สำหรับเกมที่เราจะมาพูดถึงวันนี้ก็คือ Tera Classic หนึ่งในผลงานเกมออนไลน์บนมือถือที่ได้เอาเกมออนไลน์ชื่อดังกลับมาทำใหมน่ะเองครับ แถมยังพึ่งเปิดให้บริการเซิร์ฟเวอร์ SEA ไปหมาดๆ เลยด้วย ทีนี้เราก็จะมาดูกันดีกว่าว่าเกมนี้น่ะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง? คุ้มค่าที่จะให้เข้าไปเล่นรึเปล่า? และมีความเหมือนหรือแตกต่างจากเวอร์ชั่นต้นตำหรับอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
เกมนี้คือเกมอะไร?
Tera Classic นั้นเป็นผลงานเกมออนไลน์ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยทาง Kakao Games ที่ได้มีการนำเอาเกมออนไลน์ชื่อดังจากสัญชาติเกาหลีอย่าง Tera Online มาทำการถ่ายทอดใหม่และเปลี่ยนมาลงให้กับบนเวอร์ชั่นมือถือสมาร์ทโฟนแทนครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงความคลาสสิคหลายๆ อย่างไว้คงเดิมและให้กลิ่นอายความเป็น Tera ไว้อย่างเต็มที่เลย
โดยตัวเกม Tera Classic นี้ตามจริงแล้วก็ไม่ใช่เกมใหม่แต่อย่างใดเลย ตัวเกมได้เปิดให้บริการในเซิร์ฟเวอร์เกาหลีมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2019 แล้ว หลังจากรอคอยกันมากว่า 3 ปีในที่สุดทางตัวเกมดังกล่าวก็ได้มาเปิดให้บริการให้เกมเมอร์บ้านเราได้เล่นกันเสียทีในโซนเซิร์ฟเวอร์ SEA นั่นเองครับ
เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถดาวน์โหลดตัวเกมมาเล่นกันได้แล้ววันนี้ทั้งบนระบบ IOS และ Android เลยครับผม
เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าภายในเกมมีคอนเทนต์หรือมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ระบบเกมเพลย์เป็นยังไงบ้าง?
ในส่วนของเกมเพลย์หรือรูปแบบการเล่นจะยังคงความคลาสสิคไว้ในแนว “เกมเก็บเลเวล” เช่นเคยนั่นล่ะ ซึ่งมาในสไตล์เกมแนว Open World ที่เราต้องคอยรับเควสจาก NPC แล้วออกไปทำภารกิจให้เสร็จเพื่ออัปเลเวลน่ะเอง รูปแบบหลักของเกมก็ยังคงเดิมไม่ต่างจากตัวต้นตำหรับนั่นล่ะครับ
ส่วนที่ต่างไปก็คงเป็นการเปลี่ยนมาลงให้เวอร์ชั่นมือถือนี่ล่ะ เพราะด้วยการที่เราต้องเล่นบนสมาร์ทโฟนเป็นหลักตัวเกมเลยพยายามทำให้เกมง่ายขึ้น (ง่ายขึ้นมากๆ เลยด้วย) ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่นที่เปลี่ยนมาเน้นการทำดาเมจเพรียวๆ ซัดกันตูมตามให้จบไป ต่างกันเวอร์ชั่นต้นตำหรับที่จะมีพวกเทคนิคต่างๆ อย่างการ บล็อค, แพรี่, หรือเคาน์เตอร์อะไรทั้งหลายด้วยตัวเกมในเวอร์ชั่นนี้จะตัดออกไปเกือบหมดเลยล่ะครับ
หรืออีกอย่างคือการ “ทำเควสอัตโนมัติ” ที่เรากดไปบนเควสทีเดียวตัวละครเราก็จะทำทุกอย่างเลยตั้งแต่การ เดินไปหามอน, ตีมอน, ส่งเควส, เก็บของ ไปจนอื่นๆ อีกมากมาย คือทำให้หมดแทบทุกอย่าง จะมีที่เราต้องทำเองก็ต่อเมื่อเป็นเควสพิเศษอย่างซื้อของหรือพวกตีบวกไอเทมอะไรพวกนี้เป็นต้น แต่นอกนั้นคือทำให้หมดเลยล่ะครับ ซึ่งตรงนี้ใครเป็นสายขี้เกียจน่าจะถูกใจกันไปไม่มากก็น้อยล่ะนะ
ตามที่บอกไปครับ “รูปแบบหลัก” ของตัวเกมยังคงเดิมคือการเก็บเลเวลและทำเควส แต่ในส่วนของ “สไตล์การเล่น” จะต่างกันมากในระดับนึงเลยล่ะ
