ยัดไปก่อน เนืองจากคลาสนี้เป็นคลาสที่ต้องอาศัยไอเทมที่สุดทางพอสมควรถึงจะแรง ดังนั้นช่วงต้นเกมดาเมจเราจะสู้พวกคลาสอื่นไม่ค่อยไหว ต้องทำใจนิดนึงนะครับ
Core
ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเลย เพราะเราต้องเลือกอัญมณีให้ตรงกับสายที่เราเล่น เนื่องจากสกิลของ Gunslinger ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นธาตุลม/สีเขียว การ Build จึงค่อนข้างง่าย คือยัดเขียวไปเลย 9 ช่อง และเพื่อที่จะรีดดาเมจให้ได้สูงขึ้นอีกจึงยัดธาตุไฟ/สีแดงไปอีก 5 ช่อง แต่ก็ยังไม่อยากให้ตัวละครบางเกินไป เลยขอห้อยธาตุดิน/สีเหลืองไว้ 2 อันละกันครับ
9 ลม/เขียว | 5 ไฟ/แดง | 2 ดิน/เหลือง
หากใครใจกล้าพอ อาจจะลองห้อยเป็น ธาตุน้ำ/สีฟ้า เพื่อลดคูลดาวน์ก็ได้ครับ แต่ส่วนตัวผมไม่คิดว่ามันจำเป็นสักเท่าไหร่ ไปเอาเลือดเพิ่มดีกว่า อิอิ ในช่วงต้นเกมการหา Gem จะเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะมันสุ่มธาตุ ดังนั้นไม่ต้องไปซีเรียสสักเท่าไหร่นะครับ ค่อยๆ เก็บไปเรื่อย มีอะไรใช้อันนั้นไปก่อน