โหมดอบิส หรือทะเลดิแรกของเกม Honkai Impact 3 เป็นโหมดสำหรับการแข่งขันเพื่อไต่อันดับคะแนนให้ได้สูงๆ เพื่ออยู่รอดในชั้นนั้น หรือขึ้นไปยังชั้นต่อไป เป็นจุดแข่งขันของกัปตันในแต่ละระดับเลเวล แต่ส่วนใหญ่แล้วสำหรับกัปตันเลเวล 81 ขึ้นไปมักจะพยายามทำให้ตัวเองอยู่ในช่วงชั้นเรดโลตัสขึ้นไป เพราะเพชรจากในโหมดนี้ยิ่งอยุ่ชั้นสูงจะยิ่งได้เพชรมากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับอบิสทะเรดิแรกสามารถดูได้ที่ลิ้งค์ในภาพ คลิ๊ก!!
ทะเลดิแรก – เรดโลตัส
แบ่งเป็น 4 ชั้นด้วยกันแต่ละชั้นกัปตันจะต้องเจอกับกลุ่มศัตรูหลากหลายรูปแบบและแต่ละชั้นมีบัฟช่วยเหลือที่แตกต่างกันเรามาดูกันว่าแต่ละชั้นมีบัฟและดีบัฟอะไรบ้างในสัปดาห์นี้
ชั้นที่ 1 ฟ้าคะนอง [บอสประจำชั้นที่ 1 Wendy]
ศัตรูต้านทานความเสียหายไฟฟ้า 50%
ศัตรูรับความเสียหายกายภาพมากขึ้นถึง 30%
[วาลคิเรียคนที่ 1] ให้เลือกวาลคิเรียดาเมจสายกายภาพทำของไว้เยอะที่สุดเป็นดาเมจหลัก ตัวอย่างเช่น Herrscher of the Void, Night Squire, Molotov Cherry, Umbral Rose เป็นต้น
[วาลคิเรียคนที่ 2] ให้เลือกเป็นสายซัพกายภาพช่วยทีมมา 1 คน ระหว่าง Yamabuki Armor มีเกราะป้องกันดาเมจกายภาพให้กับเพื่อนทั้งทีม การกดโจมตีปกติ 1 ครั้งจะทำให้ศัตรูติดสถานะอ่อนแอลดพลังป้องกันของเป้าหมาย, Divine Prayer มีท่าไม้ตายฮิลได้ เมื่อไม่ได้อยู่ในสนามจะสุ่มสร้างดีบัพลดพลังป้องกันใส่ศัตรู หรือ Celestial Hymn มีท่าชาร์จโจมตีลดพลังป้องกันศัตรู และมีท่าไม้ตายช่วยรวบศัตรูมาอยู่ตรงกลางทำให้ตัวดาเมจในทีมโจมตีได้แรงขึ้นอย่างมาก
[วาลคิเรียคนที่ 3] ให้เลือกระหว่างใส่สายซัพกายภาพเพิ่มอีก 1 คน หรือเลือกสายดาเมจกายภาพเพิ่มอีก 1 คนแทน (เลือกตัวที่เราทำเอาไว้มากสุดจะช่วยทีมได้ดี)
ชั้นที่ 2 คลื่นเย็น [บอสประจำชั้นที่ 2 หุ่นยิงขีปนาวุธ Storm EM และซอมบี้เกราะ Nocturnal]
ศัตรูต้านทานความเสียหายน้ำแข็ง 50%
ศัตรูรับความเสียหายไฟเพิ่มขึ้น 50%
[วาลคิเรียคนที่ 1] ให้กัปตันเลือกวาลคิเรียดาเมจธาตุไฟทำของไว้เยอะที่สุดเป็นดาเมจหลัก ตัวอย่างเช่น Flame Sakitama, Valkyrie Gloria, Vermilion Knight: Eclipse เป็นต้น
[วาลคิเรียคนที่ 2] ให้เลือกเป็นสายซัพธาตุช่วยทีมมา 1 คน ระหว่าง Wolf’s Dawn มีเกราะกันดาเมจธาตุ และเพิ่มดาเมจธาตุให้ทีมเมื่อแรงค์ SS, Phoenix เก็บเกจไฟครบ 4 ช่องจะทำให้ศัตรูโดนดาเมจธาตุแรงขึ้น (เมื่อเก็บเกจครบ 4 ช่องให้สลับตัวดาเมจหลักลงมาได้เลย) หรือ Azure Empyrea เน้นตีด้วยสกิลหยินหรือท่าไม้ตายจะทำให้ศัตรูโดนดาเมจธาตุเพิ่มขึ้น