คลาสสายอาชีพและการสร้างตัวละคร
มาว่ากันถึงในส่วนของ “คลาสสายอาชีพ” หรือตัวละครที่เราเอาไว้ใช้เล่นในเกมนี้กนับ้างครับ ซึ่งภายในเกมตอนเริ่มมาทีแรกจะมีคลาสให้เราเลือกทั้งหมด 5 อาชีพ ประกอบด้วย
Gladiator – สายดาบคู่ มีจุดเด่นคือเรื่องความคล่องตัวและความรวดเร็ว
Slayer – สายดาบใหญ๋ ตัวบวกประจำเกมที่ทั้งถึกและแรง
Priest – นักบวช สายเวทเพียงหนึ่งเดียวทำได้ทั้งสนับสนุนและ DPS ในตัว
Archer – สายธนู ทำดาเมจได้จากระยะไกลและมีความคล่องตัวสูงมาก
Lancer – หอกโล่ สายแทงค์ยืนชนแนวหน้าให้กับเพื่อน
ซึ่งทั้ง 5 อาชีพนี้เป็นคลาสพื้นฐานที่เราเจอได้ในตัวเกมเวอร์ชั่นต้นตำหรับนั่นล่ะครับ ถึงแม้จะใช้ชื่อคลาสเหมือนเดิมก็จริงแต่พวกสกิลต่างๆ นี่นับว่าแตกต่างพอสมควรเลยล่ะนะ ส่วนจะเล่นคลาสไหนอะไรยังไงกันดีเพื่อนๆ ก็คงต้องไปลองกันเองแล้วล่ะครับ
เมื่อเราเลือกคลาสอาชีพที่เราจะเล่นได้แล้วทีนี้ตัวเกมก็จะให้เรามาทำการ “ปรับแต่งตัวละคร” กันต่อเลย แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าใครที่กำลังคาดหวังอะไรที่หวือหวาอลังการแบบเวอร์ชั่นตันตำหรับก็ขอให้ทิ้งมันไปได้เลยครับ เพราะการปรับแต่งตัวละครในเกมนี้เราจะทำได้ก็แค่การเลือก ใบหน้า, สีผิว, ทรงผม และ สีผม แค่นั้นเอง แถมยังมีการล็อคเพศตัวละครอีกต่างหาก
ตรงนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากเพราะ Tera Online นั้นเป็นหนึ่งในเกมที่ได้ขึ้นชื่อเรื่องของความอิสระในการสร้างตัวละครเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะการไม่ล็อคเพศตัวละคร, ระบบปรับแต่งใบหน้าละเอียดสุดๆ ในสมัยนั้น ไปจนถึงในส่วนของ “ระบบเผ่าพันธุ์” ก็ตามที ตัวเกมต้นตำหรับเราสามารถเล่นเป็นเผ่าน้องสัตว์ตัวน้อยๆ มาไล่ตีมอนได้ แต่กับในเกมนี้จะบังคับเป็นมนุษย์ทุกคลาสเลยแถมยังล็อคเพศอีกต่างหาก ใครที่เป็นสายแต่งตัวก็น่าจะมีผิดหวังกันบ้างล่ะนะ
แล้วด้านคอนเทนต์ล่ะมีอะไรให้ทำบ้าง?
พูดถึงหนึ่งในเรื่องที่ทำให้ตัวเกมโดดเด่นจริงๆ ก็คงเป็นตัว “คอนเทนต์” นี่ล่ะครับ เพราะว่าภายในเกมจะมีอะไรให้เราทำเยอะมากทีเดียว คือมันเยอะซะจนว่าบางทีกว่าจะทำครบให้หมดทุกอย่างเนี่ยอาจต้องกินเวลาเกือบทั้งวันเลยล่ะนะ
โดยคอนเทนต์ที่ว่าก็จะมีทั้งพวก ดันเจี้ยน, ล่าค่าหัว, เวิล์ดบอส, ออกล่ากิลด์, กิจกรรมกิลด์, อารีน่า PVP, หอคอย ไปจนถึงพวกคอนเทนต์รายวัน – รายสัปดาห์ รวมจนถึงในส่วนของอีเวนต์ที่กำลังจะเปิดเองก็ตามที คือมันเยอะจริงๆ ครับมันเยอะมากเลยล่ะ ดังนั้นใครที่มาเล่นแล้วแบบกลัวว่าจะไม่มีอะไรทำเล่นแปปๆ แล้วเคว้งไม่รู้ทำอะไรก็หายห่วงได้เลย
นอกจากนี้พวกคอนเทนต์อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการลงดันเจี้ยนหรือล่าบอสก็มีให้ทำด้วยนะเช่นการ การตีบวก, คราฟของ, Achivement, Hero Path, สัตว์เลี้ยง – สัตว์ขี่ เอยอะไรเอย ถึงแม้ว่าตัวเกมอาจจะน่าผิดหวังไปบ้างในส่วนของการปรับแต่งตัวละคร แต่อย่างน้อยก็ทดแทนมาด้วยเรื่องของเทนต์แบบจุกๆ แน่นๆ แทนแล้วล่ะครับ
เทียบกับตัวเกมเวอร์ชั่นต้นตำหรับแล้วเป็นยังไงบ้าง?
