Seven Knights 2 หลังจากก่อนหน้านี้ผมได้มาแนะนำสำหรับทริคเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ไปแล้ว วันนี้ผมเลยจะแวะมาแนะนำเพิ่มเติมอีกสักหน่อยให้กับเพื่อนๆ ก็แล้วกัน โดยในวันนี้ก็จะมาว่าถึงสิ่งที่เราสมควรและจำเป็นต้องทำในทุกวันที่เข้าเล่นเกมกับหัวข้อ “ในหนึ่งวันควรทำอะไรบ้าง?”
1. เคลียร์มิชชันรายวันให้ครบ
มิชชันรายวันหรือเข้าใจง่ายหน่อยก็คือภารกิจรายวันนั่นแล่ะครับ แน่นอนว่าเกมแนว RPG มักจะมีระบบนี้เป็นพื้นฐานอยู่แล้วเช่นเดียวกันกับ Seven Knights 2 นี้เองด้วย
โดยในแต่ละวันมิชชันนี้จะมีมาให้เลือกทำทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 8 เควส ซึ่งแต่ละเควสก็จะมีของรางวัลต่างออกไปทั้ง ทอง, แผนที่, ยา EXP, หินอัปเกรด หรือแม้แต่ “รูบี้” เอง ในที่นี้ถ้าใครแบบขี้เกียจแค่อยากเข้ามาเคลียร์ให้ผ่านๆ ไปก็ทำเพียงแค่ 7 เควสไม่จำเป็นต้องทำให้ครบ เพราะบริเวณด้านบนจะมีโควต้ากำกับไว้อยู่เมื่อทำได้ตามกำหนดก็รับของรางวัลเพิ่มต่อไปอีกทีนึงนั่นเอง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม – ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเลือกทำเควสไหนก็ตามแต่ถ้าเป็นไปได้ผมขอแนะนำให้ทำเควส “เดินหน้าไม่ว่าแพ้หรือชนะ” เสมอ เพราะเควสนี้จะเป็นเพียงเควสเดียวที่ทำให้เราได้รูบี้มาใช้ฟรีๆ นั่นเองครับ
2. เคลียร์ดันเจี้ยนพัฒนาให้หมด
ดันเจี้ยนพัฒนาอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งเราจำเป็นต้องมาเคลียร์ในทุกๆ วันครับ ซึ่งดันเจี้ยนแห่งนี้จะมีการรีเซ็ตในทุกๆ วัน (ตามเวลาบ้านเราก็จะรีทุกวันเวลาตอนเที่ยง 12:00 น.) โดยด้านในดันเจี้ยนนี้จะแยกย่อยออกมาอีก 5 ด่านด้วยกันคือ
ดันเจี้ยนทอง – แหล่งหาทองชั้นยอด สำหรับใครมีปัญหาทองไม่พอใช้ สถานที่แห่งนี้คือคำตอบที่ดีมาก ยิ่งด่านยากขึ้นเท่าไหร่จำนวนทองยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ดันเจี้ยนหินวิญญาณ – ไว้สำหรับการฟาร์มหา “หินวิญญาณ” อีกหนึ่งวัตถุดิบที่ใช้สำหรับการอัปเกรดตัวละครของเรา
ดันเจี้ยนอิลิกซอร์ – ดันเจี้ยนสำหรับการหาอิลิกซอร์วัตถุดิบพิเศษใช้เพิ่มค่าสเตตัสของตัวละครเราในหัวข้อ “ศักยภาพ” ครับ โดยยานี้ใช้จำนวนค่อนข้างเยอะถึงเยอะมาก มีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอเลยจริงๆ
ดันเจี้ยนรูน – ตามชื่อดันเลยครับ ไว้สำหรับการใช้ฟาร์มหารูน วัตถุดิบสำหรับการอัปเลเวลสเตตัสเพิ่มเติมในหัวข้อ “พลังศักดิ์สิทธิ์” นั่นเอง
ดันเจี้ยน EXP – ถึงแม้จะชื่อดันว่า EXP แต่ดันนี้ไม่ใช่แหล่งฟาร์มเวลโดยตรงแต่อย่างใด เพียงแต่การเคลียร์ดันนี้เราจะได้ “ยา EXP” กลับมาแทนนั่นเองครับ