[วาลคิเรียคนที่ 3] ให้เลือกระหว่างใส่สายซัพธาตุเพิ่มอีก 1 คน หรือเลือกสายดาเมจธาตุเพิ่มอีก 1 คนแทน โดยวาลคิเรียสายธาตุอีกคนแนะนำให้เลือก Flame Sakitama (FS หรือยาเอะไฟ) ก็ได้เพราะเป็นได้ทั้งสายซัพธาตุ และตัวดาเมจเลยทีเดียว (สามารถเลือกเป็นตัวดาเมจธาตุคนอื่นแทนได้)
*** เพิ่มเติมเนื่องจากบอสทั้ง 2 ตัวนี้เป็นไทป์จักรกล (Mech) สามารถนำไทป์พลังจิต (Phy) ไปสู้ได้เช่นกัน ***
ชั้นที่ 3 แห้งแล้ง [บอสประจำชั้นที่ 3 Dark Bronya]
ศัตรูต้านทานความเสียหายไฟฟ้า 50%
ศัตรูรับความเสียหายน้ำแข็งเพิ่มขึ้น 50%
[วาลคิเรียคนที่ 1] ให้กัปตันเลือกวาลคิเรียดาเมจธาตุน้ำแข็งทำของไว้เยอะที่สุดลงเป็นดาเมจหลัก ตัวอย่างเช่น Argent Knight: Artemis, Sixth Serenade, Herrscher of Reason เป็นต้น
[วาลคิเรียคนที่ 2] ให้เลือกเป็นสายซัพธาตุช่วยทีมมา 1 คน ระหว่าง Wolf’s Dawn มีเกราะกันดาเมจธาตุ และเพิ่มดาเมจธาตุให้ทีมเมื่อแรงค์ SS, Phoenix เก็บเกจไฟครบ 4 ช่องจะทำให้ศัตรูโดนดาเมจธาตุแรงขึ้น (เมื่อเก็บเกจครบ 4 ช่องให้สลับตัวดาเมจหลักลงมาได้เลย) หรือ Azure Empyrea เน้นตีด้วยสกิลหยินหรือท่าไม้ตายจะทำให้ศัตรูโดนดาเมจธาตุเพิ่มขึ้น
[วาลคิเรียคนที่ 3] ให้เลือกระหว่างใส่สายซัพธาตุเพิ่มอีก 1 คน หรือเลือกสายดาเมจธาตุเพิ่มอีก 1 คน หรือสายดาเมจธาตุสายฟ้าไทป์คนละไทป์วาลคิเรียคนที่ 1 ที่แนะนำให้เลือกใช้เพราะว่าไม่ได้รับผลดีบัฟ และนำมาปิดข้อเสียเปรียบของไทป์ตัวดาเมจหลักนั้นเอง
ชั้นที่ 4 แดนเยือกแข็ง [บอสประจำชั้นที่ 4 Argent Knight: Artemis]
ศัตรูต้านทานความเสียหายน้ำแข็ง 50%
ศัตรูรับความเสียหายไฟเพิ่มขึ้น 50%
[วาลคิเรียคนที่ 1] ให้กัปตันเลือกวาลคิเรียดาเมจธาตุไฟทำของไว้เยอะที่สุดเป็นดาเมจหลัก ตัวอย่างเช่น Flame Sakitama, Valkyrie Gloria, Vermilion Knight: Eclipse เป็นต้น
[วาลคิเรียคนที่ 2] ให้เลือกเป็นสายซัพธาตุช่วยทีมมา 1 คน ระหว่าง Wolf’s Dawn มีเกราะกันดาเมจธาตุ และเพิ่มดาเมจธาตุให้ทีมเมื่อแรงค์ SS, Phoenix เก็บเกจไฟครบ 4 ช่องจะทำให้ศัตรูโดนดาเมจธาตุแรงขึ้น (เมื่อเก็บเกจครบ 4 ช่องให้สลับตัวดาเมจหลักลงมาได้เลย) หรือ Azure Empyrea เน้นตีด้วยสกิลหยินหรือท่าไม้ตายจะทำให้ศัตรูโดนดาเมจธาตุเพิ่มขึ้น