ถ้าให้นำเอา Tera Classic ไปเทียบกับ Tera Online แล้วนั้นส่วนตัวมันให้ความรู้สึกเหมือน “โดนดาวน์เกรด” มากกว่า เพราะอย่างที่ผมได้บอกไปในส่วนเกมเพลย์นั่นล่ะครับตัวเกมดั้งเดิมจะมีการใช้เทคนิคต่างๆ เข้ามาช่วยเล่นซึ่งมันทำให้เกมค่อนข้างลึก ต่างกับเวอร์ชั่นมือถือนี้ที่เน้นวัดกันเรื่องดาเมจเป็นหลักใส่สกิลตูมตามแลกกันใครตายก่อนก็แพ้ไปประมาณนั้น มันเลยทำให้ตัวเกมดูเหมือนโดนลดคุณภาพลงยังไงยังงั้นแล่ะ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าส่วนนึงเขาทำมาลงให้กับเวอร์ชั่นมือถือสมาร์ทโฟนจะให้เล่นยากๆ แบบ PC ก็คงไม่ได้หรอก
ถ้าหากพูดถึงข้อดีก็ต้องเรื่อง “คอนเทนต์” ที่ระบุไปก่อนหน้านี้ละครับ คือมันมีให้ทำเยอะถึงเยอะมากจริงๆ ถ้าจะไล่ทำให้ครบทั้งหมดก็เหนื่อยเอาเรื่องเลยล่ะ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของพวกระบบต่างๆ ทำมาให้เล่นง่ายพอสมควรเลยล่ะนะ ซึ่งถ้าพูดถึงระบบที่ชอบมากๆ คงเป็น “อั่งเปา” เมื่อเราเข้ากิลด์สมาชิกภายในกิลด์สามารถแจกอั่งเปาให้คนอื่นในกิลด์ได้ แถมการแจกเนี่ยยังสามารถแจกเป็นเพชรฟ้าหรือเพชรเติมเงินได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครไปอยู่กิลเศรษฐีที่เขาแจกบ่อยๆ เราก็จะสบายไปกับเขาด้วยล่ะนะ
ถ้าให้สรุปเลยมันก็เหมือนกับ “เกมมือถือทั่วไปที่เอา Tera เข้ามาใส่” เพราะระบบเป็นเหมือนเกมออนไลน์ทั่วไป แต่จะมีพวกตัวละคร, มอนสเตอร์, ไอเทม, สถานที่ จาก Tera มาใส่และเป็นองค์ประกอบประจำเกมไปแทน แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่นะเล่นได้อยู่แถมตัวเกมค่อนข้างลื่นไม่กินสเป็คเลยด้วย ท้ายนี่ก็ต้องอยู่กับเพื่อนๆ แล้วล่ะว่าจะเข้ามาเล่นเกมนี้กันหรือไม่ล่ะนะ
ข้อดีของตัวเกม
• เกมเพลย์ลื่นไหล เล่นง่าย ไม่กินสเป็คมือถือ
• คอนเทนต์เยอะมากทำกันจนเหนื่อยไปข้าง
• มีภาษาไทยรองรับ
• ของรางวัลแจกค่อนข้างเยอะทำให้เล่นสบายมากในช่วงแรก
ข้อเสียของตัวเกม
• ปรับแต่งตัวละครได้น้อยมากขัดใจสายแต่งตัว
• เกมเพลย์ดูซํ้าซากกับเกมมือถืออื่นๆ
• กราฟฟิคและระบบหลายๆ อย่างจัดว่าตกยุคไปนิด