ข้อแนะนำเพิ่มเติม – สำหรับด่านไหนที่เราเคยเคลียร์ด้วยระดับสูงสุดไปแล้ว ในครั้งถัดมาเราสามารถใช้ระบบ “กวาดล้าง” แทนได้ ซึ่งเป็นระบบไว้ช่วยให้เราได้รับของรางวัลทันทีโดยไม่จำเป็นต้องลงไปต่อสู้ให้เสียเวลา โดยฟังค์ชั่นนี้จะสามารถใช้ได้วันละ 10 ครั้งเท่านั้น และยังคงต้องใช้ตั๋วเหมือนการลงทั่วไปอยู่ดี
3. ลงเรดให้ครบทุกแบบ
สำหรับการลง Raid นี้ก็เปรียบเสมือนการลงดันเจี้ยนอีกแบบนั่นแล่ะครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากการตีมอนลูกกระจ๊อกทั่วไปเป็นการเข้าบวกกับบอสโดยตรงแทน ซึ่งมีการแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือแบบ เดี่ยว และ ปาร์ตี้ นั่นเอง
การลงเรดแบบเดี่ยว – การลงเรดแบบนี้จะมีการแบ่งแยกออกอีก 2 ด่านย่อยคือแบบ 4 และ 8 คน ซึ่งทั้งสองอย่างก็แทบไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลย ต่างเพียงแค่จำนวนตัวละครที่เราต้องบังคับกับตัวเลือกของรางวัลหลังจบดันเท่านั้นเอง โดยของรางวัลส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกไอเทมสวมใส่ต่างๆ หรือไม่ก็เป็นชิ้นส่วนการคราฟของซะเป็นหลัก การลงเรดแบบเดี่ยวนี้จะรีเซ็ตทุกวันเสมอตอนเที่ยง
การลงเรดแบบปาร์ตี้ – เหมือนกับการลงเรดแบบ 8 คนเลยครับ เพียงแต่จากการที่เราบังคับคนเดียวทั้งหมด กลายเป็นเราต้องบังคับเพียงตัวเดียวแล้วร่วมออกไปตบบอสกับผู้เล่นอื่นอีก 7 คน สำหรับวิธีการเล่นหรือระบบอื่นๆ ก็ไม่ได้ต่างจากการลงแบบเดี่ยวเลย แต่จะมีการให้ของรางวัลที่เยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ
เพียงแต่ดันเจี้ยนปาร์ตี้นี้ไม่สามารถลงได้ทุกวันนะ ตัวดันเจี้ยนจะเปิดเฉพาะวันที่กำหนดเท่านั้น โดยจะเปิดเพียง 5 วันคือ วันอังคาร, วันพุธ, วันศุกร์, วันเสาร์ และ วันอาทิตย์ เท่านั้น
ข้อแนะนำเพิ่มเติม – สำหรับการลงเรดแบบเดี่ยวเราสามารถใช้ “กวาดล้าง” เพื่อประหยัดเวลาได้เหมือนกับดันเจี้ยนรายวันครับ แต่กรณีเป็นดันเจี้ยนปาร์ตี้จะไม่สามารถใช้ได้และต้องลงไปเล่นเองเท่านั้นนะ
4.เคลียร์หอคอยไม่สิ้นสุด
อีกหนึ่งดันเจี้ยนให้ลงเหมือนกับสองรายการก่อนหน้านี้เลยครับกับ “หอคอยไม่สิ้นสุด” อีกสถานที่ซึ่งเราสามารถเข้ามาเคลียร์ได้วันละครั้งนั่นเอง
ถึงแม้จะบอกว่าคล้ายกันกับสองรายก่อนหน้านี้ แต่เรียกว่าเหมือนกันซะทีเดียวก็คงไม่ได้เลย เพราะหอคอยนี้มีระดับความยากกว่าพอสมควรในระดับนึงเลยทีเดียว แถมในการเคลียร์แต่ละชั้นจะมีรางวัลพิเศษที่เรียกว่า “รางวัลการเคลียร์” อยู่ เราจะได้รับรางวัลดังกล่าวเพียงครั้งเดียวในครั้งแรกที่เคลียร์ชั้นนั้นๆ ซึ่งของรางวัลค่อนข้างดีทีเดียวเชียว