[วาลคิเรียคนที่ 3] ให้เลือกระหว่างใส่สายซัพธาตุเพิ่มอีก 1 คน หรือเลือกสายดาเมจธาตุเพิ่มอีก 1 คนแทน โดยวาลคิเรียสายธาตุอีกคนแนะนำให้เลือก Flame Sakitama (FS หรือยาเอะไฟ) ก็ได้เพราะเป็นได้ทั้งสายซัพธาตุ และตัวดาเมจเลยทีเดียว (สามารถเลือกเป็นตัวดาเมจธาตุคนอื่นแทนได้)
*** เทคนิคให้ใช้วาลคิเรียที่ สามารถทำให้ติดสถานะไฟไหม้ได้เช่น Flame Sakitama, Valkyrie Gloria, Vermilion Knight: Eclipse เพื่อเพิ่มค่าไฟไหม้จะสามารถทำดาเมจได้ใส่บอสได้สูงขึ้นเมื่อบอสติดสถานะไฟไหม้จนเต็ม ***
อาวุธและสติกม่าซัพธาตุดังนี้
อาวุธซัพธาตุดาบใหญ่ Blood Dance
สกิลอาวุธจะเหวี่ยงคลืนพายุเลือดไปด้านหน้าทำให้ศัตรูที่โดนรับความเสียหาธาตุแรงขึ้นถึง 60% นาน 9 วินาที ที่เลเวล 50 แต่แลกมาด้วยเป้าหมายจะคุ้มคลั่งวิ่งเร็วขึ้นโจมตีไวขึ้น 2 เท่า
สติกม่า Jin Shengtan สติกม่าดีที่สุดในการซัพธาตุรวมถึงเมื่อใส่ 2 ชิ้น เมื่อโจมตีจะสร้างพื้นที่ Aura Blue Phoenix เพื่อนร่วมทีมจะสร้างความเสียหายธาตุทุกธาตุเพิ่มขึ้นอีก 30% และ ศัตรูในระยะรับความเสียหายธาตุทุกธาตุเพิ่มขึ้นอีก 10% ใส่ครบ 3 ชิ้นจะได้ระยะเวลา Aura Blue Phoenix อีก 3 วินาที รวมเป็น 9 วินาที
สติกม่า Roald Amundsen เมื่อใส่ครบทั้ง 3 ชิ้นทั้งทีมได้รับได้รับบัพดาเมจธาตุ ไฟ, สายฟ้า, น้ำแข็ง เพิ่มขึ้น 10% ไม่สามารถแสดงผลซ้อนทับได้
แนะนำปานซัพกายภาพและอาวุธเพื่อใส่สำหรับตัวซัพกายภาพที่เราเลือกนำไปใช้ Yamabuki Armor, Divine Prayer และ Celestial Hymn
แนะนำอาวุธ Yamabuki Armor
ชิ้นที่ 1 อาวุธ Briareus EX สุดยอดปืน 6 ดาว อัพเดทมาใน Version 3.9 นี้ด้วยสกิลอาวุธทำให้ศัตรูติด Time Lock เป็นกลุ่ม และติดสถานะอ่อนแอลดเกราะของศัตรูทั้งหมดในระยะถึง 65% อีกทั้งระยะเวลาของดีบัพอ่อนแออยู่นานถึง 10 วินาที ช่วยให้เราสามารถกำจัดศัตรูได้ง่ายขึ้นมาก
ชิ้นที่ 2 อาวุธ Star Shatterer – Vikrant สกิลอาวุธจะต่อยพื้นสร้างพื้นอาณาเขตทำให้เป้าหมายในระยะติดสถานะ อ่อนแรงพลังโจมตีลดลง รวมถึงทั้งทีมจะทำดาเมจรวมใส่ศัตรูที่ติดสถานะอ่อนแรงเพิ่มขึ้นอีก 15% เป็นปืนอีกกระบอกไม่ควรมองข้ามได้
แนะนำอาวุธ Divine Prayer
อาวุธ Mjolnir สกิลอาวุธจะเรียกปืน Mjolnir ขนาดใหญ่ฟาดลงด้านหน้าพร้อมติดสถานะอ่อนแอลดเกราะของศัตรูทั้งหมด 80%
แนะนำอาวุธ Celestial Hymn
อาวุธ 11th Leitourgia กางเขนประจำตัวของ Celestial Hymn สกิลอาวุธปักกางเขนลงที่พื้นเพื่อนร่วมทีมเพิ่มอัตราการติดคริอีก 20% และการโจมตีทั่วไปได้รับอัตราฟื้นฟู SP มากขึ้นอีก 10%
แนะนำสติกม่าซัพกายภาพ
[Set 1]
สติกม่า Gustav Klimt (บน และกลาง ) เมื่อใช้สกิลอาวุธเพื่อนร่วมทีมจะเพิ่มดาเมจกายภาพอีก 10% และศัตรูในระยะ 6 เมตรของผู้ใช้สกิลอาวุธจะรับดาเมจกายภาพมากขึ้นอีก 10% สติกม่า Isaac Newton ( ล่าง ศัตรูที่โดนโจมตีจะรับความเสียหายทั้งหมดอีก 31% แลกมากับศัตรูโจมตีเราแรงขึ้นเช่นกัน แต่ถ้าหากเราใช้งานได้ถูกจังหวะจะสามารถจัดการศัตรูได้เร็วมาก
[Set 2]
สติกม่า Tesla Band ( บน ) เมื่อออกจากสนามรบเพื่อนร่วมทีมได้ดาเมจกายภาพเพิ่มขึ้น 10% สติกม่า Beethoven ( กลาง ) เมื่อออกจากสนามรบเพื่อนร่วมทีมได้ดาเมจกายภาพระยะประชิดเพิ่มขึ้น 15% สติกม่า Isaac Newton ( ล่าง ศัตรูที่โดนโจมตีจะรับความเสียหายทั้งหมดอีก 31% แลกมากับศัตรูโจมตีเราแรงขึ้น
[Set 3]
สติกม่า Theresa – Origins Set ( สามารถผลิตได้ใช้ชิ้นส่วนฮงไก 80 ต่อ 1 ชิ้น ) 3 ชิ้น การโจมตีปกติ ท่าคอมโบ และท่าชาร์จโจมตีของเพื่อนร่วมทีมได้ดาเมจกายภาพเพิ่มขึ้น 15%
ข้อควรคำนึงถึงเสมอ
- ให้ใช้ตัวชนะไทป์ จักรกล (Mech) ชนะทาง ชีวภาพ (Bio) / ชีวภาพ (Bio) ชนะทาง พลังจิต (Phy) /พลังจิต (Phy) ชนะทาง จักรกล (Mech) ส่วนควอนตัม (Quantam) ไม่แพ้ไทป์ไหนเลยแต่จะแพ้ และชนะไทป์ควอนตัม (Quantam) ด้วยกันเอง หากไม่สามารถหาตัวชนะทางได้ให้ใช้วาลคิเรียแบบไทป์ชนไทป์แทน
- พยายามไปตีเป้าหมายที่โจมตีระยะไกลก่อน เช่นพวกเดธลี่ธนู, หุ่นยิงขีปนาวุธ เป็นต้น เพราะว่าพวกตัวที่ตีระยะใกล้จะเดินเข้ามาหาเราเอง
- พยายามโจมตีศัตรู 2 ตัวขึ้นไป ถ้าหากศัตรูมี “เส้นลิงค์” ระหว่างกันแนะนำให้ตีพร้อมกันได้จะทำดาเมจได้เยอะอย่างมาก
- ใช้กับดักตามจุดต่างๆ เพื่อให้กัปตันคนอื่นเล่นยากขึ้นส่งผลให้อยู่รอดในระดับชั้นสูงได้
- เข้ามาดูอันดับของตนเองก่อนจบกิจกรรม 1 ชม. (วันอาทิตย์ 2 ทุ่ม) เพื่อมั่นใจว่าไม่โดนไอเท็มขัดขวางทำให้คะแนนหายหรือตกอันดับ
- ถ้าจำเป็นให้ใช้ไอเท็มขัดขวางก่อนวันอาทิตย์ 2 ทุ่มใส่กัปตันคนอื่นๆ ที่อยู่อันดับสูงกว่า 3 อันดับ หากสำเร็จเราจะได้อับดับสูงขึ้นส่งผลให้ได้รับเพชรจากการอยู่รอดในมากขึ้น
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]