เอาเป็นว่ายังไงก็อย่าลืมมาลงหอคอยกันด้วยในทุกวันล่ะ ถ้าเกิดไปชั้นต่อไปไม่ไหวก็ให้เคลียร์ชั้นที่ผ่านมาแล้วเพื่อรับรางวัลทั่วไปก็ได้ด้วยเช่นกัน อย่างน้อยก็จะได้ไม่เสียโควต้าลงฟรีวันละครั้งนั่นเอง
5. ตบกับผู้เล่นอื่นในอารีน่า
มาถึงการเอาใจกับสายบวกกันบ้าง สำหรับใครที่ชอบตบกับผู้เล่นอื่นก็ไม่ควรพลาดการลง “อารีน่า” อย่างเด็ดขาด อีกหนึ่งแหล่งที่เราจำเป็นและควรจะเคลียร์ให้ได้ในทุกๆ วันเพื่อทำการหา “เหรียญอารีน่า”
อารีน่า สงครามทั่วไป – สำหรับหมวดนี้จะเป็นสงครามปกติธรรมดา เมื่อเราทำการกดเริ่มตัวเกมจะทำการสุ่มคู่ต้อสู้ออกมาให้เราเอง ทุกครั้งที่เราจบการต่อสู้เราก็ได้รับ “แต้ม” ไว้ใช้สำหรับการเลื่อนขั้นแรงค์ของเรา ยิ่งเราชนะบ่อยชนะต่อเนื่องเท่าไหร่จำนวนแต้มได้รับยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แถมทุกครั้งที่เราเลื่อนขั้นแรงค์ในอารีน่ายังมีของรางวัลพิเศษแถมกลับมาอีกด้วย
โดยสงครามทั่วไปนี้ในหนึ่งวันเราสามารถลงกี่รอบก็ได้ แค่ต้องรอเวลาคูลดาวน์ของตั๋วเท่านั้นเอง และถึงแม้เราจะลงได้เรื่อยๆ ก็จริงแต่ของรางวัลจะมีจำกัดอยู่นะ ใครจะลงเอาของรางวัลก็ควรเช็คให้ดีก่อน หรือใครอยากลงไปตบชาวบ้านเอามันส์ก็ทำได้เต็มที่เลย
อารีน่า สงครามชิงชัย – คล้ายกันกับแบบทั่วไปเลยครับในส่วนวิธีการเล่น เพียงแต่ในโหมดนี้เราจะสามารถเลือกคู่ต่อสู้ของเราเองได้ โดยจะมีการแบ่งตามแรงค์ของผู้เล่นและแต้ม BP จึงทำให้การลงในโหมดนี้เราจะเก็บแต้มได้ค่อนข้างง่ายกว่าแบบทั่วไปนั่นเองครับ
สำหรับสงครามชิงชัยนี้ในหนึ่งวันเราจะลงได้สูงสุดเพียง 5 ครั้งเท่านั้น แล้วต้องรอรีเซ็ตวันอีกทีถึงจะลงใหม่ได้ นอกเหนือจากเหรียญอารีน่าที่เราจะได้รับแล้วการเล่นในโหมดนี้เรายังมี “โทปาส” มาเป็นของรางวัลเพิ่มเติม อีกหนึ่งหน่วยสกุลเงินที่เราเอาไปใช้ซื้อของในร้านค้านั่นเอง
6. ส่งแต้มให้เพื่อน
สำหรับรายการนี้ ใครที่มีเพื่อนน้อยๆ หรือไม่ได้แอทใครไว้เลยอาจค่อนข้างเสียเปรียบสักหน่อย เพราะเราจำเป็นต้องใช้จำนวนของเพื่อนเพื่อทำการ “ส่งแต้ม” ให้กันและกันนั่นเองครับ
โดยเจ้าแต้มที่ว่าคือ “แต้มมิตรภาพ” นั่นเองครับ ในหนึ่งวันเราสามารถส่งแต้มดังกล่าวให้เพื่อนกี่คนก็ได้ในลิสต์แต่ส่งได้เพียงแค่คนละครั้งต่อวันเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้เพื่อนที่เรากดส่งไปพวกเขาจะได้แต้มดังกล่าว ในขณะเดียวกันการที่เราจะได้แต้มนี้เราต้องรอให้เพื่อนเป็นคนส่งมาให้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการมีเพื่อนเยอะก็จะยิ่งทำให้เราเก็บแต้มนี้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม – สำหรับการส่งแต้มนี้ ให้เราคอยเช็คดูด้วยว่าเพื่อนคนที่เราคอยส่งแต้มให้ เขาได้ส่งแต้มเราคืนมาด้วยรึเปล่า โดยมันจะมีสัญลักษณ์อยู่ใต้ชื่อของพวกเขาเราเช็คจากตรงนั้นได้เลย ถ้าเกิดใครไม่เคยส่งก็ให้เราลบเพื่อนคนนั้นออกแล้วไปหาใหม่ดีกว่าครับ ไม่งั้นเหนื่อยตายแน่นอนส่งอย่างเดียวแต่ตัวเองไม่เคยได้เลยนี่สิ
7. เช็คชื่อและรับรางวัลที่กิลด์
เพื่อนๆ ส่วนใหญ่มี “กิลด์” อยู่กันรึยังเอ่ย? ถ้าเกิดบอกว่ายังไม่มี ผมบอกเลยนะว่าคุณได้พลาดโอกาสครั้งใหญ่อย่างหนึ่งในเกมไปแล้วก็ว่าได้ล่ะนะ
เหตุผลเพราะภายในกิลด์นี้เราสามารถรับ “เหรียญกิลด์” มาไว้ใช้ซื้อของต่างๆ จากในตลาดได้ ซึ่งของที่ใช้เหรียญนี้ซื้อได้ก็ถือว่าดีไม่น้อยเลยไม่ว่าจะเป็น บัฟต่อสู้ 24 ช.ม., สัตว์เลี้ยงระดับตำนาน, หินอัปเกรดระดับตำนาน ไปจนถึงตั๋วสุ่มกาชาทั้ง 3 ประเภทเลย ของดีขนาดนี้ใครล่ะจะไม่อยากได้จริงไหม?
ส่วนวิธีการได้รับเหรียญกิลด์ก็ไม่ยุ่งยากครับ แค่เราหากิลด์อยู่แล้วเข้าไปกด “เช็กชื่อสำเร็จ” วันละครั้งก็ได้เหรียญมาใช้กันแล้ว หรือใครมีเวลาอาจไปนั่งไล่เคลียร์เควสกิลด์ใน “ผลงานกิลด์” เพิ่มรับเหรียญเพิ่มเติมกันด้วย เอาเป็นว่าใครยังไม่มีกิลด์รีบไปหาซะนะแล้วรีบมาเก็บเหรียญไปแลกของ ขืนเริ่มช้ากว่าจะเก็บได้ก็ช้าเช่นกันนะเออ
8. รับของฟรีและเช็คของถูกในร้านค้า
มาถึงอันดับสุดท้ายในรายการกันแล้ว ซึ่งในรายการนี้สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องทำก็ไม่มีอะไรเลยครับ แค่การเข้าไปรับของฟรีกันในหน้าร้านค้าก็เท่านั้นเอง
โดยร้านที่เราพูดถึงนี้ก็คือร้าน “ร้านค้าสารพัดสิ่ง” ที่เราสามารถเข้ามารับของรางวัลฟรีได้ ซึ่งปัจจุบันของที่แจกอยู๋ก็จะเป็นแผนที่จำนวน 100 ใบ (ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนไอเทมไปตามแพทซ์) แถมในหนึ่งวันเรายังได้มากกว่าหนึ่งครั้งอีกด้วย เพราะร้านแห่งนี้จะมีการรีเซ็ตไอเทมทุก 5 – 6 ชั่วโมงเสมอ เมื่อรีเซ็ตเมื่อไหร่เราก็แวะมาหยิบของฟรีได้ตลอดเลยนั่นเอง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม – นอกเหนือจากการเข้ามารับของฟรีแล้ว ผมอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ลองเช็คของที่ขายในร้านช่วงนั้นดูด้วยครับ เพราะบางทีมันจะมีของดีมาวางขายอยู่ บางครั้งก็จะเป็นไอเทมสวมใส่ระดับหายากขึ้นไป หรือกระทั่งบางทีก็จะมี “ชิ้นส่วนตัวละคร” มาวางขายไว้อยู่ด้วย ยังไงเพื่อไม่ให้พลาดของดีลองเจียดเวลาสักไม่กี่วินาทีลองนั่งดูรายการของในร้านก่อนก็จะดีมากเลยล่ะ